"เฉลิม อยู่วิทยา" และครอบครัว ครองแชมป์มหาเศรษฐีไทยปี 2025 โดย Forbes Thailand ด้วยทรัพย์สินกว่า 1.44 ล้านล้านบาท

Forbes Thailand ได้ประกาศผลการจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทยประจำปี 2568 โดย นายเฉลิม อยู่วิทยา และครอบครัว ผู้เป็นเจ้าของอาณาจักรเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดง ยังคงครอง อันดับ 1 มหาเศรษฐีไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินพุ่งสูงถึง 4.45 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นประมาณ 1.44 ล้านล้านบาท (อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 2 ก.ค. 68 ที่ 32.463 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ)

การเพิ่มขึ้นของทรัพย์สินตระกูลอยู่วิทยาเป็นผลมาจากรายได้ของบริษัทเครื่องดื่มชูกำลังที่พุ่งสูงขึ้นเป็น 1.29 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2024 โดยมียอดขายทั่วโลกเกือบ 1.3 หมื่นล้านกระป๋อง




เศรษฐกิจชะลอตัว แต่ 3 อันดับแรกยังเติบโตโดดเด่น


  แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะเผชิญภาวะชะลอตัวจากความตึงเครียดทางการค้าและความไม่แน่นอนทางการเมือง แต่การเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของมูลค่าทรัพย์สินของมหาเศรษฐีไทยสามอันดับแรก ได้ผลักดันให้มูลค่าทรัพย์สินรวมของผู้ที่ติดอันดับทั้งหมดเพิ่มขึ้นกว่า 11% เป็น 1.70 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเกือบครึ่งหนึ่งของมหาเศรษฐีในลิสต์มีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้น

   อันดับ 2 ยังคงเป็น พี่น้องเจียรวนนท์ แห่งกลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ ด้วยทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น 23% เป็น 3.57 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.16 ล้านล้านบาท) จากการลงทุนอย่างต่อเนื่องในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล รวมถึงการจับมือกับ BlackRock ลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ในดาต้าเซ็นเตอร์ และการที่ Ascend Money ได้รับอนุมัติจัดตั้ง Virtual Bank

  นายสารัชถ์ รัตนาวะดี มหาเศรษฐีด้านพลังงานและโทรคมนาคม ขยับขึ้นมาครอง อันดับ 3 เป็นครั้งแรก ด้วยทรัพย์สิน 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.90 แสนล้านบาท) หลังจากการควบรวมกิจการระหว่าง Gulf Energy Development กับ Intouch Holdings และนำบริษัทที่ควบรวมเข้าจดทะเบียนในชื่อ Gulf Development


การเปลี่ยนแปลงใน 10 อันดับแรก


  ➡ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าพ่อน้ำเมา มูลค่าทรัพย์สินแทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ 1.05 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.41 แสนล้านบาท) ทำให้ตกลงมาอยู่อันดับ 4

  ➡ ครอบครัวจิราธิวัฒน์ ซึ่งอยู่ในธุรกิจค้าปลีก มีมูลค่าทรัพย์สินลดลง 13% เหลือ 8.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.79 แสนล้านบาท) ท่ามกลางภาวะการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ซบเซา

  ➡ ในปีนี้มีมหาเศรษฐี 19 รายที่มีมูลค่าทรัพย์สินลดลง หนึ่งในนั้นคือ นายประยุทธ มหากิจศิริ ที่มูลค่าทรัพย์สินลดลงอย่างมาก หลังการสิ้นสุดบริษัทร่วมทุนระหว่าง PM Group กับเนสท์เล่

  ➡ มีการจัดอันดับทรัพย์สินของตระกูล ไชยวรรณ และ วิทยากร ภายใต้ชื่อครอบครัว หลังจาก นายวานิช ไชยวรรณ และ นายพงษ์ศักดิ์ วิทยากร ได้เสียชีวิตลงหลังจากการจัดอันดับครั้งก่อน

  ➡ เกณฑ์มูลค่าทรัพย์สินขั้นต่ำเพื่อเข้าลิสต์ลดลงเหลือ 420 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม มีเศรษฐี 4 รายที่หลุดจากการจัดอันดับ โดยผู้ที่น่าจับตาคือ นายสมโภชน์ อาหุนัย เจ้าพ่อพลังงานหมุนเวียน หลัง Energy Absolute เผชิญปัญหาทางการเงิน


10 อันดับมหาเศรษฐีไทยประจำปี 2568 (อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยน 32.463 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ)


1. เฉลิม อยู่วิทยา และครอบครัว: 4.45 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.44 ล้านล้านบาท)
2. พี่น้องเจียรวนนท์: 3.57 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.16 ล้านล้านบาท)
3. สารัชถ์ รัตนาวะดี: 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.90 แสนล้านบาท)
4. เจริญ สิริวัฒนภักดี และครอบครัว: 1.05 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.41 แสนล้านบาท)
5. ครอบครัวจิราธิวัฒน์: 8.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.79 แสนล้านบาท)
6. ครอบครัวไชยวรรณ: 4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.36 แสนล้านบาท)
7. อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา และครอบครัว: 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.14 แสนล้านบาท)
8. ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ: 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.10 แสนล้านบาท)
9. เสถียร เสถียรธรรมะ: 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 8.44 หมื่นล้านบาท)
10. พรเทพ พรประภา และครอบครัว: 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 7.14 หมื่นล้านบาท)


ที่มา https://www.bangkokbiznews.com/finance/investment/1187790
ที่มา https://www.sanook.com/money/940596/
ที่มา https://www.dailynews.co.th/news/4878395/

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่