ใครยังไม่รู้เรื่องยกเว้นภาษีคริปโต บ้าง? ผมขอมาเล่าให้ฟังครับว่าข่าวที่ว่ารัฐบาลลดหย่อนภาษีให้ 5 ปีมันคืออะไร แล้วเทรดแบบไหนถึงจะได้สิทธิ์นี้ มีคำตอบให้ครับ!
ข่าวเรื่องรัฐบาลไทยยกเว้น ภาษีคริปโต 5 ปี Capital gain กำลังเป็นที่พูดถึงในวงกว้างเลยใช่ไหมครับ? วันนี้ผมขอมาสรุปให้ฟังแบบง่าย ๆ เหมือนเพื่อนคุยกันเลยครับว่าข่าวนี้สำคัญกับนักเทรดอย่างเราแค่ไหน และถ้าจะใช้สิทธิ์นี้ต้องทำยังไงครับ
ข่าวดีจริงไหม? เรื่องรัฐยกเว้นภาษีคริปโต 5 ปี
เรื่องนี้เป็นความจริงครับ! รัฐบาลไทยได้ประกาศกฎกระทรวงใหม่เพื่อ ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับกำไรจากการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลครับ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการก้าวขึ้นเป็น ศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัล ของภูมิภาคเลยครับ
เริ่มต้น: 1 มกราคม 2568
ถึง: 31 ธันวาคม 2572
นโยบายนี้มีผลบังคับใช้เป็นเวลา 5 ปีเต็มครับ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ถึง 31 ธันวาคม 2572 ซึ่งหมายความว่าถ้าเราเทรดแล้วได้กำไรในช่วงนี้ เราก็ไม่ต้องเอาไปคำนวณภาษีเหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ ถือเป็นข่าวดีที่นักเทรดอย่างเราจะได้กำไรเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้นครับ
ตัวอย่างภาษีที่คุณประหยัดได้
หลายคนอาจจะคิดว่ากำไรจากการเทรดคริปโตเพียงหลักพันหรือหลักหมื่นคงไม่ต้องเสียภาษีอะไรมากมาย แต่ความจริงแล้วกำไรส่วนนี้จะถูกนับเป็น เงินได้ และต้องเสียภาษีในอัตราก้าวหน้าเหมือนเงินเดือนเลยนะครับ ซึ่งอัตราสูงสุดอาจสูงถึง 35% เลยครับ
ลองคิดดูง่าย ๆ ครับว่าถ้าคุณทำกำไรได้ 100,000 บาทต่อปี คุณอาจต้องเสียภาษีไปถึง 35,000 บาทเลยนะครับ ซึ่งเงินก้อนนี้สามารถนำไปลงทุนต่อยอด หรือนำไปใช้จ่ายส่วนตัวได้อย่างสบายใจเลยครับ
เทรดวอลุ่มยิ่งสูง ยิ่งประหยัดภาษี
สำหรับคนที่เทรดเป็นอาชีพ หรือมีวอลุ่มการเทรดสูง ๆ การยกเว้นภาษีนี้จะยิ่งสร้างประโยชน์มหาศาลครับ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณทำกำไรจาก Capital gain ได้ 1 ล้านบาทต่อปี คุณจะประหยัดเงินในส่วนของภาษีได้ถึง 350,000 บาทเลยนะครับ ซึ่งเงินจำนวนนี้สามารถเอาไปทำอะไรได้ตั้งหลายอย่างเลย
และยิ่งถ้าคุณทำกำไรได้ 10 ล้านบาทต่อปี คุณจะประหยัดภาษีได้ถึง 3.5 ล้านบาทเลยครับ ถือเป็นเงินจำนวนมหาศาลที่คุ้มค่ามาก ๆ ครับ เป็นโอกาสที่นักเทรดตัวจริงไม่ควรมองข้ามเลย
รู้ยัง? แค่เทรดกับ Exchange ที่ได้รับรองเท่านั้นถึงได้สิทธิ์เว้นภาษี
สิทธิ์การยกเว้นภาษีนี้ไม่ได้ครอบคลุมการเทรดทุกประเภทนะครับ แต่มีเงื่อนไขสำคัญคือ คุณจะต้องเทรดบนแพลตฟอร์มที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์) ของประเทศไทยเท่านั้นครับ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่คอยดูแลและทำให้การลงทุนของเราปลอดภัยขึ้น
การที่แพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. ก็เพื่อป้องกันการโกงและมิจฉาชีพครับ ทำให้เราสามารถมั่นใจได้ว่าเรากำลังเทรดอยู่บนแพลตฟอร์มที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ ซึ่งการเลือกใช้ Exchange ที่ถูกกฎหมายจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดครับ
ตรวจสอบรายชื่อ Crypto Exchange ที่ ก.ล.ต. ไทยรับรอง
ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. ได้เผยแพร่รายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องในประเทศไทย เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับนักลงทุนครับ โดยปัจจุบันมี Exchange ที่ได้รับการรับรองแล้วดังนี้:
- บริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด (Gulf Binance / BINANCE TH)
- บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (Bitkub)
- บริษัท บิทยานต์ (ประเทศไทย) จำกัด (Bitazza)
- บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Satang Pro)
- บริษัท ออร์บิท ดิจิทัล จำกัด (Orbix)
- บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด (Token X)
ซึ่งส่วนตัวผมแนะนำให้เน้นเทรดกับ 2 เจ้าแรกก่อนครับ เนื่องจากเป็นเจ้าที่ใหญ่ที่สุดในไทย มีวอลุ่มสูงพอ ไม่เงียบ โดยเฉพาะค่ายเหลือง BINANCE TH ยังครอบคลุมถึงระดับโลก และเปิดสาขาในอีกหลายประเทศทั่วโลกอีกด้วย
สังเกตุ! ลดหย่อนภาษีเฉพาะเทรดผ่าน BINANCE TH เท่านั้นนะครับ ใครเทรดบน Global จะไม่ได้รับเว้นภาษีนะ
หากคุณต้องการใช้สิทธิ์ ยกเว้นภาษีคริปโต 5 ปี คุณต้องเทรดบน BINANCE TH เท่านั้นครับ เพราะเป็น Exchange ที่อยู่ภายใต้กฎหมายของไทย ที่ได้รับสิทธิ์เว้นภาษี 5 ปีนี้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถฝาก-ถอนเงินบาทจากธนาคารไทยได้โดยตรงอย่างปลอดภัย ไม่ต้องเสี่ยงกับการโอนเงินผ่านช่องทางที่อาจมีมิจฉาชีพครับ
สิ่งที่แตกต่างกันของสองแอปนี้ อย่างแรกเลยคือหน้าตาและฟังก์ชันครับ แอป BINANCE TH จะถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายกว่าและรองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบครับ ที่สำคัญคือมีตัวอักษร "TH" กำกับอยู่ที่โลโก้เพื่อแสดงว่าเป็นแอปที่ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. ของไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่แอป BINANCE Global ไม่มีครับ
นอกจากนี้ ถ้าหากคุณยังไม่มีแอป BINANCE TH และสนใจเปิดบัญชีเทรด ขั้นตอนค่อนข้างซับซ้อนนิดนึง แต่ผมได้เขียนกระทู้สอนการเปิดบัญชีเอาไว้อย่างละเอียดทุกขั้นตอนครับ ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีก็เสร็จแล้ว ไม่ตกหล่น ได้รับสิทธิ์ทุกอย่างเต็มๆ อยู่ที่กระทู้นี้ครับ:
https://pantip.com/topic/43698764
นี่ไม่ใช่คำแนะนำทางการเงินนะครับ การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูงมาก เพราะราคามีความผันผวนอย่างรุนแรงและอาจทำให้มูลค่าลดลงจนเหลือศูนย์ได้เลย ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจความเสี่ยงอย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง และลงทุนเฉพาะเงินที่พร้อมจะสูญเสียเท่านั้น
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาให้เป็นคำแนะนำในการลงทุนแต่อย่างใด และไม่ได้เป็นการชักชวนให้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล โปรดพิจารณาและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนที่ได้รับอนุญาตก่อนตัดสินใจครับ
ลดหย่อนภาษีคริปโต 5 ปี! จริงไหม? สวรรค์ของนักเทรดเลยครับ
ใครยังไม่รู้เรื่องยกเว้นภาษีคริปโต บ้าง? ผมขอมาเล่าให้ฟังครับว่าข่าวที่ว่ารัฐบาลลดหย่อนภาษีให้ 5 ปีมันคืออะไร แล้วเทรดแบบไหนถึงจะได้สิทธิ์นี้ มีคำตอบให้ครับ!
ข่าวเรื่องรัฐบาลไทยยกเว้น ภาษีคริปโต 5 ปี Capital gain กำลังเป็นที่พูดถึงในวงกว้างเลยใช่ไหมครับ? วันนี้ผมขอมาสรุปให้ฟังแบบง่าย ๆ เหมือนเพื่อนคุยกันเลยครับว่าข่าวนี้สำคัญกับนักเทรดอย่างเราแค่ไหน และถ้าจะใช้สิทธิ์นี้ต้องทำยังไงครับ
ข่าวดีจริงไหม? เรื่องรัฐยกเว้นภาษีคริปโต 5 ปี
เรื่องนี้เป็นความจริงครับ! รัฐบาลไทยได้ประกาศกฎกระทรวงใหม่เพื่อ ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับกำไรจากการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลครับ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการก้าวขึ้นเป็น ศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัล ของภูมิภาคเลยครับ
เริ่มต้น: 1 มกราคม 2568
ถึง: 31 ธันวาคม 2572
นโยบายนี้มีผลบังคับใช้เป็นเวลา 5 ปีเต็มครับ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ถึง 31 ธันวาคม 2572 ซึ่งหมายความว่าถ้าเราเทรดแล้วได้กำไรในช่วงนี้ เราก็ไม่ต้องเอาไปคำนวณภาษีเหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ ถือเป็นข่าวดีที่นักเทรดอย่างเราจะได้กำไรเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้นครับ
ตัวอย่างภาษีที่คุณประหยัดได้
หลายคนอาจจะคิดว่ากำไรจากการเทรดคริปโตเพียงหลักพันหรือหลักหมื่นคงไม่ต้องเสียภาษีอะไรมากมาย แต่ความจริงแล้วกำไรส่วนนี้จะถูกนับเป็น เงินได้ และต้องเสียภาษีในอัตราก้าวหน้าเหมือนเงินเดือนเลยนะครับ ซึ่งอัตราสูงสุดอาจสูงถึง 35% เลยครับ
ลองคิดดูง่าย ๆ ครับว่าถ้าคุณทำกำไรได้ 100,000 บาทต่อปี คุณอาจต้องเสียภาษีไปถึง 35,000 บาทเลยนะครับ ซึ่งเงินก้อนนี้สามารถนำไปลงทุนต่อยอด หรือนำไปใช้จ่ายส่วนตัวได้อย่างสบายใจเลยครับ
เทรดวอลุ่มยิ่งสูง ยิ่งประหยัดภาษี
สำหรับคนที่เทรดเป็นอาชีพ หรือมีวอลุ่มการเทรดสูง ๆ การยกเว้นภาษีนี้จะยิ่งสร้างประโยชน์มหาศาลครับ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณทำกำไรจาก Capital gain ได้ 1 ล้านบาทต่อปี คุณจะประหยัดเงินในส่วนของภาษีได้ถึง 350,000 บาทเลยนะครับ ซึ่งเงินจำนวนนี้สามารถเอาไปทำอะไรได้ตั้งหลายอย่างเลย
และยิ่งถ้าคุณทำกำไรได้ 10 ล้านบาทต่อปี คุณจะประหยัดภาษีได้ถึง 3.5 ล้านบาทเลยครับ ถือเป็นเงินจำนวนมหาศาลที่คุ้มค่ามาก ๆ ครับ เป็นโอกาสที่นักเทรดตัวจริงไม่ควรมองข้ามเลย
รู้ยัง? แค่เทรดกับ Exchange ที่ได้รับรองเท่านั้นถึงได้สิทธิ์เว้นภาษี
สิทธิ์การยกเว้นภาษีนี้ไม่ได้ครอบคลุมการเทรดทุกประเภทนะครับ แต่มีเงื่อนไขสำคัญคือ คุณจะต้องเทรดบนแพลตฟอร์มที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์) ของประเทศไทยเท่านั้นครับ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่คอยดูแลและทำให้การลงทุนของเราปลอดภัยขึ้น
การที่แพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. ก็เพื่อป้องกันการโกงและมิจฉาชีพครับ ทำให้เราสามารถมั่นใจได้ว่าเรากำลังเทรดอยู่บนแพลตฟอร์มที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ ซึ่งการเลือกใช้ Exchange ที่ถูกกฎหมายจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดครับ
ตรวจสอบรายชื่อ Crypto Exchange ที่ ก.ล.ต. ไทยรับรอง
ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. ได้เผยแพร่รายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องในประเทศไทย เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับนักลงทุนครับ โดยปัจจุบันมี Exchange ที่ได้รับการรับรองแล้วดังนี้:
- บริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด (Gulf Binance / BINANCE TH)
- บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (Bitkub)
- บริษัท บิทยานต์ (ประเทศไทย) จำกัด (Bitazza)
- บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Satang Pro)
- บริษัท ออร์บิท ดิจิทัล จำกัด (Orbix)
- บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด (Token X)
ซึ่งส่วนตัวผมแนะนำให้เน้นเทรดกับ 2 เจ้าแรกก่อนครับ เนื่องจากเป็นเจ้าที่ใหญ่ที่สุดในไทย มีวอลุ่มสูงพอ ไม่เงียบ โดยเฉพาะค่ายเหลือง BINANCE TH ยังครอบคลุมถึงระดับโลก และเปิดสาขาในอีกหลายประเทศทั่วโลกอีกด้วย
สังเกตุ! ลดหย่อนภาษีเฉพาะเทรดผ่าน BINANCE TH เท่านั้นนะครับ ใครเทรดบน Global จะไม่ได้รับเว้นภาษีนะ
หากคุณต้องการใช้สิทธิ์ ยกเว้นภาษีคริปโต 5 ปี คุณต้องเทรดบน BINANCE TH เท่านั้นครับ เพราะเป็น Exchange ที่อยู่ภายใต้กฎหมายของไทย ที่ได้รับสิทธิ์เว้นภาษี 5 ปีนี้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถฝาก-ถอนเงินบาทจากธนาคารไทยได้โดยตรงอย่างปลอดภัย ไม่ต้องเสี่ยงกับการโอนเงินผ่านช่องทางที่อาจมีมิจฉาชีพครับ
สิ่งที่แตกต่างกันของสองแอปนี้ อย่างแรกเลยคือหน้าตาและฟังก์ชันครับ แอป BINANCE TH จะถูกออกแบบให้ใช้งานง่ายกว่าและรองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบครับ ที่สำคัญคือมีตัวอักษร "TH" กำกับอยู่ที่โลโก้เพื่อแสดงว่าเป็นแอปที่ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. ของไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่แอป BINANCE Global ไม่มีครับ
นอกจากนี้ ถ้าหากคุณยังไม่มีแอป BINANCE TH และสนใจเปิดบัญชีเทรด ขั้นตอนค่อนข้างซับซ้อนนิดนึง แต่ผมได้เขียนกระทู้สอนการเปิดบัญชีเอาไว้อย่างละเอียดทุกขั้นตอนครับ ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีก็เสร็จแล้ว ไม่ตกหล่น ได้รับสิทธิ์ทุกอย่างเต็มๆ อยู่ที่กระทู้นี้ครับ:
https://pantip.com/topic/43698764
นี่ไม่ใช่คำแนะนำทางการเงินนะครับ การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูงมาก เพราะราคามีความผันผวนอย่างรุนแรงและอาจทำให้มูลค่าลดลงจนเหลือศูนย์ได้เลย ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจความเสี่ยงอย่างรอบด้านก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง และลงทุนเฉพาะเงินที่พร้อมจะสูญเสียเท่านั้น
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาให้เป็นคำแนะนำในการลงทุนแต่อย่างใด และไม่ได้เป็นการชักชวนให้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล โปรดพิจารณาและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนที่ได้รับอนุญาตก่อนตัดสินใจครับ