หลวงปู่ชาสอนกัมมัฏฐานเรื่องสมาธิ
สมาธินี้คือความสงบทำจิตตั้งมั่นให้เป็นหนึ่ง
เราจะทำจิตของเราให้เป็นหนึ่งไม่ได้เพราะว่ากายวาจาของเรายังวุ่นวายก็คือว่ายังไม่ได้มีศีลนั่นเองก็ยังไม่มีความสบายก็ยังไม่มี
ความสงบยังทำผิดทางกายทางวาจาอยู่...ใจก็ยังไม่สบายแต่เมื่อกายวาจาเป็นปกติแล้ว... ใจ...ก็สบายใจ...ก็สงบสมาธินี้...มันจึงเป็นผลของ..."ศีล" ฉะนั้น... การทำสมาธินี้เรียกว่าการปฏิบัติกัมมัฎฐาน•การฝึกหัดกัมมัฎฐานมันเป็นอย่างไร•สมาธิมันเป็นอย่างไรกัมมัฎฐานคือการที่เราเอาผมขนเล็บฟันหนัง
ยกขึ้นมาพิจารณา...เพื่อให้ใจเป็นหนึ่งหรือพุทโธธัมโมสังโฆเป็นต้น
เป็นคำบริกรรมให้เป็นอารมณ์
วิธีทำสมาธิให้เป็นอารมณ์
พิจารณากัมมัฎฐาน... ให้เห็นเป็น
อนิจจังทุกขังอนัตตา
ให้เห็นของไม่มั่นคงไม่เที่ยงแท้
มิฉะนั้นการทำครั้งแรกท่านจึงให้วิธีทำที่ดีที่สุดคือ
การตั้งใจมั่นมั่นในการรักษาศีล
ก็เป็น...สมาธิมั่นในการละความชั่วก็เป็นสมาธิ
มั่นในการกระทำทั้งหลายที่ถูกต้องทั้งปวงไม่คืนคลาย
นั่น...ก็เป็นสมาธิวิธีทำจิตให้เป็นสมาธินั้น... ท่านจึงให้นั่งสมาธิมือขวาทับมือซ้ายขาขวาทับขวาซ้ายตั้งกายให้มันตรงจะอบรมใครล่ะ?
ก็คือ...อบรมจิต
วิธีอบรมจิตทำอย่างไร
ทำอย่างนี้ขาขวาทับขาซ้ายมือขวา
ทับมือซ้ายตั้งกายให้ตรงอือ..นี่คือวิธีแรก
เอาอะไรเป็นเครื่องหมายเอาลม,
อานาปานสติ
เมื่อเรานั่งอยู่ที่ใดที่หนึ่งเป็นต้น
นึกถึงคุณ...พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์เรียกว่า...พุทโธธัมโมสังโฆพุทโธธัมโมสังโฆพุทโธธัมโมสังโฆให้มีพุทโธๆกับลมหายใจเข้า-ออกเมื่อมีลมหายใจเข้า-ออกนั้น... ลมหายใจนี้ก็เป็นกัมมัฎฐานอันหนึ่งที่ดีที่สุดท่านจึงยกเอาลมหายใจนี้เป็นบทบาทเป็นกัมมัฎฐานเป็นคำบริกรรมเมื่อเรานั่งเรียบร้อยแล้วให้หายใจดู...หายใจให้สะดวกมันจะยาวก็ช่างมันมันจะสั้นก็ช่างมันจะเบาจะหนักก็ช่างมันมันปรารถนาพอดีอย่างไรเราก็เอาอย่างนั้น... หายใจลองดูเสียก่อนถ้ามันพอดีแล้ว!! เมื่อเราหายใจเข้าไปแล้วนั้น... มันจะเป็นสามฐานคือ๑ต้นลม๒กลางลม๓คือปลายลมเมื่อเราหายใจเข้านั้น... ต้นลมอยู่จมูกหรือปลายจมูกกลางลมอยู่หัวใจหรือหทัยปลายลมอยู่สะดือเราหายใจออกเป็นต้นต้นลมอยู่สะดือกลางลมคือหัวใจคือหทัยกลางอกปลายลมอยู่...จมูกเมื่อเราตั้งดีแล้ว... เราก็หายใจออกหายใจเข้าอยู่เรื่อยๆไปปลายจมูกก็รู้จักหัวใจก็รู้จักถึงสะดือแล้วก็รู้จัก•หายใจออกต้นลมอยู่สะดือกลางลมอยู่หทัยปลายลมอยู่จมูก•หายใจเข้าต้นลมอยู่จมูกกลางลมอยู่หทัยปลายลมอยู่สะดือให้เรากำหนดจิตดู...อย่างนี้เสียก่อน•เมื่อหายไปแล้วก็ว่า...พุทหนึ่งปลายจมูกสองหทัยสามสะดือ•เมื่อลมออกมาก็โธนับว่าหนึ่งสะดือสองหทัยสามปลายจมูกตามลมเข้าไปพิจารณาอยู่...ปลายจมูกก็รู้จักอยู่...หทัยก็รู้จักอยู่... สะดือก็รู้จักหายใจออกอยู่ไหนต้นลมก็รู้จัก•หายใจออกอยู่ไหนต้นลมก็รู้จักหายใจเข้าปลายลมอยู่ไหนก็รู้จัก•หายใจเข้าต้นลมอยู่ไหนกลางลมอยู่ไหนปลายลมอยู่ไหนสิ่งทั้งหลายเหล่านี้... ก็เพื่อจะควบคุมให้จิตของเรานิ่งสงบ.ฉะนั้น... เมื่อเรานั่งสงบแล้ว...ก็นั่งหายใจเข้าไปความสัมผัสถูกต้องอยู่... ที่ปลายจมูกนี่แห่งหนึ่งเป็นลมต้นลมเมื่อมันหายใจลงไปโน่นไปหาสะดือโน่นมันก็ต้องผ่านหทัยของเราเรียกว่ามันผ่านไปและเมื่อมันถึงสะดือแล้ว... มันก็จะหายใจออกจากสะดือมามาผ่านหัวใจมาผ่านปลายจมูกของเราเมื่อเรามาทำเช่นนี้... จนชำนาญพอสมควรแล้วทีนี้เราไม่ต้องตามมันไปไม่ต้องตามว่า... หายใจเข้าต้นลมอยู่ปลายจมูกกลางลมอยู่กลางหทัยปลายลมอยู่สะดือเอาความรู้สึกของเจ้าของนี้มาไว้มาวางเอาไว้ที่ปลายจมูกที่ลมมันผ่านเข้าผ่านออกอยู่... จุดเดียวเท่านั้นกำหนดแห่งเดียวเมื่อลมเข้าออกเราก็รู้จักเมื่อทำไปอย่างนี้แล้ว... มันก็อาจจะเกิดวิตกวิจารณ์อย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมาก็ได้หรือหลายอย่างมันจะเกิดวิตกวิจารณ์ขึ้นมาพิจารณาตามสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นว่า...มันจะเป็นอย่างไรเพื่อประโยชน์อะไรทั้งหลายเหล่านี้มันจะมีปัญหามากมายสับสนขึ้นมาเมื่อเรานั่งและไม่ต้องขยายความออกไปให้มันมากที่ครูบาอาจารย์หลักการที่หลักฝึกหัดเบื้องต้นนี้ท่านไม่ให้คิดอะไรมากมายให้คิดให้อยู่...กับว่าลมเข้า- ลมออกแค่นี้...ก็พอแล้วไม่ต้องคิดไปว่า...นานเท่าใดมันจะเป็นสมาธิหรือมันจะเป็นอย่างไรต่อไปมันจะเห็นอะไรอย่างนั้นอย่าคิดไป!! ฉะนั้นแล้วจึงไม่ใช่หน้าที่ของเราเรามีหน้าที่ที่จะฝึกกัมมัฏฐานเฉพาะอานาปานสติคือลมเข้าเรารู้จักลมออกเรารู้จักนี่! นั่งอยู่...สองชั่วโมงก็ตามมีแต่ลมเข้า-ออกให้รู้จักตลอดกาลตลอดเวลานี่เป็นเบื้องแรกไม่ต้องรับพิจารณาอันใดอะไรทั้งหมด." • ฟังเทศน์(ภาษาอิสาน)
https://m.facebook.com/story. php?story_fbid=362324535152987&id=1547373 275285594 ... • เทศนาหลวงปู่ชาเรื่องสอนกรรมฐานเทศน์ภาษาอิสาน: ถอดเทป/เรียบเรียง
หลวงพ่อชาสอนนั่ง กรรมฐาน
สมาธินี้คือความสงบทำจิตตั้งมั่นให้เป็นหนึ่ง
เราจะทำจิตของเราให้เป็นหนึ่งไม่ได้เพราะว่ากายวาจาของเรายังวุ่นวายก็คือว่ายังไม่ได้มีศีลนั่นเองก็ยังไม่มีความสบายก็ยังไม่มี
ความสงบยังทำผิดทางกายทางวาจาอยู่...ใจก็ยังไม่สบายแต่เมื่อกายวาจาเป็นปกติแล้ว... ใจ...ก็สบายใจ...ก็สงบสมาธินี้...มันจึงเป็นผลของ..."ศีล" ฉะนั้น... การทำสมาธินี้เรียกว่าการปฏิบัติกัมมัฎฐาน•การฝึกหัดกัมมัฎฐานมันเป็นอย่างไร•สมาธิมันเป็นอย่างไรกัมมัฎฐานคือการที่เราเอาผมขนเล็บฟันหนัง
ยกขึ้นมาพิจารณา...เพื่อให้ใจเป็นหนึ่งหรือพุทโธธัมโมสังโฆเป็นต้น
เป็นคำบริกรรมให้เป็นอารมณ์
วิธีทำสมาธิให้เป็นอารมณ์
พิจารณากัมมัฎฐาน... ให้เห็นเป็น
อนิจจังทุกขังอนัตตา
ให้เห็นของไม่มั่นคงไม่เที่ยงแท้
มิฉะนั้นการทำครั้งแรกท่านจึงให้วิธีทำที่ดีที่สุดคือ
การตั้งใจมั่นมั่นในการรักษาศีล
ก็เป็น...สมาธิมั่นในการละความชั่วก็เป็นสมาธิ
มั่นในการกระทำทั้งหลายที่ถูกต้องทั้งปวงไม่คืนคลาย
นั่น...ก็เป็นสมาธิวิธีทำจิตให้เป็นสมาธินั้น... ท่านจึงให้นั่งสมาธิมือขวาทับมือซ้ายขาขวาทับขวาซ้ายตั้งกายให้มันตรงจะอบรมใครล่ะ?
ก็คือ...อบรมจิต
วิธีอบรมจิตทำอย่างไร
ทำอย่างนี้ขาขวาทับขาซ้ายมือขวา
ทับมือซ้ายตั้งกายให้ตรงอือ..นี่คือวิธีแรก
เอาอะไรเป็นเครื่องหมายเอาลม,
อานาปานสติ
เมื่อเรานั่งอยู่ที่ใดที่หนึ่งเป็นต้น
นึกถึงคุณ...พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์เรียกว่า...พุทโธธัมโมสังโฆพุทโธธัมโมสังโฆพุทโธธัมโมสังโฆให้มีพุทโธๆกับลมหายใจเข้า-ออกเมื่อมีลมหายใจเข้า-ออกนั้น... ลมหายใจนี้ก็เป็นกัมมัฎฐานอันหนึ่งที่ดีที่สุดท่านจึงยกเอาลมหายใจนี้เป็นบทบาทเป็นกัมมัฎฐานเป็นคำบริกรรมเมื่อเรานั่งเรียบร้อยแล้วให้หายใจดู...หายใจให้สะดวกมันจะยาวก็ช่างมันมันจะสั้นก็ช่างมันจะเบาจะหนักก็ช่างมันมันปรารถนาพอดีอย่างไรเราก็เอาอย่างนั้น... หายใจลองดูเสียก่อนถ้ามันพอดีแล้ว!! เมื่อเราหายใจเข้าไปแล้วนั้น... มันจะเป็นสามฐานคือ๑ต้นลม๒กลางลม๓คือปลายลมเมื่อเราหายใจเข้านั้น... ต้นลมอยู่จมูกหรือปลายจมูกกลางลมอยู่หัวใจหรือหทัยปลายลมอยู่สะดือเราหายใจออกเป็นต้นต้นลมอยู่สะดือกลางลมคือหัวใจคือหทัยกลางอกปลายลมอยู่...จมูกเมื่อเราตั้งดีแล้ว... เราก็หายใจออกหายใจเข้าอยู่เรื่อยๆไปปลายจมูกก็รู้จักหัวใจก็รู้จักถึงสะดือแล้วก็รู้จัก•หายใจออกต้นลมอยู่สะดือกลางลมอยู่หทัยปลายลมอยู่จมูก•หายใจเข้าต้นลมอยู่จมูกกลางลมอยู่หทัยปลายลมอยู่สะดือให้เรากำหนดจิตดู...อย่างนี้เสียก่อน•เมื่อหายไปแล้วก็ว่า...พุทหนึ่งปลายจมูกสองหทัยสามสะดือ•เมื่อลมออกมาก็โธนับว่าหนึ่งสะดือสองหทัยสามปลายจมูกตามลมเข้าไปพิจารณาอยู่...ปลายจมูกก็รู้จักอยู่...หทัยก็รู้จักอยู่... สะดือก็รู้จักหายใจออกอยู่ไหนต้นลมก็รู้จัก•หายใจออกอยู่ไหนต้นลมก็รู้จักหายใจเข้าปลายลมอยู่ไหนก็รู้จัก•หายใจเข้าต้นลมอยู่ไหนกลางลมอยู่ไหนปลายลมอยู่ไหนสิ่งทั้งหลายเหล่านี้... ก็เพื่อจะควบคุมให้จิตของเรานิ่งสงบ.ฉะนั้น... เมื่อเรานั่งสงบแล้ว...ก็นั่งหายใจเข้าไปความสัมผัสถูกต้องอยู่... ที่ปลายจมูกนี่แห่งหนึ่งเป็นลมต้นลมเมื่อมันหายใจลงไปโน่นไปหาสะดือโน่นมันก็ต้องผ่านหทัยของเราเรียกว่ามันผ่านไปและเมื่อมันถึงสะดือแล้ว... มันก็จะหายใจออกจากสะดือมามาผ่านหัวใจมาผ่านปลายจมูกของเราเมื่อเรามาทำเช่นนี้... จนชำนาญพอสมควรแล้วทีนี้เราไม่ต้องตามมันไปไม่ต้องตามว่า... หายใจเข้าต้นลมอยู่ปลายจมูกกลางลมอยู่กลางหทัยปลายลมอยู่สะดือเอาความรู้สึกของเจ้าของนี้มาไว้มาวางเอาไว้ที่ปลายจมูกที่ลมมันผ่านเข้าผ่านออกอยู่... จุดเดียวเท่านั้นกำหนดแห่งเดียวเมื่อลมเข้าออกเราก็รู้จักเมื่อทำไปอย่างนี้แล้ว... มันก็อาจจะเกิดวิตกวิจารณ์อย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมาก็ได้หรือหลายอย่างมันจะเกิดวิตกวิจารณ์ขึ้นมาพิจารณาตามสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นว่า...มันจะเป็นอย่างไรเพื่อประโยชน์อะไรทั้งหลายเหล่านี้มันจะมีปัญหามากมายสับสนขึ้นมาเมื่อเรานั่งและไม่ต้องขยายความออกไปให้มันมากที่ครูบาอาจารย์หลักการที่หลักฝึกหัดเบื้องต้นนี้ท่านไม่ให้คิดอะไรมากมายให้คิดให้อยู่...กับว่าลมเข้า- ลมออกแค่นี้...ก็พอแล้วไม่ต้องคิดไปว่า...นานเท่าใดมันจะเป็นสมาธิหรือมันจะเป็นอย่างไรต่อไปมันจะเห็นอะไรอย่างนั้นอย่าคิดไป!! ฉะนั้นแล้วจึงไม่ใช่หน้าที่ของเราเรามีหน้าที่ที่จะฝึกกัมมัฏฐานเฉพาะอานาปานสติคือลมเข้าเรารู้จักลมออกเรารู้จักนี่! นั่งอยู่...สองชั่วโมงก็ตามมีแต่ลมเข้า-ออกให้รู้จักตลอดกาลตลอดเวลานี่เป็นเบื้องแรกไม่ต้องรับพิจารณาอันใดอะไรทั้งหมด." • ฟังเทศน์(ภาษาอิสาน) https://m.facebook.com/story. php?story_fbid=362324535152987&id=1547373 275285594 ... • เทศนาหลวงปู่ชาเรื่องสอนกรรมฐานเทศน์ภาษาอิสาน: ถอดเทป/เรียบเรียง