“ดุสิตโพล” ไม่เชื่อมั่น “รัฐบาลแพทองธาร” แก้น้ำท่วม แนะเร่งฟื้นฟู
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_778806/
“ดุสิตโพล” ไม่เชื่อมั่น “รัฐบาลแพทองธาร” แก้น้ำท่วม แนะเร่งช่วยประชาชน พร้อมออกมาตราการฟื้นฟูเหมาะสม และควรวางแผนระยะยาว
“
สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “
คนไทยกับสถานการณ์น้ำท่วม” จากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,207 คน โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 18-20 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา พบว่า กลุ่มตัวอย่างเคยประสบปัญหาน้ำท่วม ร้อยละ 68.77 ส่วนสาเหตุหลักของน้ำท่วม ตัวอย่าง ร้อยละ 42.49 ระบุ การกระทำของมนุษย์ ขณะที่ ร้อยละ 70.05 มีการติดตามข่าวสารและการแจ้งเตือนอย่างใกล้ชิดในช่วงน้ำท่วมเตรียมพร้อมรับมือ
และเมื่อถามถึงด้านความเชื่อมั่นต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล ตัวอย่าง ร้อยละ 69.76 ระบุ ไม่เชื่อมั่น และไม่พึงพอใจต่อการจัดการปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล ถึงร้อยละ 77.80
ทั้งนี้ สิ่งที่อยากฝากบอกรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร พบว่า ร้อยละ 64.07 อยากให้ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนและทันท่วงที ร้อยละ 54.75 ควรบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ วางแผนป้องกันระยะยาว และร้อยละ 51.36 อยากให้มีมาตรการฟื้นฟู เยียวยา หลังน้ำลดอย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม น.ส.
พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า จากผลสำรวจสะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เคยประสบปัญหาน้ำท่วม แม้จะสามารถเตรียมรับปัญหาได้ด้วยตนเองส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังไม่เชื่อมั่นในความสามารถของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาและรู้สึกไม่พึงพอใจกับการจัดการปัญหาปัจจุบัน โดยคาดหวังให้เร่งช่วยเหลือและบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีแผนป้องกันระยะยาวและมาตรการช่วยเหลือฟื้นฟูที่แสดงถึงความเห็นอกเห็นใจประชาชนให้มากขึ้น
ลำปางอ่วม! น้ำป่าทะลัก ท่วมบ้านเรือน 400 หลังคา พื้นที่ลุ่มต่ำท่วมลึก 2 เมตร
https://www.matichon.co.th/region/news_4804864
ลำปางอ่วม! น้ำป่าทะลัก ท่วมบ้านเรือน 400 หลังคา พื้นที่ลุ่มต่ำท่วมลึก 2 เมตร
วันที่ 22 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จ.ลำปาง เมื่อคืนที่ผ่านมา (21 ก.ย.67) น้ำป่าที่ทะลักลงมาจากยอดเขาสูงในเขตอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล โดยไหลหลากลงมา ตามลำน้ำแม่ตาลเป็นจำนวนมาก
เมื่อมาถึงลำน้ำที่เป็นจุดคอขวด บริเวณบ้านจำ และที่บ้านปงใต้ ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ที่ลำน้ำมีความแคบ จึงไหลไม่ทัน และล้นทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้ ไปกว่า 400 หลังคา ระดับน้ำท่วมสูง 30 เซนติเมตร ไปจนถึง 1 เมตร บางจุดในที่ลุ่มต่ำมาก ก็ลึกเกือบ 2 เมตร
โดยวัดบ้านจำก็ได้รับผลกระทบด้วย ชาวบ้านช่วยกันวางแนวกระสอบทรายประตูหน้าวัด เพื่อป้องกันน้ำทะลักเข้ามาเพิ่ม พระสงฆ์ที่รับกิจนิมนต์มาสวดพระอภิธรรมศพภายในวัด ต้องยกจีวรขึ้น และเดินลุยน้ำ ข้ามแนวกระสอบทราย เพื่อเข้าไปในวัด นับเป็นภัยที่เกิดขึ้นครั้งแรกในปีนี้ ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้มักประสบภัย 2 – 3 ครั้งต่อปี หากเข้าฤดูฝน
นอกจากนี้ ถนนสายเลี่ยงเมืองลำปาง เส้นทาง อ.เกาะคา – ห้างฉัตร ที่มักมีรถของประชาชน และนักท่องเที่ยว รวมถึงรถขนส่งสินค้า มักใช้เป็นเส้นทางลัดไปมา เพื่อไปกรุงเทพมหานคร ลำพูน และเชียงใหม่ ก็มีน้ำท่วมถนน ซึ่งลำน้ำแม่ตาลได้ค่อยๆ ไหลทะลักท่วมถนน ทำให้รถเล็ก โดยเฉพาะรถเก๋ง รีบผ่านไป เพราะเกรงว่า ระดับน้ำจะสูงขึ้นอีก
กระทั่งผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ระดับน้ำก็สูงขึ้นกว่า 1 เมตร และท่วมถนนเป็นระยะทางยาวกว่า 200 เมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดกั้นการจราจร ไม่ให้รถเล็กผ่าน ทั้งรถจักรยานยนต์ และรถยนต์เก๋ง เพื่อป้องกันอันตราย และความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับตัวรถ ซึ่งเจ้าหน้าที่ ก็มีการกระจายกำลัง ประจำจุด เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร
นอกจากนี้ ยังมีรถแบ็คโฮ เข้ามาตักเศษวัชพืช ผักตบชวา และเศษกิ่งไม้ที่ไหลมาติดสะพาน และขวางทางน้ำ โดยเอาออก เพื่อให้น้ำไหลสะดวก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดทั้งคืน พบว่า ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก จนถนนสายเลี่ยงเมือง มีความลึก จนรถเล็กไม่สามารถข้ามผ่านไปได้ จึงปิดการจราจร ในช่วงกลางดึก หลังเที่ยงคืนที่ผ่านมา กระทั่งระดับน้ำค่อยๆ ลดลง และแห้งเป็นปกติเช้าวันนี้
“สุดารัตน์” แนะรัฐบาลปรับโครงสร้างหนี้-เร่งเติมทุน
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_778851/
“สุดารัตน์” แนะรัฐบาลปรับโครงสร้างหนี้ และเร่งเติมทุน ช่วยคนตัวเล็กตั้งตัว พร้อมเพิ่มศักยภาพการแข่งขันสร้างรายได้ยั่งยืน
คุณหญิง
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ได้รับเชิญให้ไปบรรยายพิเศษในหัวข้อ“สถานการณ์ภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศ” ที่จัดโดย สมาคมเครือข่ายผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนนานาชาติ โดยเห็นด้วยกับแนวทางของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ชี้ว่าการฟื้นตัวและความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจจะมองเพียงตัวเลขของ GDP ประเทศอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องให้ความสำคัญกับการสร้างความมั่งคั่งที่แท้จริงให้แก่ครัวเรือนโดยเฉพาะประชาชนคนตัวเล็ก ซึ่งไม่ได้รับการสนับสนุนให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน ทั้งนี้ เห็นว่า รัฐบาลยังไม่ได้แก้ไขปัญหาใหญ่ของประเทศ นั่นคือหนี้ภาคครัวเรือน ในระบบเครดิตบูโรกว่า 13.6 ล้านล้าน ซึ่งในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาเพิ่มจาก 50% เป็น 91.3% ต่อ GDP ปัจจุบัน 38% ของคนไทยมีหนี้ในระบบเฉลี่ยคนละ 540,000 บาท ซึ่งยังไม่รวมหนี้นอกระบบ
สำหรับหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น 3 ลำดับแรก ได้แก่ หนี้เสียจากสินเชื่อบ้านเพิ่มขึ้น18% หนี้เสียจากสินเชื่อรถยนต์ เพิ่มขึ้น 32 % หนี้เสียส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 12% และหนี้เสียที่เกิดจากการใช้บัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 14.6% ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า หนี้สินที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้เป็นไปเพื่อการลงทุน แต่ส่วนใหญ่ “
กู้ไปกินไปใช้”
พรรคไทยสร้างไทย เห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการคือการปรับโครงสร้างหนี้และเร่งเติมทุน พร้อมขอให้ช่วยกันสนับสนุนกองทุนเครดิตประชาชน เพราะจะช่วยให้คนตัวเล็กตั้งตัวได้
ที่สำคัญ รัฐต้องเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ โดยต้องใช้เงินงบประมาณเพื่อการสร้างรายได้ที่ยั่งยืน ให้กับคนตัวเล็กคนชั้นกลางและ SMEs
- ต้องเปิดโอกาสให้คนตัวเล็กเข้าถึงแหล่งทุนเช่นกองทุน SME กองทุนเครดิตประชาชน การเข้าถึงเทคโนโลยี ความรู้ และการตลาด
– รัฐต้องส่งเสริมการพัฒนาทักษะด้านต่างๆเพื่อให้ ทันการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ สร้างFuture Skill ให้คนไทย สำคัญที่สุดคือการปฏิรูปการศึกษา
– รัฐต้องเร่งปฏิรูปโครงสร้างอุตสาหกรรม โครงสร้างเศรษฐกิจ
- รัฐต้องเร่งปฏิรูป โครงสร้างด้านการเกษตร
JJNY : ไม่เชื่อมั่น“รบ.แพทองธาร”│ลำปางอ่วม! น้ำป่าทะลัก│“สุดารัตน์”แนะปรับหนี้-เติมทุน│รัสเซียลั่นไม่ร่วมประชุมกับยูเครน
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_778806/
“ดุสิตโพล” ไม่เชื่อมั่น “รัฐบาลแพทองธาร” แก้น้ำท่วม แนะเร่งช่วยประชาชน พร้อมออกมาตราการฟื้นฟูเหมาะสม และควรวางแผนระยะยาว
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “คนไทยกับสถานการณ์น้ำท่วม” จากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,207 คน โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 18-20 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา พบว่า กลุ่มตัวอย่างเคยประสบปัญหาน้ำท่วม ร้อยละ 68.77 ส่วนสาเหตุหลักของน้ำท่วม ตัวอย่าง ร้อยละ 42.49 ระบุ การกระทำของมนุษย์ ขณะที่ ร้อยละ 70.05 มีการติดตามข่าวสารและการแจ้งเตือนอย่างใกล้ชิดในช่วงน้ำท่วมเตรียมพร้อมรับมือ
และเมื่อถามถึงด้านความเชื่อมั่นต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล ตัวอย่าง ร้อยละ 69.76 ระบุ ไม่เชื่อมั่น และไม่พึงพอใจต่อการจัดการปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล ถึงร้อยละ 77.80
ทั้งนี้ สิ่งที่อยากฝากบอกรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร พบว่า ร้อยละ 64.07 อยากให้ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนและทันท่วงที ร้อยละ 54.75 ควรบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ วางแผนป้องกันระยะยาว และร้อยละ 51.36 อยากให้มีมาตรการฟื้นฟู เยียวยา หลังน้ำลดอย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม น.ส.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า จากผลสำรวจสะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เคยประสบปัญหาน้ำท่วม แม้จะสามารถเตรียมรับปัญหาได้ด้วยตนเองส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังไม่เชื่อมั่นในความสามารถของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาและรู้สึกไม่พึงพอใจกับการจัดการปัญหาปัจจุบัน โดยคาดหวังให้เร่งช่วยเหลือและบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีแผนป้องกันระยะยาวและมาตรการช่วยเหลือฟื้นฟูที่แสดงถึงความเห็นอกเห็นใจประชาชนให้มากขึ้น
ลำปางอ่วม! น้ำป่าทะลัก ท่วมบ้านเรือน 400 หลังคา พื้นที่ลุ่มต่ำท่วมลึก 2 เมตร
https://www.matichon.co.th/region/news_4804864
ลำปางอ่วม! น้ำป่าทะลัก ท่วมบ้านเรือน 400 หลังคา พื้นที่ลุ่มต่ำท่วมลึก 2 เมตร
วันที่ 22 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จ.ลำปาง เมื่อคืนที่ผ่านมา (21 ก.ย.67) น้ำป่าที่ทะลักลงมาจากยอดเขาสูงในเขตอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล โดยไหลหลากลงมา ตามลำน้ำแม่ตาลเป็นจำนวนมาก
เมื่อมาถึงลำน้ำที่เป็นจุดคอขวด บริเวณบ้านจำ และที่บ้านปงใต้ ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ที่ลำน้ำมีความแคบ จึงไหลไม่ทัน และล้นทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้ ไปกว่า 400 หลังคา ระดับน้ำท่วมสูง 30 เซนติเมตร ไปจนถึง 1 เมตร บางจุดในที่ลุ่มต่ำมาก ก็ลึกเกือบ 2 เมตร
โดยวัดบ้านจำก็ได้รับผลกระทบด้วย ชาวบ้านช่วยกันวางแนวกระสอบทรายประตูหน้าวัด เพื่อป้องกันน้ำทะลักเข้ามาเพิ่ม พระสงฆ์ที่รับกิจนิมนต์มาสวดพระอภิธรรมศพภายในวัด ต้องยกจีวรขึ้น และเดินลุยน้ำ ข้ามแนวกระสอบทราย เพื่อเข้าไปในวัด นับเป็นภัยที่เกิดขึ้นครั้งแรกในปีนี้ ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้มักประสบภัย 2 – 3 ครั้งต่อปี หากเข้าฤดูฝน
นอกจากนี้ ถนนสายเลี่ยงเมืองลำปาง เส้นทาง อ.เกาะคา – ห้างฉัตร ที่มักมีรถของประชาชน และนักท่องเที่ยว รวมถึงรถขนส่งสินค้า มักใช้เป็นเส้นทางลัดไปมา เพื่อไปกรุงเทพมหานคร ลำพูน และเชียงใหม่ ก็มีน้ำท่วมถนน ซึ่งลำน้ำแม่ตาลได้ค่อยๆ ไหลทะลักท่วมถนน ทำให้รถเล็ก โดยเฉพาะรถเก๋ง รีบผ่านไป เพราะเกรงว่า ระดับน้ำจะสูงขึ้นอีก
กระทั่งผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ระดับน้ำก็สูงขึ้นกว่า 1 เมตร และท่วมถนนเป็นระยะทางยาวกว่า 200 เมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดกั้นการจราจร ไม่ให้รถเล็กผ่าน ทั้งรถจักรยานยนต์ และรถยนต์เก๋ง เพื่อป้องกันอันตราย และความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับตัวรถ ซึ่งเจ้าหน้าที่ ก็มีการกระจายกำลัง ประจำจุด เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร
นอกจากนี้ ยังมีรถแบ็คโฮ เข้ามาตักเศษวัชพืช ผักตบชวา และเศษกิ่งไม้ที่ไหลมาติดสะพาน และขวางทางน้ำ โดยเอาออก เพื่อให้น้ำไหลสะดวก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดทั้งคืน พบว่า ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก จนถนนสายเลี่ยงเมือง มีความลึก จนรถเล็กไม่สามารถข้ามผ่านไปได้ จึงปิดการจราจร ในช่วงกลางดึก หลังเที่ยงคืนที่ผ่านมา กระทั่งระดับน้ำค่อยๆ ลดลง และแห้งเป็นปกติเช้าวันนี้
“สุดารัตน์” แนะรัฐบาลปรับโครงสร้างหนี้-เร่งเติมทุน
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_778851/
“สุดารัตน์” แนะรัฐบาลปรับโครงสร้างหนี้ และเร่งเติมทุน ช่วยคนตัวเล็กตั้งตัว พร้อมเพิ่มศักยภาพการแข่งขันสร้างรายได้ยั่งยืน
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ได้รับเชิญให้ไปบรรยายพิเศษในหัวข้อ“สถานการณ์ภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศ” ที่จัดโดย สมาคมเครือข่ายผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนนานาชาติ โดยเห็นด้วยกับแนวทางของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ชี้ว่าการฟื้นตัวและความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจจะมองเพียงตัวเลขของ GDP ประเทศอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องให้ความสำคัญกับการสร้างความมั่งคั่งที่แท้จริงให้แก่ครัวเรือนโดยเฉพาะประชาชนคนตัวเล็ก ซึ่งไม่ได้รับการสนับสนุนให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน ทั้งนี้ เห็นว่า รัฐบาลยังไม่ได้แก้ไขปัญหาใหญ่ของประเทศ นั่นคือหนี้ภาคครัวเรือน ในระบบเครดิตบูโรกว่า 13.6 ล้านล้าน ซึ่งในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาเพิ่มจาก 50% เป็น 91.3% ต่อ GDP ปัจจุบัน 38% ของคนไทยมีหนี้ในระบบเฉลี่ยคนละ 540,000 บาท ซึ่งยังไม่รวมหนี้นอกระบบ
สำหรับหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น 3 ลำดับแรก ได้แก่ หนี้เสียจากสินเชื่อบ้านเพิ่มขึ้น18% หนี้เสียจากสินเชื่อรถยนต์ เพิ่มขึ้น 32 % หนี้เสียส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 12% และหนี้เสียที่เกิดจากการใช้บัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 14.6% ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า หนี้สินที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้เป็นไปเพื่อการลงทุน แต่ส่วนใหญ่ “กู้ไปกินไปใช้”
พรรคไทยสร้างไทย เห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการคือการปรับโครงสร้างหนี้และเร่งเติมทุน พร้อมขอให้ช่วยกันสนับสนุนกองทุนเครดิตประชาชน เพราะจะช่วยให้คนตัวเล็กตั้งตัวได้
ที่สำคัญ รัฐต้องเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ โดยต้องใช้เงินงบประมาณเพื่อการสร้างรายได้ที่ยั่งยืน ให้กับคนตัวเล็กคนชั้นกลางและ SMEs
- ต้องเปิดโอกาสให้คนตัวเล็กเข้าถึงแหล่งทุนเช่นกองทุน SME กองทุนเครดิตประชาชน การเข้าถึงเทคโนโลยี ความรู้ และการตลาด
– รัฐต้องส่งเสริมการพัฒนาทักษะด้านต่างๆเพื่อให้ ทันการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ สร้างFuture Skill ให้คนไทย สำคัญที่สุดคือการปฏิรูปการศึกษา
– รัฐต้องเร่งปฏิรูปโครงสร้างอุตสาหกรรม โครงสร้างเศรษฐกิจ
- รัฐต้องเร่งปฏิรูป โครงสร้างด้านการเกษตร