คำว่า “อวิชชา” จากพระไตรปิฎก

คำว่า “อวิชชา จากพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๖ อังคุตตร นิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต ยมกวรรคที่ ๒ อวิชชาสูตรที่ ๑ พอที่จะสรุปได้ว่า “อวิชชา”นอก จาก จะหมายถึงความไม่รู้ใน อริยสัจ คือ ไม่รู้ใน ทุกข์ ได้แก่ ไม่รู้ว่าอะไรบ้างที่เป็นตัวทุกข์ เช่นไม่รู้ความเกิด ความแก่ ความตาย ความผิดหวัง เป็นตัวทุกข์ ไม่รู้ในเหตุเกิดทุกข์ ได้แก่ ไม่รู้ว่าทุกข์นั้นเกิดมาจาก ตัณหา ในจิตของตนเอง มิใช่เกิดจากผีสาง เทวดา มิใช่เกิดจากการบันดาล 

อวิชชา ยังหมายถึงความไม่รู้อย่างแท้จริงในทุกๆเรื่องไปจนถึงไม่รู้อะไรเลย ขาดความเข้าใจในเหตุผลคือโง่เง่าอย่างดอกบัวภายใต้โคลนตม Ignorance (lack of knowledge , education, or awareness) ทำไมคนเราจึงโง่ถึงขั้นที่รียกว่า “อวิชชา” การที่คนเราโง่เง่าถึงขั้นที่เรียกว่าอวิชชา ก็เพราะบุคคลผู้นั้นมีสิ่งที่กั้นจิตไม่ให้ก้าวหน้าในคุณธรรม, หรือธรรมที่กั้นจิตไม่ให้บรรลุคุณความดี เป็นอกุศลธรรมที่ทำจิตให้เศร้าหมองและทำให้ปัญญาอ่อนกำลัง สิ่งเหล่านั้น ได้แก่ ความลุ่มหลงในกามคุณ ความคิดร้าย, ความขัดเคืองแค้นใจความหดหู่และเซื่องซึมความฟุ้งซ่านและร้อนใจ, ความกระวนกระวายกลุ้มกังวลความลังเลสงสัย ความไม่มั่นใจในตนเอง นอกจานั้นยังใช้ชีวิตอย่างประมาท สร้างความชั่วทั้งกาย,วาจาและใจ คบกับคนเลวเป็นมิตร ไม่คบกับผู้ที่มีความรู้ความมีคุณธรรม จึงไม่รู้ว่ากระทำถูกผิดนั้นเป็นอย่างไร ทำอะไรหรือประพฤติปฏิบัติอย่างไรก็ไม่มีสติปัญญาที่จะคิดให้รอบคอบก่อนกระทำขาดสติมีแต่ความประมาท ขาดความมั่นใจในตัวเอง สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความ "อวิชชา" หรือความโง่เง่าอย่างไม่รู้อะไรเอาเสียเลย ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้บุคคลเช่นนี้มีความรู้สติปัญญาได้ จึงเรียกสภาวะเช่นนี้ว่า "อวิชชา"

NOTE:
ถ้าเข้าใจผิดกรุณาอธิบายเพิ่มเติมด้วย จะขอบคุณมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่