เมื่อครั้งที่พระนางมัลลิกาเทวีสิ้นพระชนม์ พระเจ้าปเสนทิโกศลทำพิธีสวดศพ 7 วัน 8 คืนให้พระนางหรือเปล่า?

พระนางมัลลิกาเทวี เป็นพระมเหสีของพระเจ้าปเสนทิโกศลแห่งแคว้นโกศล  เป็นอุปัฏฐายิกาของพระพุทธเจ้า เป็นอุปัฏฐายิกาของพระสงฆ์ มีปัญญามาก 

เมืองสาวัตถี แคว้นโกศล เป็นสถานที่พระพุทธเจ้าทรงจำพรรษานานที่สุด คือยาวนานถึง 25 พรรษา

แม้ว่าพระนางจะเป็นผู้มีปัญญามาก และได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฟังพระสัทธรรมจากพระพุทธเจ้าหลายครั้ง  แต่พระพุทธเจ้าก็ไม่สามารถช่วยให้พระนางมัลลิกาเทวีบรรลุได้แม้เพียงโสดาบัน  

และถึงแม้พระนางมัลลิกาเทวี จะเป็นผู้ใจบุญสุนทาน ทำการบริจาคทานเป็นอาจิณ  แต่ในเวลาที่พระนางสิ้นพระชนม์  พระนางกลับมิได้ทรงนึกถึงการบริจาคทานใหญ่เลย  แต่ทรงระลึกถึงกรรมอันลามกที่ได้กระทำเพียงครั้งเดียว จนเป็นเหตุให้บังเกิดในนรกอเวจี

พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงโทมนัสเศร้าโศกเป็นอย่างยิ่ง รับสั่งให้ทำฌาปนกิจพระสรีระของพระนางแล้ว  จึงได้เสด็จไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อสอบถามว่าพระนางไปบังเกิดในภพภูมิใด (สังเกตว่าไม่ได้มีการอาราธนาพระพุทธเจ้ามาทำพิธีสวดศพ และคงใช้เวลาเพียงวันเดียวในการทำฌาปนกิจศพ)

จากนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศล ก็เทียวไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าอยู่ถึง 7 วันหลังจากทำฌาปนกิจพระสรีระของพระนาง  พระพุทธเจ้าก็มิทรงตอบ

จนเมื่อพ้น 7 วัน  พระพุทธเจ้าจึงทรงเสด็จไปถึงประตูพระราชวังด้วยพระองค์เอง แล้วคราวนี้ เมื่อถูกถาม พระพุทธองค์ก็ทรงตอบว่า พระนางบังเกิดในดุสิตภพ (เพราะพระนางตกนรกอยู่ 7 วัน)

*****************************************

https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25.0&i=21&p=6
พระนางมัลลิกาเกิดในอเวจี    
           
               ก็ในอสทิสทานนั้น การบริจาคที่ทรงทำในวันหนึ่ง มีค่าถึงทรัพย์ ๑๔ โกฏิ. ก็เศวตฉัตร บัลลังก์ประทับนั่ง เชิงบาตร ตั่งสำหรับรองพระบาทของพระตถาคตเจ้า ๔ อย่างนี้ ได้มีค่านับไม่ได้. ในเวลาจะสิ้นพระชนม์ พระนางมัลลิกานั้นมิได้ทรงนึกถึงการบริจาคใหญ่ เห็นปานนั้น ทรงระลึกถึงกรรมอันลามกนั้นอย่างเดียว สิ้นพระชนม์แล้วก็บังเกิดในอเวจี. ก็พระนางมัลลิกานั้นได้เป็นผู้โปรดปรานของพระราชาอย่างยิ่ง.

 พระราชาทูลถามสถานที่พระนางเกิด      
         
               ท้าวเธออันความโศกเป็นกำลังครอบงำ รับสั่งให้ทำฌาปนกิจพระสรีระของพระนางแล้ว ทรงดำริว่า "เราจะทูลถามสถานที่เกิดของพระนาง" จึงได้เสด็จไปยังสำนักของพระศาสดา. 
               พระศาสดาได้ทรงทำโดยประการที่ท้าวเธอระลึกถึงเหตุที่เสด็จมาไม่ได้. ท้าวเธอทรงสดับธรรมกถาชวนให้ระลึกถึงในสำนักของพระศาสดาแล้ว ก็ทรงลืม; ในเวลาเสด็จเข้าไปสู่พระราชนิเวศน์ ทรงระลึกได้ จึงตรัสว่า "พนาย ฉันตั้งใจว่า ‘จักทูลถามที่พระนางมัลลิกาเทวีเกิด’ ไปยังสำนักของพระศาสดาก็ลืมเสีย. วันพรุ่งนี้ ฉันจะทูลถามอีก" ดังนี้แล้ว ก็ได้เสด็จไป แม้ในวันรุ่งขึ้น.
               ฝ่ายพระศาสดาก็ได้ทรงทำโดยประการที่ท้าวเธอระลึกไม่ได้ตลอด ๗ วันโดยลำดับ.
               ฝ่ายพระนางมัลลิกานั้นไหม้ในนรกตลอด ๗ วันเท่านั้น. ในวันที่ ๘ จุติจากที่นั้นแล้ว เกิดในดุสิตภพ.
               ถามว่า ก็เพราะเหตุไร พระศาสดาจึงได้ทรงทำความที่พระราชานั้น ทรงระลึกไม่ได้?
               แก้ว่า ทราบว่า พระนางมัลลิกานั้นได้เป็นที่โปรดปรานพอพระทัยของพระราชานั้นอย่างที่สุด? เพราะฉะนั้น ท้าวเธอทราบว่า พระนางเกิดในนรกแล้ว ก็จะทรงยึดถือมิจฉาทิฏฐิ ด้วยทรงดำริว่า "ถ้าหญิงผู้สมบูรณ์ด้วยศรัทธาเห็นปานนี้ เกิดในนรกไซร้ เราจะถวายทานทำอะไร?" ดังนี้แล้ว ก็จะรับสั่งให้เลิกนิตยภัตที่เป็นไปในพระราชนิเวศน์เพื่อภิกษุ ๕๐๐ รูปแล้วพึงเกิดในนรก
               เพราะฉะนั้น พระศาสดาจึงทรงทำความที่พระราชานั้นทรงระลึกไม่ได้ตลอด ๗ วัน
               ในวันที่ ๘ ทรงดำเนินไปเพื่อบิณฑบาต ได้เสด็จไปยังประตูพระราชวังด้วยพระองค์เองทีเดียว. พระราชาทรงทราบว่า "พระศาสดาเสด็จมาแล้ว" จึงเสด็จออก ทรงรับบาตรแล้ว ปรารภเพื่อจะเสด็จขึ้นสู่ปราสาท.
               แต่พระศาสดาทรงแสดงพระอาการเพื่อจะประทับนั่งที่โรงรถ.
               พระราชาจึงทูลอัญเชิญพระศาสดาให้ประทับนั่ง ณ ที่นั้นเหมือนกัน ทรงรับรองด้วยข้าวยาคูและของควรเคี้ยวแล้ว จึงถวายบังคม พอประทับนั่ง ก็กราบทูลว่า "หม่อมฉันมาก็ด้วยประสงค์ว่า ‘จักทูลถามที่เกิดของพระนางมัลลิกาเทวี แล้วลืมเสีย พระนางเกิดในที่ไหนหนอแล? พระเจ้าข้า."
               พระศาสดา. ในดุสิตภพ มหาบพิตร.
               พระราชา. พระเจ้าข้า เมื่อพระนางไม่บังเกิดในดุสิตภพ คนอื่นใครเล่าจะบังเกิด พระเจ้าข้า หญิงเช่นกับพระนางมัลลิกานั้นไม่มี เพราะในที่ๆ พระนางนั่งเป็นต้น กิจอื่น เว้นการจัดแจงทาน ด้วยคิดว่า "พรุ่งนี้ จักถวายสิ่งนี้ จักทำสิ่งนี้ แด่พระตถาคต" ดังนี้ไม่มีเลย พระเจ้าข้า ตั้งแต่เวลาพระนางไปสู่ปรโลกแล้ว สรีระของหม่อมฉันไม่ค่อยกระปรี้กระเปร่า.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่