แม้ในพระสูตรยังกล่าวถึง มัลลิกาสูตร มีความว่า พระเจ้าปเสนทิโกศล กษัตริย์แห่งเมืองสาวัตถี
มีมเหสีอันป็นที่รักยิ่ง พระนามว่า มัลลิกา พระเจ้าปเสนทิโกศล ต้องการได้ยินจากพระโอษฐ์ของ
พระนางว่า พระนางทรงมีความรักในพระองค์ยิ่งกว่าชีวิต จึงตรัสถามพระนางว่า
มัลลิกาที่รัก มีใครที่น้องรักมากที่สุด
พระนางมัลลิกากราบทูลว่า
ข้าแต่มหาราชไม่มีใครที่หม่อมฉันจะรักเท่าตัวหม่อมฉันเอง
พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงน้อยพระทัยที่พระมเหสีไม่รักพระองค์ (ยิ่งกว่าชีวิตของพระนาง)
เสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้า กราบทูลเรื่องที่โต้ตอบสนทนากันให้ทรงทราบ
พระพุทธเจ้าตรัสรู้รับรองคำพูดของพระนางมัลลิกาว่า
ไม่มีใครรักคนอื่นเท่ากับตนเองดอก ตนเองเป็นที่รักยิ่งของคนทั้งหลาย
เพราะฉะนั้น ผู้ที่รักตนเอง จึงไม่ควรเบียดเบียนคนอื่น
พระสูตรนี้ชื่อ มัลลิกาสูตร ตรัสเตือนให้นึกถึงความจริงว่า
แท้ที่จริงแล้วไม่มีอะไรจะเป็นที่รักของตนเท่ากับตัวตนของผู้นั้น
ไม่ใช่จะย้อนแย้งจากคำของพระพุทธองค์ แต่หมายถึงว่า
เราคนธรรมดา เมื่อมีรัก ประกอบเหตุแล้วจะทำอย่างไร
ประคับประคอง ถนอมให้รักนี้มีทุกข์น้อยๆ อยู่กันอย่างมีความสุขไปนานๆ
จะมีบ้างไหมที่ "ที่ใดมีรัก ที่นั่นไม่มีทุกข์" ทำยังงัยกันหนอ????
แม้ในพระสูตรยังกล่าวถึง มัลลิกาสูตร มีความว่า พระเจ้าปเสนทิโกศล กษัตริย์แห่งเมืองสาวัตถี
มีมเหสีอันป็นที่รักยิ่ง พระนามว่า มัลลิกา พระเจ้าปเสนทิโกศล ต้องการได้ยินจากพระโอษฐ์ของ
พระนางว่า พระนางทรงมีความรักในพระองค์ยิ่งกว่าชีวิต จึงตรัสถามพระนางว่า
มัลลิกาที่รัก มีใครที่น้องรักมากที่สุด
พระนางมัลลิกากราบทูลว่า ข้าแต่มหาราชไม่มีใครที่หม่อมฉันจะรักเท่าตัวหม่อมฉันเอง
พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงน้อยพระทัยที่พระมเหสีไม่รักพระองค์ (ยิ่งกว่าชีวิตของพระนาง)
เสด็จไปเฝ้าพระพุทธเจ้า กราบทูลเรื่องที่โต้ตอบสนทนากันให้ทรงทราบ
พระพุทธเจ้าตรัสรู้รับรองคำพูดของพระนางมัลลิกาว่า
ไม่มีใครรักคนอื่นเท่ากับตนเองดอก ตนเองเป็นที่รักยิ่งของคนทั้งหลาย
เพราะฉะนั้น ผู้ที่รักตนเอง จึงไม่ควรเบียดเบียนคนอื่น
พระสูตรนี้ชื่อ มัลลิกาสูตร ตรัสเตือนให้นึกถึงความจริงว่า
แท้ที่จริงแล้วไม่มีอะไรจะเป็นที่รักของตนเท่ากับตัวตนของผู้นั้น
ไม่ใช่จะย้อนแย้งจากคำของพระพุทธองค์ แต่หมายถึงว่า
เราคนธรรมดา เมื่อมีรัก ประกอบเหตุแล้วจะทำอย่างไร
ประคับประคอง ถนอมให้รักนี้มีทุกข์น้อยๆ อยู่กันอย่างมีความสุขไปนานๆ