คำถาม คือผมสงสัยมากๆ ว่าผมเป็นโรคหลอดในเลือดตีบ-เเตก หรือ อย่างอื่นไหม ทำไมผมยังใช้ชีวิตปกติได้ยังไงทั้งที่ผ่านมาหลายปีเเล้ว??
     
          ท้าวความคือ ช่วงอายุประมาณ 18 ปี ช่วงเรียนปี 1 รู้สึกชาตัว ฝั่งซีกซ้ายทั้งหมด ขา เเขน หน้า ปาก นวดก็ไม่หาย (เหมือนเหนื่อยฉับพลัน ก้าวไม่ออก ยิ้มไม่มีเเรง) ไม่ได้ไปโรงพยาบาล ผมเป็นประมาณไม่เกิน 10 ชม.เพราะเริ่มเป็นตอนดึก เเต่นอนตื่นมาหายเป็นปกติ
         ปัจจบัน คนในครอบครัวผมก็เป็นโรคหลอดเลือดในสมองเเตก (คุณพ่อ อายุ 53 ปีนี้) ผมจึงอยากทราบว่าผมเป็นโรคหลอดเลือดในสมอง หรือ ว่าเป็นอย่างอื่นกันเเน่ เพราะปัจจุบันผมไม่มีอาการอะไรเลย ออกกำลังกายปกติ นอน 7- 9 ชม.(นานๆทีทำงานโต้รุ้งบ้าง)

สรุปช่วงเวลา และอาการ
อดีต อายุ 18 ปี
               อาการ : รู้สึกชาตัว ฝั่งซีกซ้ายทั้งหมด ขา เเขน หน้า ปาก (เหมือนเหนื่อยฉับพลัน ก้าวไม่ออก ยิ้มไม่มีเเรง) ผมเป็นประมาณไม่เกิน 10 ชม.เพราะเริ่มเป็นตอนดึก เเต่นอนตื่นมาหายเป็นปกติ 
               พฤติกรรม : นอนน้อยมาก เนื่องจากทำกิจกรรมต่าง + เรียนสายออกแบบ เวลาพักผ่อนประมาณ 4 - 7 ชม. หรือ ไม่ได้นอนข้ามวันบางที (ดื่มเเอลกอฮอลบ้างบางวันเเต่ไม่หนัก) ออกกำลังกายหนักช่วงนั้น ดื่มบ่อย M150 น้ำหวานบ้าง ทานอาหารปกติทั้งหมด มัน ทอด ต้ม  

ปัจจุบัน อายุ 23 ปี
               อาการ :ไม่มีอาการอะไรสื่อถึงโรคเลย
               พฤติกรรม : ออกกำลังกายกลางๆ ดื่มน้ำหวานบ้าง มีทานอาหาร ปกติทั้งหมด ต้ม ผัด ของทอดบ้างเเต่พอหลีเลี่ยง หรือทอดน้ำมันมะพร้าว รำข้าวเอา ดื่มเเอลกอฮอลบ้างนานๆที เวลานอน 7- 9 ชม.(ตื่นยากมากบางที 10 ชม) ปัจจุบันเป็นคนง่วงซึมบ่อย ดื่มกาเเฟบ่อยขึ้น ดื่มกระตุ้น เพราะระหว่างวันง่วงบ่อย นอนดึกตื่นสาย เเต่อยู่ในเวลานอน 7- 9 ชม.ครับ (เผื่อเชื่อมโยงอาการได้ครับ)

ขอสอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านนี้หรือมีประสบการณ์คล้ายกันด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบครับ