โรคหลอดเลือดสมอง
โรคนี้คืออะไร?
“โรคหลอดเลือดสมอง” คือภาวะที่สมองของเราขาดเลือดไปเลี้ยง ไม่ว่าจะจาก “หลอดเลือดอุดตัน” หรือ “หลอดเลือดแตก”
เมื่อสมองขาดออกซิเจนเพียงไม่กี่นาที เซลล์สมองก็จะเริ่มตาย
และเนื้อสมองที่ตายไปแล้ว...ไม่มีวันฟื้นกลับมาได้
ประเภทของโรคหลอดเลือดสมอง
หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (Ischemic Stroke)
พบมากที่สุด เกิดจากลิ่มเลือดไปอุดหลอดเลือดในสมอง
มักเกิดจากไขมันเกาะในหลอดเลือด หรือจากหัวใจเต้นผิดจังหวะ
หลอดเลือดสมองแตก (Hemorrhagic Stroke)
เกิดจากหลอดเลือดในสมองแตก ทำให้เลือดไหลเข้าไปในเนื้อสมอง
ความดันโลหิตสูงคือสาเหตุหลัก
ภาวะเตือนก่อนเป็นจริง (TIA – Transient Ischemic Attack)
เป็นอาการที่เกิดขึ้นชั่วคราว แล้วหายเองในไม่กี่นาที
แต่จริง ๆ แล้ว มันคือ “เสียงเตือนครั้งใหญ่” ก่อนสมองจะเกิดภาวะสโตรกจริง
อยากให้ทุกคนจำหลักง่าย ๆ คือคำว่า
B.E.F.A.S.T.
ตัวอักษรหมายถึงสัญญาณที่ต้องสังเกต
B – Balance
การทรงตัว
เดินเซ ทรงตัวไม่ได้ เวียนหัวเฉียบพลัน
E – Eyes
การมองเห็น
มองไม่ชัด เห็นภาพซ้อน หรือมองไม่เห็นข้างหนึ่ง
F – Face
ใบหน้า
หน้าเบี้ยว ยิ้มไม่เท่ากัน
A – Arms
แขนขา
ยกแขนไม่ขึ้น หรืออ่อนแรงครึ่งซีก
S – Speech
การพูด
พูดไม่ชัด พูดติดขัด หรือฟังไม่เข้าใจ
T – Time
เวลา
ทุกวินาทีมีค่า ต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที!
ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระวัง
โรคนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉย ๆ แต่เกิดจากพฤติกรรมสะสมหลายปี
เรามาดูสิ่งที่ควรระวังและปรับได้ตั้งแต่วันนี้
ความดันโลหิตสูง – ปัจจัยหลักที่สุด
ควรวัดความดันทุกวัน หรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง
หากเกิน 140/90 ควรพบแพทย์
เบาหวาน และไขมันในเลือดสูง
ระดับน้ำตาลและไขมันสูง จะทำให้ผนังหลอดเลือดเปราะและอุดตันง่าย
สูบบุหรี่และดื่มสุรา
นิโคตินทำให้หลอดเลือดตีบ แอลกอฮอล์ทำให้ความดันแกว่ง
น้ำหนักเกินและไม่ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายวันละ 30 นาทีช่วยลดความเสี่ยงลงได้มาก
ความเครียดและการนอนน้อย
เครียดเรื้อรังทำให้ร่างกายหลังฮอร์โมนที่ทำลายหลอดเลือด
สัญญาณเตือนของ โรคหลอดเลือดสมอง
โรคนี้คืออะไร?
“โรคหลอดเลือดสมอง” คือภาวะที่สมองของเราขาดเลือดไปเลี้ยง ไม่ว่าจะจาก “หลอดเลือดอุดตัน” หรือ “หลอดเลือดแตก”
เมื่อสมองขาดออกซิเจนเพียงไม่กี่นาที เซลล์สมองก็จะเริ่มตาย
และเนื้อสมองที่ตายไปแล้ว...ไม่มีวันฟื้นกลับมาได้
ประเภทของโรคหลอดเลือดสมอง
หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (Ischemic Stroke)
พบมากที่สุด เกิดจากลิ่มเลือดไปอุดหลอดเลือดในสมอง
มักเกิดจากไขมันเกาะในหลอดเลือด หรือจากหัวใจเต้นผิดจังหวะ
หลอดเลือดสมองแตก (Hemorrhagic Stroke)
เกิดจากหลอดเลือดในสมองแตก ทำให้เลือดไหลเข้าไปในเนื้อสมอง
ความดันโลหิตสูงคือสาเหตุหลัก
ภาวะเตือนก่อนเป็นจริง (TIA – Transient Ischemic Attack)
เป็นอาการที่เกิดขึ้นชั่วคราว แล้วหายเองในไม่กี่นาที
แต่จริง ๆ แล้ว มันคือ “เสียงเตือนครั้งใหญ่” ก่อนสมองจะเกิดภาวะสโตรกจริง
อยากให้ทุกคนจำหลักง่าย ๆ คือคำว่า B.E.F.A.S.T.
ตัวอักษรหมายถึงสัญญาณที่ต้องสังเกต
B – Balance
การทรงตัว
เดินเซ ทรงตัวไม่ได้ เวียนหัวเฉียบพลัน
E – Eyes
การมองเห็น
มองไม่ชัด เห็นภาพซ้อน หรือมองไม่เห็นข้างหนึ่ง
F – Face
ใบหน้า
หน้าเบี้ยว ยิ้มไม่เท่ากัน
A – Arms
แขนขา
ยกแขนไม่ขึ้น หรืออ่อนแรงครึ่งซีก
S – Speech
การพูด
พูดไม่ชัด พูดติดขัด หรือฟังไม่เข้าใจ
T – Time
เวลา
ทุกวินาทีมีค่า ต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที!
ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระวัง
โรคนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉย ๆ แต่เกิดจากพฤติกรรมสะสมหลายปี
เรามาดูสิ่งที่ควรระวังและปรับได้ตั้งแต่วันนี้
ความดันโลหิตสูง – ปัจจัยหลักที่สุด
ควรวัดความดันทุกวัน หรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง
หากเกิน 140/90 ควรพบแพทย์
เบาหวาน และไขมันในเลือดสูง
ระดับน้ำตาลและไขมันสูง จะทำให้ผนังหลอดเลือดเปราะและอุดตันง่าย
สูบบุหรี่และดื่มสุรา
นิโคตินทำให้หลอดเลือดตีบ แอลกอฮอล์ทำให้ความดันแกว่ง
น้ำหนักเกินและไม่ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายวันละ 30 นาทีช่วยลดความเสี่ยงลงได้มาก
ความเครียดและการนอนน้อย
เครียดเรื้อรังทำให้ร่างกายหลังฮอร์โมนที่ทำลายหลอดเลือด