(ผมจะสนทนาตามสัญญาที่จำได้หมายรู้)
ขันธ์ 5 กับ ปฏิจจสมุทปบาท เสมือนเนื้อเดียวกันต่างเป็นปัจจัยสัมพันธ์กัน แต่ไม่ใช่อย่างเดียวกัน และการบัญญัติ บุคคล
ขันธ์ 5 ได้แก่ 1.รูป 2.เวทนา 3.สัญญา 4.สังขาร 5.วิญญาณ
ปฏิจจสมุทปบาท ได้แก่(ย่อ) อวิชชา > สังขาร > วิญญาณ > นามรูป > อายตนะ > ผัสสะ > เวทนา > ตัณหา > อุปทาน > ภพ > ชาติ > โสกปริเทวะ มรณะ
หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่ง อุปาทานขันธ์ ก็คือ ปฏิจจสมุทปบาทฝ่ายเกิด
บุคคล นั้นบัญญัติจาก มหาภูตรูป+วิญญาณธาตุ ที่ประชุมรวมกัน ก็คือ ขันธ์ 5 และ อุปาทานขันธ์ หรือ มีเพียงขันธ์ 5 ไม่มีอุปาทานขันธ์(อย่างพระอรหันต์) ซึงแตกแขนงเรียกย่อยไปอีกต่างๆ เช่นที่เรียกว่า เรา เขา ฉัน คุณ เธอ ปุถุชน พระอริยะ พระอรหันต์ หรือ สัตว์นั้น สัตว์นี้ ฯลฯ
ดังนั้น ขันธ์ 5 และ ปฏิจจสมุทปบาท(อุปาทานขันธ์) นั้นเป็นธรรมตามความเป็นจริงเสมือนเนื้อเดียวกันต่างเป็นปัจจัยสัมพันธ์กัน แต่ไม่ใช่อย่างเดียวกัน
ส่วน บุคคล นั้นเป็นสมมุติบัญญัต ที่ใช้เรียกแทนเท่านั้น
และธรรมชาติมี 2 ตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้คือ 1.สังขตะ(ธรรม) 2.อสังขตะ(ธรรม)
ธรรมชาติฝ่าย สังขตธรรมได้แก่ รูป จิต เจตสิค
ธรรมชายฝ่าย อสังขตธรรมได้แก่ นิพพาน
ดังที่ผมได้แสดงความ คคห. ในกระทู้
https://pantip.com/topic/42871976 ดังนี้.
-----
ความคิดเห็นที่ 25
เมื่อมีปัญญาก็เห็นเพียง ขันธ์ กับ อุปทานขันธ์ ที่เสมือนเป็นเนื้อเดียวกัน สัมพันธ์กันไปเป็นปัจจัยกันในธรรมชาติฝ่ายสังขตะ ซึ่งต่างก็มีคุณสมบัติ อนัตตา ไม่ได้เป็น อัตตา ใดๆ ในที่สุด ดังพยับแดด ฟองน้ำ ฟุดขึ้นแล้วดับไป เพียงแต่ อุปทานไปเท่านั้นด้วยยังขาดปัญญาญาณ จึงเห็นว่ามี อัตตา แบบชาวโลก
ความคิดเห็นที่ 25-2
เรา ก็เป็นเพียงสมมุติบัญญัติเรียก มหาภูตรูป + วิญญาณธาตุ ที่ดำรงอยู่เพียงเท่านั้น
ความคิดเห็นที่ 25-9
" เรา "...เป็นเพียงสมมุติของ..มหาภูตทั้ง4..ที่มาประชุมกัน+วิญญาณธาตุ
ดังนั้น...บุญปาบ-ชาตินี้ชาติหน้า ย่อมเป็นไปตามเหตุปัจจัยของธรรมชาติฝ่าย สังขตะ
ขันธ์ 5 กับ ปฏิจจสมุทปบาท เสมือนเนื้อเดียวกันต่างเป็นปัจจัยสัมพันธ์กัน แต่ไม่ใช่อย่างเดียวกัน และการบัญญัติ บุคคล
ขันธ์ 5 กับ ปฏิจจสมุทปบาท เสมือนเนื้อเดียวกันต่างเป็นปัจจัยสัมพันธ์กัน แต่ไม่ใช่อย่างเดียวกัน และการบัญญัติ บุคคล
ขันธ์ 5 ได้แก่ 1.รูป 2.เวทนา 3.สัญญา 4.สังขาร 5.วิญญาณ
ปฏิจจสมุทปบาท ได้แก่(ย่อ) อวิชชา > สังขาร > วิญญาณ > นามรูป > อายตนะ > ผัสสะ > เวทนา > ตัณหา > อุปทาน > ภพ > ชาติ > โสกปริเทวะ มรณะ
หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่ง อุปาทานขันธ์ ก็คือ ปฏิจจสมุทปบาทฝ่ายเกิด
บุคคล นั้นบัญญัติจาก มหาภูตรูป+วิญญาณธาตุ ที่ประชุมรวมกัน ก็คือ ขันธ์ 5 และ อุปาทานขันธ์ หรือ มีเพียงขันธ์ 5 ไม่มีอุปาทานขันธ์(อย่างพระอรหันต์) ซึงแตกแขนงเรียกย่อยไปอีกต่างๆ เช่นที่เรียกว่า เรา เขา ฉัน คุณ เธอ ปุถุชน พระอริยะ พระอรหันต์ หรือ สัตว์นั้น สัตว์นี้ ฯลฯ
ดังนั้น ขันธ์ 5 และ ปฏิจจสมุทปบาท(อุปาทานขันธ์) นั้นเป็นธรรมตามความเป็นจริงเสมือนเนื้อเดียวกันต่างเป็นปัจจัยสัมพันธ์กัน แต่ไม่ใช่อย่างเดียวกัน
ส่วน บุคคล นั้นเป็นสมมุติบัญญัต ที่ใช้เรียกแทนเท่านั้น
และธรรมชาติมี 2 ตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้คือ 1.สังขตะ(ธรรม) 2.อสังขตะ(ธรรม)
ธรรมชาติฝ่าย สังขตธรรมได้แก่ รูป จิต เจตสิค
ธรรมชายฝ่าย อสังขตธรรมได้แก่ นิพพาน
ดังที่ผมได้แสดงความ คคห. ในกระทู้ https://pantip.com/topic/42871976 ดังนี้.
-----
ความคิดเห็นที่ 25
เมื่อมีปัญญาก็เห็นเพียง ขันธ์ กับ อุปทานขันธ์ ที่เสมือนเป็นเนื้อเดียวกัน สัมพันธ์กันไปเป็นปัจจัยกันในธรรมชาติฝ่ายสังขตะ ซึ่งต่างก็มีคุณสมบัติ อนัตตา ไม่ได้เป็น อัตตา ใดๆ ในที่สุด ดังพยับแดด ฟองน้ำ ฟุดขึ้นแล้วดับไป เพียงแต่ อุปทานไปเท่านั้นด้วยยังขาดปัญญาญาณ จึงเห็นว่ามี อัตตา แบบชาวโลก
ความคิดเห็นที่ 25-2
เรา ก็เป็นเพียงสมมุติบัญญัติเรียก มหาภูตรูป + วิญญาณธาตุ ที่ดำรงอยู่เพียงเท่านั้น
ความคิดเห็นที่ 25-9
" เรา "...เป็นเพียงสมมุติของ..มหาภูตทั้ง4..ที่มาประชุมกัน+วิญญาณธาตุ
ดังนั้น...บุญปาบ-ชาตินี้ชาติหน้า ย่อมเป็นไปตามเหตุปัจจัยของธรรมชาติฝ่าย สังขตะ