JJNY : 5in1 ปดิพัทธ์สั่งสอบ IP address│ชัยธวัชสวนกกต.│วิโรจน์แซะบิ๊กทิน│เชื่อมั่นผู้บริโภคพ.ค.ลดลงต่ำสุด│จี 7 จะตกลงกัน

ปดิพัทธ์ สั่งสอบ IP address หลังคนวิจารณ์ใช้ io โหวตหนุน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับประชาชน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4625188
 
 
ปดิพัทธ์ สั่งสอบ IP address หลังคนวิจารณ์ใช้ io โหวตหนุน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับประชาชน
 
จากกรณี เว็บไซต์รัฐสภา www.parliament.go.th เปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนต่อร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมประชาชน พ.ศ. …. ที่เสนอโดย น.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษชนกับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 36,723 คน ตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเปิดรับฟังตั้งแต่ 13 พฤษภาคม ถึงวันที่ 12 มิถุนายน ปรากฎว่ามีผู้ไม่เห็นด้วยถึง 64.66 เปอร์เซนต์ ขณะที่เห็นด้วยมีเพียง35.34 เปอร์เซนต์
 
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่ 1 ทวีตข้อความผ่าน X โดยระบุว่า
 
ผมได้สั่งการให้มีการตรวจสอบ IP address และความผิดปกติต่างๆที่เกิดขึ้นกับเว็บไซด์รับฟังความคิดเห็นต่อร่างกฏหมายแล้วนะครับ จะแจ้งให้ทุกท่านทราบข้อเท็จจริงโดยเร็วครับ #พรบนิรโทษกรรม

ซึ่งก่อนหน้านี้มีการตั้งข้อสังเกต ว่ามีการแทรกแซงมีความผิดปกติหลายจุด รวมถึงมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่ากลุ่มคนที่มาโหวตบางเป็นio เข้ามาโหวตเห็นด้วยในวันสุดท้ายของการโหวต ทำให้นายปดิพัทธ์สั่งตรวจสอบในกรณีดังกล่าว

https://x.com/ongpadipat/status/1801051080593146158



ชัยธวัช สวนกกต. ยุบพรรคไม่ใช่ของเล่น อย่าตีความกม. แบบศรีธนญชัย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4625856

”ชัยธวัช“ เตือน กกต. อย่าตีความกฎหมายแบบศรีธนญชัย บอก “ยุบพรรคการเมือง” ไม่ใช่เล่นขายของ ถามกลับคำสั่งศาลผูกพันใคร ย้ำสั่งให้ “พิธา-ก้าวไกล“ เลิกการกระทำแค่นั้น อุบตอบจะดำเนินคดีกลับ ขอรอให้จบกระบวนการพิจารณาก่อน

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2567 ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ นายปกรณ์ มหรรณพ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงข่าวชี้แจงการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้มีการสั่งยุบพรรคก้าวไกล ว่า ตนเข้าใจว่า กกต.กำลังจะบอกว่า การยุบพรรคการเมืองนั้นมี 2 ช่องทาง คือ 

1. พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 ซึ่งก็เป็นเรื่องของ กกต.ที่หากมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ก็สามารถยื่นได้เลย โดยที่ไม่ต้องมีกระบวนการสอบสวน สามารถใช้ดุลพินิจได้ตามอำเภอใจที่จะยื่นคำร้อง

2. มาตรา 93 ซึ่งเป็นเรื่องของนายทะเบียน ไม่ได้เกี่ยวกับ กกต. หากมีความปรากฏว่า พรรคการเมืองกระทำผิดถึงขั้นยุบพรรค ก็ให้ไปสอบสวนรวบรวมข้อเท็จจริงตามระเบียบที่ออกไว้

นี่คือสิ่งที่ กกต.กำลังสื่อสาร ผมมองว่าเป็นปัญหา เพราะกระบวนการที่จะยื่นยุบพรรคการเมืองเป็นเรื่องใหญ่ ต้องมีกระบวนการรวบรวมข้อเท็จจริงสืบสวนสอบสวนเป็นเบื้องต้นอยู่แล้ว การอ่านกฎหมาย อย่าไปตีความแบบศรีธนญชัย กฎหมายเขียนลำดับไว้อย่างชัดเจน” นายชัยธวัชกล่าว

นายชัยธวัชยืนยันว่า กกต.เองเป็นคนบอกพรรคการเมืองมาโดยตลอด อย่างที่ตนได้อ้างเอกสารของ กกต.ในการอบรมพรรคการเมือง เขาไม่ได้บอกว่า การยุบพรรคตามมาตรา 92 ต้องดำเนินการตามมาตรา 93 ซึ่งตามระเบียบมีช่องทางเดียวเท่านั้น กกต.ไม่เคยอธิบายตรงไหนเลยมาก่อนว่า นอกจากช่องทางนี้แล้ว วันดีคืนดี กกต.เห็นว่าตัวเองมีหลักฐานก็สามารถยื่นคำร้องได้เลย โดยไม่มีกระบวนการสืบสวนสอบสวน เป็นไปได้หรือไม่

เจ้าหน้าที่ตำรวจเจอคนขโมยของทำผิดซึ่งหน้า ยังต้องจับกุมไปดำเนินคดี เข้าสู่กระบวนการสอบสวนส่งอัยการ นี่ยุบพรรคการเมือง ไม่ใช่เล่นขายของ กกต.ยืนยันว่าทำได้ เพราะในคดียุบพรรคไทยรักษาชาติได้ทำแบบนี้มาแล้ว ซึ่งคือไม่ได้ผ่านกระบวนการรวบรวมข้อเท็จจริงตามมาตรา 93 และไม่ได้วินิจฉัยว่ากระบวนการคำร้องของ กกต.ชอบหรือไม่

ขณะนั้น กกต.ยังไม่เคยมีการออกระเบียบสำหรับการยุบพรรคการเมืองโดยเฉพาะมาก่อน เลยอาจจะพอถูไถกันไปได้ เพราะคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยเรื่องกระบวนการคำร้องชอบหรือไม่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ซึ่งคือคดียุบพรรคอนาคตใหม่ โดยในคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญได้วางหลักการยุบพรรคตามมาตรา 92 ต้องทำประกอบกับมาตรา 93 และระเบียบของ กกต. เพียงแต่ ณ ขณะนั้นระเบียบเก่าไม่ได้บังคับให้ กกต.รวบรวมข้อเท็จจริง และแจ้งให้กับพรรคผู้ถูกร้องทราบก่อน เพื่อให้มีการต่อสู้ชั้นต้นของ กกต.ก่อน แต่ศาลรัฐธรรมนูญระบุว่า ระเบียบที่ใช้ให้ไปใช้อีกระเบียบหนึ่งในการไต่สวนสอบสวนคดีอาญา โดยอนุโลม กกต.ให้ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามระเบียบทุกข้อ มองว่า กกต.ชี้แจงแบบนี้ก็ไม่เป็นไร คงเป็นประเด็นที่ต้องไปต่อสู้กันในศาลรัฐธรรมนูญ

ส่วนกรณีที่ กกต.ยึดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญฉบับลงวันที่ 31 ม.ค.2567 ได้ระบุชัดเจนว่าการกระทำของผู้ถูกร้องเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำให้ กกต.ไม่อาจจะทำอย่างอื่นได้นั้น นายชัยธวัชกล่าวว่า คนละเรื่อง นั่นคือเรื่องของพยานหลักฐาน การมีพยานหลักฐานที่ กกต.เชื่อแล้วว่าเพียงพอ ไม่ได้หมายความว่า กกต.ไม่จำเป็นต้องทำกระบวนการรวบรวมหลักฐานตามที่กฎหมายกำหนด อย่าสับสนระหว่าง กกต.เห็นว่าพยานหลักฐานมีน้ำหนักหรือไม่

ที่ กกต.อ้างว่าคำวินิจฉัยที่แล้วผูกพัน ผมอยากถามว่า อะไรผูกพัน คำวินิจฉัยตามมาตรา 49 ในคำวินิจฉัย 3/2567 ผูกพันใคร นี่คือการวินิจฉัยสั่งการให้การกระทำ คือสั่งให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล เลิกการกระทำสองการกระทำ คือเลิกแสดงความคิดเห็นและรณรงค์ให้ยกเลิก 112 และห้ามไม่ให้มีการแก้ไข 112 ด้วยกระบวนการนิติบัญญัติโดยมิชอบ นี่คือผลของคำวินิจฉัยที่ผูกพัน ซึ่งผูกพันกับคนที่ถูกร้อง

เมื่อถามว่า หากพิสูจน์ทราบว่า กกต.ยื่นคำร้องโดยมิชอบด้วยกฎหมายจริง จะมีการดำเนินคดีกับ กกต.อย่างไร นายชัยธวัชกล่าวว่า อย่าเพิ่งพูดไป รอให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมาก่อน
 


วิโรจน์ แซะ บิ๊กทิน สั่งแล้วไม่มีใครทำ ชี้ต้องวางระเบียบหักเงินพลทหาร ให้ชัดเจน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4625577

วิโรจน์ แซะ บิ๊กทิน สั่งแล้วไม่มีใครทำ ชี้ต้องวางระเบียบหักเงินพลทหาร ให้ชัดเจน
 
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 มิถุนายน ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี เอกสารหลุดกองทัพบกที่มีการเรียกเก็บค่าสูบส้วมเดือนละ 500 บาทจากพลทหาร ว่า ขอชื่นชมก่อนว่า การจัดการกับปัญหานี้ทำได้อย่างรวดเร็วมากแต่ถ้าเราไปลงโทษเป็นคน เป็นค่าย ตนเชื่อว่าจะเกิดกรณีแบบนี้อีกนับครั้งไม่ถ้วน เพราะระเบียบในการหักค่าใช้จ่ายจากเงินเดือนของพลทหาร แต่ละค่ายไม่มีความชัดเจน
 
ขนาดนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังงงว่า สั่งการไปแล้ว แต่ทำไมไปหักค่าสูบส้วม ตนก็ต้องย้อนว่าจำในสภาได้หรือไม่ ที่เคยมีการระบุ คำว่าขอร้องคือคำว่าสั่งการ
 
เรื่องนี้สั่งการเขายังไม่ทำเลย ต้องยิ่งกว่าสั่งการแล้ว ต้องกำชับแล้วหรือไม่ ต้องทำระเบียบให้ชัดเจนหรือเปล่า ถ้าระเบียบในการหักค่าใช้จ่ายไม่ชัดเจน แต่ละค่ายจะมีมาตรฐานที่แตกต่างกัน” นายวิโรจน์กล่าว
 
นายวิโรจน์กล่าวต่อว่า ยุคนี้เป็นยุคโซเชียลมีเดีย พลทหารต่างค่ายเขาสื่อสารกัน ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมหักไม่เท่ากัน สุดท้ายพลทหารหรือคนไม่เท่ากัน จะโทษพลทหารก็ไม่ได้ จะโทษผู้บัญชาการ (ผบ.) ค่ายก็ไม่เต็มที่ ตนคิดว่าทางที่ดีที่สุดคือทำระเบียบในการหักค่าใช้จ่ายให้ชัดเจน โปร่งใสและเปิดเผย เงินจะต้องเหลือเท่ากันทั้งประเทศไม่ว่าจะอยู่ค่ายใดก็ตาม
 
เมื่อถามว่าโทษของ ผบ.ค่าย ถือว่าเหมาะสมหรือไม่ที่ย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ส่วนกลาง นายวิโรจน์กล่าวว่า ถ้าลงโทษเป็นคน เป็นค่ายเดี๋ยวไปดูสิ จะมีการเปรียบเทียบ ระหว่างพลทหารแต่ละค่าย และจะไปไล่ลงโทษเป็นค่ายแบบนี้หรือ เรื่องนี้อย่าโทษที่คน ต้องโทษที่ระบบ ตนเชื่อว่าการหักค่าสูบส้วมไม่ได้เกิดขึ้นในรุ่นนี้ น่าจะหักกันมาหลายรุ่นแล้ว ตนคิดว่าควรทำระบบเรียบทันที นายสุทินจะได้ไม่ต้องงงแล้ว
 
คุณสุทินบอกว่าสั่งการไปแล้ว แล้วเดี๋ยวมีค่าอะไรอีก ค่าไวนิล ค่านั่นค่านี่ คุณต้องสั่งทุกค่าเลยเหรอ ในฐานะรัฐมนตรีคุณจะไปสั่งจุกจิกอย่างนั้นเลยเหรอ ทำไมไม่ทบทวนและแก้ไขระเบียบชัดเจน” นายวิโรจน์กล่าว
 
นายวิโรจน์กล่าวว่า ยังมีเรื่องเงินเดือนที่พลทหารได้รับ ตนเข้าใจว่าตอนนี้ ไม่ได้จ่ายเป็นเงินสดแล้ว แต่จะเข้าบัตรเอทีเอ็มธนาคารกรุงไทยแล้ว ตนมีคำถามว่าหักด้วยวิธีไหน ยังมีพฤติกรรมเก็บบัตรเอทีเอ็มหรือไม่ หรือตั้งรหัสบัตรเอทีเอ็มเหมือนกันทั้งค่าย เรื่องนี้มีร้องเรียนเข้ามาในกรรมาธิการหลากหลายค่าย ทั้งนี้ ตนเคยเสนอเรื่องการแก้ปัญหาเงินเดือนและสวัสดิการของทหารไปแล้ว โดยการส่งเบาะแสให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
 
เมื่อถามว่า กรณีล่าสุดมีการหักค่า Wi-Fi อินเตอร์เน็ตจำนวน 1,200 บาท จนเป็นที่ตั้งคำถามว่าควรให้เป็นสวัสดิการหรือไม่ นายวิโรจน์กล่าวว่า ค่าจุกจิกพวกนี้ตนยืนยันว่าแต่ละค่ายหักไม่เหมือนกัน ตนเชื่อว่าสุดท้ายโดนทุกค่าย เพราะจะถูกตั้งคำถามว่าเอาระเบียบที่ไหนมาหัก ไม่ใช่ว่าตนปกป้อง ผบ.ค่าย แต่ในเมื่อระเบียบไม่ชัด แต่ละค่ายก็ประพฤติตามกันมาจากรุ่นก่อน ก่อนจะชี้นิ้วและพูดว่า
 
ถ้าลำพังคุณสุทินยังคิดได้แค่นี้ ว่าเดี๋ยวฉันจะสั่งการเรื่องค่าสูบส้วม งงว่าทำไมไม่ทำตาม เดี๋ยวจะมีค่าเอกสารอีก เดี๋ยวจะมีค่า Wi-Fi อีก แล้วก็จะงงอีก แล้วสั่งการไปแล้วไม่ให้หักค่า Wi-Fi ทำไมยังหักอีก เฮ้ย งง ผมว่ารัฐมนตรีไม่ใช่มาสั่งอะไรแบบนี้หรอก ถ้าไม่อย่างนั้นเรื่องสูบส้วม คงต้องคิดค่ากระดาษชำระด้วย” นายวิโรจน์กล่าว
 
เมื่อถามว่า 1,200 บาทสำหรับค่า Wi-Fi แพงไปหรือไม่ นายวิโรจน์หัวเราะ และกล่าวว่า แพงไปจริงๆ ซื้ออินเตอร์เน็ตเองน่าจะถูกกว่า ตอนที่ตนพูดถึงเรื่องการจัดซื้ออาวุธ ควรจะสั่งการดันไปขอร้อง เรื่องที่ขอร้องดันไปสั่งการ สมควรแล้วที่พวงมาลัยใคร ใครก็ไม่รับ
 
โอ้ สมควรแล้วที่อาจารย์ผู้ใหญ่ เขาบอกว่าคงไม่ได้คาดหวังอะไร จาก รมว.กลาโหม ที่มาจากพลเรือน ผมว่าก็คงคาดหวังได้ยากเหมือนกัน” นายวิโรจน์กล่าว



ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค พ.ค.ลดลงต่ำสุดใน รอบ 7 เดือน คนกังวลการเมืองไม่นิ่ง
https://www.matichon.co.th/economy/news_4625426

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค พ.ค.ลดลงต่ำสุดใน รอบ 7 เดือน คนกังวลการเมืองไม่นิ่ง
 
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนพฤษภาคม 2567 อยู่ที่ 60.5 ปรับตัวลดลงจากระดับ 62.1 ในเดือนก่อนหน้า โดยเป็นการปรับตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 เป็นต้นมา และ อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566
 
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ทั้งนี้ เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มกลับมากังวลว่าการเมืองไทยเริ่มขาดเสถียรภาพ หลังจากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ 40 สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เกี่ยวกับคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี และกังวลเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงและฟื้นตัวช้า ประกอบกับราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะน้ำมันเบนซิน รวมทั้งผู้บริโภคยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว สงครามในตะวันออกกลางที่อาจยืดเยื้อบานปลาย อาจเป็นปัจจัยที่เพิ่มแรงกดดันของการฟื้นตัวล่าช้าของเศรษฐกิจไทย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่