บอสพาชิม : Ark ขั้นกว่าของZero waste (Copenhagen, Denmark)
Ark เป็นร้านอาหารมังสวิรัติแรกในกลุ่มประเทศ Nordic ที่ได้รับรางวัลกรีนสตาร์ หลายท่านมักจะรู้ว่าผมไม่ค่อยจับตาร้านอาหารที่ไม่ค่อยได้Michelin star สักเท่าไหร่นัก เพราะส่วนใหญ่มักจะมีสาเหตุบางประการที่ทำให้ไม่ได้ดาว
Ark น่าจะเป็นข้อยกเว้น ร้านนี้ขาดเพียงแค่ดาวมิชลินมาประดับสักดวงจริงๆ ร้านนี้ติดทั้ง La liste innovation award 2022 รวมทั้ง Nordic white guide และยังได้รับGreen Star อีกด้วย
Green star หรือ ดาวมิชลินรักษ์โลก มอบให้กับ ร้านอาหารแถวหน้าของวงการที่โดดเด่นเรื่องแนวทางปฏิบัติเพื่อความยั่งยืน พวกเขาแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างมีมาตรฐาน
Ark เลือกที่จะนำเสนอ sustainable ถึงขีดสุด ไม่เพียงแค่ยังยืนในร้านแต่รวมถึงต้นน้ำอย่างการปลูกหรือผู้ผลิตที่ร้านส่วนใหญ่มักจะใส่ใจอยู่แล้ว แต่สำหรับarkนั้นมีฟาร์มเห็ดส่วนตัวอย่าง ที่น่าสนใจคือกลางทางอย่างการขนส่งที่ผู้ผลิตวัตถุดิบเกือบทั้งหมดจะใช้ระยะเวลาขนส่งไม่เกินสองชั่วโมงและส่วนใหญ่เพียงสิบห้านาทีเท่านั้น ไปสู่ปลายทางอย่างการกำจัดหรือ zerowatste ทางร้านเอาเปลือกกล้วย กากชาและกาแฟมาทำcocktail เอาไวน์เหลือมาทำซอส เอาผักที่ตัดเเต่งมาทำผงหรือใช้ตบแต่ง หรือวัตถุดิบที่ไม่ใช่แค่ferment หรือดอง แต่ส่วนที่เหลือเศษๆ ยังเอาไปทำvinigrette หรือ Balsamic ต่อไม่ให้เหลือจริงๆ
ปัจจัยอื่นๆอย่างการตบแต่งร้านที่ใช้โคมไฟจากสาหร่าย หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ได้รับการรองรับfsc หรือการตัดไม้แบบยั่งยืน เท่านั้น หรือจะสบู่ในห้องน้ำยังเป็นสบู่แบบยั่งยื่น เมนูที่เป็น qr code ที่เป็นกระดาษทำเองใส่เมล็ดต้นไม้ไว้ที่พอกลับบ้านเราสามารถเอาไปปลูกต่อได้ ถึงขนาดนี้แล้วทางร้านยังยอมรับว่าหนทางยังอีกยาวไกล We are not perfect, but we are trying
Ark นั้นมีเมนูสองแบบคือ Short ที่ 899DKK และแบบปกติที่ 1199 DKK รวมทั้งแพร์ริ่งที่มีสามแบบให้เลือกอย่างWine, Mixed or Non Alcoholic Pairing
บรรยากาศของร้านและการเซอร์วิสนั้นอาจจะไม่ค่อยเนี้ยบหากเทียบกับร้านไฟน์ไดน์ปกติแต่อาหารที่นี้เป็นประสบการณ์ที่สนุกจริงๆการนำเสนอไม่ใช่แค่ไฟน์ไดน์จากอาหารวีแกน แต่ยังรวมทั้งการนำสองสิ่งที่ดูแตกต่างกันอย่างไฟน์ไดน์ และ zero waste มาผสมรวมกัน ในแต่ละจานเราจะได้สนุกสนานไปกับความพยายามและเรื่องราวต่างๆของวัตถุดิบที่ต้องลงแรงไปเยอะ แต่อย่างไรก็ตามด้วยข้อจำกัดต่างๆ ทำให้อาหารของที่นี้อาจจะยังไม่เพอร์เฟ็กต์นักในเเง่ของความสมดุลและในแง่ของเทคนิค แต่ต้องยอมรับว่าอาหารที่นี้นั้นเปิดโลกของผมเกี่ยวกับรสชาติของผักอย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็น Mocktailต่างๆที่ไม่น่าเชื่อจริงๆครับว่ามันอร่อยมาก หรือเห็ดที่เท็กเจอร์เหมือนไก่ที่สุดที่ผมเคยเจอ
มื้ออาหารที่Ark เป็นประสบการณ์ที่สนุกสนาน และควรมาลองสักครั้งสำหรับ Foodie ที่พร้อมจะเปิดโลกใหม่ๆ
Nasturtium / Gooseberry / Turnip
ใบNasturtium เสริฟ์มาพร้อมกับplum puree เมล็ดทานตะวัน หัวเทอรนิปฝานที่brineในสาเก จานนี้เราจะได้ความกรอบจากยอดผักและหัวเทอร์นิปที่หวานกว่าปกติจากสาเก ตัวซอสจากบ๊วยนนั้นรสค่อนข้างเค็มนำเปรี้ยวอมหวานน้อยกลิ่นคล้ายมิโซะ ตัดกับกลิ่นและความกรุบๆของงาคั่ว และกลิ่นเขียวเผ็ดเบาๆจากใบNasturtium
Kohlrabi / Pear / Miso
จานนี้เชฟเสริฟ์หัวโคราบีสี่แบบ ซูวี ดอง ผง มิโซะ จานนี้ผมแนะนำให้ลองแบบหลายๆส่วนกินนิดนึง แล้วลองกินทั้งหมดให้เข้ากันเพื่อให้ได้รสชาติที่สมดุลครับ มันมีทั้งเค็มนำจากรสมิโซะ กรุบกรอบจากโคราบีปกติ มีกลิ่นหอมเย็นอ่อนๆกรอบนุ่มจากการดอง ที่ให้รสเขียวเปรี้ยวอมเค็ม เป็นคำที่มีเท็กเจอร์กรอบหลายแบบแบบจากการปรุงโคราบีที่แตกต่างกันเเละความนุ่มที่สลับซับซ้อนครับ
Champignon / Lingonberry / Sherry
เเเค็รกเกอร์ ครีมเห็ดเเชมปิยอง แยมเชอร์รี่และผลลิงก้อนเบอร์รี่เชื่อม แว๊บนึงนึกว่าโฟร์กรา มันเป็นTerrineที่เข้มข้นมากแม้ทำจากครีมเห็ด กลิ่นเอริธิตี้เฉพาะตัวของเห็ดไม่ได้เด่นชัดขนาดนั้น ความมันของมันตัดเปรี้ยวอมหวานลิงก้อนเบอรรี่จากสวีเดน จานนี้เหมือนกับเหมือนโฟรกราที่ไลท์กว่าและไม่เลี่ยนหนัก ดีมากๆครับ
Beetroot / Plum / Macadamia
จานนี้เชฟเสริฟ์บีทรูทที่ปรุงสุกมาสี่เเบบกับพลัมสองแบบ กินกับซอสนมแมคคาเดเมียเเละNasturtium oil เอาตามตรงผมเคยกินคล้ายกันทั้งจากที่Cote(สูตร mirazur)และ Gerranium ต้องยอมรับว่าผมชอบของทั้งสองร้านข้างต้นกว่าครับ แต่เมื่อนึกถึงข้อจำกัดของความเป็นมัสสาวิรัติ แล้วที่นี้ก็ทำออกมาได้ดีครับ ตัวบีทรูทกรอบกรุบๆ มีรสหวานอมเปรี้ยวของผลัมชัทนีย์ด้านล่างและความครีมมี่ของนมแมคคาเดเมียครับ
Blue Oyster Mushroom
เห็ดนางรมย่างซอสบนเตาKonroจากญี่ปุ่น โดยเห็ดในวันนี้ปลูกบนไมโอ๊คเดนมาร์ก รับประทานกับครีมอิมูชั่นอุมามิจากมะเขือ มิริน สาเก เห็ด ผงขาเห็ด ต้องยอมรับว่าที่นี้ทำอาหารจากเห้ดได้อย่างดีจริงๆ เท็กเจอรเห็ดนั้นมีความแตกต่างมีกรอบครัชที่ผิวบางๆหอมกลิ่นซอสย่าง เนื้อเห็ดกรอบเน่น ส่วนตัวว่ารสของซอสนั้นเข้มข้นเกินไปเข้าใจว่าอยากชูความเข้มข้นของซอสที่ทำเองจากผักต่างๆ เเม้จะมีรสเปรี้ยวจากมะเขือเทศเข้ามาช่วยแล้วส่วนตัวผมว่ารสมันก็ยังหนักไปอยู่ดีสำหรับผม
Chawanmushi / Sweetcorn / Coffee
เชฟเสริฟ์ข้าวโพดหวานดิบ ครีมไข่ตุ๋นที่ทำจากถั่วเลนทิลกับคอมบุดาชิ ก่อนออนท็อปด้วยน้ำมันทรัฟเฟิล ต้นหอมและแบล็คการ์ลิคทรัฟเฟิล
สุดยอด เข้าใจว่าจานนี้ทำไมเป็นหนึ่งในซิกเนเจอร์ของร้าน อันเเรกที่ต้องชื่นชมคือข้าวโพด ข้าวโพดกรอบหวานเบาๆ ตัวไข่ตุ๋นรสเหมือนครีมเนื้อละมุนแต่เข้มข้นไม่มีกลิ่นถั่วอาจจะเพราะกลิ่นทรัฟเฟิลนั้นมีความโดนเด่นทีเดียว รสของเนื้อครีมนั้นสามารถเข้ากับรสเข้มข้นเฉพาะตัวเเบล็คการลิคได้อย่างดี และมันยังเข้ากับออเร้นจไวนที่เป็นแพรริ่งได้ดีมากๆอีกด้วยครับ
Brioche / Onion / Pepper
คอร์สนี้เชฟเสริฟ์เป็นชาหอมใหญ่กับน้ำมันพริกไทยดำ และขนมปังบริโอชใส่เมล็ดคาราเวย์ รับประทานกับ pate จากเศษผัก
ชาต้นหอมนี้รสเหมือนคอนซอมเม่หัวหอมที่เบาๆครับมีรสพริกไทดำเบาๆ ตัวบริออชนั้นมีกลิ่นหอมจากคาราเวยอ่อนๆตรงนี้ผมว่าด้วยความที่รา้นไม่ใช้เนยในการทำขนมปังเลยทำให้มีกลิ่นไขมันจากพืชมากไปนิดครับ ผมเเนะนำให้ลองป้าย pate ดูแล้วจะอร่อยเข้มข้นขึ้นครับ
อันนี้เป็นแพร์ริ่งสำหรับจานเมนท์ที่ผมอยากเขียนถึงครับเป็น
น้ำเชอรรี่ดองจากเมนูที่เเล้วละเหลือ ผสมมากับชา lapsang souchong และเทนนินจากองุ่น ครับ รสฝาดและขมของชา เเทนนินขององุ่นผสมผสานให้มันเข้ากับรสเชอร์รี่ ที่นี้แพร์ริ่งนั้นน่าสนใจมากแนะนำให้ลองสั่งครับ เครื่องดื่มแก้วนี้เข้ากับเห็ดย่างจานต่อไปได้อย่างวิเศษ
Lions Mane / Sorrel / Yeast
เห็ดย่างกับชิโอโคจิ ตัวซอสทำจากผักนานาชนิด ถั่วเหลืองเเละมิริน ใช้เวลาทำกว่าทำกว่าสามวัน รับประทานกับใบซอเรล พรุนชัทนีย์ และครีมจากอัลม่อนต์ครับ
นี้น่าจะเป็นเห็ดที่อร่อยที่สุดในชีวิตผมจานนึง เท็กเจอร์ของเห็ดนั้นบ้าไปแล้ว มันเหมือนไก่ดีๆเลยครับเท็กเจอร์นุ่มฉ่ำ มีครัชบางๆที่ผิว ตัวซอสก็ยอดเยี่ยมรสเข้มข้นเหมือนซอสสเต็กโหดๆ ครีมด้านข้างเพิ่มรสมันนิดๆกินพร้อมเห็ดแล้วมันยิ่งอร่อย
ขอคารวะ
Apple / Quince / Walnut
ขนมหวานจานแรกเป็น ไอซ์ครีมแอปเปิล รสหวานอมเปรี้ยว เนื้อไอซ์ครีมนี้เนียนมากๆมีความครีมมี่เล็กน้อยถ้าคิดว่าเป็นไอซ์ครีมที่ไม่มีส่วนประกอบของนมแล้วน่าประทับใจมากครับ ผลควินซ์ซึ่งเป็นลูกผสมของแพร์และแอปเปิ้ลย่างรสเปรี้ยวอมหวาน รับประทานกับcompoteแอปเปิ้ลกับพลัมที่ช่วยเพิ่มรสหวานละมุนๆเป็นจานง่ายๆที่ทำได้ดีตามมาตราฐานครับ ตนิดนึงตรงที่บัควีทครัมเบิ้ลนั้นให้รสขมและเฟื่อนจนแย่งความเด่นของไอซ์ครีมครับ
Blackberry / Chocolate / Whiskey
จานนี้คือบราวนี่กรานาซช็อคโกแลต ซอเรลชอเบท เบอรรี่ และซอสเดนิชวิสกี้กับเบอรรี่ เมื่อรับเข้าปากเราจะได้ความอุ่นเบาๆและกลิ่นควันบางๆจากซอสนั้นเข้ากับได้ดีกับกลิ่ยขิงช็อคโกแลตในเค้ก ตัวเค้กนั้นรสขมอมหวานเนื้อเบานุ่ม ตัดกับรสเปรี้ยวอมหวานของเบอร์รี่เป็นจานคลาสสิก แต่ไม่น่าเบื่อจากกลิ่นเขียวเย็นของซอเรล
Peitit four
เยลลี่มะเขือเทศ ทารตครีมนมพืช เมเดลีนคาโมมายและเบอร์กามอต
[CR] บอสพาชิม : Ark ขั้นกว่าของZero waste (Copenhagen, Denmark)
Ark เป็นร้านอาหารมังสวิรัติแรกในกลุ่มประเทศ Nordic ที่ได้รับรางวัลกรีนสตาร์ หลายท่านมักจะรู้ว่าผมไม่ค่อยจับตาร้านอาหารที่ไม่ค่อยได้Michelin star สักเท่าไหร่นัก เพราะส่วนใหญ่มักจะมีสาเหตุบางประการที่ทำให้ไม่ได้ดาว
Ark น่าจะเป็นข้อยกเว้น ร้านนี้ขาดเพียงแค่ดาวมิชลินมาประดับสักดวงจริงๆ ร้านนี้ติดทั้ง La liste innovation award 2022 รวมทั้ง Nordic white guide และยังได้รับGreen Star อีกด้วย
Green star หรือ ดาวมิชลินรักษ์โลก มอบให้กับ ร้านอาหารแถวหน้าของวงการที่โดดเด่นเรื่องแนวทางปฏิบัติเพื่อความยั่งยืน พวกเขาแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างมีมาตรฐาน
Ark เลือกที่จะนำเสนอ sustainable ถึงขีดสุด ไม่เพียงแค่ยังยืนในร้านแต่รวมถึงต้นน้ำอย่างการปลูกหรือผู้ผลิตที่ร้านส่วนใหญ่มักจะใส่ใจอยู่แล้ว แต่สำหรับarkนั้นมีฟาร์มเห็ดส่วนตัวอย่าง ที่น่าสนใจคือกลางทางอย่างการขนส่งที่ผู้ผลิตวัตถุดิบเกือบทั้งหมดจะใช้ระยะเวลาขนส่งไม่เกินสองชั่วโมงและส่วนใหญ่เพียงสิบห้านาทีเท่านั้น ไปสู่ปลายทางอย่างการกำจัดหรือ zerowatste ทางร้านเอาเปลือกกล้วย กากชาและกาแฟมาทำcocktail เอาไวน์เหลือมาทำซอส เอาผักที่ตัดเเต่งมาทำผงหรือใช้ตบแต่ง หรือวัตถุดิบที่ไม่ใช่แค่ferment หรือดอง แต่ส่วนที่เหลือเศษๆ ยังเอาไปทำvinigrette หรือ Balsamic ต่อไม่ให้เหลือจริงๆ
ปัจจัยอื่นๆอย่างการตบแต่งร้านที่ใช้โคมไฟจากสาหร่าย หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ได้รับการรองรับfsc หรือการตัดไม้แบบยั่งยืน เท่านั้น หรือจะสบู่ในห้องน้ำยังเป็นสบู่แบบยั่งยื่น เมนูที่เป็น qr code ที่เป็นกระดาษทำเองใส่เมล็ดต้นไม้ไว้ที่พอกลับบ้านเราสามารถเอาไปปลูกต่อได้ ถึงขนาดนี้แล้วทางร้านยังยอมรับว่าหนทางยังอีกยาวไกล We are not perfect, but we are trying
Ark นั้นมีเมนูสองแบบคือ Short ที่ 899DKK และแบบปกติที่ 1199 DKK รวมทั้งแพร์ริ่งที่มีสามแบบให้เลือกอย่างWine, Mixed or Non Alcoholic Pairing
บรรยากาศของร้านและการเซอร์วิสนั้นอาจจะไม่ค่อยเนี้ยบหากเทียบกับร้านไฟน์ไดน์ปกติแต่อาหารที่นี้เป็นประสบการณ์ที่สนุกจริงๆการนำเสนอไม่ใช่แค่ไฟน์ไดน์จากอาหารวีแกน แต่ยังรวมทั้งการนำสองสิ่งที่ดูแตกต่างกันอย่างไฟน์ไดน์ และ zero waste มาผสมรวมกัน ในแต่ละจานเราจะได้สนุกสนานไปกับความพยายามและเรื่องราวต่างๆของวัตถุดิบที่ต้องลงแรงไปเยอะ แต่อย่างไรก็ตามด้วยข้อจำกัดต่างๆ ทำให้อาหารของที่นี้อาจจะยังไม่เพอร์เฟ็กต์นักในเเง่ของความสมดุลและในแง่ของเทคนิค แต่ต้องยอมรับว่าอาหารที่นี้นั้นเปิดโลกของผมเกี่ยวกับรสชาติของผักอย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็น Mocktailต่างๆที่ไม่น่าเชื่อจริงๆครับว่ามันอร่อยมาก หรือเห็ดที่เท็กเจอร์เหมือนไก่ที่สุดที่ผมเคยเจอ
มื้ออาหารที่Ark เป็นประสบการณ์ที่สนุกสนาน และควรมาลองสักครั้งสำหรับ Foodie ที่พร้อมจะเปิดโลกใหม่ๆ
Nasturtium / Gooseberry / Turnip
ใบNasturtium เสริฟ์มาพร้อมกับplum puree เมล็ดทานตะวัน หัวเทอรนิปฝานที่brineในสาเก จานนี้เราจะได้ความกรอบจากยอดผักและหัวเทอร์นิปที่หวานกว่าปกติจากสาเก ตัวซอสจากบ๊วยนนั้นรสค่อนข้างเค็มนำเปรี้ยวอมหวานน้อยกลิ่นคล้ายมิโซะ ตัดกับกลิ่นและความกรุบๆของงาคั่ว และกลิ่นเขียวเผ็ดเบาๆจากใบNasturtium
Kohlrabi / Pear / Miso
จานนี้เชฟเสริฟ์หัวโคราบีสี่แบบ ซูวี ดอง ผง มิโซะ จานนี้ผมแนะนำให้ลองแบบหลายๆส่วนกินนิดนึง แล้วลองกินทั้งหมดให้เข้ากันเพื่อให้ได้รสชาติที่สมดุลครับ มันมีทั้งเค็มนำจากรสมิโซะ กรุบกรอบจากโคราบีปกติ มีกลิ่นหอมเย็นอ่อนๆกรอบนุ่มจากการดอง ที่ให้รสเขียวเปรี้ยวอมเค็ม เป็นคำที่มีเท็กเจอร์กรอบหลายแบบแบบจากการปรุงโคราบีที่แตกต่างกันเเละความนุ่มที่สลับซับซ้อนครับ
Champignon / Lingonberry / Sherry
เเเค็รกเกอร์ ครีมเห็ดเเชมปิยอง แยมเชอร์รี่และผลลิงก้อนเบอร์รี่เชื่อม แว๊บนึงนึกว่าโฟร์กรา มันเป็นTerrineที่เข้มข้นมากแม้ทำจากครีมเห็ด กลิ่นเอริธิตี้เฉพาะตัวของเห็ดไม่ได้เด่นชัดขนาดนั้น ความมันของมันตัดเปรี้ยวอมหวานลิงก้อนเบอรรี่จากสวีเดน จานนี้เหมือนกับเหมือนโฟรกราที่ไลท์กว่าและไม่เลี่ยนหนัก ดีมากๆครับ
Beetroot / Plum / Macadamia
จานนี้เชฟเสริฟ์บีทรูทที่ปรุงสุกมาสี่เเบบกับพลัมสองแบบ กินกับซอสนมแมคคาเดเมียเเละNasturtium oil เอาตามตรงผมเคยกินคล้ายกันทั้งจากที่Cote(สูตร mirazur)และ Gerranium ต้องยอมรับว่าผมชอบของทั้งสองร้านข้างต้นกว่าครับ แต่เมื่อนึกถึงข้อจำกัดของความเป็นมัสสาวิรัติ แล้วที่นี้ก็ทำออกมาได้ดีครับ ตัวบีทรูทกรอบกรุบๆ มีรสหวานอมเปรี้ยวของผลัมชัทนีย์ด้านล่างและความครีมมี่ของนมแมคคาเดเมียครับ
Blue Oyster Mushroom
เห็ดนางรมย่างซอสบนเตาKonroจากญี่ปุ่น โดยเห็ดในวันนี้ปลูกบนไมโอ๊คเดนมาร์ก รับประทานกับครีมอิมูชั่นอุมามิจากมะเขือ มิริน สาเก เห็ด ผงขาเห็ด ต้องยอมรับว่าที่นี้ทำอาหารจากเห้ดได้อย่างดีจริงๆ เท็กเจอรเห็ดนั้นมีความแตกต่างมีกรอบครัชที่ผิวบางๆหอมกลิ่นซอสย่าง เนื้อเห็ดกรอบเน่น ส่วนตัวว่ารสของซอสนั้นเข้มข้นเกินไปเข้าใจว่าอยากชูความเข้มข้นของซอสที่ทำเองจากผักต่างๆ เเม้จะมีรสเปรี้ยวจากมะเขือเทศเข้ามาช่วยแล้วส่วนตัวผมว่ารสมันก็ยังหนักไปอยู่ดีสำหรับผม
Chawanmushi / Sweetcorn / Coffee
เชฟเสริฟ์ข้าวโพดหวานดิบ ครีมไข่ตุ๋นที่ทำจากถั่วเลนทิลกับคอมบุดาชิ ก่อนออนท็อปด้วยน้ำมันทรัฟเฟิล ต้นหอมและแบล็คการ์ลิคทรัฟเฟิล
สุดยอด เข้าใจว่าจานนี้ทำไมเป็นหนึ่งในซิกเนเจอร์ของร้าน อันเเรกที่ต้องชื่นชมคือข้าวโพด ข้าวโพดกรอบหวานเบาๆ ตัวไข่ตุ๋นรสเหมือนครีมเนื้อละมุนแต่เข้มข้นไม่มีกลิ่นถั่วอาจจะเพราะกลิ่นทรัฟเฟิลนั้นมีความโดนเด่นทีเดียว รสของเนื้อครีมนั้นสามารถเข้ากับรสเข้มข้นเฉพาะตัวเเบล็คการลิคได้อย่างดี และมันยังเข้ากับออเร้นจไวนที่เป็นแพรริ่งได้ดีมากๆอีกด้วยครับ
Brioche / Onion / Pepper
คอร์สนี้เชฟเสริฟ์เป็นชาหอมใหญ่กับน้ำมันพริกไทยดำ และขนมปังบริโอชใส่เมล็ดคาราเวย์ รับประทานกับ pate จากเศษผัก
ชาต้นหอมนี้รสเหมือนคอนซอมเม่หัวหอมที่เบาๆครับมีรสพริกไทดำเบาๆ ตัวบริออชนั้นมีกลิ่นหอมจากคาราเวยอ่อนๆตรงนี้ผมว่าด้วยความที่รา้นไม่ใช้เนยในการทำขนมปังเลยทำให้มีกลิ่นไขมันจากพืชมากไปนิดครับ ผมเเนะนำให้ลองป้าย pate ดูแล้วจะอร่อยเข้มข้นขึ้นครับ
อันนี้เป็นแพร์ริ่งสำหรับจานเมนท์ที่ผมอยากเขียนถึงครับเป็น
น้ำเชอรรี่ดองจากเมนูที่เเล้วละเหลือ ผสมมากับชา lapsang souchong และเทนนินจากองุ่น ครับ รสฝาดและขมของชา เเทนนินขององุ่นผสมผสานให้มันเข้ากับรสเชอร์รี่ ที่นี้แพร์ริ่งนั้นน่าสนใจมากแนะนำให้ลองสั่งครับ เครื่องดื่มแก้วนี้เข้ากับเห็ดย่างจานต่อไปได้อย่างวิเศษ
Lions Mane / Sorrel / Yeast
เห็ดย่างกับชิโอโคจิ ตัวซอสทำจากผักนานาชนิด ถั่วเหลืองเเละมิริน ใช้เวลาทำกว่าทำกว่าสามวัน รับประทานกับใบซอเรล พรุนชัทนีย์ และครีมจากอัลม่อนต์ครับ
นี้น่าจะเป็นเห็ดที่อร่อยที่สุดในชีวิตผมจานนึง เท็กเจอร์ของเห็ดนั้นบ้าไปแล้ว มันเหมือนไก่ดีๆเลยครับเท็กเจอร์นุ่มฉ่ำ มีครัชบางๆที่ผิว ตัวซอสก็ยอดเยี่ยมรสเข้มข้นเหมือนซอสสเต็กโหดๆ ครีมด้านข้างเพิ่มรสมันนิดๆกินพร้อมเห็ดแล้วมันยิ่งอร่อย
ขอคารวะ
Apple / Quince / Walnut
ขนมหวานจานแรกเป็น ไอซ์ครีมแอปเปิล รสหวานอมเปรี้ยว เนื้อไอซ์ครีมนี้เนียนมากๆมีความครีมมี่เล็กน้อยถ้าคิดว่าเป็นไอซ์ครีมที่ไม่มีส่วนประกอบของนมแล้วน่าประทับใจมากครับ ผลควินซ์ซึ่งเป็นลูกผสมของแพร์และแอปเปิ้ลย่างรสเปรี้ยวอมหวาน รับประทานกับcompoteแอปเปิ้ลกับพลัมที่ช่วยเพิ่มรสหวานละมุนๆเป็นจานง่ายๆที่ทำได้ดีตามมาตราฐานครับ ตนิดนึงตรงที่บัควีทครัมเบิ้ลนั้นให้รสขมและเฟื่อนจนแย่งความเด่นของไอซ์ครีมครับ
Blackberry / Chocolate / Whiskey
จานนี้คือบราวนี่กรานาซช็อคโกแลต ซอเรลชอเบท เบอรรี่ และซอสเดนิชวิสกี้กับเบอรรี่ เมื่อรับเข้าปากเราจะได้ความอุ่นเบาๆและกลิ่นควันบางๆจากซอสนั้นเข้ากับได้ดีกับกลิ่ยขิงช็อคโกแลตในเค้ก ตัวเค้กนั้นรสขมอมหวานเนื้อเบานุ่ม ตัดกับรสเปรี้ยวอมหวานของเบอร์รี่เป็นจานคลาสสิก แต่ไม่น่าเบื่อจากกลิ่นเขียวเย็นของซอเรล
Peitit four
เยลลี่มะเขือเทศ ทารตครีมนมพืช เมเดลีนคาโมมายและเบอร์กามอต
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้