แชร์ประสบการณ์การซื้อสินค้าที่ Power Buy กัน ส่วนตัวโดน2ดอกติดๆ สาขา.......

เรื่องมีอยู่ว่าเรากำลังทำบ้านใหม่ เลยไปเดินเลือกซื้อของใช้ภายในบ้านไปซื้อ TV ในงานเฟอนิเจอร์แฟร์ มาทีนี้เราก็เดินไปเรื่อยๆ เจอ TV แบรนด์นึง พนักงานบอกว่า ทีวีตัวนี้ตัวใหม่ล่าสุดเลย2024 ยังไม่มีทำการตลาดออนไลน์เลย เอารุ่นไปค้นหาไม่เจอแน่นอนเพราะยังไม่ลงสื่อออนไลน์ 
เราด้วยความไม่รู้ก็ซื้อเลยเพราะเราทำบ้านใหม่ทั้งทีก็อยากได้ของใหม่เทคโนโลยีใหม่ๆ สรุปก็เดินไปจ่ายเงินอะไรเรียบร้อย  นัดติดตั้งกันเสร็จ
หลังจากนั้น ก่อนถึงวันติดตั้ง 2 วันเลยโทรไปเช็คกับทาง Power Buy 1324 ว่า สินค้าสามารถมาติดตั้งก่อนวันนัดได้ไหมพอดีว่าหยุดงานพอดี ก็ตอบมาว่าไปติดล่วงหน้าไม่ได้นะคะของยังไม่ถึงสาขาปลายทาง เราก็ไม่ได้อะไร แต่เอะใจว่าอยากได้รุ่นมาค้นหาวิธีใช้ก่อนจะได้รับทีวี เขาเลยแจ้งรุ่นมา ปรากฎว่ารุ่นที่เราได้เป็นของปี 2023  แล้วยิ่งไปกว่านั้น ตอนโฆณาขายสินค้าติดป้ายในงานว่าTV เป็น120Hz  สรุปว่าทีวีสเปคแค่ 60hz แต่แค่มีเทคโนโลยีแทรกเฟรมเข้ามาให้ลื่นแล้วเคลมว่าตัวเอง 120Hz     เราเลยขอยกเลิกไปเลย   แค่นั้นไม่พอ  ให้เราเดินทางจากจังหวัดที่เราอยู่ ไปที่สาขาเอง ซึ่งโคตรรรไกลเราก็ต้องไปเหมารถไปเพื่อไปทำเรื่องคืนเงิน   แล้วเราก็ไม่เข็ดนะวันที่ไปคืนเงินเราก็ไปเดินเลือกของในสาขานั้นเพราะเหนว่า สเปคนั้นไม่ถูกใจเลยดูตัวใหม่ไปเลยดูเอาเลยว่าชอบอันไหน  วันที่เราไปขอคืนของเก่า+ซื้อใหม่วันนั้นเป็นวันที่ 31 มีนาคม 67   ของเก่าไปทำเรื่องก็ต้องรอเงินคืน ทางพนักงานแจ้งว่า 7-14 วัน จะได้รับยอดเงินคืนเราก็ไม่อะไรก็ช่างมัน ควักเงินซื้อใหม่   ระหว่างนั้นเราก็เดินเลือกซื้อสินค้าได้แล้วทีนี้ เวลานั้นเป็นเวลาเกือบ3ทุ่มเขาใกล้ปิดพอดี  เราก็เลยรีบๆเลือกจะได้รีบกลับ ซื้อเสร็จจ่ายเงินอะไรเสร็จเรียบร้อย สรุปว่ามีปัญหาอีก เนื่องจากคนที่ขายสินค้าให้เรา ไม่ได้จองรอบจัดส่งสินค้าให้กลายเป็นว่าสินค้าไม่สามารถไปส่งให้เราได้ เราก็เลยถามว่าแล้วมันแก้ปัญหาได้ไหม เขาบอกแก้ไม่ได้ เคาเตอร์ปิดระบบไปแล้ว ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ แล้ววันนั้นดันเป็นวันที่ 31มีนาคม67 เป็นวันสุดท้ายของโปรโมชั่นพอดี  เราก็ถามพี่เขาว่าแล้วมันราคาเดิมไหมครับวันพรุ่งนี้ถ้าให้พี่ทำเรื่องยกเลิกแล้วทำรายการใหม่ พี่พนักงานตอบกลับมาว่า ต้องลุ้นอีกทีว่าราคาจะเท่าาเดิมไหม ถ้าไม่เท่าเดิมพนักงานก็ต้องจ่ายกันเอง เราก็สงสารพี่พนักงานเลยบอกว่า พี่งั้นขอเป็นทำเรื่องยกเลิกแล้วกันนะพี่จะได้ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงในราคาสินค้าด้วยว่าถ้ามันเพิ่มขึ้นมาพี่ก็ต้องเป็นคนออกเอง   เราก็ตัดสินใจไปแบบนั้น สรุปว่าพอมาอีกวัน ราคาขึ้นจริงๆ  เขาก็รีบทำเรื่องคืนเงินมา  แต่ตอนคืนเงินจะบอกว่า ตอนนี้เงินเราอยู่กับพาวเวอร์บาย 2 เครื่องเลย ทีวี เป็นเงินราวๆเกือบๆ6หมื่นบาท

อ่านมาถึงตรงนี้ ปัญหาที่เราเจอก็คือว่า  พนักงาน+ผู้จัดการ นัดวันโอนเงินคืน แจ้งว่า เดี๋ยวเครื่องที่2 วันรุ่งขึ้นจะนำเงินที่จำหน่ายสินค้าได้ไปเข้าแบงค์แล้วโอนให้ภายในวันเลย  สรุปก็คือ ให้รอไปอีก 4-5 วัน กว่าจะได้เงินคืนเครื่องที่ 2  

ลำดับต่อมาคือ ทีวีเครื่องแรก พนักงานโทรมาแจ้งว่า จะโอนให้ภายในวันที่ 12 นะคะ เราก็โอเคได้ๆไม่เป็นไร  พอถึงวันที่12เราก็โทรไปถามว่าพอดียอดยังไม่เข้าตอนนี้ทางนั้นติดปัญหาอะไรไหม  พนักงานในสายก็พูดว่าอ่อขอโทษด้วยค่ะ วันที่12 แบงค์ปิด ทำให้ทำรายการไม่ได้ (ธนาคารในห้างเราไปเดินเปิดทุกแบงค์)  อ่ะไม่เป็นไรเขาก็บอกว่าอาจจะเป็นพรุ่งนี้ วันที่ 13 สรุปพอโทรไปอีกทีก็ตอบว่า ยังไม่ได้เลยค่ะ ขอเป็นวันที่ 17 นะคะ   พอถึงวันที่ 17 ก็บอกว่า เดี๋ยวเงินจะเข้าภายในวันที่ 18  วันนี้วันที่18 โทรไปก็ยังบอกว่าไม่ได้  คือเราไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินแต่ว่าคุณมานัดเราทำไม ถ้าคุณทำตามนั้นไม่ได้ ทำไมคุณไม่นัด 30วัน 45 วัน อะไรแบบนี้ไปเลย เราจะได้ไม่ต้องโทรมาตาม  คุณนัดเรา เท่ากับเราต้องคอยเช็คเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดเช่นคุณบอกว่าคุณโอนเงินมาแล้วแต่เราไม่ได้รับ แต่คุณโอนไปผิดคนแบบนี้เราจะได้แจ้งปัญหาคุณได้  แต่คุณมานัดเราถี่ๆแบบนี้พร้อมกับความว่างเปล่า ไม่มีอะไรคืบเลยเราต้องเป็นคนโทรไปตามเองทุกครั้ง  แบบนี้โคตรไม่โอเค    สุดท้ายแล้วคงเลิกใช้บริการเจ้านี้แล้วละ ขอบคุณพื้นที่ ที่ให้แชร์ความในใจครับ ความผิดบางอย่างก็เป็นความผิดเราเองที่เราไม่ดูให้ดีก่อน  แต่เราแค่ไม่โอเคกับการที่คุณนัดแล้วไม่เป็นนัดเลย คุณทำงานกับองค์กร คุณไม่คุยกับเป็นระบบหน่อยหรือ  โทรเข้าสำนักงานใหญ่ สำนักงานใหญ่โยนเรื่องให้สาขา  พอโทรเข้าสาขา สาขาบอกว่าให้โทรหาสำนักงานใหญ่     สรุปแล้วไม่รู้เลยต้องไปตามที่ใคร

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่