ในที่สุดวันนี้มาถึงจนได้ วันซึ่งนักเคลมผลงานแห่งงลุ่มน้ำเจ้าพระยา ผู้ตั้งชื่อพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ในขณะดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรี ว่านักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่านักกู้แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้กลับมาอย่างยิ่งใหญ่กว่าเดิม โลกมีเทคโนโลยีล้ำกว่าเดิม คนไทยส่วนใหญ่มีคุณภาพชีวิตดีกว่าคนไทยในยุค90 และ ประเทศไทยในยุครัฐบาลต้มยำกุ้ง อยู่ระหว่างพฤษภาทมิฬและ วิกฤตต้มยำกุ้ง
รัฐบาลปัจจุบัน ผ่านมา 6 เดือน แม้นักเคลมฯมีปัจจัย+มากกว่าในอดีต และอยู่เหนือนายกรัฐมนตรี ข้าพเจ้าขอทายว่ารัฐบาลจะมีความสามารถสร้างผลงานเท่ากับพลเอกประยุทธ์หรือด้อยกว่า เพราะไม่มีผลงานของบิดาข้าพเจ้าให้เคลมในรัฐบาลปัจจุบันค่ะ
ในความเป็นจริงคือ นักเคลมผลงานแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยาผู้นี้ เพียงแต่ได้อานิสงส์จาก การอภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่8 ซึ่งกำลังนำพาประเทศไทยไปสู่ความเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี 2020 รายละเอียดหน้าขอไข่ ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8
แผนพัฒนาฯฉบับที่ 8 นับเป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนพลังทางสังคมให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างใหญ่ และนำไปสู่การสร้างแนวคิดพื้นฐานในการจัดทำรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยเพื่อปฏิรูปประเทศไทย 2540
ส่วน นักโกงเมืองระดับโลกผู้นี้ นอกจากโกงจนกระทั่งศาลฎีกาตัดสินให้ติดคุก ยังได้โกงผลงานบิดาข้าพเจ้า จ้างUser:Horus และ User:Sry85 นำเข้าเอกสารอ้างอิง อันเป็นเท็จ จากต่างประเทศในวิกิพืเดียภาษาไทย ไม่สามารถเข้าหน้าและไม่สามารถแก้ไขได้
Wikipedia ภาษาอังกฤษสามารถแก้ไขได้ หลังจากข้าพเจ้า ลงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อมีนาคม - พฤษภาคม 2565 เนื่องจากมีการ Uploaded เอกสารตามลิ๊งค์นี้ ของกระทรวงศึกษาธิการ
https://elibrary.ksp.or.th/doc_num.php?explnum_id=4954

กระทู้หมายเลขในรูปถูกลบ จึงมาตั้งกระทู้ใหม่ เพื่อให้ประชาชนตาสว่าง ไม่ถูกหลอกไปตายฟรีเช่นเดียวกับปี 2553อีกนะคะ ปัจจุบันยุคข่าวสารข้อมูล มีรายเอียดหลักฐานจากทั้งในและต่างประเทศค่ะ

การแก้แค้นทันที ในวิกิพิเดีย ภาษาอังกฤษ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ให้ร้ายบิดาข้าพเจ้า ด้วยการจ้างคนเขียนหนังสือและวิกิพิเดีย เพื่อใช้ในการโฆษณา
หากไม่เชื่อลองเขียนเรื่องศาลตัดสินให้ติดคุกดูค่ะ ถูกลบทันที บทความทั้งภาษาอังกฤษและไทย เต็มไปด้วยเรื่องโกหก โป้ปด มดเท็จ ในประวัตินักเคลมผลงานแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา

การลบความจริงและย้อนไป ในVersion เท็จเดือนธันวาคม 2566 ก่อนวันเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 4 วัน


1
1)30บาทรักษาทุกโรค




2 กองทุนหมู่บ้าน ละล้าน


กองทุนหมู่บ้าน เคลมผลงาน ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยโครงการเศรษฐกิจชุมชน พุทธศักราช 2541 และ พุทธศักราช 2543
ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 (เครดิต 3 รัฐบาลก่อนหน้า ตั้งแต่ปี 2538)
อนวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง 2540 เมื่อเริ่มแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2539 รัฐบาลต้มยำกุ้ง โดยคุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ผู้เสนอแนวทางเศรษฐกิจชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนในชนบท ด้วยโครงการเศรษฐกิจชุมชน โดยมีกองทุนให้กู้โครงการละ 1 ถึง 3 แสน หมู่บ้านละ 3-5 ล้าน
3 พักชำระหนี้ เกษตรกร


4) บ้านเอื้ออาทร


5)หวยบนดิน
นอกจากจะเลิกเรียนฟรีจริง 15 ปี เช่นเดียวกับ ยุคทองการศึกษาไทยในปี 2538 เพราะอยากให้คนไทยโง่แล้ว ยัง มอมเมาด้วยหวยบนดิน
6 หนึ่งผลิตภัณฑ์ หนึ่งตำบล


7 ธนาคารประชาชน
ธนาคารประชาชน ยืมพล็อด การแก้ไขปัญหาหนี้สินครู โดย ศักยภาพของธนาคารออมสิน ช่วยแก้ไขปัญหาหนีสินครู ในรัฐบาลต้มยำกุ้ง ปี2540 ปี2544โครงการธนาคารประชาชน ของธนาคารออมสิน ใช้ตรรกะเดียวกัน
8 ปฏิรูประบบราชการ
สาร
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ในฐานะรองประธานคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการ
การปฏิรูประบบราชการเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ซึ่งต้องดำเนินการเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยในปี2540 เพื่อเป้าหมายการเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี2020 ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 ซึ่งเริ่มใช้เมื่อ 1ตุลาคม 2539 อันเป็นแผนปฏิรูปสังคมและจัดระเบียบประเทศไทย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับศตวรรษที่ 21
นอกจากปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูประบบสาธารณสุข มีความจำเป็นในยุคโลกาภิวัฒน์ การปฏิรูปราชการเป็นเงื่อนไขอีกประการหนึ่ง ในการปฏิรูประเทศไทย เพื่อเป้าหมายในการเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ในปี 2020 จึงต้องปฏิรูปประเทศไทยในทุกด้านข้างต้น เพื่อจะนําไปสู่การพิทักษ์ปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และนําประเทศให้ไปสู่การแข่งขันกับประชาคมโลกได้ในทุกมิติ
การปฏิรูประบบราชการคือกลไกหนึ่ง ในการบริหารราชการแผ่นดิน บรรพบุรุษของเราก่อตั้งประเทศนี้มา 700 ปี แต่กลับมีการปฏิรูประบบราชการเพียง2 ครั้ง
ครั้งที่ 1 เป็นการปฏิรูประบบราชการโดยการนําระบบจตุสดมภ์มาใช้ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ประมาณพุทธศักราช 1991- 2072
ครั้งที่ 2 ในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์พุทธศักราช 2435 ครั้งยังเป็นสยามประเทศ
ปัจจุบัน ปี 2540 และประเทศไทยมีระบบการปกครองประชาธิปไตย ตั้งแต่ปี 2475 หรือ 65 ปีมาแล้ว
แต่ระบบราชการไทยยังคงเป็นระบบราชการแบบสมบูรณาญาสิทธิราช บริหารราชการแบบรวมศูนย์ ไม่ได้กระจายอำนาจ กระจายงบประมาณอย่างแท้จริง ตามระบอบประชาธิปไตย
ส่งผลให้ในจำนวนพลเมือง 58.2 ล้านคน มีถึง 48.7 ล้านคน เป็นเกษตรกรยากจนทำการผลิตแบบดั้งเดิม ซึ่งไม่พอยังชีพ ผลคือ ราษฏรถางป่าเพื่อเอาชีวิตรอดระหว่างปี 2504-2538 จนกระทั่งประเทศไทยต้องสูญเสียผืนป่าไปถึง 84.8ล้านไร่ในเวลาเพียง 34ปี เนื่องจากแรงงานไทยร้อยละ 79.1 มีการศึกษาระดับประถมหรือต่ำกว่า
ข้าพเจ้าในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจึงประกาศใช้ แผนแม่บทนโยบายปฏิรูปการศึกษายุคโลกาภิวัฒน์2538:เพื่อเตรียมพร้อมพลเมืองไทยสำหรับศตวรรษที่ 21 ตั้งแต่รัฐบาลที่ผ่านมา เพื่อให้การศึกษาเป็นอาวุธของประชาชน ในการทำสงครามกับความยากจน และยาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรม
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องปฏิรูประบบราชการให้สอดคล้องกับการอภิวัฒน์การศึกษา2538 ตามแผนแม่บทนโยบายปฏิรูปการศึกษายุคโลกาภิวัตน์ 2538
:เพื่อเตรียมพร้อมพลเมืองไทยสำหรับศตวรรษที่ 21 ประเาทศไทยจะได้มีระบบราชการที่ดีตามระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย มีความทันโลก และมีเทคโนโลยี เพื่อเป็นเครื่องมือในการปฏิรูปประเทศไปสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี 2020
จ
ประโยคอันมีชื่อเสียง ของ นักปราชญ์ฝรั่งเศส Joseph de Maistre มีใจความว่า
❝ ทุกประเทศได้รับรัฐบาลซึ่งตนสมควรได้รับ ❞(every nation gets the government it deserves) บางครั้งแปลความหมายว่า ประชาชนเป็นอย่างไร เราจะได้รัฐบาลแบบนั้น
ระบบการศึกษาซึ่งทำให้ประชากรมีคุณภาพ จะส่งผลให้ประเทศไทยสามารถมีรัฐบาลซึ่งมีความสามารถ ในอันที่จะรับมือกับปัญหาท้าทายที่ใหญ่หลวงในอนาคตข้างหน้า
รัฐบาลนี้จึงจะมุ่งมั่นอภิวัฒน์การศึกษาไทยให้ประเทศไทยมีระบบการศึกษาดีที่สุดในโลกให้ได้ในปี 2550 หรือ ภายใน 12 ปีนับจากประเทศไทยเริ่มกระบวนการอภิวัฒน์การศึกษาไทยเมื่อปี 2538
รวมทั้งจะดําเนินการปฏิรูประบบราชการให้มีประสิทธิภาพ ยืนหยุ่น คล่องตัว และ กระจายอำนาจในการบริหารและบริการประชาชนควบคู่กันไป เพื่อเป็นกลไกในการปฏิรูป การศึกษา ระบบสาธารณสุข ระบบเศรษฐกิจ และ การจัดทำรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างของประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม
โดยจะเปลี่ยนนโยบายการปกครองประเทศด้วยการรวมอํานาจเข้าสู่ส่วนกลางตั้งแต่ ยุคสมบูรณาญาสิทธิราช เป็นการกระจายอานาจด้วยการจัดให้มีการเลือกตั้งในท้องถิ่น ตามแนวทางประชาธิปไตย และการปรับบทบาทของรัฐให้สอดคล้องกับความเจริญของภาคเอกชน และความเจริญของประชาคมโลก ด้วยการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อประโยชน์และความสุข ของประเทศชาติและประชาชน
ทั้งนี้เพื่อสร้างระบบราชการไทยให้มีระบบการบริหารและการบริการที่รวดเร็ว เสมอภาค เป็นธรรม และให้เป็นที่พึงพอใจของประชาชนมากที่สุด อีกทั้งเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ของประชาชนให้มีโอกาสและมาตรฐานการดํารงชีวิตที่ดีขึ้น มีระเบียบวินัย และตั้งมั่นอยู่ในคุณธรรม
ตลอดจนเพื่อส่งเสริมหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนให้มีความสามารถในการแข่งขันได้ในระดับระหว่างประเทศ และเป็นผู้นําในภูมิภาคอาเซียน ทั้งในด้านการ ส่งเสริมสันติภาพ สิทธิมนุษยชน การพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม ตลอดจนความร่วมมือ กับประชาคมโลก
ในรายละเอียด แผนแม่บทนี้ประกอบด้วยหลักการใหญ่สองหลักการ หลักการแรก คือ การปรับบทบาทภารกิจ และขนาดของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีวิธีการปฏิบัติ 12 วิธีการ
และหลักการที่สองคือ การปรับปรุงระบบการทํางานของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีวิธีการปฏิบัติ 10 วิธีการ ในแต่ละวิธีการจะมีเป้าหมายระยะเวลาในการดําเนินการกําหนดไว้โดยแจ้งชัด
ในภาพรวมการดําเนินการตามแผนแม่บทนี้จะมีระยะเวลาทั้งสิ้น 5 ปี ทั้งนี้ เพื่อให้แผนแม่บทการปฏิรูประบบราชการมีความเป็นพลวัต สามารถพัฒนาปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมวิธีการ ในการปฏิรูปได้ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป หรือตามสภาพปัญหาที่เผชิญ อีกทั้งเพื่อให้มีความเชื่อมโยงและสอดคล้องกับนโยบาย ปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูประบบสาธารณสุข ปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปสังคม ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8
เพื่อให้การปฏิรูประบบราชการมีความเป็นรูปธรรมและเป็นนโยบายถาวรของทุกรัฐบาลเมื่อเข้ามาบริหารประเทศต้องสานต่อให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
จึงมีความจำเป็นต้องจัดทำแผนแม่บทการปฏิรูประบบราชการฉบับนี้ ซึ่งได้มีการจัดทําประชาพิจารณ์ รับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชน เอกชน นักวิชาการ ตลอดจนผู้บริหารสูงสุดทุกหน่วยงานภาครัฐมาแล้ว ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมทั้งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการและคณะรัฐมนตรี
ขั้นตอ
ทักษิณ ชินวัตร
รัฐบาลปัจจุบัน ผ่านมา 6 เดือน แม้นักเคลมฯมีปัจจัย+มากกว่าในอดีต และอยู่เหนือนายกรัฐมนตรี ข้าพเจ้าขอทายว่ารัฐบาลจะมีความสามารถสร้างผลงานเท่ากับพลเอกประยุทธ์หรือด้อยกว่า เพราะไม่มีผลงานของบิดาข้าพเจ้าให้เคลมในรัฐบาลปัจจุบันค่ะ
ในความเป็นจริงคือ นักเคลมผลงานแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยาผู้นี้ เพียงแต่ได้อานิสงส์จาก การอภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่8 ซึ่งกำลังนำพาประเทศไทยไปสู่ความเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี 2020 รายละเอียดหน้าขอไข่ ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8
แผนพัฒนาฯฉบับที่ 8 นับเป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนพลังทางสังคมให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างใหญ่ และนำไปสู่การสร้างแนวคิดพื้นฐานในการจัดทำรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยเพื่อปฏิรูปประเทศไทย 2540
ส่วน นักโกงเมืองระดับโลกผู้นี้ นอกจากโกงจนกระทั่งศาลฎีกาตัดสินให้ติดคุก ยังได้โกงผลงานบิดาข้าพเจ้า จ้างUser:Horus และ User:Sry85 นำเข้าเอกสารอ้างอิง อันเป็นเท็จ จากต่างประเทศในวิกิพืเดียภาษาไทย ไม่สามารถเข้าหน้าและไม่สามารถแก้ไขได้
Wikipedia ภาษาอังกฤษสามารถแก้ไขได้ หลังจากข้าพเจ้า ลงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อมีนาคม - พฤษภาคม 2565 เนื่องจากมีการ Uploaded เอกสารตามลิ๊งค์นี้ ของกระทรวงศึกษาธิการ https://elibrary.ksp.or.th/doc_num.php?explnum_id=4954
กระทู้หมายเลขในรูปถูกลบ จึงมาตั้งกระทู้ใหม่ เพื่อให้ประชาชนตาสว่าง ไม่ถูกหลอกไปตายฟรีเช่นเดียวกับปี 2553อีกนะคะ ปัจจุบันยุคข่าวสารข้อมูล มีรายเอียดหลักฐานจากทั้งในและต่างประเทศค่ะ
การแก้แค้นทันที ในวิกิพิเดีย ภาษาอังกฤษ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ให้ร้ายบิดาข้าพเจ้า ด้วยการจ้างคนเขียนหนังสือและวิกิพิเดีย เพื่อใช้ในการโฆษณา
หากไม่เชื่อลองเขียนเรื่องศาลตัดสินให้ติดคุกดูค่ะ ถูกลบทันที บทความทั้งภาษาอังกฤษและไทย เต็มไปด้วยเรื่องโกหก โป้ปด มดเท็จ ในประวัตินักเคลมผลงานแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา
การลบความจริงและย้อนไป ในVersion เท็จเดือนธันวาคม 2566 ก่อนวันเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 4 วัน
1)30บาทรักษาทุกโรค
2 กองทุนหมู่บ้าน ละล้าน
กองทุนหมู่บ้าน เคลมผลงาน ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยโครงการเศรษฐกิจชุมชน พุทธศักราช 2541 และ พุทธศักราช 2543
ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 (เครดิต 3 รัฐบาลก่อนหน้า ตั้งแต่ปี 2538)
อนวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง 2540 เมื่อเริ่มแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2539 รัฐบาลต้มยำกุ้ง โดยคุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ผู้เสนอแนวทางเศรษฐกิจชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนในชนบท ด้วยโครงการเศรษฐกิจชุมชน โดยมีกองทุนให้กู้โครงการละ 1 ถึง 3 แสน หมู่บ้านละ 3-5 ล้าน
3 พักชำระหนี้ เกษตรกร
4) บ้านเอื้ออาทร
5)หวยบนดิน
นอกจากจะเลิกเรียนฟรีจริง 15 ปี เช่นเดียวกับ ยุคทองการศึกษาไทยในปี 2538 เพราะอยากให้คนไทยโง่แล้ว ยัง มอมเมาด้วยหวยบนดิน
6 หนึ่งผลิตภัณฑ์ หนึ่งตำบล
7 ธนาคารประชาชน
ธนาคารประชาชน ยืมพล็อด การแก้ไขปัญหาหนี้สินครู โดย ศักยภาพของธนาคารออมสิน ช่วยแก้ไขปัญหาหนีสินครู ในรัฐบาลต้มยำกุ้ง ปี2540 ปี2544โครงการธนาคารประชาชน ของธนาคารออมสิน ใช้ตรรกะเดียวกัน
8 ปฏิรูประบบราชการ
สาร
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ในฐานะรองประธานคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการ
การปฏิรูประบบราชการเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ซึ่งต้องดำเนินการเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยในปี2540 เพื่อเป้าหมายการเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี2020 ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 ซึ่งเริ่มใช้เมื่อ 1ตุลาคม 2539 อันเป็นแผนปฏิรูปสังคมและจัดระเบียบประเทศไทย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับศตวรรษที่ 21
นอกจากปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูประบบสาธารณสุข มีความจำเป็นในยุคโลกาภิวัฒน์ การปฏิรูปราชการเป็นเงื่อนไขอีกประการหนึ่ง ในการปฏิรูประเทศไทย เพื่อเป้าหมายในการเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ในปี 2020 จึงต้องปฏิรูปประเทศไทยในทุกด้านข้างต้น เพื่อจะนําไปสู่การพิทักษ์ปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และนําประเทศให้ไปสู่การแข่งขันกับประชาคมโลกได้ในทุกมิติ
การปฏิรูประบบราชการคือกลไกหนึ่ง ในการบริหารราชการแผ่นดิน บรรพบุรุษของเราก่อตั้งประเทศนี้มา 700 ปี แต่กลับมีการปฏิรูประบบราชการเพียง2 ครั้ง
ครั้งที่ 1 เป็นการปฏิรูประบบราชการโดยการนําระบบจตุสดมภ์มาใช้ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ประมาณพุทธศักราช 1991- 2072
ครั้งที่ 2 ในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์พุทธศักราช 2435 ครั้งยังเป็นสยามประเทศ
ปัจจุบัน ปี 2540 และประเทศไทยมีระบบการปกครองประชาธิปไตย ตั้งแต่ปี 2475 หรือ 65 ปีมาแล้ว
แต่ระบบราชการไทยยังคงเป็นระบบราชการแบบสมบูรณาญาสิทธิราช บริหารราชการแบบรวมศูนย์ ไม่ได้กระจายอำนาจ กระจายงบประมาณอย่างแท้จริง ตามระบอบประชาธิปไตย
ส่งผลให้ในจำนวนพลเมือง 58.2 ล้านคน มีถึง 48.7 ล้านคน เป็นเกษตรกรยากจนทำการผลิตแบบดั้งเดิม ซึ่งไม่พอยังชีพ ผลคือ ราษฏรถางป่าเพื่อเอาชีวิตรอดระหว่างปี 2504-2538 จนกระทั่งประเทศไทยต้องสูญเสียผืนป่าไปถึง 84.8ล้านไร่ในเวลาเพียง 34ปี เนื่องจากแรงงานไทยร้อยละ 79.1 มีการศึกษาระดับประถมหรือต่ำกว่า
ข้าพเจ้าในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจึงประกาศใช้ แผนแม่บทนโยบายปฏิรูปการศึกษายุคโลกาภิวัฒน์2538:เพื่อเตรียมพร้อมพลเมืองไทยสำหรับศตวรรษที่ 21 ตั้งแต่รัฐบาลที่ผ่านมา เพื่อให้การศึกษาเป็นอาวุธของประชาชน ในการทำสงครามกับความยากจน และยาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรม
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องปฏิรูประบบราชการให้สอดคล้องกับการอภิวัฒน์การศึกษา2538 ตามแผนแม่บทนโยบายปฏิรูปการศึกษายุคโลกาภิวัตน์ 2538
:เพื่อเตรียมพร้อมพลเมืองไทยสำหรับศตวรรษที่ 21 ประเาทศไทยจะได้มีระบบราชการที่ดีตามระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย มีความทันโลก และมีเทคโนโลยี เพื่อเป็นเครื่องมือในการปฏิรูปประเทศไปสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี 2020
จ
ประโยคอันมีชื่อเสียง ของ นักปราชญ์ฝรั่งเศส Joseph de Maistre มีใจความว่า
❝ ทุกประเทศได้รับรัฐบาลซึ่งตนสมควรได้รับ ❞(every nation gets the government it deserves) บางครั้งแปลความหมายว่า ประชาชนเป็นอย่างไร เราจะได้รัฐบาลแบบนั้น
ระบบการศึกษาซึ่งทำให้ประชากรมีคุณภาพ จะส่งผลให้ประเทศไทยสามารถมีรัฐบาลซึ่งมีความสามารถ ในอันที่จะรับมือกับปัญหาท้าทายที่ใหญ่หลวงในอนาคตข้างหน้า
รัฐบาลนี้จึงจะมุ่งมั่นอภิวัฒน์การศึกษาไทยให้ประเทศไทยมีระบบการศึกษาดีที่สุดในโลกให้ได้ในปี 2550 หรือ ภายใน 12 ปีนับจากประเทศไทยเริ่มกระบวนการอภิวัฒน์การศึกษาไทยเมื่อปี 2538
รวมทั้งจะดําเนินการปฏิรูประบบราชการให้มีประสิทธิภาพ ยืนหยุ่น คล่องตัว และ กระจายอำนาจในการบริหารและบริการประชาชนควบคู่กันไป เพื่อเป็นกลไกในการปฏิรูป การศึกษา ระบบสาธารณสุข ระบบเศรษฐกิจ และ การจัดทำรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างของประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม
โดยจะเปลี่ยนนโยบายการปกครองประเทศด้วยการรวมอํานาจเข้าสู่ส่วนกลางตั้งแต่ ยุคสมบูรณาญาสิทธิราช เป็นการกระจายอานาจด้วยการจัดให้มีการเลือกตั้งในท้องถิ่น ตามแนวทางประชาธิปไตย และการปรับบทบาทของรัฐให้สอดคล้องกับความเจริญของภาคเอกชน และความเจริญของประชาคมโลก ด้วยการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อประโยชน์และความสุข ของประเทศชาติและประชาชน
ทั้งนี้เพื่อสร้างระบบราชการไทยให้มีระบบการบริหารและการบริการที่รวดเร็ว เสมอภาค เป็นธรรม และให้เป็นที่พึงพอใจของประชาชนมากที่สุด อีกทั้งเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ของประชาชนให้มีโอกาสและมาตรฐานการดํารงชีวิตที่ดีขึ้น มีระเบียบวินัย และตั้งมั่นอยู่ในคุณธรรม
ตลอดจนเพื่อส่งเสริมหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนให้มีความสามารถในการแข่งขันได้ในระดับระหว่างประเทศ และเป็นผู้นําในภูมิภาคอาเซียน ทั้งในด้านการ ส่งเสริมสันติภาพ สิทธิมนุษยชน การพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม ตลอดจนความร่วมมือ กับประชาคมโลก
ในรายละเอียด แผนแม่บทนี้ประกอบด้วยหลักการใหญ่สองหลักการ หลักการแรก คือ การปรับบทบาทภารกิจ และขนาดของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีวิธีการปฏิบัติ 12 วิธีการ
และหลักการที่สองคือ การปรับปรุงระบบการทํางานของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีวิธีการปฏิบัติ 10 วิธีการ ในแต่ละวิธีการจะมีเป้าหมายระยะเวลาในการดําเนินการกําหนดไว้โดยแจ้งชัด
ในภาพรวมการดําเนินการตามแผนแม่บทนี้จะมีระยะเวลาทั้งสิ้น 5 ปี ทั้งนี้ เพื่อให้แผนแม่บทการปฏิรูประบบราชการมีความเป็นพลวัต สามารถพัฒนาปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมวิธีการ ในการปฏิรูปได้ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป หรือตามสภาพปัญหาที่เผชิญ อีกทั้งเพื่อให้มีความเชื่อมโยงและสอดคล้องกับนโยบาย ปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูประบบสาธารณสุข ปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปสังคม ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8
เพื่อให้การปฏิรูประบบราชการมีความเป็นรูปธรรมและเป็นนโยบายถาวรของทุกรัฐบาลเมื่อเข้ามาบริหารประเทศต้องสานต่อให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
จึงมีความจำเป็นต้องจัดทำแผนแม่บทการปฏิรูประบบราชการฉบับนี้ ซึ่งได้มีการจัดทําประชาพิจารณ์ รับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชน เอกชน นักวิชาการ ตลอดจนผู้บริหารสูงสุดทุกหน่วยงานภาครัฐมาแล้ว ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมทั้งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการและคณะรัฐมนตรี
ขั้นตอ