สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าเราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะเคยเห็นเหล่าแม่ ๆ สรรหาสารพัดวิธีที่จะทำให้ลูกสูงขึ้นด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา เช่น กลัวลูกถูกบูลลี่บ้าง กลัวมีปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่การงานในอนาคตบ้าง
เราก็เลยจะมาแชร์ประสบการณ์ที่ทำให้ลูกชายเราจากเด็ก ป.2 ที่ตัวเล็กที่สุดของห้องกลายเป็นสูงกว่าเพื่อนตอน ป.6 ค่ะ แต่ขอบอกก่อนว่าวิธีที่ใช้ไม่ได้ทำให้สูงขึ้นแบบปุบปับนะคะ ทุกอย่างต้องใช้เวลา
1. ออกกำลังกายยืดกระดูกแบบทั่วไปเลยค่ะ กระโดดเชือก เล่นบาส ประมาณ 1 ชั่วโมงต่อวัน แล้วก็มีท่าออกกำลังกายยืดตัว ให้ลูกนั่งคุกเข่าแล้วโน้มตัวกับแขนไปด้านหลังจนนอนราบกับพื้น แล้วค้างท่านี้ไว้ประมาณ 1 นาที ช่วยยืดกระดูกค่ะ
2. นอนช่วง 3 ทุ่ม พยายามให้ลูกทำการบ้านให้เสร็จก่อนแล้วค่อยให้ออกไปเล่นและกลับมากินข้าว อาบน้ำ เข้านอนค่ะ
3. ดื่มนมวันละ 2 กล่อง หลังอาหารเช้ากับก่อนนอน เน้นเป็นนมจืดจะดีที่สุดค่ะ ไม่ยัดแต่นมจนลูกเอียน กินแบบพอดี ๆ ส่วนน้ำอัดลมให้กินนาน ๆ ครั้งค่ะ เพราะมีน้ำตาลสูงเกินไป
4. ให้กินอาหารที่มีแคลเซียม เช่น ผักสีเขียวเข้ม เช่น คะน้า ตำลึง ผักกาดเขียว ปลาเล็กปลาน้อย กุ้งแห้ง เต้าหู้แข็ง เสริม CBP ไประหว่างมื้อด้วย
5. ข้อนี้สำคัญมาก คือการไม่กดดันลูกค่ะ ทำทุกอย่างให้เป็นแบบชีวิตประจำวันที่ทำได้ทุกวัน ไม่ต้องบังคับ ให้ลูกได้มีความสุขกับวัยเด็กอย่างเต็มที่
เนี่ยน่ะเหรอวิธีที่เขาบอกว่าช่วยให้สูง จะแน่แค่ไหนกันเชียว?
เราก็เลยจะมาแชร์ประสบการณ์ที่ทำให้ลูกชายเราจากเด็ก ป.2 ที่ตัวเล็กที่สุดของห้องกลายเป็นสูงกว่าเพื่อนตอน ป.6 ค่ะ แต่ขอบอกก่อนว่าวิธีที่ใช้ไม่ได้ทำให้สูงขึ้นแบบปุบปับนะคะ ทุกอย่างต้องใช้เวลา
1. ออกกำลังกายยืดกระดูกแบบทั่วไปเลยค่ะ กระโดดเชือก เล่นบาส ประมาณ 1 ชั่วโมงต่อวัน แล้วก็มีท่าออกกำลังกายยืดตัว ให้ลูกนั่งคุกเข่าแล้วโน้มตัวกับแขนไปด้านหลังจนนอนราบกับพื้น แล้วค้างท่านี้ไว้ประมาณ 1 นาที ช่วยยืดกระดูกค่ะ
2. นอนช่วง 3 ทุ่ม พยายามให้ลูกทำการบ้านให้เสร็จก่อนแล้วค่อยให้ออกไปเล่นและกลับมากินข้าว อาบน้ำ เข้านอนค่ะ
3. ดื่มนมวันละ 2 กล่อง หลังอาหารเช้ากับก่อนนอน เน้นเป็นนมจืดจะดีที่สุดค่ะ ไม่ยัดแต่นมจนลูกเอียน กินแบบพอดี ๆ ส่วนน้ำอัดลมให้กินนาน ๆ ครั้งค่ะ เพราะมีน้ำตาลสูงเกินไป
4. ให้กินอาหารที่มีแคลเซียม เช่น ผักสีเขียวเข้ม เช่น คะน้า ตำลึง ผักกาดเขียว ปลาเล็กปลาน้อย กุ้งแห้ง เต้าหู้แข็ง เสริม CBP ไประหว่างมื้อด้วย
5. ข้อนี้สำคัญมาก คือการไม่กดดันลูกค่ะ ทำทุกอย่างให้เป็นแบบชีวิตประจำวันที่ทำได้ทุกวัน ไม่ต้องบังคับ ให้ลูกได้มีความสุขกับวัยเด็กอย่างเต็มที่