กินอะไร จากน้ำหนัก 57.5 เหลือ 51.4 แบบไม่ต้องอด


                                                                          สวัสดีค่ะ ชั่งใจอยู่นานว่าจะมาตั้งกระทู้ แบ่งปันการลดน้ำหนัก
                                           ของตนเอง ให้ผู้อ่านได้อ่านดีมั้ย มันจะผิด หรือถูก ในด้านโภชนาการ หลักวิชาการ
                                           ใดๆมั้ย ถ้าเพื่อนๆคนไหน ได้เคยผ่านตา อ่านกระทู้ที่ จขกท.ได้เคยตั้งเอาไว้ที่ผ่านๆ
                                            มาก็คงจะคิดว่า มันย้อนแย้งกันมั้ย เพราะเราโพสต์แต่การทำอาหาร เข้าไปพูดคุยวน
                                            แต่ห้องก้นครัว มีแต่เรื่องอาหารการกิน แล้วจะมาแบ่งปันวิธีลดน้ำหนักให้คนอื่นได้
                                            อ่านได้ยังงัย นั่นสิ......แต่     นี่คือเรื่องจริง ที่เราได้ปฏิบัติจริง ได้ผลจริงๆ เลยอยาก
                                            จะมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อมีผู้อ่านท่านใด เห็นว่าดี มีประโยชน์ และจะลองทำตามบ้างก็
                                            แล้วแต่จะพิจารณานะคะ.....................
                                            ข้อมูลพื้นฐาน ของเราคือ ส่วนสูง 147 ซม.น้ำหนัก ก็เท่าที่เคยชั่ง เอาแค่ช่วงครึ่งปี
                                            2566 ที่ผ่านมา เคยทะลุไปถึง 59 กก.ตัวก็จะกลมๆ ป้อมๆ ปุ๊กลุ๊ก ให้นึกถึงตุ๊กตา
                                            ล้มลุก ที่ช่วงล่างใหญ่ๆพร้อมล้ม แต่ลุกไม่ค่อยจะขึ้น 55555
                                            ปัญหาด้านสุขภาพ มีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดัน และติดไขมันมาด้วย เรียกว่า
                                            มาครบสูตร มาตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เนื่องด้วยร่างกายเราขาดฮอร์โมน เลยแก่มาก
                                            กว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน จขกท.ต้องกินยา และไปหาหมอตามนัดทุก 2 เดือน หรือ 3
                                            เดือน อาหารการกิน ก็กินตามปกติ จะมาควบคุม และ อด ก็ช่วง 10 วัน ก่อนหมอนัด
                                            เป็นนิสัยที่ไม่ดีเลยนะคะ อย่าทำตาม อมยิ้ม16อมยิ้ม16

                                            จนเมื่อช่วงปลายปี 65 เราเป็นโควิด เจ็บคอมาก กินได้แต่ข้าวต้ม ทุกมื้อนานเป็นเดือน
                                            น้ำหนักก็ลด แต่ ระดับน้ำตาลในเลือด ไม่ลดตาม ก็สงสัยในตัวเอง มาคิดไป คิดมา
                                            แป้ง คือปัญหาที่ทำให้เราต้องจัดการ ไม่งั้น ร่างกายเราแย่แน่ๆ
                                            ในชีวิตประจำวัน ตื่นเช้ามา เราจะชงกาแฟ 3 in 1 1แก้ว ตอนสายๆก็กินข้าวเช้า ตัก
                                            ข้าวประมาณ 1 ทัพพี ปกติ เราก็กินข้าวน้อยอยู่แล้ว แต่...กลางวัน เราจะกินกาแฟเย็น
                                            1 แก้ว กลางวันก็กินข้าวปกติ มื้อเย็นก็กินก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม ขนมหวานก็กินบ้างแต่ไม่
                                             ได้มากมายอะไร และไม่ได้กินทุกวันด้วย
                            
                                    นี่คือระดับน้ำตาลในเลือด ที่สูงถึง 163 ทั้งๆที่กินยาประจำ เครียดเลย
                                    หันไปกินข้าวไรท์เบอรี่ ข้าวกล้อง แต่มันก็กินลำบาก ไม่อร่อย ก็ฝืนกิน
                                    อยู่เป็นเดือนๆ แล้วก็ไปเจาะเช็คเลือดตามคลีนิคเอง ก็ไม่ได้ลดลงเลย
                                    ร่างกายคนเราแต่ละคน แตกต่าง การเผาผลาญก็ไม่เท่ากัน ทั้งๆที่เราก็
                                    ไปออกกำลังกาย ไปเดินให้เหงื่ออก แต่สิ่งที่ได้กลับมา คือ เจ็บเท้า
                                     เหมือนจะเป็นรองช้ำไปอี๊กกกกก
                                    เอาใหม่ เปลี่ยนความคิดใหม่เราต้อง งด แป้ง งดของทอด งดน้ำตาล
                                    แต่ถ้าเราไม่กินแป้ง แล้วเราจะกินอะไรให้อิ่มท้องล่ะ
                                    ลืมตาตื่นขึ้นมา.....ชงกาแฟผง 2 ช้อน เหยาะเกลือนิดนึง บีบมะนาว
                                                              1 ลูก กินมันยังงั้นแหล่ะ เปรี้ยวๆเค็มๆขมๆ
                                                              (ขาดกาแฟไม่ได้ มันจะปวดหัวตึ๊บ )

                                     ทำกับข้าว แล้วตักไปกินที่ทำงานตอนประมาณ 9 โมงเช้า และกลางวัน









                                 นี่คือบางส่วน ที่เราทำไปกิน 2 มื้อ เช้าและกลางวัน จะต้องมีผัดผัก
                                 1 ชามใหญ่ๆ ผลไม้ที่ไม่หวาน และกับข้าวปกติ ที่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วน
                                 ประกอบ ไม่มีข้าว ไม่มีแป้ง และมีน้ำตาลจากผลไม้ซึ่งน้อยมาก เพราะ
                                 เราทำกับข้าวเอง ไม่ใส่น้ำตาลอยู่แล้ว หลายๆวันก็อาจจะ ผัดข้าวผัด
                                 ไปกินบ้าง ถ้ามีข้าวเย็นเหลือจากที่ลูกกิน
                                 แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่รับแป้ง และน้ำตาลซะทีเดียว มื้อเย็น
                                 เราก็ไปกินก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก หรือ เกาเหลาที่มีลูกชิ้น ไม่กินน้ำอัดลม

                                                                   มื้อเย็นกินที่บ้าน ก็จะจัดเต็มนิดนึง


                          แต่.....ด้วยนิสัย ที่เป็นคนชอบกินขนม ชอบกินกาแฟเย็น ใน 1 สัปดาห์
                          วันอาทิตย์ที่เป็นวันหยุด เราก็ออกไปหาของอร่อยๆกิน กินกาแฟเย็น
                          กินขนม กินน้ำอัดลม .....บ้าง......คือ ไม่กินเยอะ แต่ก็ไม่บีบคั้น กดดัน
                          ตัวเองให้มากเกินไป จนจะเกิดอาการเครียดได้

                          ทุกเช้า เราจะชั่งน้ำหนัก แล้วถ่ายรูป ลงรายละเอียดว่า เมื่อวานไปกิน
                          อะไรที่จะเพิ่มน้ำตาล และน้ำหนักมาบ้าง




                            ช่วงปีใหม่ ปล่อยจอย กินเต็มที่ กินทุกอย่างที่อยากจะกิน

                                    และนี่คือชั่งก่อนวันไปหาหมอ 1 วัน

                             และนี่คือ ผลระดับน้ำตาลในเลือด ที่ดีขึ้นตามละดับ

                                 น้ำหนักที่ลดลง น้ำตาลที่หมอเอ่ยชมว่า คุมได้ดี โดยที่เรา
                                 ก็ไม่ได้รู้สึกลำบาก หรืออดอยาก แต่อย่างใด กินกับข้าวที่
                                 อร่อยๆ ได้ทุกมื้อ แค่ไม่กินแป้ง กินผลไม้น้ำตาลน้อย กิน
                                 ผักแทนข้าว ให้อิ่มท้อง และ.....กินตามใจ ที่อยากจะกิน
                                 บ้าง แต่ไม่บ่อย ก็จะเห็นผลเป็นที่น่าพอใจ
                                 ท่านผู้อ่านท่านใด ที่อยากลดน้ำหนัก จะลองใช้สูตรนี้บ้าง
                                 รับรองเห็นผลแน่นอนค่ะ ยิ่งควบคุมตัวเอง ไม่แตกแถว
                                 เหมือน จกขท.ก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก ถ้าสามารถออกกำลังกาย
                                 ด้วยการเดิน หรือวิ่ง ก็จะยิ่งเผาผลาญได้ดี
                                 หากกระทู้นี้ ไม่ถูกหลักโภชนาการ หรืออย่างไร ก็คงต้อง
                                 ขออภัยด้วยนะคะ เพียงแค่อยากจะมาเล่าถึงการปรับเปลี่ยน
                                 นิสัยการกิน แล้วมันดีต่อสุขภาพของเราแค่นั้นเอง เพราะผล
                                 ที่ได้ เฉลี่ยคือน้ำหนัก หายไปเดือนละ 1 กิโล และไม่ขึ้นพรวด
                                 แม้จะปล่อยจอยกินตามใจปากแต่ก็แค่ 1 วัน
                                 ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่