ภาพรวมที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในระดับที่โอเคครับ ตามมาตรฐานค่ายโอลิเวอร์ยุคหลังๆแหละ ซึ่งมีทีเด็ดกว่าเรื่องอื่นๆตรงลูกเล่นในด้านของเนื้อเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยครับไม่ว่าจะเรื่องพญานาค กลุ่มพ่อค้ายาเสพติด หรือกลุ่มรัชทายาทของประเทศเพื่อนบ้านกับการตามหาสมบัติโบราณ ทั้งนี้ทีเด็ดในส่วนของเนื้อเรื่องต้องยกเครดิตให้เวอร์ชั่นนิยายครับเพราะตามนิยายวางประเด็นพวกนี้มาตั้งแต่แรกและเชื่อมโยงเรื่องราวดีด้วย
แต่เอาเข้าจริงๆก็ต้องยอมรับว่าสองตอนแรกมีความตะกุกตะกักสูง การเล่าเรื่องก็โดดไปโดดมาโดยเฉพาะตอนแรก ซึ่งผมยอมรับตรงๆเลยว่าดูตอนแรกจบ "ไม่รู้เรื่องเลย" ยิ่งการเปิดตัวของตัวละครหรือกลุ่มต่างๆก็ค่อนข้างงงกับที่ไปที่มาพอสมควร แต่พอผ่านมาสักตอนที่สามและตอนที่สี่เพิ่งจบไปรู้สึกว่าการเดินเรื่องสมูทขึ้น เป็นจังหวะจะโคนขึ้น เริ่มรับรู้เนื้อหามากขึ้น และเห็นภาพรวมคร่าวๆของละครได้บ้างแล้ว
ทั้งนี้พอดีว่าผมเองก็อ่านนิยายมาก่อน เลยอยากพูดถึงรายละเอียดที่มีทั้งเหมือนและต่างของละครด้วยซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งผมขอเริ่มด้วย โครงเรื่อง เลยละกัน ดีใจที่ละครยังยึดตามนิยายเพราะอย่างที่บอกไปนิยายมีโครงเรื่องที่เด็ดจริง พอละครเอารายละเอียดส่วนนี้มาใช้ก็เพิ่มให้ละครมีความติดตามและน่าสนใจมากขึ้นซึ่งจะแตกต่างกับละครแนวแอ็กชั่น-ผจญภัยในเรื่องอื่นๆที่อาจะมีพล๊อตหลักหรือพล๊อตรองคนละอย่าง แต่สำหรับแม่โขงมีหลายพล๊อตก็จริงแต่ก็สามารถเชื่อมโยงต่อกันได้ดี
แต่ในส่วนของ Ep.แรก ว่ากันตรงๆไม่ค่อยเวิร์คนะผมว่าเพราะละครพยายามจะเชื่อมโยงให้ตัวละครสำคัญอย่างพระเอก-นางเอกมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันมาตั้งแต่ต้น ซึ่งจริงๆผมว่าไม่จำเป็นเพราะตามนิยายพระเอก-นางเอกมาเพิ่งรู้จักกันเจอกันหลังจากที่เดฟ ชอนเข้ามาทำงานในประเทศไทยไม่ได้เป็นไปตามละคร ส่วนตัวผมว่าตามนิยายเข้าท่ากว่ามันดูธรรมชาติเรียลๆ ไม่จำเป็นต้องพยายามให้มีเหตุการณ์แบบ "พรมลิขิต" เกิดสถานการณ์ให้พระเอกนางเอกเคยเจอกันมาก่อนก็ได้ เพราะเอาเข้าจริงๆนิยายหรือแม้แต่ละครก็บอกใบ้ๆว่าสองคนนี้เขาเป็นเนื้อคู่กันมาตั้งแต่ชาติก่อนแล้ว ไอ้สถานการณ์ประเภทพรมลิขิตผมเลยมองว่าไม่จำเป็น
หรืออีกอย่างที่ละครทำคล้ายๆกันก็คือความสัมพันธ์ของเดฟ ชอนและจอห์นนี่ ดราโก้ที่ละครทำให้ทั้งคู่ดูจะเป็นเพื่อนรักที่สนิทสนมแและรู้จักกันมานาน รวมถึงเป็นเพื่อนร่วมรบในฐานะที่ทั้งคู่เป็นหน่วยรบพิเศษอะไรทำนองนี้ ซึ่งมันจะแตกต่างจากเวอร์ชั่นนิยายที่สองคนนี้ "เพิ่งมารู้จักกัน" เนื่องจากจะต้องมาปฏิบัติภารกิจร่วมกัน อีกทั้งจริงๆเดฟชอนไม่ได้ทำงานหน่วยรบพิเศษอะไรหรอกครับ แกแค่เคยเป็นทหารยศร้อยโทในช่วงสงครามเวียดนามและถูกย้ายไปอยู่หน่วยพลาธิการในโคราช ซึ่งหลังจากลาออกจากทหารก็ไปทำงานเป็นวิศวกรและได้รับคำทาบทามให้มาทำงานก่อสร้างสะพานที่ไทย จนได้มารู้จักกับดราโกเจ้าหน้าที่ DIA (สำนักงานข่าวกรองกลาโหม) เพราะทั้งคู่จะต้องทำงานประสานกันในการตามหาทหารอเมริกันที่สูญหายไปในช่วงสงครามเวียดนาม แต่ถ้าถามว่าขัดใจมากมั๊ยก็ไม่ขนาดนั้นออกแนวเฉยๆมากกว่า
ซึ่งพอ Ep.แรกเปิดตัวแบบนี้ผมเลยแอบขัดใจไปประมาณนึง แต่ก็เข้าใจอยู่บ้างว่ายังไงละครก็ไม่สามารถทำได้เป๊ะเหมือนในนิยาย แต่อย่างน้อยก็มีสิ่งที่น่าสนใจในด้านของ "ตัวละครใหม่" ซึ่งก็คือ "เจด้า ศรัณย่า และหมู ภูษณะ" โดยละครได้เพิ่มเข้ามาในฐานนะของตัวละครหลัก เลยทำให้ละครน่าจะมีปมใหม่ๆที่สำคัญและแตกต่างจากนิยายเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับ "ขุนสาง" ที่นิยายมีบทบาทสำคัญอยู่ประมาณนึงแต่ก็ไม่ได้เยอะมาก และบทบาทของเจด้าเองก็ดูน่าสนใจน่าติดตามเพราะดันมีหน้าคล้ายกับ ซู ภรรยาที่เสียชีวิตของเดฟ ซึ่งคงจะไปเพิ่มประเด็นในส่วนความรักความสัมพันธ์พอสมควร
แต่ทั้งนี้ประเด็นเกี่ยวกับ "ขุนสาง" ผมเองก็ยังมีความขัดใจอยู่ เพราะตัวขุนสางจริงๆก็ดัดแปลงเปลี่ยนชื่อมาจากตัวละครเจ้าพ่อยาเสพติดแห่งสามเหลี่ยมทองคำที่มีตัวตนจริงๆอย่าง "ขุนส่า" ซึ่งประวัติหรือพื้นเพของทั้งในนิยายและในชีวิตจริงนี่เหมือนกันเลย ผมเลยรู้สึกว่าละครน่าจะทำให้เราเห็นถึงพาวเวอร์ของอำนาจ บารมี และความเกรียงไกรของกองกำลังขุนสางให้มากกว่านี้ แต่ละครทำออกมาในลักษณะของกองกำลังชนกลุ่มน้อยที่ไม่ได้ยิ่งใหญ่มากและโดนบุกง่ายๆ ผมเลยแอบเฟลนิดๆ
หรือในการสืบหาเหตุการณ์การตายของคนงานที่ศพมีลักษณะแปลกๆ ซึ่งมีที่ไปที่มาจากการกระทำของ "พญานาค" จริงๆคนที่จะอธิบายไขความจริงและอธิบายลักษณะบาดแผลที่มาจากพญานาคจะต้องเป็น "พระวาสุกรี" ไม่ใช่ดร.คิมเบอร์ลี่ เบเกอร์ จริงๆจุดขัดใจไม่ได้อยู่ที่คนอธิบายหรอก ปัญหาคือในฉากที่มีการสอบปากคำของตำรวจเกี่ยวกับประเด็นนี้ การที่ไปเชิญดร.คิมซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านมานุษยวิทยามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับบาดแผลประหลาดที่เกิดขึ้นกับศพ และให้ข้อมูลว่ามันอาจมาจากฝีมือของ "พญานาค" ผมว่ามันก็หลุดๆเหมือนกันนะ โคตรไม่สมเหตุสมผล 555
แต่ก็ตามที่สรุปในช่วงแรกครับว่าภาพรวมถือว่าโอเค สนุกมันส์เท่าที่เนื้อหาในส่วนของการเกริ่นเรื่องราวจะให้ได้ ที่เหลือก็ต้องไปรอดูครับว่าจะเป็นยังไงต่อ
สัปดาห์แรกและ 4 ตอนแรกของ "แม่โขง" เป็นเช่นไรบ้าง?
แต่เอาเข้าจริงๆก็ต้องยอมรับว่าสองตอนแรกมีความตะกุกตะกักสูง การเล่าเรื่องก็โดดไปโดดมาโดยเฉพาะตอนแรก ซึ่งผมยอมรับตรงๆเลยว่าดูตอนแรกจบ "ไม่รู้เรื่องเลย" ยิ่งการเปิดตัวของตัวละครหรือกลุ่มต่างๆก็ค่อนข้างงงกับที่ไปที่มาพอสมควร แต่พอผ่านมาสักตอนที่สามและตอนที่สี่เพิ่งจบไปรู้สึกว่าการเดินเรื่องสมูทขึ้น เป็นจังหวะจะโคนขึ้น เริ่มรับรู้เนื้อหามากขึ้น และเห็นภาพรวมคร่าวๆของละครได้บ้างแล้ว
แต่ในส่วนของ Ep.แรก ว่ากันตรงๆไม่ค่อยเวิร์คนะผมว่าเพราะละครพยายามจะเชื่อมโยงให้ตัวละครสำคัญอย่างพระเอก-นางเอกมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันมาตั้งแต่ต้น ซึ่งจริงๆผมว่าไม่จำเป็นเพราะตามนิยายพระเอก-นางเอกมาเพิ่งรู้จักกันเจอกันหลังจากที่เดฟ ชอนเข้ามาทำงานในประเทศไทยไม่ได้เป็นไปตามละคร ส่วนตัวผมว่าตามนิยายเข้าท่ากว่ามันดูธรรมชาติเรียลๆ ไม่จำเป็นต้องพยายามให้มีเหตุการณ์แบบ "พรมลิขิต" เกิดสถานการณ์ให้พระเอกนางเอกเคยเจอกันมาก่อนก็ได้ เพราะเอาเข้าจริงๆนิยายหรือแม้แต่ละครก็บอกใบ้ๆว่าสองคนนี้เขาเป็นเนื้อคู่กันมาตั้งแต่ชาติก่อนแล้ว ไอ้สถานการณ์ประเภทพรมลิขิตผมเลยมองว่าไม่จำเป็น
หรืออีกอย่างที่ละครทำคล้ายๆกันก็คือความสัมพันธ์ของเดฟ ชอนและจอห์นนี่ ดราโก้ที่ละครทำให้ทั้งคู่ดูจะเป็นเพื่อนรักที่สนิทสนมแและรู้จักกันมานาน รวมถึงเป็นเพื่อนร่วมรบในฐานะที่ทั้งคู่เป็นหน่วยรบพิเศษอะไรทำนองนี้ ซึ่งมันจะแตกต่างจากเวอร์ชั่นนิยายที่สองคนนี้ "เพิ่งมารู้จักกัน" เนื่องจากจะต้องมาปฏิบัติภารกิจร่วมกัน อีกทั้งจริงๆเดฟชอนไม่ได้ทำงานหน่วยรบพิเศษอะไรหรอกครับ แกแค่เคยเป็นทหารยศร้อยโทในช่วงสงครามเวียดนามและถูกย้ายไปอยู่หน่วยพลาธิการในโคราช ซึ่งหลังจากลาออกจากทหารก็ไปทำงานเป็นวิศวกรและได้รับคำทาบทามให้มาทำงานก่อสร้างสะพานที่ไทย จนได้มารู้จักกับดราโกเจ้าหน้าที่ DIA (สำนักงานข่าวกรองกลาโหม) เพราะทั้งคู่จะต้องทำงานประสานกันในการตามหาทหารอเมริกันที่สูญหายไปในช่วงสงครามเวียดนาม แต่ถ้าถามว่าขัดใจมากมั๊ยก็ไม่ขนาดนั้นออกแนวเฉยๆมากกว่า
ซึ่งพอ Ep.แรกเปิดตัวแบบนี้ผมเลยแอบขัดใจไปประมาณนึง แต่ก็เข้าใจอยู่บ้างว่ายังไงละครก็ไม่สามารถทำได้เป๊ะเหมือนในนิยาย แต่อย่างน้อยก็มีสิ่งที่น่าสนใจในด้านของ "ตัวละครใหม่" ซึ่งก็คือ "เจด้า ศรัณย่า และหมู ภูษณะ" โดยละครได้เพิ่มเข้ามาในฐานนะของตัวละครหลัก เลยทำให้ละครน่าจะมีปมใหม่ๆที่สำคัญและแตกต่างจากนิยายเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับ "ขุนสาง" ที่นิยายมีบทบาทสำคัญอยู่ประมาณนึงแต่ก็ไม่ได้เยอะมาก และบทบาทของเจด้าเองก็ดูน่าสนใจน่าติดตามเพราะดันมีหน้าคล้ายกับ ซู ภรรยาที่เสียชีวิตของเดฟ ซึ่งคงจะไปเพิ่มประเด็นในส่วนความรักความสัมพันธ์พอสมควร
แต่ทั้งนี้ประเด็นเกี่ยวกับ "ขุนสาง" ผมเองก็ยังมีความขัดใจอยู่ เพราะตัวขุนสางจริงๆก็ดัดแปลงเปลี่ยนชื่อมาจากตัวละครเจ้าพ่อยาเสพติดแห่งสามเหลี่ยมทองคำที่มีตัวตนจริงๆอย่าง "ขุนส่า" ซึ่งประวัติหรือพื้นเพของทั้งในนิยายและในชีวิตจริงนี่เหมือนกันเลย ผมเลยรู้สึกว่าละครน่าจะทำให้เราเห็นถึงพาวเวอร์ของอำนาจ บารมี และความเกรียงไกรของกองกำลังขุนสางให้มากกว่านี้ แต่ละครทำออกมาในลักษณะของกองกำลังชนกลุ่มน้อยที่ไม่ได้ยิ่งใหญ่มากและโดนบุกง่ายๆ ผมเลยแอบเฟลนิดๆ
หรือในการสืบหาเหตุการณ์การตายของคนงานที่ศพมีลักษณะแปลกๆ ซึ่งมีที่ไปที่มาจากการกระทำของ "พญานาค" จริงๆคนที่จะอธิบายไขความจริงและอธิบายลักษณะบาดแผลที่มาจากพญานาคจะต้องเป็น "พระวาสุกรี" ไม่ใช่ดร.คิมเบอร์ลี่ เบเกอร์ จริงๆจุดขัดใจไม่ได้อยู่ที่คนอธิบายหรอก ปัญหาคือในฉากที่มีการสอบปากคำของตำรวจเกี่ยวกับประเด็นนี้ การที่ไปเชิญดร.คิมซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านมานุษยวิทยามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับบาดแผลประหลาดที่เกิดขึ้นกับศพ และให้ข้อมูลว่ามันอาจมาจากฝีมือของ "พญานาค" ผมว่ามันก็หลุดๆเหมือนกันนะ โคตรไม่สมเหตุสมผล 555
แต่ก็ตามที่สรุปในช่วงแรกครับว่าภาพรวมถือว่าโอเค สนุกมันส์เท่าที่เนื้อหาในส่วนของการเกริ่นเรื่องราวจะให้ได้ ที่เหลือก็ต้องไปรอดูครับว่าจะเป็นยังไงต่อ