ผู้ค้า-ประชาชน ไม่มั่นใจรัฐบาลลดราคาสินค้าได้
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_620913/
ผู้ค้า-ประชาชน ไม่มั่นใจรัฐบาลลดราคาสินค้าได้ ชี้เศรษฐกิจไม่ดีใกล้กินเจ เยาวราชยังเงียบ
จากการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการรายย่อย ที่ย่านเยาวราช และประชาชน ที่มีต่อนโยบายในการลดราคาสินค้าของรัฐบาล พบว่า บรรยากาศการค้า
แม้จะอยู่ในช่วงใกล้กับเทศกาลกินเจ ก็ยังถือว่าค่อนข้างเงียบเหงา เพราะเศรษฐกิจไม่ดีนัก ลูกค้ามีกำลังซื้อน้อยลงแม้ว่าในช่วงนี้จะมีนักท่องเที่ยวมากขึ้น
โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนแต่การใช้จ่ายก็ค่อนข้างจำกัด
ในขณะที่ราคาสินค้าสำหรับช่วงเทศกาลกินเจ ไม่ว่าจะเป็นฟองเต้าหู้ เห็ดหอม กาน่าฉ่าย ผักกาดดอง ซึ่งถือเป็นสินค้ายอดนิยม จากการสอบถามผู้ประกอบการ
พบว่า มีการปรับราคาสินค้าขึ้นเล็กน้อยตามต้นทุนที่สูงขึ้น โดยในช่วงเข้าเทศกาลกินเจราคาอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก แต่ก็จะไม่ได้ปรับราคาสูงมากเนื่องจาก พบว่า
กำลังซื้อของประชาชนลดลงโดยซบเซาต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงโควิด 19
และเมื่อสอบถามไปยังผู้ประกอบการรายย่อยถึงนโยบายในการปรับลดราคาสินค้าของรัฐบาล พบว่า ไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถปรับลดราคาสินค้าได้
หากทำได้อาจเป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก็ไม่ได้ช่วยให้ค่าครองชีพหรือต้นทุนของผู้ประกอบการรายย่อยลดลงมากนัก จึงอยากให้รัฐบาลมีนโยบาย
ในการที่ความช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นเพราะในช่วงนี้แม้จะมีนักท่องเที่ยวมากขึ้นแต่กำลังซื้อก็ค่อนข้างลดลง
แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องรอดูหลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายออกมาแล้วว่าจะช่วย ให้เศรษฐกิจรวมถึงต้นทุนของผู้ประกอบการลดลงได้มากน้อยแค่ไหนเวลานี้
อาจยังตอบไม่ได้ว่าผู้ประกอบการร้านค้าขนาดเล็กจะได้ประโยชน์หรือไม่ได้ประโยชน์อย่างไร
"วิโรจน์" ลั่นคำพูด "ปฏิรูป-สังคยานา" ไม่ใช่คำพูดเชิงลบ ระวังโรคทรุดเกินเยียวยา
https://siamrath.co.th/n/481220
จากกรณีมีการบุกค้นบ้าน พล.ต.อ.
สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หลังพบมีเส้นทางการเงินเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ โดยผู้สื่อข่าวได้ถามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ว่าจะถือโอกาสนี้สังคายนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติเลยหรือไม่นั้น นาย
เศรษฐา ตอบกลับว่า "
เรียกว่าสังคายนาแรงไปหน่อย เขาเป็นสถาบันที่มีเกียรติ มีปัญหาก็ให้เขาแก้กันไปดีกว่า" นั้น
ล่าสุด วันที่ 30 ก.ย.66 นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ทวิตข้อความผ่านทวีตเตอร์ @wirojlak ระบุว่า...
คำว่า ปฏิรูป และสังคายนา ไม่ใช่คำพูดเชิงลบอะไรเลย การแก้ปัญหา ถ้าไม่ยอมรับความจริงถึงความรุนแรงของปัญหา ก็เหมือนป่วยด้วยโรคร้ายที่จำเป็นต้องเร่งผ่าตัด แต่หลอกตัวเองว่าเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อย แล้วทายาตามมีตามเกิด นอกจากโรคจะไม่หายแล้ว นับวันอาการจะยิ่งทรุด จนยากเกินเยียวยา
https://twitter.com/wirojlak/status/1707735233129586866
“ก้าวไกล” จัดวง “Labor’s Night” ถกปัญหาแรงงาน
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_620886/
“ก้าวไกล” ปีกแรงงาน จัดวง “Labor’s Night” ถกปัญหาแรงงานในสถานการณ์ปัจจุบัน เผยคืบหน้าผลักดันกฎหมาย 4 ฉบับ ยกระดับชีวิตแรงงาน
เครือข่ายผู้ใช้แรงงานพรรคก้าวไกล ร่วมกับพรรคก้าวไกลปทุมธานี จัดงาน “
Labor’s Night : ชวนคนทำงานปทุมฯ คุยเรื่องงานนอกเวลางาน” เป็นกิจกรรมพบปะระหว่างเครือข่ายผู้ใช้แรงงานพรรคก้าวไกล, ผู้ประกอบอาชีพแรงงานในพื้นที่ปทุมธานี, สส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล ทั้ง 6 เขต และแกนนำพรรคก้าวไกลคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ ณ คลองหลวง บูธีค รีสอร์ท จ.ปทุมธานี
โดยภายในงาน มีทั้งนิทรรศการ กิจกรรมแสดงดนตรี และการเสวนาเกี่ยวกับปัญหาของแรงงานในธุรกิจสร้างสรรค์, ภาคทางการ และแรงงานอิสระ และการนำเสนอการผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิของแรงงานโดยพรรคก้าวไกล ซึ่งมีแกนนำพรรคก้าวไกล คือ นาย
เซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ และ นาย
พริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล ร่วมพูดคุยในช่วงวงเสวนาเกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน ร่วมด้วย คุณ
ศรีไพร นนทรี ผู้นำแรงงานในย่านรังสิตและใกล้เคียง
นาย
เซีย ระบุว่า ปัญหาหลักของแรงงานในตอนนี้ มีตั้งแต่เรื่องของค่าจ้างไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ, สิทธิการรวมตัว เพื่อเจรจาต่อรองที่ไม่ได้รับความคุ้มครอง ทุกวันนี้สหภาพแรงงานในภาคเอกชนทั่วประเทศมีอยู่เพียง 1,400 กว่าแห่ง มีสมาชิก 4 แสนกว่าคน ในภาครัฐวิสาหกิจมีสหภาพแรงงาน 40 กว่าแห่ง ซึ่งมีโอกาสสะท้อนปัญหาน้อยมาก, ความมั่นคงในการทำงานจากการถูกเลิกจ้างโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า และความปลอดภัยในการทำงาน ทั้งในภาคทางการและภาคไม่เป็นทางการ
สำหรับพรรคก้าวไกล ที่มีนโยบายทั้งค่าจ้าง 450 บาท การรับรองอนุสัญญา ILO 87-98 ที่ให้รัฐต้องรับรองสิทธิของแรงงานในการรวมตัวและเจรจาต่อรอง การยกเลิกระบบจ้างงานแบบเหมาช่วง การปรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี ฯลฯ ที่ตั้งใจจะผลักดันในฐานะรัฐบาล แต่เมื่อพรรคก้าวไกลได้เป็นฝ่ายค้านแล้ว พรรคก้าวไกลจึงอาศัยกลไกรัฐสภาในการผลักดันนโยบายเหล่านี้ในฐานะกฎหมายแทน ได้แก่
1) แก้ไข พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ให้รับรองสิทธิลาตลอด 180 วัน และการให้สถานประกอบการมีพื้นที่ปั๊มนมให้ลูก
2) แก้ไข พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ว่าด้วยชั่วโมงการทำงาน วันลา และวันหยุดพักผ่อนประจำปี
3) แก้ไข พ.ร.บ.สหภาพแรงาน ว่าด้วยสิทธิในการรวมตัวเเป็นสหภาพแรงงานและการเจรจาต่อรอง
4) การเสนอร่าง พ.ร.บ.บำนาญพื้นฐานถ้วนหน้า
ซึ่งร่างกฎหมายทั้งหมดนี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตอบกลับมาแล้วว่า 2 ฉบับ คือกฎหมายว่าด้วยสิทธิลาคลอด และว่าด้วยบำนาญประชาชนเป็นกฎหมายการเงิน ต้องอาศัยอำนาจนายกรัฐมนตรีในการลงนามรับรองจึงจะสามารถบรรจุเข้าสู่สภาได้ นี่คือเรื่องที่ต้องฝากให้ประชาชนร่วมกันติดตามและทวงถามกับรัฐบาลกันต่อไป
สุดท้ายนี้การผลักดันกฎหมายแรงงาน สำหรับแรงงานทั้งในและนอกโรงงาน เครือข่ายแรงงานทำเพียงลำพังไม่ได้ ประชาชนทุกคนต้องช่วยกันตั้งคำถาม ตรวจสอบ และผลักดัน ควบคู่กันไปด้วย
ด้าน
พริษฐ์ ระบุว่า นโยบายแรงงานเป็นนโยบายที่หลายคนฝากความหวังกับพรรคก้าวไกลไว้มาก แต่วันนี้ในฐานะที่พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน การขับเคลื่อนนโยบายหลายอย่างจะมีความท้าทายมากขึ้น 4 ปีก่อนหน้านี้ พรรคก้าวไกลทำงานตรวจสอบอย่างเต็มที่ แต่บริบทวันนี้ สส. เพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า ความคาดหวังของประชาขนก็สูงขึ้น พรรคก้าวไกลจึงต้องยกระดับการทำงานในฐานะฝ่ายค้านให้เป็นฝ่ายค้านเชิงรุกที่เตรียมความพร้อมในการเป็นรัฐบาลครั้งต่อไปและสร้างการเปลี่ยนแปลงให้มากที่สุด
ปฏิเสธไม่ได้ว่า สส. เพียง 150 คนไม่เพียงพอแน่นอนสำหรับการผลักดันกฎหมายโดยลำพัง แต่ตนอยากให้มองกฎหมายเหล่านี้เป็นความพยายามการเปลี่ยนแปลงในสองสมรภูมิ คือในสภาและนอกสภา ต่อให้กฎหมายจะไม่ผ่านแต่การเสนอหลักการเหตุผลโดยใช้พื้นที่สภา จะเป็นการณรงค์ทางความคิดกับประชาชนไปในเวลาเดียวกัน สั่งสมแนวร่วม ให้การเลือกตั้งครั้งต่อไปเรื่องเหล่านี้กลายเป็นวาระที่ทุกพรรคการเมืองปฏิเสธไม่ได้
เข้าใจว่าหลายคนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลผิดหวัง แต่ 4 ปีจากนี้เราจะพิสูจน์ว่าฝ่ายค้านก็สร้างความเปลี่ยนแปลงได้ ไม่สำคัญว่าการเปลี่ยนแปลงที่เราอยากเห็นเกิดขึ้นในรัฐบาลพรรคอะไร นายกชื่ออะไร แต่มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นด้วยการผลักดันของพวกเรา
JJNY : ไม่มั่นใจรบ.ลดราคาสินค้าได้│"วิโรจน์"ลั่น ระวังโรคทรุด │“ก้าวไกล” จัดวง “Labor’s Night” │สภาพอากาศโลกแปรปรวน
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_620913/
ผู้ค้า-ประชาชน ไม่มั่นใจรัฐบาลลดราคาสินค้าได้ ชี้เศรษฐกิจไม่ดีใกล้กินเจ เยาวราชยังเงียบ
จากการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการรายย่อย ที่ย่านเยาวราช และประชาชน ที่มีต่อนโยบายในการลดราคาสินค้าของรัฐบาล พบว่า บรรยากาศการค้า
แม้จะอยู่ในช่วงใกล้กับเทศกาลกินเจ ก็ยังถือว่าค่อนข้างเงียบเหงา เพราะเศรษฐกิจไม่ดีนัก ลูกค้ามีกำลังซื้อน้อยลงแม้ว่าในช่วงนี้จะมีนักท่องเที่ยวมากขึ้น
โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนแต่การใช้จ่ายก็ค่อนข้างจำกัด
ในขณะที่ราคาสินค้าสำหรับช่วงเทศกาลกินเจ ไม่ว่าจะเป็นฟองเต้าหู้ เห็ดหอม กาน่าฉ่าย ผักกาดดอง ซึ่งถือเป็นสินค้ายอดนิยม จากการสอบถามผู้ประกอบการ
พบว่า มีการปรับราคาสินค้าขึ้นเล็กน้อยตามต้นทุนที่สูงขึ้น โดยในช่วงเข้าเทศกาลกินเจราคาอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก แต่ก็จะไม่ได้ปรับราคาสูงมากเนื่องจาก พบว่า
กำลังซื้อของประชาชนลดลงโดยซบเซาต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงโควิด 19
และเมื่อสอบถามไปยังผู้ประกอบการรายย่อยถึงนโยบายในการปรับลดราคาสินค้าของรัฐบาล พบว่า ไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถปรับลดราคาสินค้าได้
หากทำได้อาจเป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก็ไม่ได้ช่วยให้ค่าครองชีพหรือต้นทุนของผู้ประกอบการรายย่อยลดลงมากนัก จึงอยากให้รัฐบาลมีนโยบาย
ในการที่ความช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นเพราะในช่วงนี้แม้จะมีนักท่องเที่ยวมากขึ้นแต่กำลังซื้อก็ค่อนข้างลดลง
แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องรอดูหลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายออกมาแล้วว่าจะช่วย ให้เศรษฐกิจรวมถึงต้นทุนของผู้ประกอบการลดลงได้มากน้อยแค่ไหนเวลานี้
อาจยังตอบไม่ได้ว่าผู้ประกอบการร้านค้าขนาดเล็กจะได้ประโยชน์หรือไม่ได้ประโยชน์อย่างไร
"วิโรจน์" ลั่นคำพูด "ปฏิรูป-สังคยานา" ไม่ใช่คำพูดเชิงลบ ระวังโรคทรุดเกินเยียวยา
https://siamrath.co.th/n/481220
จากกรณีมีการบุกค้นบ้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หลังพบมีเส้นทางการเงินเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ โดยผู้สื่อข่าวได้ถามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ว่าจะถือโอกาสนี้สังคายนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติเลยหรือไม่นั้น นายเศรษฐา ตอบกลับว่า "เรียกว่าสังคายนาแรงไปหน่อย เขาเป็นสถาบันที่มีเกียรติ มีปัญหาก็ให้เขาแก้กันไปดีกว่า" นั้น
ล่าสุด วันที่ 30 ก.ย.66 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ทวิตข้อความผ่านทวีตเตอร์ @wirojlak ระบุว่า...
คำว่า ปฏิรูป และสังคายนา ไม่ใช่คำพูดเชิงลบอะไรเลย การแก้ปัญหา ถ้าไม่ยอมรับความจริงถึงความรุนแรงของปัญหา ก็เหมือนป่วยด้วยโรคร้ายที่จำเป็นต้องเร่งผ่าตัด แต่หลอกตัวเองว่าเจ็บป่วยเพียงเล็กน้อย แล้วทายาตามมีตามเกิด นอกจากโรคจะไม่หายแล้ว นับวันอาการจะยิ่งทรุด จนยากเกินเยียวยา
https://twitter.com/wirojlak/status/1707735233129586866
“ก้าวไกล” จัดวง “Labor’s Night” ถกปัญหาแรงงาน
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_620886/
“ก้าวไกล” ปีกแรงงาน จัดวง “Labor’s Night” ถกปัญหาแรงงานในสถานการณ์ปัจจุบัน เผยคืบหน้าผลักดันกฎหมาย 4 ฉบับ ยกระดับชีวิตแรงงาน
เครือข่ายผู้ใช้แรงงานพรรคก้าวไกล ร่วมกับพรรคก้าวไกลปทุมธานี จัดงาน “Labor’s Night : ชวนคนทำงานปทุมฯ คุยเรื่องงานนอกเวลางาน” เป็นกิจกรรมพบปะระหว่างเครือข่ายผู้ใช้แรงงานพรรคก้าวไกล, ผู้ประกอบอาชีพแรงงานในพื้นที่ปทุมธานี, สส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล ทั้ง 6 เขต และแกนนำพรรคก้าวไกลคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ ณ คลองหลวง บูธีค รีสอร์ท จ.ปทุมธานี
โดยภายในงาน มีทั้งนิทรรศการ กิจกรรมแสดงดนตรี และการเสวนาเกี่ยวกับปัญหาของแรงงานในธุรกิจสร้างสรรค์, ภาคทางการ และแรงงานอิสระ และการนำเสนอการผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิของแรงงานโดยพรรคก้าวไกล ซึ่งมีแกนนำพรรคก้าวไกล คือ นายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ และ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล ร่วมพูดคุยในช่วงวงเสวนาเกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน ร่วมด้วย คุณศรีไพร นนทรี ผู้นำแรงงานในย่านรังสิตและใกล้เคียง
นายเซีย ระบุว่า ปัญหาหลักของแรงงานในตอนนี้ มีตั้งแต่เรื่องของค่าจ้างไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ, สิทธิการรวมตัว เพื่อเจรจาต่อรองที่ไม่ได้รับความคุ้มครอง ทุกวันนี้สหภาพแรงงานในภาคเอกชนทั่วประเทศมีอยู่เพียง 1,400 กว่าแห่ง มีสมาชิก 4 แสนกว่าคน ในภาครัฐวิสาหกิจมีสหภาพแรงงาน 40 กว่าแห่ง ซึ่งมีโอกาสสะท้อนปัญหาน้อยมาก, ความมั่นคงในการทำงานจากการถูกเลิกจ้างโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า และความปลอดภัยในการทำงาน ทั้งในภาคทางการและภาคไม่เป็นทางการ
สำหรับพรรคก้าวไกล ที่มีนโยบายทั้งค่าจ้าง 450 บาท การรับรองอนุสัญญา ILO 87-98 ที่ให้รัฐต้องรับรองสิทธิของแรงงานในการรวมตัวและเจรจาต่อรอง การยกเลิกระบบจ้างงานแบบเหมาช่วง การปรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี ฯลฯ ที่ตั้งใจจะผลักดันในฐานะรัฐบาล แต่เมื่อพรรคก้าวไกลได้เป็นฝ่ายค้านแล้ว พรรคก้าวไกลจึงอาศัยกลไกรัฐสภาในการผลักดันนโยบายเหล่านี้ในฐานะกฎหมายแทน ได้แก่
1) แก้ไข พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ให้รับรองสิทธิลาตลอด 180 วัน และการให้สถานประกอบการมีพื้นที่ปั๊มนมให้ลูก
2) แก้ไข พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ว่าด้วยชั่วโมงการทำงาน วันลา และวันหยุดพักผ่อนประจำปี
3) แก้ไข พ.ร.บ.สหภาพแรงาน ว่าด้วยสิทธิในการรวมตัวเเป็นสหภาพแรงงานและการเจรจาต่อรอง
4) การเสนอร่าง พ.ร.บ.บำนาญพื้นฐานถ้วนหน้า
ซึ่งร่างกฎหมายทั้งหมดนี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตอบกลับมาแล้วว่า 2 ฉบับ คือกฎหมายว่าด้วยสิทธิลาคลอด และว่าด้วยบำนาญประชาชนเป็นกฎหมายการเงิน ต้องอาศัยอำนาจนายกรัฐมนตรีในการลงนามรับรองจึงจะสามารถบรรจุเข้าสู่สภาได้ นี่คือเรื่องที่ต้องฝากให้ประชาชนร่วมกันติดตามและทวงถามกับรัฐบาลกันต่อไป
สุดท้ายนี้การผลักดันกฎหมายแรงงาน สำหรับแรงงานทั้งในและนอกโรงงาน เครือข่ายแรงงานทำเพียงลำพังไม่ได้ ประชาชนทุกคนต้องช่วยกันตั้งคำถาม ตรวจสอบ และผลักดัน ควบคู่กันไปด้วย
ด้านพริษฐ์ ระบุว่า นโยบายแรงงานเป็นนโยบายที่หลายคนฝากความหวังกับพรรคก้าวไกลไว้มาก แต่วันนี้ในฐานะที่พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน การขับเคลื่อนนโยบายหลายอย่างจะมีความท้าทายมากขึ้น 4 ปีก่อนหน้านี้ พรรคก้าวไกลทำงานตรวจสอบอย่างเต็มที่ แต่บริบทวันนี้ สส. เพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า ความคาดหวังของประชาขนก็สูงขึ้น พรรคก้าวไกลจึงต้องยกระดับการทำงานในฐานะฝ่ายค้านให้เป็นฝ่ายค้านเชิงรุกที่เตรียมความพร้อมในการเป็นรัฐบาลครั้งต่อไปและสร้างการเปลี่ยนแปลงให้มากที่สุด
ปฏิเสธไม่ได้ว่า สส. เพียง 150 คนไม่เพียงพอแน่นอนสำหรับการผลักดันกฎหมายโดยลำพัง แต่ตนอยากให้มองกฎหมายเหล่านี้เป็นความพยายามการเปลี่ยนแปลงในสองสมรภูมิ คือในสภาและนอกสภา ต่อให้กฎหมายจะไม่ผ่านแต่การเสนอหลักการเหตุผลโดยใช้พื้นที่สภา จะเป็นการณรงค์ทางความคิดกับประชาชนไปในเวลาเดียวกัน สั่งสมแนวร่วม ให้การเลือกตั้งครั้งต่อไปเรื่องเหล่านี้กลายเป็นวาระที่ทุกพรรคการเมืองปฏิเสธไม่ได้
เข้าใจว่าหลายคนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลผิดหวัง แต่ 4 ปีจากนี้เราจะพิสูจน์ว่าฝ่ายค้านก็สร้างความเปลี่ยนแปลงได้ ไม่สำคัญว่าการเปลี่ยนแปลงที่เราอยากเห็นเกิดขึ้นในรัฐบาลพรรคอะไร นายกชื่ออะไร แต่มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นด้วยการผลักดันของพวกเรา