คือ ผมเจอประโยคนี้มันก็เริ่มติดใจและสงสัยมานาน ด้วยความที่เป็นพนักงานเห็นคนพูดประโยคนี้บ่อยๆ ผมรู้สึกว่ามันใช้ได้กับแค่บางบริบทจริงๆ มันสามารถใช้คำนี้ได้100%เลยรึ ผมออกแน40/60กับประโยคนี้ยังไงไม่รู้ เช่น
- บริษัทค้างเงินเดือนมาประมาณ 3 เดือนแล้ว ยังไม่คิดจะจ่าย
- บริษัทให้ทำโอฟรีมา 3 เดือนแล้ว แต่บอกช่วยๆกันอยู่กันเหมือนครอบครัวประหนึ่งดอม ทอเรตโต้
- บริษัทไม่ให้ลาเป็นเดือนละ แทบไม่มีวันหยุด ทำงานไปจนกว่าจะตายนั่นแหละ
- บริษัทโฆษณาหลอกลวงว่าจะให้ค่าคอมเท่านั้นเท่านี้ แต่ความจริงได้น้อยกว่าที่บอก หรือยกเลิกโมฆะไปเลย
- เดินทางเบี้ยเลี้ยงไม่จ่าย ค่าห้อง ค่ากิน ค่าเดินทางจ่ายเอง
- ปลดพนักงานไปเกือบครึ่งหรือกดดันให้ลาออก
เลยสงสัยมันใช้ประโยคนี้ได้ด้วยเหรอ " อย่าคิดว่าบริษัทจะให้อะไรกับคุณ แต่คิดว่าคุณจะให้อะไรบริษัท" ต้องให้อะไรมากแค่ไหนกับเหตุการณ์ที่ผมยกตัวอย่างอะครับ อย่างเรามาหาเงินทำงานมันก็น่าจะเป็นแบบ give and take นี่นามันก็วินๆ เราใช้แรงงาน ความสามารถทำงานแลกเงินมาคุณก็จ่ายเงินเรา ถ้าพนักงานไม่ทำงานให้บริษัทๆก็อยู่ไม่ได้ ถ้าบริษัทไม่จ่ายเงินให้พนักงานๆก็อยู่ไม่ได้มันเป็นโครงสร้างแบบพึ่งพากันแต่ทำไมกลายเป็นประโยคแบบนั้นไปได้ผมสงสัยมากเลยครับ
ผมสงสัยอีกแล้วกับประโยคที่ว่า "อย่าเพิ่งคิดว่าจะเอาอะไรจากบริษัท ควรคิดว่าควรจะให้อะไรบริษัทก่อน" นี่มันสมเหตุผลไหม
- บริษัทค้างเงินเดือนมาประมาณ 3 เดือนแล้ว ยังไม่คิดจะจ่าย
- บริษัทให้ทำโอฟรีมา 3 เดือนแล้ว แต่บอกช่วยๆกันอยู่กันเหมือนครอบครัวประหนึ่งดอม ทอเรตโต้
- บริษัทไม่ให้ลาเป็นเดือนละ แทบไม่มีวันหยุด ทำงานไปจนกว่าจะตายนั่นแหละ
- บริษัทโฆษณาหลอกลวงว่าจะให้ค่าคอมเท่านั้นเท่านี้ แต่ความจริงได้น้อยกว่าที่บอก หรือยกเลิกโมฆะไปเลย
- เดินทางเบี้ยเลี้ยงไม่จ่าย ค่าห้อง ค่ากิน ค่าเดินทางจ่ายเอง
- ปลดพนักงานไปเกือบครึ่งหรือกดดันให้ลาออก
เลยสงสัยมันใช้ประโยคนี้ได้ด้วยเหรอ " อย่าคิดว่าบริษัทจะให้อะไรกับคุณ แต่คิดว่าคุณจะให้อะไรบริษัท" ต้องให้อะไรมากแค่ไหนกับเหตุการณ์ที่ผมยกตัวอย่างอะครับ อย่างเรามาหาเงินทำงานมันก็น่าจะเป็นแบบ give and take นี่นามันก็วินๆ เราใช้แรงงาน ความสามารถทำงานแลกเงินมาคุณก็จ่ายเงินเรา ถ้าพนักงานไม่ทำงานให้บริษัทๆก็อยู่ไม่ได้ ถ้าบริษัทไม่จ่ายเงินให้พนักงานๆก็อยู่ไม่ได้มันเป็นโครงสร้างแบบพึ่งพากันแต่ทำไมกลายเป็นประโยคแบบนั้นไปได้ผมสงสัยมากเลยครับ