Casia (Bangkok,Thailand)
วันนี้เป็นรีวิวร้านอาหารน้องใหม่ใจกลางเมือง Casia ที่โรงแรมChatrium Grand Bangkok Casiaนั้นเป็นอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนี่ยน-ฟรั่งเศส ที่มีทั้ง A la carte เเละ course menu โดยในวันนี้ที่ผมได้ลองเป็น Course 3500++ (7คอร์ส) แต่ทางร้านยังมีคอร์ส 4900++(9 คอร์ส) อีกด้วย โดยไม่รวมคอร์สชีสที่สามารถ add on ได้อีกด้วย
ร้านตั้งอยู่ ชั้น7ของโรงแรมริมสระน้ำ การตบแต่งให้ฟิลเมดิเตอร์เรเนียน โทนอบอุ่นสบายตา เข้ากับอาหารของทางร้าน การตบแต่งนั้นเป็นการตบแต่งในสไตล์ที่ผมชอบครับแม้จะเป็นร้านอาหารไฟน์ไดน์แต่ก็รู้สึกอบอุ่นเเละไม่อึดอัดเคร่งครึมมีบรรยากาศสบายๆ มีวิวสวยๆทั้งวิวเมืองเเละสีเขียว สามารถดูพระอาทิตย์ตกได้ดี ผมแนะนำให้เริ่มมื้ออาหารเร็วสักนิด เราจะได้บรรยากาศที่หลายหลากของกรุงเทพ
แม้จะมีราคากลางๆค่อนไปทางสูงแต่ด้วยวัตถุดิบที่ใช้ของนำเข้าจากฟรั่งเศสเป็นส่วนใหญ่ จะว่าแพงก็คงไม่ได้ ผมว่าราคานั้นค่อนข้างเหมาะสมคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้รับ โดยได้เชฟJerome Bondaz มาควบคุมห้องอาหาร โดยเชฟมีพื้นเพมาจากsavoieซึ่งสามารถสังเกตได้จากอาหารหลายๆจานที่มีกลิ่นอายของบ้านเกิดเชฟ ผสมผสานกับสไตล์อาหารแบบสเปนนิชเมดิเตอร์เรเนี่ยน ก่อนจะปรับรสชาติให้ถูกลิ้นคนไทยด้วยการลองเทสอาหารปรับรสชาติอยู่นาน รวมทั้งเชฟเคยทำงานอยู่ที่ Jaime by Jean michel lorain อยู่ระยะนึง ออกมาเป็นอาหารเมดิเตอร์เรเนียนที่ถูกปรับรสให้ถูกปากคนไทย
อาหารของที่นี้นั้นทำออกมาได้ละเอียดละออ รสชาติที่เริ่มต้นด้วยamuse bouche รสเบามีความเปรี้ยวสดชื่นแต่ทว่ากลมกล่อม ค่อยไล่ความเข้นข้นขึ้นไปจบที่Main course อาหารของที่นี้เเต่ละจานมีความซับซ้อนในเทคนิค มีองค์ประกอบเยอะเเละเท็กนิคหลากหลาย ในส่วนของขนมหวานนั้นผมค่อนข้างเเปลกใจที่เลือกเสริฟ์เมนูคลาสสิกอย่าง st honore ที่ค่อนข้างจะดูแตกต่างกับอาหารสไตล์ contemporary ของทางร้านอยู่ไม่น้อย แต่พอได้รับประทานเเล้วก็ต้องยอมรับว่าทำออกมาได้เฉียบขาดจริงๆ
สำหรับการบริการแม้จะพึ่งเปิดใหม่เเต่ผมอยากชื่นชมทีมของร้านCasiaจริงๆ มีความเนี้ยบแต่ทว่ามีความเป็นกันเองรุ้สึกอบอุ่น การพรีเซ้นท์อาหารเเต่ละจานทำออกมาได้ดีมากๆ ที่ชื่นชมมากเป็นพิเศษ เห็นจะเป็น การอธิบายชีสที่ทำออกมาได้ดี น่าสนใจ มีเรื่องราว แต่ทว่าเข้าใจง่าย เหมาะกับมือใหม่ที่ไม่ค่อยได้ลองชีสที่หลากหลายมากนั้น
จานอื่นในเมนูจะมีอะไรบ้างไปชมคำบรรยายตามรูปเลยครับ
ระหว่างรออาหารทางโรงแรมนำขนมปังและเนยมาให้รองท้องก่อนครับโดยเป็น Blacksalt กับเนยจาก Echire ฟรั่งเศส และเนย Smoked Papika ซิกเนเจอร์ของทางร้าน โดยรับประทานกับSour dough ผิวรัสติก รสไม่เปรี้ยวบ่มมาก และ baguette
"Amuse Bouche Aperitive"
Espuma potato bleu blanc ออนท็อปด้วย caviar และ chives ครับ
คำนี้รสเบา ได้ความหอมของมันฟรั่งใหม่ กรอบ มีซิตรัสจากเลม่อนและ พริกไทยอร่อย รสครีมมี่ เปรี้ยวอมหวานสดชื่น ตัดฉุนเขียวๆเบาๆของchive ก่อนปิดท้ายด้วยรสเค็มละมุนจากคาเวียร์ เป็นจานที่ดูเรียบๆแต่ทว่า บาลานซ์รสได้ดี เเละน่าสนใจมากๆครับ
Phyllo, hamachi cheviche ออนท็อปด้วย coriander & lemon gel คำนี้เเป้งกรอบดี ปลาฮามาจิเนื้อมันมีกลิ่นควันนิดๆเค็มอมหวานนิดๆ ตัดกับรสเปรี้ยวอมหวานของเลม่อน
Ravioli prawn & pochini คำนี้มีPhylloอยู่ด้านล่างเท็กเจอร์คล้ายเเครกเกอร์ครับ ตัวราวิโอลินั้นแป้งบางเบา ไส้มีความหวานจากเนื้อกุ้งคาบัชโช่ และรสเค็มอมหวานมีกลิ่นผิวซิตรัสอ่อนๆที่ปลายจมูก
Omble Chevalier
Spring Tart, Artichoke Poivrade & Wild Rocket, Beaufort Cream
Omble Chevalier หรือ Artic char โดยเชฟนำมาbrine และบ่มด้วยวิธีเฉพาะทำให้หน้าตาอาจจะไม่เหมือน char ปกติ ก่อนนำไปหมักกับซอสน้ำผึ้งบัลซามิก เสริฟ์มาในทาร์ต ไส้Artichoke puree ออนท็อปข้างบนด้วยสลัดrocket แก่นตะวันกรอบและ ไข่ปลาเทร้าท์ ก่อนตบแต่งด้วยซอสจากชีสBeaufort
เป็นจานสลัดที่อลังการดีจริงๆ รสตอนแรกได้ยินถึงชีสเเล้วคิดว่าต้องเข้มข้นหนักแน่ๆ แต่ก็ไม่เลยเป็นจานที่เบาๆทานง่ายครับ โดยบริกรแนะนำให้เราเริ่มจากรสเบาไปหาหนัก คือให้เรากินสลัดร็อคเกตที่มีรสเขียวอันเเสนเป็นเอกลักษณ์ ตามด้วยรสหวานนำผึ้งอมเปรี้ยวนิดๆของบัลซามิกที่เคลือบมากับปลาเนื้อกรุบ ต่างจาก Char ที่คุ้นชิน
ก่อนปิดท้ายด้วยเเป้งเนื้อบางเบา กรอบเเละรสครีมมี่ของชซอสชีส เป็นจานที่องคประกอบมากแต่ลง ทำได้ดีมากครับ
Razor Clam & Vongole
Tied in Warm "Pil-Pil", Pickled Chanterelle, Seaweed, Fava Beans
จานนี้เป็นหอย Razor clam และ Vongole เสริฟ์มากับซอสPil Pil ซอสขึ้นชื่อของเเคว้นBasque ในสเปน ซึ่งมีส่วนประกอบจากกระเทียม พริก และน้ำมันมะกอก อันนี้รสโปร่งเผ็ดร้อนเบาๆ ตัวหอยหนุบหนับไม่สุกจนเหนียวครับ
ส่วนหอยลายนั้นเท็กเจอร์ก็ดีเช่นกัน หอยดีไม่สุกไป หนึบๆมีรสหวานอ่อนๆ ตัดกับความนุ่มของถั่วฟาว่ารสหวาน กรอบกรุบของสาหร่าย รสเปรี้ยวอมหวานจากเห็ดChanterelleดอง ก่อนปิดท้ายด้วยรสซอสมันๆคล้ายเนยกะเทียม ผมชอบองค์ประกอบที่หลากหลายทว่ากลมกล่อมครบทั้งรสและเท้กเจอร์ในจานนี้มากๆครับ ทำออกได้สมดุล และอร่อย
Squid
Stuffed Mediterranean Style, Mini Zucchini, Tomato Confit
โดยจานนี้เป็นปลาหมึกที่นำไปa la brasa แบบสเปน ตัวปลาหมึกเท็กเจอร์ดีมีความกรุบนิดๆแต่เนื้อไม่เหนียวหอมควัน ราดด้วยซอส jus รมควันรสอุมามิอ่อนๆมีความเข้มข้นแบบทะเลนิดๆสโม็คกี้หน่อยๆ ก่อนเสริฟ์มากับ zuchini confit, tomato confit และ ดอกzuchiniยัดไส้Shallot ซึ่งอร่อยมากๆ เป็นจานเบาๆเบรคก่อนเข้าสู่จานหลักได้ดีครับ
Red Mullet & Langoustine
My Interpretation of "Bouillabaisse", Potato & Fennel, Condiments
โดยเป็นrefine version of "Bouillabaisse"ในแบบของเชฟ เซฟเลือกเสริฟ์ปลามากับซุปBouillabaisse reduction และ บาเกต ที่มีความเข้มข้นขึ้นจนมีความรู้สึกเป็นซอส ส่วนตัวเนื้อlangustine นั้นทำมาได้ดีมาก เนื้อไม่เละเป็นของดี หวาน เนื้อกรอบ ทำมาได้ไม่สุกมาก น่าจะเป็นแลงกุสตีนที่ดีที่สุดที่ผมเคยทานในไทยเลยครับ ส่วนเครื่องเคียงนั้นมีทั้ง Rui sauce , picada เฮเซลนัทพริก , Aloli ตัวผักอย่างเบบี้เฟนเนล และมันฟรั่ง ที่ช่วยเปลี่ยนรสเเละเพิ่มความหลากหลายใหักับจานนี้ได้ดี
Bresse Pigeon
Carrot overlays, Romaine Lettuce, Smoked Leg Confit, Intense Jus
พิเจี้ยนนั้นใช้ของจากBresse เชฟนำส่วนอกไปอบเเละsearเพื่อเพิ่มcrushที่ผิว ส่วนขานั้นนำไปconfitและรมควัน ก่อนราดด้วยซอส Pigeon jus เครื่องเคียงเป็นผักคอสยัดไส้และแครอท จานนี้นกทำได้ดีมากๆ ผมว่าคนที่กลัวเนื้อนกที่ชุ่มฉ่ำเเดงจัดน่าจะรับประทานนกพิราบของที่นี้ได้อย่างไม่ยาก ตัวเนื้อส่วนอกนุ่มมากๆแต่ไม่รู้สึกแห้งหรือชุ่มเลือดจนคาว ตรงนี้ทำได้ยากมากๆครับที่จะกะให้พอดี ขอชื่นชม ส่วนอกถ้าหนังเเห้งเเละกรอบอีกนิดจะเทพเลยครับ ส่วนตัวขานั้นเนื้อร่วนนุ่มรสจัดกว่าส่วนอก ทำมาได้ดีเช่นกัน เป็นจานที่ทำออกมาได้ดีเเละอร่อยครับ
ชีสของที่นี้เป็นชีสจากฟรั่งเศสเสียเยอะ ไม่ว่าจะเป็น beaufort de savoie , Reblochon หรือ Tomme de savoie ที่มาจากบ้านเกิดเชฟ หรือจะเป็นBrillat-Savarin cheese ซึ่งจานนี้เป็น additional ที่ต้องสั่งเพิ่ม ผมเเนะนำคนที่ไม่ชอบชีสให้มาลองชีสคาร์ทของที่นี้ บริกรอธิบายประวัติของชีสได้อย่างสนุกสนานน่าสน รวมทั้งอธิบายคาเเรคเตอร์ของชีสต่างๆได้อย่างเข้าใจง่าย น่าจะทำให้ทุกท่านเพลิดเพลินไปกับชีสได้อย่างไม่ยาก
Apple sorbet and Chamomile jelly
St. Honore
Classic Choux, Caramel and Chantilly Cream ตอนแรกผมแอบสงสัยทำไม่มันมีขนมจานคลาสิกแบบนี้อยู่ในเมนูร้านอาหารฟรั่งเศสcontemporary พอได้กินเท่านั้นก็รู้ซึ้งเลยครับ เชฟทำได้ดีมากๆ
Gâteau St-Honoré เป็นขนมที่ตั้งชื่อตามนักบุญฮอนอเร่ นักบุญเเห่งเบเกอร์รี่ คิดค้นในปี1847 โดย Auguste Julien ที่ Chiboust bakery บนถนน Saint-Honoréในกรุงปารีส มันประกอบด้วยสวนผสมง่ายๆอย่างแป้งชู คาราเมลเป็นตัวประสานและครีม ครับ
ตัวเเป้งทำมาได้บางกรอบไม่รู้สึกเหนียวแม้จะเคลือบคาราเมลรสหวานนำที่เพิ่มเท็กเจอร์ความกรอบหนุบหนับในปากก่อนตามด้วยครีมเนื้อฟูเบา เป็นขนมจานเรียบๆที่ทำออกมาได้ดีเเละอร่อยมากๆครับ กินกับผลไม้สดจากฟรั่งเศสรสเปรี้ยวแล้วเข้ากันดีมากๆครับ
Petit Four
#Score: AD
Visit : Jun-2023
🗺เเผนที่ :
https://www.chatrium.com/grandbangkok/dining/casia
⏰เวลาเปิดปิด: 5:30–10 PM
💵ค่าเสียหาย: ~3500+580 Baht ++
⌨️เว็บไซต์ร้าน:
https://www.chatrium.com/grandbangkok/dining/casia
เราเป็นเพจรีวิวร้านอาหาร Fine dining แบบจริงใจและเจาะลึกทั้งในไทยทั่วโลก
ชอบช่วยกดไลค์ ใช่ช่วยกดเเชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้เรา #บอสพาชิม #eatliketheboss
Website: www.eatlikethebossth.com
InstaGram: @eatliketheboss (
https://goo.gl/DqzWfN )
FaceBook: บอสพาชิม (
https://goo.gl/gHPnnG)
Blogdit:
https://www.blockdit.com/eatliketheboss
Email : eatlikethebossth@gmail.com
[SR] บอสพาชิม : Casia Fine French Mediterranean cuisine
วันนี้เป็นรีวิวร้านอาหารน้องใหม่ใจกลางเมือง Casia ที่โรงแรมChatrium Grand Bangkok Casiaนั้นเป็นอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนี่ยน-ฟรั่งเศส ที่มีทั้ง A la carte เเละ course menu โดยในวันนี้ที่ผมได้ลองเป็น Course 3500++ (7คอร์ส) แต่ทางร้านยังมีคอร์ส 4900++(9 คอร์ส) อีกด้วย โดยไม่รวมคอร์สชีสที่สามารถ add on ได้อีกด้วย
ร้านตั้งอยู่ ชั้น7ของโรงแรมริมสระน้ำ การตบแต่งให้ฟิลเมดิเตอร์เรเนียน โทนอบอุ่นสบายตา เข้ากับอาหารของทางร้าน การตบแต่งนั้นเป็นการตบแต่งในสไตล์ที่ผมชอบครับแม้จะเป็นร้านอาหารไฟน์ไดน์แต่ก็รู้สึกอบอุ่นเเละไม่อึดอัดเคร่งครึมมีบรรยากาศสบายๆ มีวิวสวยๆทั้งวิวเมืองเเละสีเขียว สามารถดูพระอาทิตย์ตกได้ดี ผมแนะนำให้เริ่มมื้ออาหารเร็วสักนิด เราจะได้บรรยากาศที่หลายหลากของกรุงเทพ
แม้จะมีราคากลางๆค่อนไปทางสูงแต่ด้วยวัตถุดิบที่ใช้ของนำเข้าจากฟรั่งเศสเป็นส่วนใหญ่ จะว่าแพงก็คงไม่ได้ ผมว่าราคานั้นค่อนข้างเหมาะสมคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้รับ โดยได้เชฟJerome Bondaz มาควบคุมห้องอาหาร โดยเชฟมีพื้นเพมาจากsavoieซึ่งสามารถสังเกตได้จากอาหารหลายๆจานที่มีกลิ่นอายของบ้านเกิดเชฟ ผสมผสานกับสไตล์อาหารแบบสเปนนิชเมดิเตอร์เรเนี่ยน ก่อนจะปรับรสชาติให้ถูกลิ้นคนไทยด้วยการลองเทสอาหารปรับรสชาติอยู่นาน รวมทั้งเชฟเคยทำงานอยู่ที่ Jaime by Jean michel lorain อยู่ระยะนึง ออกมาเป็นอาหารเมดิเตอร์เรเนียนที่ถูกปรับรสให้ถูกปากคนไทย
อาหารของที่นี้นั้นทำออกมาได้ละเอียดละออ รสชาติที่เริ่มต้นด้วยamuse bouche รสเบามีความเปรี้ยวสดชื่นแต่ทว่ากลมกล่อม ค่อยไล่ความเข้นข้นขึ้นไปจบที่Main course อาหารของที่นี้เเต่ละจานมีความซับซ้อนในเทคนิค มีองค์ประกอบเยอะเเละเท็กนิคหลากหลาย ในส่วนของขนมหวานนั้นผมค่อนข้างเเปลกใจที่เลือกเสริฟ์เมนูคลาสสิกอย่าง st honore ที่ค่อนข้างจะดูแตกต่างกับอาหารสไตล์ contemporary ของทางร้านอยู่ไม่น้อย แต่พอได้รับประทานเเล้วก็ต้องยอมรับว่าทำออกมาได้เฉียบขาดจริงๆ
สำหรับการบริการแม้จะพึ่งเปิดใหม่เเต่ผมอยากชื่นชมทีมของร้านCasiaจริงๆ มีความเนี้ยบแต่ทว่ามีความเป็นกันเองรุ้สึกอบอุ่น การพรีเซ้นท์อาหารเเต่ละจานทำออกมาได้ดีมากๆ ที่ชื่นชมมากเป็นพิเศษ เห็นจะเป็น การอธิบายชีสที่ทำออกมาได้ดี น่าสนใจ มีเรื่องราว แต่ทว่าเข้าใจง่าย เหมาะกับมือใหม่ที่ไม่ค่อยได้ลองชีสที่หลากหลายมากนั้น
จานอื่นในเมนูจะมีอะไรบ้างไปชมคำบรรยายตามรูปเลยครับ
ระหว่างรออาหารทางโรงแรมนำขนมปังและเนยมาให้รองท้องก่อนครับโดยเป็น Blacksalt กับเนยจาก Echire ฟรั่งเศส และเนย Smoked Papika ซิกเนเจอร์ของทางร้าน โดยรับประทานกับSour dough ผิวรัสติก รสไม่เปรี้ยวบ่มมาก และ baguette
"Amuse Bouche Aperitive"
Espuma potato bleu blanc ออนท็อปด้วย caviar และ chives ครับ
คำนี้รสเบา ได้ความหอมของมันฟรั่งใหม่ กรอบ มีซิตรัสจากเลม่อนและ พริกไทยอร่อย รสครีมมี่ เปรี้ยวอมหวานสดชื่น ตัดฉุนเขียวๆเบาๆของchive ก่อนปิดท้ายด้วยรสเค็มละมุนจากคาเวียร์ เป็นจานที่ดูเรียบๆแต่ทว่า บาลานซ์รสได้ดี เเละน่าสนใจมากๆครับ
Phyllo, hamachi cheviche ออนท็อปด้วย coriander & lemon gel คำนี้เเป้งกรอบดี ปลาฮามาจิเนื้อมันมีกลิ่นควันนิดๆเค็มอมหวานนิดๆ ตัดกับรสเปรี้ยวอมหวานของเลม่อน
Ravioli prawn & pochini คำนี้มีPhylloอยู่ด้านล่างเท็กเจอร์คล้ายเเครกเกอร์ครับ ตัวราวิโอลินั้นแป้งบางเบา ไส้มีความหวานจากเนื้อกุ้งคาบัชโช่ และรสเค็มอมหวานมีกลิ่นผิวซิตรัสอ่อนๆที่ปลายจมูก
Omble Chevalier
Spring Tart, Artichoke Poivrade & Wild Rocket, Beaufort Cream
Omble Chevalier หรือ Artic char โดยเชฟนำมาbrine และบ่มด้วยวิธีเฉพาะทำให้หน้าตาอาจจะไม่เหมือน char ปกติ ก่อนนำไปหมักกับซอสน้ำผึ้งบัลซามิก เสริฟ์มาในทาร์ต ไส้Artichoke puree ออนท็อปข้างบนด้วยสลัดrocket แก่นตะวันกรอบและ ไข่ปลาเทร้าท์ ก่อนตบแต่งด้วยซอสจากชีสBeaufort
เป็นจานสลัดที่อลังการดีจริงๆ รสตอนแรกได้ยินถึงชีสเเล้วคิดว่าต้องเข้มข้นหนักแน่ๆ แต่ก็ไม่เลยเป็นจานที่เบาๆทานง่ายครับ โดยบริกรแนะนำให้เราเริ่มจากรสเบาไปหาหนัก คือให้เรากินสลัดร็อคเกตที่มีรสเขียวอันเเสนเป็นเอกลักษณ์ ตามด้วยรสหวานนำผึ้งอมเปรี้ยวนิดๆของบัลซามิกที่เคลือบมากับปลาเนื้อกรุบ ต่างจาก Char ที่คุ้นชิน
ก่อนปิดท้ายด้วยเเป้งเนื้อบางเบา กรอบเเละรสครีมมี่ของชซอสชีส เป็นจานที่องคประกอบมากแต่ลง ทำได้ดีมากครับ
Razor Clam & Vongole
Tied in Warm "Pil-Pil", Pickled Chanterelle, Seaweed, Fava Beans
จานนี้เป็นหอย Razor clam และ Vongole เสริฟ์มากับซอสPil Pil ซอสขึ้นชื่อของเเคว้นBasque ในสเปน ซึ่งมีส่วนประกอบจากกระเทียม พริก และน้ำมันมะกอก อันนี้รสโปร่งเผ็ดร้อนเบาๆ ตัวหอยหนุบหนับไม่สุกจนเหนียวครับ
ส่วนหอยลายนั้นเท็กเจอร์ก็ดีเช่นกัน หอยดีไม่สุกไป หนึบๆมีรสหวานอ่อนๆ ตัดกับความนุ่มของถั่วฟาว่ารสหวาน กรอบกรุบของสาหร่าย รสเปรี้ยวอมหวานจากเห็ดChanterelleดอง ก่อนปิดท้ายด้วยรสซอสมันๆคล้ายเนยกะเทียม ผมชอบองค์ประกอบที่หลากหลายทว่ากลมกล่อมครบทั้งรสและเท้กเจอร์ในจานนี้มากๆครับ ทำออกได้สมดุล และอร่อย
Squid
Stuffed Mediterranean Style, Mini Zucchini, Tomato Confit
โดยจานนี้เป็นปลาหมึกที่นำไปa la brasa แบบสเปน ตัวปลาหมึกเท็กเจอร์ดีมีความกรุบนิดๆแต่เนื้อไม่เหนียวหอมควัน ราดด้วยซอส jus รมควันรสอุมามิอ่อนๆมีความเข้มข้นแบบทะเลนิดๆสโม็คกี้หน่อยๆ ก่อนเสริฟ์มากับ zuchini confit, tomato confit และ ดอกzuchiniยัดไส้Shallot ซึ่งอร่อยมากๆ เป็นจานเบาๆเบรคก่อนเข้าสู่จานหลักได้ดีครับ
Red Mullet & Langoustine
My Interpretation of "Bouillabaisse", Potato & Fennel, Condiments
โดยเป็นrefine version of "Bouillabaisse"ในแบบของเชฟ เซฟเลือกเสริฟ์ปลามากับซุปBouillabaisse reduction และ บาเกต ที่มีความเข้มข้นขึ้นจนมีความรู้สึกเป็นซอส ส่วนตัวเนื้อlangustine นั้นทำมาได้ดีมาก เนื้อไม่เละเป็นของดี หวาน เนื้อกรอบ ทำมาได้ไม่สุกมาก น่าจะเป็นแลงกุสตีนที่ดีที่สุดที่ผมเคยทานในไทยเลยครับ ส่วนเครื่องเคียงนั้นมีทั้ง Rui sauce , picada เฮเซลนัทพริก , Aloli ตัวผักอย่างเบบี้เฟนเนล และมันฟรั่ง ที่ช่วยเปลี่ยนรสเเละเพิ่มความหลากหลายใหักับจานนี้ได้ดี
Bresse Pigeon
Carrot overlays, Romaine Lettuce, Smoked Leg Confit, Intense Jus
พิเจี้ยนนั้นใช้ของจากBresse เชฟนำส่วนอกไปอบเเละsearเพื่อเพิ่มcrushที่ผิว ส่วนขานั้นนำไปconfitและรมควัน ก่อนราดด้วยซอส Pigeon jus เครื่องเคียงเป็นผักคอสยัดไส้และแครอท จานนี้นกทำได้ดีมากๆ ผมว่าคนที่กลัวเนื้อนกที่ชุ่มฉ่ำเเดงจัดน่าจะรับประทานนกพิราบของที่นี้ได้อย่างไม่ยาก ตัวเนื้อส่วนอกนุ่มมากๆแต่ไม่รู้สึกแห้งหรือชุ่มเลือดจนคาว ตรงนี้ทำได้ยากมากๆครับที่จะกะให้พอดี ขอชื่นชม ส่วนอกถ้าหนังเเห้งเเละกรอบอีกนิดจะเทพเลยครับ ส่วนตัวขานั้นเนื้อร่วนนุ่มรสจัดกว่าส่วนอก ทำมาได้ดีเช่นกัน เป็นจานที่ทำออกมาได้ดีเเละอร่อยครับ
ชีสของที่นี้เป็นชีสจากฟรั่งเศสเสียเยอะ ไม่ว่าจะเป็น beaufort de savoie , Reblochon หรือ Tomme de savoie ที่มาจากบ้านเกิดเชฟ หรือจะเป็นBrillat-Savarin cheese ซึ่งจานนี้เป็น additional ที่ต้องสั่งเพิ่ม ผมเเนะนำคนที่ไม่ชอบชีสให้มาลองชีสคาร์ทของที่นี้ บริกรอธิบายประวัติของชีสได้อย่างสนุกสนานน่าสน รวมทั้งอธิบายคาเเรคเตอร์ของชีสต่างๆได้อย่างเข้าใจง่าย น่าจะทำให้ทุกท่านเพลิดเพลินไปกับชีสได้อย่างไม่ยาก
Apple sorbet and Chamomile jelly
St. Honore
Classic Choux, Caramel and Chantilly Cream ตอนแรกผมแอบสงสัยทำไม่มันมีขนมจานคลาสิกแบบนี้อยู่ในเมนูร้านอาหารฟรั่งเศสcontemporary พอได้กินเท่านั้นก็รู้ซึ้งเลยครับ เชฟทำได้ดีมากๆ
Gâteau St-Honoré เป็นขนมที่ตั้งชื่อตามนักบุญฮอนอเร่ นักบุญเเห่งเบเกอร์รี่ คิดค้นในปี1847 โดย Auguste Julien ที่ Chiboust bakery บนถนน Saint-Honoréในกรุงปารีส มันประกอบด้วยสวนผสมง่ายๆอย่างแป้งชู คาราเมลเป็นตัวประสานและครีม ครับ
ตัวเเป้งทำมาได้บางกรอบไม่รู้สึกเหนียวแม้จะเคลือบคาราเมลรสหวานนำที่เพิ่มเท็กเจอร์ความกรอบหนุบหนับในปากก่อนตามด้วยครีมเนื้อฟูเบา เป็นขนมจานเรียบๆที่ทำออกมาได้ดีเเละอร่อยมากๆครับ กินกับผลไม้สดจากฟรั่งเศสรสเปรี้ยวแล้วเข้ากันดีมากๆครับ
Petit Four
#Score: AD
Visit : Jun-2023
🗺เเผนที่ : https://www.chatrium.com/grandbangkok/dining/casia
⏰เวลาเปิดปิด: 5:30–10 PM
💵ค่าเสียหาย: ~3500+580 Baht ++
⌨️เว็บไซต์ร้าน: https://www.chatrium.com/grandbangkok/dining/casia
เราเป็นเพจรีวิวร้านอาหาร Fine dining แบบจริงใจและเจาะลึกทั้งในไทยทั่วโลก
ชอบช่วยกดไลค์ ใช่ช่วยกดเเชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้เรา #บอสพาชิม #eatliketheboss
Website: www.eatlikethebossth.com
InstaGram: @eatliketheboss (https://goo.gl/DqzWfN )
FaceBook: บอสพาชิม (https://goo.gl/gHPnnG)
Blogdit: https://www.blockdit.com/eatliketheboss
Email : eatlikethebossth@gmail.com
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้