“สุทิน” มั่นใจ 8 พรรคจับมือกันเหนียวแน่น โหวตนายกฯ รอบ 2
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_584157/
“สุทิน” มั่นใจ 8 พรรคจับมือกันเหนียวแน่น โหวตนายกฯ รอบ 2 ไม่มีเสียงแตกไปหนุนเสียงข้างน้อย รับโอกาสน้อยที่จะแก้ ม.272 ปิดสวิตช์ส.ว.
นาย
สุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยเปิดเผยกับสำนักข่าว INN ถึงการโหวตนายกรัฐมนตรีรอบ 2 ว่า พรรคเพื่อไทย ยังคงยึดมั่นตาม MOU ของ 8 พรรคร่วม โดยพร้อมทำตามมติของที่ประชุม 8 พรรค ไม่ว่าจะเคาะชื่อแคนดิเดตนายกฯคนใด ไปเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภา ก็จะสนับสนุนแคนดิเดต นายกฯ ที่ได้รับการเสนอชื่ออย่างเต็มที่ ชนิด 8 พรรคว่าอย่างไร เพื่อไทยก็ว่าตามนั้น ส่วนกรณีข่าวลือซีกเสียงข้างน้อย จะมีการเสนอชื่อแข่ง ก็ยืนยันว่า 8 พรรค จะยังคงเหนียวแน่น ไม่มีทางปันใจไปโหวตให้เสียงข้างน้อยอย่างแน่นอน แต่ยอมรับหนักใจ เพราะหากมีการเสนอจริง ฝ่ายนั้นมีโอกาสที่จะได้รับความเห็นชอบจาก ส.ว.ด้วยนั่นเอง
จึงต้องติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองของแต่ละกลุ่มกันอย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นการไม่ประมาท โดยในส่วนของเพื่อไทย จะมีการประชุม ส.ส.เพื่อหารือแนวทางปฏิบัติ และรับมือเกมการเมืองของฝ่ายตรงข้ามอีกครั้งก่อนวันประชุมโหวตนายกฯ
พร้อมกันนี้ นาย
สุทิน ยังกล่าวถึง กรณีพรรคก้าวไกล ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตัด ม.272 ปิดสวิตช์ ส.ว.ว่า เห็นด้วยในหลักการ และพร้อมสนับสนุน แต่มองเป็นการเดินผิดทาง เพราะตลอด 4 ปี ที่ผ่านมา
เมื่อครั้งเป็นฝ่ายค้าน ได้พยายามเสนอแก้ไขมาแล้วหลายครั้ง ก็ไม่มีครั้งไหนใกล้เคียงกับการฝ่าด่านส.ว.ในเงื่อนไข 1 ใน 3 ชั้นรับหลักการเลย จึงเชื่อว่า การดำเนินการครั้งนี้ ก็ไม่น่าต่างไปจากเดิม
รถบรรทุกสินค้า จ่อปรับขึ้นค่าขนส่ง ต้นทุนน้ำมันเพิ่ม แบกภาระไม่ไหว วอนเร่งตั้งรัฐบาล
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7768088
นครราชสีมา รถบรรทุกสินค้าภาคอีสาน จ่อปรับขึ้นค่าขนส่ง รัฐไม่ต่ออายุมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซล ต้นทุนน้ำมันเพิ่ม ผู้ประกอบแบกภาระไม่ไหว วอนเร่งตั้งรัฐบาลใหม่ ช่วยปรับโครงสร้างราคา
16 ก.ค. 66 – ตามที่ นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ได้ออกมาพูดถึง กรณีรัฐบาลจะไม่ต่ออายุมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซล ตั้งแต่ 21 กรกฎาคม 2566
เพื่อไม่ไห้เกิดผลผูกพันเป็นภาระงบประมาณไม่ถึงรัฐบาลใหม่ ประกอบกับสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาน้ำมันดีเซล โรงกลั่นในประเทศลดลง
ซึ่งผลของการนำเงินกองทุนมาพยุงราคาน้ำมันดีเซลอีก ทำให้ต้นทุนน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 5 บาทต่อลิตร ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ ทำให้ต้นทุนขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นด้วยประมาณ 10% และจะกระทบไปยังราคาสินค้า ทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อนไปด้วย
นายสมคิด กิ่งกรดกลาง นายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน เปิดเผยว่า การที่รัฐไม่เอาเงินกองทุนน้ำมัน ไปพยุงราคาน้ำดีเซลต่อ ย่อมจะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการขนส่งโดยส่ง เพราะรถขนส่งส่วนใหญ่จะน้ำมันดีเซล แต่ภาครัฐจะปรับขึ้นราคาน้ำมันเท่าไร ต้องรอดูอีกที
ถ้าปรับขึ้นเป็นขั้นบันได เราก็ขยับค่าขนส่งเพิ่มขึ้นตามแบบขั้นบันได เพราะราคาค่าขนส่งในปัจจุบันก็อยู่กันลำบากอยู่แล้ว ถ้าราคาน้ำมันปรับขึ้นอีก ก็จะยิ่งลำบากกันมากขึ้น และงานขนส่งในช่วงนี้ก็เงียบ ไม่ค่อยมีงาน เพราะเพิ่งจะเริ่มฤดูเพาะปลูก ไม่ใช่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต
การว่าจ้างรถบรรทุกไปขนส่งผลผลิตทางการเกษตรจึงมีน้อย คาดหวังกันว่า จะได้รัฐบาลชุดใหม่โดยเร็ว เพื่อช่วยปรับโครงสร้างราคาพลังงานให้เป็นธรรมมากยิ่งขึ้น เพราะจะรู้ที่ไปที่มาของพลังงานเชื้อเพลิง
แต่หากการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ยังยืดเยื้อออกไป จนทำให้การฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้า ทางสมาคม-สมาพันธ์ฯ ก็ต้องไปหารือกับบริษัทคู่ค้า ว่า จะสามารถรับมือกับค่าขนส่งที่ต้องปรับขึ้นได้มากน้อยเพียงใด เนื่องจากผู้ประกอบการต้องแบกภาระต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้น ทำให้จำเป็นต้องปรับค่าขนส่งเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งราคาน้ำมันอาจจะปรับขึ้นที่ละ 1 บาท 2 บาท
ขณะที่ปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลคงคลัง น่าจะอยู่ที่ลิตร 31 บาทกว่า แต่ราคาขายปลายทาง จะอยู่ที่ลิตร 32 บาทกว่า ส่วนค่าขนส่งจะอยู่ที่ตันละ 500 บาท ซึ่งพอจะวิ่งกันไหว ยังพอรับได้ ถ้าปรับราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะต้องปรับค่าขนส่งขึ้นตามเช่นกัน โดยถ้าราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นลิตรละ 1 บาท ก็อาจจะเพิ่มค่าขึ้นส่งขึ้นอีกตันละ 50 บาท เป็นต้น
นอกจากนี้ ก็ต้องไปหารือกับกองทุนน้ำมันและบริษัทผู้ค้าน้ำมันด้วย เพราะส่วนใหญ่ก่อนมีการปรับขึ้นราคาน้ำมัน บริษัทผู้ค้าน้ำมันเหล่านี้ มักจะมีน้ำมันสำรองเอาไว้ในสต๊อก ก็ต้องไปหารือว่า พอจะช่วยผู้ประกอบการขนส่งด้วยการขายน้ำมันในสต๊อกให้ในราคาเก่า ก่อนจะปรับขึ้นราคาได้หรือไม่ ถ้าตกลงกันได้ ก็จะช่วยแบ่งเบาภาระ บรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการขนส่งได้ในระดับหนึ่ง
ซึ่งวันที่ 19-20 กรกฎาคม 2566 จะเดินเข้าไปหารือร่วมกับทางสมาพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เพื่อหาแนวทางรับมือ และหาทางออกร่วมกัน โดยคาดหวังว่า จะได้รัฐบาลชุดใหม่โดยเร็ว เพื่อช่วยดึงราคาน้ำมันไม่ให้ปรับขึ้นต่อไปอีกระยะ
“ไบโอไทย” ห่วง ปชช.ต้องซื้ออาหารแพง ขอรัฐบาลใหม่แก้เกมเอลนีโญ
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4082674
“ไบโอไทย” ห่วง ปชช.ต้องซื้ออาหารแพง ขอรัฐบาลใหม่แก้เกมเอลนีโญ
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี หรือ ไบโอไทย (BIOTHAI) ให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ประเทศไทยเข้าสู่ปรากฏการณ์เอลนีโญแล้ว ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น เกิดความแห้งแล้ง และฝนขาดช่วง ซึ่งศูนย์อุตุนิยมวิทยาเฉพาะทางอาเซียน คาดการณ์ว่า เอลนีโญครั้งนี้จะยาวนานกว่าครั้งที่ผ่านมา เรียกว่า “
ดับเบิ้ลเอลนีโญ” ซึ่งประเทศไทยจะลากยาวไปถึงปี 2568
“
ผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยตรงจะเกี่ยวข้องกับการเกษตรที่ต้องใช้น้ำในการผลิต ทำให้จำนวนผลผลิตต่างๆ น้อยลง อย่างล่าสุด ประเทศอินเดียประกาศระงับการส่งออกข้าวสารแล้ว นอกจากนั้น ยังส่งผลไปถึงปัญหาฝุ่นพิษ ที่คาดว่าปีหน้าจะมีความรุนแรงมากกว่าปีนี้ เพราะฝนขาดช่วง ประกอบกับอากาศที่แห้งแล้ง” นาย
วิฑูรย์ กล่าว
ผู้อำนวยการไบโอไทย กล่าวว่า สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ใช่เกษตรกร ก็จะได้รับผลกระทบจากเอลนีโญอย่างแน่นอน ต้องเตรียมรับมือกับราคาอาหารที่แพงขึ้น เพราะเมื่อผลผลิตทางการเกษตรมีปริมาณลดลง ก็ทำให้ต้นทุนการผลิตต่างๆ สูงขึ้น เช่น อาหารสัตว์ ที่ทำจากข้าวโพดที่มีราคาสูงขึ้น ประกอบกับวิกฤตสงครามระหว่างประเทศ ทั้งยังส่งผลต่อเนื่องกับวิกฤตอาหารระดับโลก ครั้งที่ 5 ที่เริ่มขึ้นเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา
“
ผู้บริโภคก็เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาในเชิงนโยบายได้ ด้วยการสนับสนุนให้รัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามา แก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น บริหาระบบชลประทานให้มีความทั่วถึง การจัดสรรที่ดินให้ประชาชนมีสิทธิในการครอบครอง เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนร่วมฟื้นฟูสภาพที่ดินให้เหมาะสมกับการทำเกษตร และการบริการจัดการน้ำ ให้จัดสรรอย่างทั่วถึง ให้เกษตรกรเข้าถึงน้ำเพื่อการเกษตรได้” นาย
วิฑูรย์ กล่าว
JJNY : “สุทิน” มั่นใจ 8 พรรค│รถบรรทุกสินค้าจ่อปรับขึ้นค่าขนส่ง│ห่วงปชช.ต้องซื้ออาหารแพง│ปูตินเสนอชื่อหน.แวกเนอร์ใหม่
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_584157/
“สุทิน” มั่นใจ 8 พรรคจับมือกันเหนียวแน่น โหวตนายกฯ รอบ 2 ไม่มีเสียงแตกไปหนุนเสียงข้างน้อย รับโอกาสน้อยที่จะแก้ ม.272 ปิดสวิตช์ส.ว.
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยเปิดเผยกับสำนักข่าว INN ถึงการโหวตนายกรัฐมนตรีรอบ 2 ว่า พรรคเพื่อไทย ยังคงยึดมั่นตาม MOU ของ 8 พรรคร่วม โดยพร้อมทำตามมติของที่ประชุม 8 พรรค ไม่ว่าจะเคาะชื่อแคนดิเดตนายกฯคนใด ไปเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภา ก็จะสนับสนุนแคนดิเดต นายกฯ ที่ได้รับการเสนอชื่ออย่างเต็มที่ ชนิด 8 พรรคว่าอย่างไร เพื่อไทยก็ว่าตามนั้น ส่วนกรณีข่าวลือซีกเสียงข้างน้อย จะมีการเสนอชื่อแข่ง ก็ยืนยันว่า 8 พรรค จะยังคงเหนียวแน่น ไม่มีทางปันใจไปโหวตให้เสียงข้างน้อยอย่างแน่นอน แต่ยอมรับหนักใจ เพราะหากมีการเสนอจริง ฝ่ายนั้นมีโอกาสที่จะได้รับความเห็นชอบจาก ส.ว.ด้วยนั่นเอง
จึงต้องติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองของแต่ละกลุ่มกันอย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นการไม่ประมาท โดยในส่วนของเพื่อไทย จะมีการประชุม ส.ส.เพื่อหารือแนวทางปฏิบัติ และรับมือเกมการเมืองของฝ่ายตรงข้ามอีกครั้งก่อนวันประชุมโหวตนายกฯ
พร้อมกันนี้ นายสุทิน ยังกล่าวถึง กรณีพรรคก้าวไกล ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตัด ม.272 ปิดสวิตช์ ส.ว.ว่า เห็นด้วยในหลักการ และพร้อมสนับสนุน แต่มองเป็นการเดินผิดทาง เพราะตลอด 4 ปี ที่ผ่านมา
เมื่อครั้งเป็นฝ่ายค้าน ได้พยายามเสนอแก้ไขมาแล้วหลายครั้ง ก็ไม่มีครั้งไหนใกล้เคียงกับการฝ่าด่านส.ว.ในเงื่อนไข 1 ใน 3 ชั้นรับหลักการเลย จึงเชื่อว่า การดำเนินการครั้งนี้ ก็ไม่น่าต่างไปจากเดิม
รถบรรทุกสินค้า จ่อปรับขึ้นค่าขนส่ง ต้นทุนน้ำมันเพิ่ม แบกภาระไม่ไหว วอนเร่งตั้งรัฐบาล
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7768088
นครราชสีมา รถบรรทุกสินค้าภาคอีสาน จ่อปรับขึ้นค่าขนส่ง รัฐไม่ต่ออายุมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซล ต้นทุนน้ำมันเพิ่ม ผู้ประกอบแบกภาระไม่ไหว วอนเร่งตั้งรัฐบาลใหม่ ช่วยปรับโครงสร้างราคา
16 ก.ค. 66 – ตามที่ นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ได้ออกมาพูดถึง กรณีรัฐบาลจะไม่ต่ออายุมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซล ตั้งแต่ 21 กรกฎาคม 2566
เพื่อไม่ไห้เกิดผลผูกพันเป็นภาระงบประมาณไม่ถึงรัฐบาลใหม่ ประกอบกับสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาน้ำมันดีเซล โรงกลั่นในประเทศลดลง
ซึ่งผลของการนำเงินกองทุนมาพยุงราคาน้ำมันดีเซลอีก ทำให้ต้นทุนน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 5 บาทต่อลิตร ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ ทำให้ต้นทุนขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นด้วยประมาณ 10% และจะกระทบไปยังราคาสินค้า ทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อนไปด้วย
นายสมคิด กิ่งกรดกลาง นายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน เปิดเผยว่า การที่รัฐไม่เอาเงินกองทุนน้ำมัน ไปพยุงราคาน้ำดีเซลต่อ ย่อมจะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการขนส่งโดยส่ง เพราะรถขนส่งส่วนใหญ่จะน้ำมันดีเซล แต่ภาครัฐจะปรับขึ้นราคาน้ำมันเท่าไร ต้องรอดูอีกที
ถ้าปรับขึ้นเป็นขั้นบันได เราก็ขยับค่าขนส่งเพิ่มขึ้นตามแบบขั้นบันได เพราะราคาค่าขนส่งในปัจจุบันก็อยู่กันลำบากอยู่แล้ว ถ้าราคาน้ำมันปรับขึ้นอีก ก็จะยิ่งลำบากกันมากขึ้น และงานขนส่งในช่วงนี้ก็เงียบ ไม่ค่อยมีงาน เพราะเพิ่งจะเริ่มฤดูเพาะปลูก ไม่ใช่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต
การว่าจ้างรถบรรทุกไปขนส่งผลผลิตทางการเกษตรจึงมีน้อย คาดหวังกันว่า จะได้รัฐบาลชุดใหม่โดยเร็ว เพื่อช่วยปรับโครงสร้างราคาพลังงานให้เป็นธรรมมากยิ่งขึ้น เพราะจะรู้ที่ไปที่มาของพลังงานเชื้อเพลิง
แต่หากการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ยังยืดเยื้อออกไป จนทำให้การฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้า ทางสมาคม-สมาพันธ์ฯ ก็ต้องไปหารือกับบริษัทคู่ค้า ว่า จะสามารถรับมือกับค่าขนส่งที่ต้องปรับขึ้นได้มากน้อยเพียงใด เนื่องจากผู้ประกอบการต้องแบกภาระต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้น ทำให้จำเป็นต้องปรับค่าขนส่งเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งราคาน้ำมันอาจจะปรับขึ้นที่ละ 1 บาท 2 บาท
ขณะที่ปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลคงคลัง น่าจะอยู่ที่ลิตร 31 บาทกว่า แต่ราคาขายปลายทาง จะอยู่ที่ลิตร 32 บาทกว่า ส่วนค่าขนส่งจะอยู่ที่ตันละ 500 บาท ซึ่งพอจะวิ่งกันไหว ยังพอรับได้ ถ้าปรับราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะต้องปรับค่าขนส่งขึ้นตามเช่นกัน โดยถ้าราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นลิตรละ 1 บาท ก็อาจจะเพิ่มค่าขึ้นส่งขึ้นอีกตันละ 50 บาท เป็นต้น
นอกจากนี้ ก็ต้องไปหารือกับกองทุนน้ำมันและบริษัทผู้ค้าน้ำมันด้วย เพราะส่วนใหญ่ก่อนมีการปรับขึ้นราคาน้ำมัน บริษัทผู้ค้าน้ำมันเหล่านี้ มักจะมีน้ำมันสำรองเอาไว้ในสต๊อก ก็ต้องไปหารือว่า พอจะช่วยผู้ประกอบการขนส่งด้วยการขายน้ำมันในสต๊อกให้ในราคาเก่า ก่อนจะปรับขึ้นราคาได้หรือไม่ ถ้าตกลงกันได้ ก็จะช่วยแบ่งเบาภาระ บรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการขนส่งได้ในระดับหนึ่ง
ซึ่งวันที่ 19-20 กรกฎาคม 2566 จะเดินเข้าไปหารือร่วมกับทางสมาพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เพื่อหาแนวทางรับมือ และหาทางออกร่วมกัน โดยคาดหวังว่า จะได้รัฐบาลชุดใหม่โดยเร็ว เพื่อช่วยดึงราคาน้ำมันไม่ให้ปรับขึ้นต่อไปอีกระยะ
“ไบโอไทย” ห่วง ปชช.ต้องซื้ออาหารแพง ขอรัฐบาลใหม่แก้เกมเอลนีโญ
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี หรือ ไบโอไทย (BIOTHAI) ให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ประเทศไทยเข้าสู่ปรากฏการณ์เอลนีโญแล้ว ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น เกิดความแห้งแล้ง และฝนขาดช่วง ซึ่งศูนย์อุตุนิยมวิทยาเฉพาะทางอาเซียน คาดการณ์ว่า เอลนีโญครั้งนี้จะยาวนานกว่าครั้งที่ผ่านมา เรียกว่า “ดับเบิ้ลเอลนีโญ” ซึ่งประเทศไทยจะลากยาวไปถึงปี 2568
“ผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยตรงจะเกี่ยวข้องกับการเกษตรที่ต้องใช้น้ำในการผลิต ทำให้จำนวนผลผลิตต่างๆ น้อยลง อย่างล่าสุด ประเทศอินเดียประกาศระงับการส่งออกข้าวสารแล้ว นอกจากนั้น ยังส่งผลไปถึงปัญหาฝุ่นพิษ ที่คาดว่าปีหน้าจะมีความรุนแรงมากกว่าปีนี้ เพราะฝนขาดช่วง ประกอบกับอากาศที่แห้งแล้ง” นายวิฑูรย์ กล่าว
ผู้อำนวยการไบโอไทย กล่าวว่า สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ใช่เกษตรกร ก็จะได้รับผลกระทบจากเอลนีโญอย่างแน่นอน ต้องเตรียมรับมือกับราคาอาหารที่แพงขึ้น เพราะเมื่อผลผลิตทางการเกษตรมีปริมาณลดลง ก็ทำให้ต้นทุนการผลิตต่างๆ สูงขึ้น เช่น อาหารสัตว์ ที่ทำจากข้าวโพดที่มีราคาสูงขึ้น ประกอบกับวิกฤตสงครามระหว่างประเทศ ทั้งยังส่งผลต่อเนื่องกับวิกฤตอาหารระดับโลก ครั้งที่ 5 ที่เริ่มขึ้นเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา
“ผู้บริโภคก็เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาในเชิงนโยบายได้ ด้วยการสนับสนุนให้รัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามา แก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น บริหาระบบชลประทานให้มีความทั่วถึง การจัดสรรที่ดินให้ประชาชนมีสิทธิในการครอบครอง เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนร่วมฟื้นฟูสภาพที่ดินให้เหมาะสมกับการทำเกษตร และการบริการจัดการน้ำ ให้จัดสรรอย่างทั่วถึง ให้เกษตรกรเข้าถึงน้ำเพื่อการเกษตรได้” นายวิฑูรย์ กล่าว