รถไฟไทยทำนี่ คือรถไฟที่คนไทยทำเอง ผลิตเอง คาดหวังว่าจะมาทำการพาณิชย์แข่งกับรถโดยสารและเครื่องบิน ตัวรถหรูน่าใช้บริการมาก ก็เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมในฝีมือคนไทยมาก รถไฟที่คนไทยสามารถทำเองได้เป็นครั้งแรก ลดการพึ่งพาจากต่างชาติ ลดการจ่ายเงินออกนอกประเทศ เงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น ส่งเสริมเศรษฐกิจภายในประเทศมากขึ้น
"พบกันเร็วๆ นี้ “รถไฟไทยทำตู้แรก” 32 ล้าน ใส่ฟังก์ชันห้องโดยสารเครื่องบิน"
https://www.dailynews.co.th/news/2290435/
รถไฟไทยทำเองนี้ ก็มีความคาดหวังที่จะทำธุรกิจการเดินทางแข่งกับรถโดยสารและเครื่องบินด้วย การออกแบบภายในตัวรถนี่ ทำหรูเทียบเท่าเครื่องบิน ผู้ได้มาใช้บริการคงประทับใจมากทีเดียว
แต่สิ่งที่สามารถตอบโจทย์การเดินทางได้มากที่สุด ไม่ใช่รถที่หรูหรา ไม่ใช่การออกแบบตัวรถที่สวยงาม สิ่งที่ตอบโจทย์ให้กับผู้เดินทางที่ดีที่สุดคือ เวลาเดินทาง ยิ่งถึงจุดหมายปลายทางเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี ความหรูหราสะดวกสบายและการบริการที่ดีเป็นสิ่งตอบโจทย์แก่ผู้โดยสารที่รองลงมา
ต้องวางแผนจัดการเวลาเดินทางให้ดีก่อน ให้รวดเร็วทันใจผู้โดยสารก่อน ค่อยมาสร้างความหรูหราความสะดวกสบายทีหลัง
รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพ-โคราชที่จะมาในอนาคต ค่าตั๋วโดยสาร 538 บาท ใช้เวลาวิ่งจากกรุงเทพถึงโคราช 1 ชั่วโมง 17 นาที
รถบัสโดยสารทั่วไป ค่าตั๋วโดยสาร 220 บาท ใช้เวลาวิ่งจากกรุงเทพถึงบขส.โคราช 3 ชั่วโมง 30 นาทีถึง 4 ชั่วโมง แต่หากรถติดก็เลย 4 ชั่วโมงขึ้นไป
รถไฟธรรมดา ก็ควรจะให้อยู่ราว 2 ชั่วโมง 30-45 นาที ราวๆไม่เกิน 2 ชั่วโมง 30 นาที น่าจะดีที่สุด ค่าตั๋วน่าจะซัก 250-260 บาทน่าจะ work
ถ้าทำทางคู่เสร็จแล้ว ที่คาดการณ์ไว้คือ รถไฟใช้เวลาวิ่งจากกรุงเทพถึงปากช่องประมาณ 3 ชั่วโมง อย่างงี้ก็ยังไม่น่าไปแข่งกับใครเขาได้หรอก ยังไม่ตอบโจทย์ ยังไม่ได้เร็วกว่ารถโดยสารธรรมดาเท่าไร มันต้องเร็วกว่านั้น ต้องเร็วกว่ารถโดยสารทั่วไป
ถ้ารถไฟธรรมดาวิ่งจอดแบบรถไฟความเร็วสูงได้ก็จะดีมาก จอดเฉพาะสถานที่สำคัญประจำจังหวัดนั้นๆเช่น รถไฟกรุงเทพ-โคราช ก็วิ่งออกจากบางซื่อ แล้วก็จอดแค่ดอนเมือง อยุธยา สระบุรี ปากช่อง โคราช เพื่อทำเวลาให้ได้เร็วที่สุด แล้วเอารถไฟไทยทำคอยรับผู้โดยสารที่ลงสถานีใหญ่ของจังหวัดแต่ยังต้องการเดินทางต่อไปยังสถานีย่อยๆข้างหน้า ให้รถไฟไทยทำคอยรับส่งผู้โดยสารประเภทนี้ เช่น ผู้โดยสารรถไฟต้องการเดินทางจากกรุงเทพไปลงสถานีโนนสูงซึ่งเป็นสถานีเล็ก อยู่เลยจากสถานีโคราชไปซัก 7 สถานี ก็ให้ผู้โดยสารลงที่สถานีโคราช และนั่งรถไฟไทยทำคันเล็กมีเพียง 25 ที่นั่งไปต่อข้างหน้าตามสถานีย่อยต่างๆและลงที่สถานีโนนสูง ซึ่งจะเป็นการกระจายความเจริญไปยังพื้นที่สถานีย่อยๆของแต่ละจังหวัดได้อย่างดีด้วย
รถไฟไทยทำนี่เหมาะที่จะวิ่งขนส่งระหว่างจังหวัดต่อจังหวัดเท่านั้น ไม่เหมาะจะเดินทางข้ามไป 3-4 จังหวัดหรอก ที่นั่งมันน้อยแค่ 25 ที่นั่ง ถ้าเดินทางข้ามไป 3-4 จังหวัด ควรจะมีซัก 200-300 ที่นั่ง รอรถไฟไทยทำมีการสร้างขบวนใหม่ซัก 200 ที่นั่งขึ้นไป ค่อยมาวิ่งไกลๆข้ามไป 3-4 จังหวัด ส่วนขบวนเล็กที่ทำแล้วในวันนี้ก็เอาไว้ส่งระหว่างจังหวัดต่อจังหวัด สถานีใหญ่ต่อสถานีใหญ่ก็พอ เช่น โคราชไปขอนแก่น หัวหินไปประจวบคีรีขันธ์ โดยที่รถไฟไทยทำจะจอดทุกสถานีเล็กทุกสถานีที่อยู่ระหว่างจังหวัด
รถไฟไทยทำนี่ น่าจะให้รองรับผู้โยสารรถไฟความเร็วสูงด้วย คือ ให้รองรับทั้งผู้โดยสารทั้งรถไฟทางคู่และรถไฟควาเร็วสูงที่ต้องเดินทางไปยังสถานีย่อยของจังหวัดนั้นๆ อย่างงี้น่าจะคุ้มค่ากับที่ทำมา คงจะมีผู้โดยสารเยอะมากทีเดียว
ถึงวันนี้จะยังไม่มีทั้งรถไฟความเร็วสูงและรถไฟทางคู่ เพราะบางส่วนยังไม่เรียบร้อยดี ก็สามารถนำรถไฟไทยทำมาทดลองเปิดบริการในเมืองใหญ่ๆได้ เช่น โคราช-ขอนแก่น เส้นทางนี้ทำรางคู่เรียบร้อยแล้ว ก็นำรถไฟไทยทำมาเปิดบริการ จอดทุกสถานีเล็กระหว่างโคราชถึงขอนแก่น
สิ่งที่น่าจะทำอีกอย่างหนึ่งคือ รถไฟข้ามภาค เช่น เชียงใหม่(เหนือ)-สงขลา(ใต้) อุบลราชธานีธานี(อีสาน)-นครศรีธรรมราช(ใต้)
ถ้าทำรถไฟรางคู่เสร็จหมด ก็น่าจะเอารถไฟนอนมาวิ่งข้ามระหว่างภาคด้วย เช่น จากเชียงใหม่วิ่งเข้ากรุงเทพ วิ่งต่อไม่ต้องเปลี่ยนขบวนแล้ววิ่งต่อไปตลิ่งชันลงไปภาคใต้ ออกจากเชียงใหม่ตอนเย็น นอนหลับในรถไฟ ตื่นขึ้นมาตอนเช้าที่สงขลา รถไฟจะจอดแค่สถานีใหญ่ของจังหวัดเท่านั้น เพื่อทำเวลาให้ถึงปลายทางในเช้าวันถัดไป
เมื่อรางคู่เสร็จหมด รถไฟนอนก็คงไม่มีความจำเป็นสำหรับใช้เดินทางจากกรุงเทพไปยังภาคต่างไป เพราะการเดินทางจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ก็คงแค่ 5-6 ชั่วโมงสำหรับรถไฟทางคู่ และไม่เกิน 3 ชั่วโมงครึ่งสำหรับรถไฟความเร็วสูง และใครจะไปสถานีย่อยของแต่ละจังหวัดก็เอารถไฟไทยทำต่อไปอีกที
ถ้าทำระบบทางคู่ได้เสร็จอย่างรวดเร็วทั่วประเทศก็ยิ่งเป็นการกระจายคนออกสู่ต่างจังหวัด กระจายความเจริญออกสู่ต่างจังหวัดได้ดี คนที่ไม่ได้ร่ำรวยมาก พอมีพอกิน ก็เลือกที่จะไปซื้อบ้านตามต่างจังหวัดง่ายขึ้น
ทุกวันนี้ การที่คนจะไปซื้อบ้านตามต่างจังหวัด ก็เอื้อให้แค่คนรวยมากกว่า เพราะการเดินทางมากรุงเทพ พอจะจ่ายตั๋วเครื่องบินมาได้ แต่ถ้ามีรถไฟความเร็วสูงและรถไฟทางคู่ก็จะมีตัวเลือกในการเดินทางที่มีความเร็วและราคาที่รองลงมา พอให้คนที่มีฐานะที่ต่ำลงมาสามารถที่จะเลือกตามความเหมาะสมได้ง่ายขึ้น
พูดถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวนี่ ระหว่างรถโดยสารธรรมดากับรถไฟ รถโดยสารจะตอบโจทย์ส่งเสริมการท่องเที่ยวมากกว่า เพราะรถโดยสารจะพาแล่นไปให้เห็นถนนหนทาง ตึกรามบ้านช่องในเมืองนั้นๆได้มากกว่า รถไฟวิ่งข้ามเมืองหลายช่วงก็เห็นแต่ป่าไม้ เห็นแต่ทุ่งนา เพราะฉะนั้นจึงต้องหาทางให้รถไฟได้เดินทางได้ด้วยความเร็วสูงสุด จะเป็นการตอบโจทย์เดินทางด้วยรถไฟมากกว่า
รถไฟไทยทำ การตอบโจทย์เดินทาง ตอบด้วยรถหรูหรือด้วยเวลาเดินทาง
"พบกันเร็วๆ นี้ “รถไฟไทยทำตู้แรก” 32 ล้าน ใส่ฟังก์ชันห้องโดยสารเครื่องบิน"
https://www.dailynews.co.th/news/2290435/
รถไฟไทยทำเองนี้ ก็มีความคาดหวังที่จะทำธุรกิจการเดินทางแข่งกับรถโดยสารและเครื่องบินด้วย การออกแบบภายในตัวรถนี่ ทำหรูเทียบเท่าเครื่องบิน ผู้ได้มาใช้บริการคงประทับใจมากทีเดียว
แต่สิ่งที่สามารถตอบโจทย์การเดินทางได้มากที่สุด ไม่ใช่รถที่หรูหรา ไม่ใช่การออกแบบตัวรถที่สวยงาม สิ่งที่ตอบโจทย์ให้กับผู้เดินทางที่ดีที่สุดคือ เวลาเดินทาง ยิ่งถึงจุดหมายปลายทางเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี ความหรูหราสะดวกสบายและการบริการที่ดีเป็นสิ่งตอบโจทย์แก่ผู้โดยสารที่รองลงมา
ต้องวางแผนจัดการเวลาเดินทางให้ดีก่อน ให้รวดเร็วทันใจผู้โดยสารก่อน ค่อยมาสร้างความหรูหราความสะดวกสบายทีหลัง
รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพ-โคราชที่จะมาในอนาคต ค่าตั๋วโดยสาร 538 บาท ใช้เวลาวิ่งจากกรุงเทพถึงโคราช 1 ชั่วโมง 17 นาที
รถบัสโดยสารทั่วไป ค่าตั๋วโดยสาร 220 บาท ใช้เวลาวิ่งจากกรุงเทพถึงบขส.โคราช 3 ชั่วโมง 30 นาทีถึง 4 ชั่วโมง แต่หากรถติดก็เลย 4 ชั่วโมงขึ้นไป
รถไฟธรรมดา ก็ควรจะให้อยู่ราว 2 ชั่วโมง 30-45 นาที ราวๆไม่เกิน 2 ชั่วโมง 30 นาที น่าจะดีที่สุด ค่าตั๋วน่าจะซัก 250-260 บาทน่าจะ work
ถ้าทำทางคู่เสร็จแล้ว ที่คาดการณ์ไว้คือ รถไฟใช้เวลาวิ่งจากกรุงเทพถึงปากช่องประมาณ 3 ชั่วโมง อย่างงี้ก็ยังไม่น่าไปแข่งกับใครเขาได้หรอก ยังไม่ตอบโจทย์ ยังไม่ได้เร็วกว่ารถโดยสารธรรมดาเท่าไร มันต้องเร็วกว่านั้น ต้องเร็วกว่ารถโดยสารทั่วไป
ถ้ารถไฟธรรมดาวิ่งจอดแบบรถไฟความเร็วสูงได้ก็จะดีมาก จอดเฉพาะสถานที่สำคัญประจำจังหวัดนั้นๆเช่น รถไฟกรุงเทพ-โคราช ก็วิ่งออกจากบางซื่อ แล้วก็จอดแค่ดอนเมือง อยุธยา สระบุรี ปากช่อง โคราช เพื่อทำเวลาให้ได้เร็วที่สุด แล้วเอารถไฟไทยทำคอยรับผู้โดยสารที่ลงสถานีใหญ่ของจังหวัดแต่ยังต้องการเดินทางต่อไปยังสถานีย่อยๆข้างหน้า ให้รถไฟไทยทำคอยรับส่งผู้โดยสารประเภทนี้ เช่น ผู้โดยสารรถไฟต้องการเดินทางจากกรุงเทพไปลงสถานีโนนสูงซึ่งเป็นสถานีเล็ก อยู่เลยจากสถานีโคราชไปซัก 7 สถานี ก็ให้ผู้โดยสารลงที่สถานีโคราช และนั่งรถไฟไทยทำคันเล็กมีเพียง 25 ที่นั่งไปต่อข้างหน้าตามสถานีย่อยต่างๆและลงที่สถานีโนนสูง ซึ่งจะเป็นการกระจายความเจริญไปยังพื้นที่สถานีย่อยๆของแต่ละจังหวัดได้อย่างดีด้วย
รถไฟไทยทำนี่เหมาะที่จะวิ่งขนส่งระหว่างจังหวัดต่อจังหวัดเท่านั้น ไม่เหมาะจะเดินทางข้ามไป 3-4 จังหวัดหรอก ที่นั่งมันน้อยแค่ 25 ที่นั่ง ถ้าเดินทางข้ามไป 3-4 จังหวัด ควรจะมีซัก 200-300 ที่นั่ง รอรถไฟไทยทำมีการสร้างขบวนใหม่ซัก 200 ที่นั่งขึ้นไป ค่อยมาวิ่งไกลๆข้ามไป 3-4 จังหวัด ส่วนขบวนเล็กที่ทำแล้วในวันนี้ก็เอาไว้ส่งระหว่างจังหวัดต่อจังหวัด สถานีใหญ่ต่อสถานีใหญ่ก็พอ เช่น โคราชไปขอนแก่น หัวหินไปประจวบคีรีขันธ์ โดยที่รถไฟไทยทำจะจอดทุกสถานีเล็กทุกสถานีที่อยู่ระหว่างจังหวัด
รถไฟไทยทำนี่ น่าจะให้รองรับผู้โยสารรถไฟความเร็วสูงด้วย คือ ให้รองรับทั้งผู้โดยสารทั้งรถไฟทางคู่และรถไฟควาเร็วสูงที่ต้องเดินทางไปยังสถานีย่อยของจังหวัดนั้นๆ อย่างงี้น่าจะคุ้มค่ากับที่ทำมา คงจะมีผู้โดยสารเยอะมากทีเดียว
ถึงวันนี้จะยังไม่มีทั้งรถไฟความเร็วสูงและรถไฟทางคู่ เพราะบางส่วนยังไม่เรียบร้อยดี ก็สามารถนำรถไฟไทยทำมาทดลองเปิดบริการในเมืองใหญ่ๆได้ เช่น โคราช-ขอนแก่น เส้นทางนี้ทำรางคู่เรียบร้อยแล้ว ก็นำรถไฟไทยทำมาเปิดบริการ จอดทุกสถานีเล็กระหว่างโคราชถึงขอนแก่น
สิ่งที่น่าจะทำอีกอย่างหนึ่งคือ รถไฟข้ามภาค เช่น เชียงใหม่(เหนือ)-สงขลา(ใต้) อุบลราชธานีธานี(อีสาน)-นครศรีธรรมราช(ใต้)
ถ้าทำรถไฟรางคู่เสร็จหมด ก็น่าจะเอารถไฟนอนมาวิ่งข้ามระหว่างภาคด้วย เช่น จากเชียงใหม่วิ่งเข้ากรุงเทพ วิ่งต่อไม่ต้องเปลี่ยนขบวนแล้ววิ่งต่อไปตลิ่งชันลงไปภาคใต้ ออกจากเชียงใหม่ตอนเย็น นอนหลับในรถไฟ ตื่นขึ้นมาตอนเช้าที่สงขลา รถไฟจะจอดแค่สถานีใหญ่ของจังหวัดเท่านั้น เพื่อทำเวลาให้ถึงปลายทางในเช้าวันถัดไป
เมื่อรางคู่เสร็จหมด รถไฟนอนก็คงไม่มีความจำเป็นสำหรับใช้เดินทางจากกรุงเทพไปยังภาคต่างไป เพราะการเดินทางจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ก็คงแค่ 5-6 ชั่วโมงสำหรับรถไฟทางคู่ และไม่เกิน 3 ชั่วโมงครึ่งสำหรับรถไฟความเร็วสูง และใครจะไปสถานีย่อยของแต่ละจังหวัดก็เอารถไฟไทยทำต่อไปอีกที
ถ้าทำระบบทางคู่ได้เสร็จอย่างรวดเร็วทั่วประเทศก็ยิ่งเป็นการกระจายคนออกสู่ต่างจังหวัด กระจายความเจริญออกสู่ต่างจังหวัดได้ดี คนที่ไม่ได้ร่ำรวยมาก พอมีพอกิน ก็เลือกที่จะไปซื้อบ้านตามต่างจังหวัดง่ายขึ้น
ทุกวันนี้ การที่คนจะไปซื้อบ้านตามต่างจังหวัด ก็เอื้อให้แค่คนรวยมากกว่า เพราะการเดินทางมากรุงเทพ พอจะจ่ายตั๋วเครื่องบินมาได้ แต่ถ้ามีรถไฟความเร็วสูงและรถไฟทางคู่ก็จะมีตัวเลือกในการเดินทางที่มีความเร็วและราคาที่รองลงมา พอให้คนที่มีฐานะที่ต่ำลงมาสามารถที่จะเลือกตามความเหมาะสมได้ง่ายขึ้น
พูดถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวนี่ ระหว่างรถโดยสารธรรมดากับรถไฟ รถโดยสารจะตอบโจทย์ส่งเสริมการท่องเที่ยวมากกว่า เพราะรถโดยสารจะพาแล่นไปให้เห็นถนนหนทาง ตึกรามบ้านช่องในเมืองนั้นๆได้มากกว่า รถไฟวิ่งข้ามเมืองหลายช่วงก็เห็นแต่ป่าไม้ เห็นแต่ทุ่งนา เพราะฉะนั้นจึงต้องหาทางให้รถไฟได้เดินทางได้ด้วยความเร็วสูงสุด จะเป็นการตอบโจทย์เดินทางด้วยรถไฟมากกว่า