แมวปิฬาร์ รุ่งอรุณแห่งปลาย่าง......2/2 จบ

กระทู้สนทนา


บทที่แล้ว (1/2)
https://pantip.com/topic/41935385

...............  ถ้าพบจะกระโดดกัดเคี้ยวให้สะใจ กลืนลงไปในท้องจนหมด คาดว่าบรรพบุรุษของปลาย่าง ต้องเคยก่อกรรมทำเข็ญกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อนอย่างหนักหนาสาหัส ถึงลงทุนมาเข้าฝันแบบนี้

-------------

2/2

               สักพักก็เห็นหนูแจ๋วเดินบิดเอวส่ายสะโพกร้องเพลงหมอลำซิ่ง กลับมาจากปากซอย แถมบางจังหวะยังมีการมูนวอล์กหรือ แบ็กสไลด์ ด้วยการอากัปกิริยาเดินไปข้างหน้า แต่ความจริงแล้วกำลังเดินถอยไปข้างหลัง   กระนั้นหมูแจ๋วยังถือถุงพลาสติกบรรจุสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นในการทำงานบ้านหรือทำครัวแน่นไม่ยอมหล่น
 
                แมวปิฬาร์มองแล้ว รู้สึกผิดหวังนิดๆ ว่าวันนี้คนรับใช้ของบ้านไม่ได้ซื้อปลาย่างหรือไก่ย่างมาฝาก คงเป็นเพราะยังเช้าอยู่นั่นเอง ร้านส้มตำประจำซอยยังไม่พร้อมบริการ

               จมูกของแมวปิฬาร์ก็เริ่มได้กลิ่นปลาย่างโชยมาตามสายลม  แต่ไม่ใช่ฝีมือของหนูแจ๋วแน่นอน เพราะเพิ่งกลับมาจากปากซอย ถ้าอย่างนั้นคงเป็นผลงานของบ้านใกล้เรือนเคียงนี่เอง  
 
               พอได้กลิ่นปลาย่าง เสมือนดั่งอาถรรพ์วิญญาณร้ายเริ่มเข้าครอบงำทันที แมวสาวยืนหมุนตัว หันรีหันขวางอยู่บนกำแพงรั้วด้วยอาการเคลิบเคลิ้มเลื่อนลอยราวโดนมนตร์สะกด จนเผลอตัวเดินเยาะย่างเยื้องกายมาถึงกำแพงรั้วข้างบ้านเพื่อน ความใจลอยทำให้ก้าวเท้าผิดจังหวะ หัวทิ่มแบบไร้ลีลา ร่วงลงไปยังพื้นที่ในเขตของเพื่อนบ้านดังแอ่ก...จุกเจ็บ...นั่งน้ำตาไหลพรากอาบแก้ม

               รู้สึกว่าเรื่องร้าย ๆ จากปลาย่าง เริ่มมาเยือนเร็วกว่าคาดคิด

               “โฮก!”

               เสียงเห่าคำรามดังสนั่นหู จนรู้สึกว่าโลกกำลังสะท้านสะเทือน ทำให้ลืมอาการเจ็บจุกไปในทันใด เหลียวหันไปมองต้นเสียงยิ่งใจหายวาบ
สุนัขพันธ์อัลเซเชียนตัวมหึมา ปรากฏกายด้วยท่าทางสยดสยอง พกความโหดเต็มพิกัด ใบหน้าบูดบึ้งบอกปลาย่างไม่รับ โผล่ออกมาจากประตูหน้าบ้าน แยกเขี้ยวขาววาววับพุ่งตรงเข้าใส่แบบหมากระหายเลือดอย่างรวดเร็ว

                แมวปิฬาร์มองแวบเดียวแล้วก็รู้ว่าหมาพันธุ์นี้ไม่มีทางคุยกันไม่รู้เรื่องแน่นอนเพราะบุคลิกไม่ให้ และตอนนี้ตัวเองอยู่ในเขตบ้านของคนอื่นเสียแล้ว จึงรีบกระโดดแผลวตัวลอยด้วยความตกใจขึ้นไปบนกำแพงรั้ว แม้ว่าจะกระโดดแบบสุดช่วงตัว แต่กะระยะผิดเพราะความรีบร้อน ทว่ายังมีสติและเร็วพอจะใช้เท้าหน้าตะกายกำแพงรั้วไว้ทันหวุดหวิด ตัวห้อยต่องแต่งไปมาอย่างน่าหวาดเสียว

               สุนัขมหาโหดกระโดดลอยตัวขึ้นมางับทันที  มันไม่ชอบกินแมว แต่ชอบเคี้ยวแมวเล่นแก้กลุ้ม แมวปิฬาร์ร้องออกมาแทบไม่เป็นภาษาแมว ตะกายเท้าหลบแบบสุดแรงเกิด โดยมีเขี้ยวสยองงับเฉียดปลายหางพลาดไปเพียงเส้นยาแดงผ่าสิบหก หางสวย ๆ แทบถูกงับขาด
 
               ความตกใจทำให้การทรงตัวไม่ดี เลยหัวทิ่มลงไปยังพื้น  ความตกใจทำให้รีบลุกชี้นวิ่งเปลี่ยนเป้าหมายการหลบภัยเป็นการวิ่งเข้าหาตัวบ้านตามสัญชาตญาณพื้นฐาน  ว่าบ้านเป็นแหล่งหลบภัยดีที่สุด จนลืมนึกไปว่าบ้านที่กำลังวิ่งเข้าหานั้นไม่ใช่บ้านตัวเองเลยสักนิด ประตูหน้าปิดสนิทไม่มีประตูแมวลอด เสียงเห่ากระโชกคำรามตามมาติด ๆ  ทำให้ต้องรีบเผ่นอ้อมไปด้านข้างจัวบ้านแบบไม่มีทางเลี่ยง โดยมีหมาอสูรพันธุ์โหดเจ้าบ้านกวดตามมาแบบหวุดหวิดหวาดเสียว
 
               นั่นหน้าต่างห้องครัวหลังบ้านเปิดอยู่ แบบเชิญชวนเต็มที่ ไม่ต้องเสียเวลาคิด แมวสาวกระโจนตัวลอยอย่างสวยงาม พุ่งพรวดเข้าไปทันที ไม่สนใจละว่าจะมีอะไรรออยู่ด้านใน เอาตัวรอดไว้ก่อน

               ใต้หน้าต่างเป็นอ่างล้างจานที่มีถ้วยชามยังไม่ได้ล้างกองพะเนินอยู่เต็ม แมวปิฬาร์หล่นโครมลงไปแบบไม่ตั้งใจ เพราะความตกใจเลยดิ้นปัด ๆ จนเท้าทั้งสี่ตีน้ำปนน้ำยาล้างจานเป็นฟองฟู่ขึ้นมาทันที เหวี่ยงเอาถ้วยชามกระทบกระแทกกันดังโครมครามสนั่นหวั่นไหว บางส่วนกระเด็นลงไปแตกกระจายเกลื่อนบนพื้นห้อง ขณะฟองสีขาวก่อตัวสูงขึ้นทุกทีราวมายากล

              "หนอย...เจ้าแมวจอมซน!!!"

               ผู้หญิงทำครัววัยกลางคน รูปร่างท้วมโผล่มาจากห้องน้ำด้านข้าง  ร้องอย่างโมโหด้วยท่าทางไม่ได้ใจดีเหมือนหนูแจ๋วเลยสักนิด ในมือถือไม้ถูพื้นควงไปมา แต่ไม่กล้าตีวงสวิง เพราะกลัวโดนถ้วยชามในอ่างล้างจาน

               แมวปิฬาร์พอเห็นก็โก่งตัวขนพองสยองแสยง  ร้องเสียงหลง กระโดดพรวดเดียวออกจากอ่างล้างจานในสภาพเปียกปอน มุดเข้าใต้ราวบันใดนั่งตัวสั่นงันงก เปียกก็เปียก หนาวก็หนาว แต่ท่าทางปลอดภัยเพราะใต้บันไดบ้านหลังนี้เป็นแหล่งเก็บข้าวของเต็มไปหมด ยากต่อการตามเข้ามาตีแมว

               "ออกมาซะดี ๆ!"  หญิงคนนั้นท้าวเอวร้องด้วยสีหน้าท่าทางเดือดดาล เพราะอยู่ ๆ ก็มีแมวเข้าบ้านแบบไม่ได้รับเชิญ  ทำให้กลายเป็นภาระในการออกแรงไล่โดยไม่จำเป็น แถมทำถ้วยชามแตกเสียหายอีกต่างหาก

               ออกไปให้โง่นะสิ ปิฬาร์เป็นแมวก็จริงแต่ไม่ได้โง่นี่นา…ปลาย่างก็ยังไม่ได้กิน ทั้งตกกำแพง ทั้งหมาไล่กัด ทั้งตกอ่างล้างชาม แล้วยังจะมาโดนตี อะไรมันจะซวยซับซวยซ้อนขนาดนี้

               เสียงฝีเท้าเดินกึก ๆ ครู่หนึ่งแล้วเงียบไป  คงรอดปลอดภัยแล้ว แต่ในที่สุดก็มีเสียงลมและกลิ่นเหม็น ๆ ฟู่ฉีดเข้ามาใส่เต็มหน้า

               "นี่แนะ...ไม่ยอมออกมาดี ๆ เรอะ!"

               เสียงคำรามดุดันมุ่งร้ายของหญิงคนนั้น ใจร้ายที่สุดของที่สุด คุณเธอถึงกับเอาสเปรย์ฉีดยุงฉีดเข้ามายังมุมอับใต้บันได เห็นเราเป็นยุงหรือไง แมวนะไม่ใช่ยุง  กลิ่นเหม็นของสารเคมีอันตรายทำเอาแมวจอมยุ่งไอแค่ก ๆ ไม่เป็นภาษาแมว…แต่เรื่องอะไรจะออกไปเจอวงสวิงไม้กวาดที่ตั้งท่ารออยู่ข้างนอก เหม็นยาฆ่าแมลงแค่ไหนก็ต้องจำทน  ร้องเมี้ยวด่าไปคำหนึ่งพลางหดตัวเข้าไปข้างในลึกเข้าไปอีก ยอมทนต่อกลิ่นเหม็นสุดร้ายกาจ

               ใต้บันไดเต็มไปด้วยข้าวของระเกะระเกะ…และ สักพักก็ได้เริ่มกลิ่นหนูปนมากับกลิ่นยาฉีดยุง

               นั่นไง หนูพ่อ-แม่ ลูก สี่ตัวตาแป๋ว กอดคอกันตัวสั่นงันงกมองมาจากมุมมืดด้านในสุดด้วยสายตาเหมือนจะบอกว่าอย่าทำอะไรฉันนะตัวเอง....ภาพแมวตัวเปียกโชก  มีฟองสีขาวเกาะตามตัวเต็มไปหมด เป็นภาพสยองที่พวกหนูไม่เคยเห็นมาก่อนเป็นแน่ ถึงได้พากันมีสีหน้าท่าทางหวาดกลัวจนตัวสั่นงันงก

               “เงี้ยว!”

               แมวปิฬาร์กระโดดโหยงเหยงไปมาแม้พื้นที่จะแคบและสกปรก หนูเป็นสิ่งเกลียดกลัวชวนขนลุกที่สุด ไม่รู้เป็นเพราะพันธุกรรมหรือติดใครมา ที่แน่ ๆไม่อยากใกล้ ไม่อยากเห็น ไม่อยากจับ ไม่อยากพานพบประสบสายตา ไม่...ไม่...ไม่...

               เท้าข้างหนึ่งไปสะกิดเอาดักหนูวางอยู่ด้านข้างโดยไม่ตั้งใจ

              ฉั่บ!

               เมี้ยว...!
     
               กับดักหนูสับลงแบบโดนเฉียด ๆ เพราะปิฬาร์เป็นแมวเท้าไวไร้เงา  ดึงเท้าออกมาได้ทัน แต่ก็ทำให้ตกใจสะดุ้งจนต้องกระโดดตัวลอย พอหล่นลงมาก็วิ่งหน้าตั้งออกมาจากใต้บันไดสุดกำลัง พุ่งลอดระหว่างขาของแม่บ้านจอมโหดแบบกะทันหันไม่ทันตั้งตัว สร้างรอยน้ำเปียกหยดเป็นทางยาวเข้าไปในบ้านทั้งที่ไม่ใช่บ้านตัวเองสักนิด แม่บ้านคนนั้นร้องเสียงหลงเพราะความเชื่อว่า ใครก็ตามโดนแมววิ่งลอดระหว่างขา จะโชคร้ายอาจถึงขั้นหกล้มแขนขาหักทั้งวัน หรือถึงขั้นพิกลพิการ
 
               พอลอดขาแม่บ้านมหาโหดได้ ก็เจอหมาหน้าโหดยืนแยกเขี้ยวรออยู่

               และเพราะไม่ใช่บ้านตัวเอง จึงไม่คุ้นเคยกับสถานที่ พอไม่ชินสถานที่จึงไม่รู้ว่าพื้นของห้องลื่นมากกว่าคาดคิด เพราะเจ้าของบ้านขัดถูลงพื้นห้องด้วยสารสร้างความมันวาวลื่นชั้นดี แมวปิฬาร์เสียการควบคุมทิศทาง เบรกไม่อยู่  ลื่นพรืดตรงไปหาเจ้าหมาตัวโตผู้แยกเขี้ยวยิ้มหวาน อ้าปากกว้างรออยู่ตรงประตูอย่างไม่มีทางหลบเลี่ยง

               ตายสถานเดียวแบบนี้

               เท้าแมวตะกายถอยหลังราวจักรผันไม่คิดชีวิต แต่เพราะแรงเฉื่อยและความลื่นของพื้นทำให้ร่างยังคงพุ่งเป็นแนวเส้นตรง ไปยังปากอันเต็มไปด้วยเขี้ยวยาวสยองโหด

              มือใครคนหนึ่งคว้าหมับเข้าคอดึงขึ้นในเสี้ยววินาทีแบบเกือบตาย หวุดหวิดจะโดนเจ้าสุนัขใจร้ายขย้ำ

               "ต้ายตาย...แมวข้างบ้านนี่เอง น่ารักจังเลย"

               นั่นเป็นคุณนายเจ้าของบ้านหลังนี้ ไม่รู้ว่าโผล่มาตอนไหนและเห็นเหตุการณ์น่ากลัวโดยบังเอิญ จึงคว้าแมวสาวขึ้นมาแบบหวุดหวิด พลางจ้องมองดูอย่างเมตตา เจ้าหมาหน้าโหดหลบออกไปจากห้องอย่างหมารู้ คุณนายข้างบ้านยืนลูบหัวแมวน่ารักเล่นพักหนึ่ง แล้วจัดการหาผ้าเช็ดตัวมาเช็ดให้จนสะอาด

               “คุณนายคะ..”   คนครัวจอมโหดหลังจากด้อม ๆ มอง ๆ อยู่พักหนึ่งจึงได้จังหวะยืนหน้ามาทำท่าจะฟ้อง แต่คุณนายของบ้านโบกมือทำท่าไม่ใส่ใจ ทำให้คนจอมฟ้องต้องล่าถอยกลับไปอย่างผิดหวังในการล้างแค้นแมวจอมซน

              "ฝากไว้ก่อนเถอะแก...”  คนครัวแอบแยกเขี้ยวใส่ปิฬาร์ แบบแค้นฝังหุ่นท้วม ๆ ของนาง

               จ้างก็ไม่กลัว...ปิฬาร์ร้องท้าทายด้วยภาษาแมว แน่จริงอย่าใช้เครื่องทุ่นแรงสิ มากัดกันเลยดีกว่า  ดูสิว่าใครจะกัดเก่งกว่ากัน  หรือจะเล่นสงครามเล็บกันก็ได้ ไม่กลัวอยู่แล้ว

               คุณนายเดินอุ้มแมวปิฬาร์อย่างนุ่มนวล มือลูบหัวของแมวจอมซนอย่างเอ็นดู ก่อนวางแมวน่ารักลงมาบนพื้น พูดอย่างชื่นชม

               "เจ้าเหมียวสวยน่ารักเสียด้วย...!"

               แมวปิฬาร์ยิ้มแก้มปริเมื่อมีคนชม เพราะเป็นแมวบ้ายอ หายเหนื่อยหายตกใจเป็นปลิดทิ้ง  รีบแสดงอาการประจบทันทีเป็นการตอบแทน โดยการคลอเคลียพันแข้งพันขายกใหญ่ จนโดนเหยียบหางเข้าทีหนึ่งแบบไม่ตั้งใจ แต่แมวทนได้เพราะโดนชมว่าน่ารักไปหยก ๆ อย่างไรก็ไม่เจ็บมาก ยังยิ้มได้เต็มหน้า  ในที่สุดเจ้าของบ้านผู้ใจดีก็อุ้มปิฬาร์ขึ้นมาอีก เดินตรงเข้าไปในครัวพลางบอกด้วยน้ำเสียงเปี่ยมเมตตา

               "โอ๋..!!!! เดี๋ยวจะเอาปลาย่างให้กินสักตัวนะ พอดีมีเหลือตัวหนึ่ง"

               แมวสาวตัวยาวยิ้มปากกว้างด้วยความดีใจ (อีกแล้ว) กลิ่นปลาย่างหอม โอ้ย…น้ำลายไหล คอยดูนะ จะกินให้อร่อยให้สาแก่ใจ ซู้ด...เอื๊อก...หอม…ชอบที่สุด นี่ละที่ว่าในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดีลอยมาให้ได้สัมผัสเสมอ คุณนายข้างบ้านวางแมวลงบนพื้นโต๊ะอาหาร ก่อนหยิบปลาย่างตัวหนึ่งจากจานบนโต๊ะห้องครัวยื่นมาข้างหน้า  แมวสาวหลับตาอ้าปากสูดกลิ่นหอมเย้ายวนรัญจวนใจเต็มปอด จะได้กินปลาย่างแก้ความฝันก็ครานี้ละ

               "เอ๊ะ!"

               ปลาย่างถูกดึงกลับกะทันหัน ทำเอาอ้าปากค้างคากลางอากาศ เสียงคุณนายบ่นเหมือนคนฉุกใจคิดได้

               "นี่มันแมวข้างบ้านเพื่อนเราด้วย ให้กินปลาเดี๋ยวก้างติดคอตาย เจ้าของจะมาว่าเราได้ ไม่ดีแน่ เอาปลาย่างเอาไปให้เจ้าปุ้มปุ้ยดีกว่า"
   
               “มิอ๊าว!”

               แมวปิฬาร์ร้องสุดเสียงด้วยความไม่พอใจ หนอย...มาเปลี่ยนใจกลางอากาศให้ฝันสลายได้อย่างไร แมวก็มีหัวใจ ความเสียดายจึงใช้ความรวดเร็วกระโดดงับปลาย่างทันที แต่เจ้าของบ้านดึงปลาย่างหลบอย่างหวุดหวิด ก่อนเดินจับหางปลาแกว่งเป็นวงกลมเล่น เดินออกจากห้อง ตรงไปยังหน้าบ้านโดยมีแมวสาวเดินตามอย่างงงันกับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์   

               คุณนายสาวโยนปลาย่างให้เจ้าสุนัขหน้าโหดตัวนั้นซึ่งหมอบทำหน้าเซ็ง ๆ เฉยอยู่ ตอนนี้เจ้าหมาเริ่มเปลี่ยนสีหน้าไปในทางที่ดีเมื่อได้กลิ่นปลาย่าง ก้มลงพิสูจน์กลิ่นให้แน่ใจ ก่อนเงยหน้ามองแมวคู่กรณีอย่างเยาะเย้ยเหมือนจะบอกว่า ปลาย่างข้าใครอย่าแตะ แล้วก้มลงคาบปลาย่างส่ายหน้าไปมาอย่างออกลีลา

....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่