อ่านเรื่องราววันที่ 4 ได้ที่นี่
https://pantip.com/topic/41832858
อ่านเรื่องราววันที่ 3 ได้ที่นี่
https://pantip.com/topic/41828254
อ่านเรื่องราววันที่ 2 ได้ที่นี่
https://pantip.com/topic/41826655
อ่านเรื่องราวของวันแรกได้ที่นี่
https://pantip.com/topic/41824902
วันที่ 5 หาดบางเบิด(บางสะพาน)-ทุ่งคา (ชุมพร)
***นักปั่นทัวร์ริ่งต่างชาติ และเรื่องราวดีๆ จากการหลงทาง***
9:20 กล่าวลาพี่บุญชูเจ้าของแหลมเทียนแค็มปิ้งแล้วผมก็ออกเดินทางต่อ ผ่านหน้าวัดบางเบิดเห็นคุณลุงท่านหนึ่งกำลังทำความสะอาดบริเวณหน้าวัด เข้าไปทักทายได้ความว่าวัดบางเบิดกำลังเตรียมงานปิดทองฝังลูกนิมิตช่วงตรุษจีน แกชวนให้ผมมาเที่ยว แต่ผมคงไม่มีเวลา แกถามผมว่าจะไปไหน ผมบอกว่าจะเข้าตัวเมืองชุมพร แกอธิบายเส้นทางซะระเอียดยิบ ผมก็ได้แต่ยิ้มพยักหน้า ที่จริงผมตั้ง GPS ไว้แล้ว ที่ตัวเมืองชุมพร
09:40 แวะกินกาแฟที่ร้านกาแฟหน้าหาดบางเบิดชื่อ ร้านครัวกล้วยหอม ระหว่างรอกาแฟ หาเรื่องคุยกับเจ้าของร้าน
“ใกล้ปีใหม่แล้ว ขายดีมั้ย” ผมถาม
“ไม่ค่อยดีเลย คนไม่ค่อยมี” แม่ค้ากาแฟตอบ
“นี่มันวันธรรมดา ถ้าเป็นเสา-อาทิตย์น่าจะดีขึ้น”...ผมพูดให้กำลังใจ
“ก็เท่านี้แหละพี่ ไม่เยอะหว่านี้หรอก นี่ได้ข่าวว่าเค้าขอร้องไม่ให้จัดงานปีใหม่กันอยู่”
“แม่ค้าที่ตลาดก็ไม่กล้าซื้อวัตถุดิบมาเก็บไว้มาก หนูไปตลาดก็ไม่กล้าซื้อของไว้มาก โควิด ก็ 3 ปีแล้ว ปีนี้ว่าจะกลับเป็นปกติ แต่ก็ดูเหมือนจะยังไม่ปกติ” แม่ค้าบ่นให้ผมฟัง
“เดี๋ยวก็ดีขื้นเองแหละ” ผมก็ได้แต่พูดแนวนี้ แต่ที่จริง แม่ค้าเค้าก็คงรู้ดีกว่าผม
กาแฟหมดแก้วแล้ว ผมลาแม่ค้ากาแฟหาดบางเบิด มุ่งหน้าสู่ตัวเมืองชุมพร
ตามเส้นทาง 3374 ถนนจากหาดบางเบิดสู่ตัวเมืองชุมพร ถนนเส้นนี้ตรง ยาว รถน้อยมากปั่นสบาย ๆ มีนักปั่นจักรยานทัวร์ริ่ง ปั่นสวนมาเป็นระยะ ๆ บางทีเห็นปั่นเป็นกลุ่ม บ้างก็มีหางลากพ่วงลูกมาด้วย บ้างก็มีแผงโซล่าเซลส์ติดมาด้านหลัง นักปั่นคนหนึ่ง ปั่นลงไปทางเดียวกัน เลยเข้าไปถามได้ความว่า ปั่นมาจากฝรั่งเศษ ปั่นมา 8 เดือนแล้ว ทริปนี้เป้าหมายจะปั่นให้ได้ 10,000 กม.
16:04 ผมถึงแยกแห่งหนึ่ง ถ้าเลี้ยวขวาก็จะเข้าตัวเมืองชุมพร หาที่พัก แต่ถ้าตรงไป ผมก็จะสามารถทำระยะทางวันนี้ให้ไกลขึ้นได้อีก อีกซักประมาณ 20 กม. ผมหยิบโทรศัพท์มาหาที่พักที่อยู่ติดถนนและห่างลงไปทางใต้อีกไม่เกิน 20 กม. Thung Kha garden Hostel ชื่อที่พักที่อยู่ในรัศมีที่ผมต้องการเป็นภาษาอังกฤษแสดงขึ้นมาในแผนที่GPS ผมโทรไปถามข้อมูลห้องว่าง และราคาห้อง ตกลงจองเสร็จเรียบร้อย แล้วผมโทรบอกผู้ติดตาม
“17:00 เจอกันที่ทุ่งคารีสอร์ทนะ” ผมโทรไปบอกชื่อที่พักให้ผู้ติดตามทราบ
“ได้ ได้”...เธอรับทราบ
แล้วผมก็ปักหมุด GPS ไปที่ Thung Kha garden hostel เดินทางตรงลงใต้ สู่เป้าหมายด้วยความโล่งใจ คืนนี้มีที่พักแล้ว เหลืออีก 18 กม หกโมงเย็นก็คงถึง แบตเตอรี่ก้อนที่ 2 หมดไปตั้งแต่อยู่ 4 แยกแล้ว ใช้พลังขาอย่างเดียว แต่ก็มั่นใจว่าถึงที่หมายก่อนมืด ระหว่างปั่นชมสวนหมากสลับกับบ้านคนสองข้างทางอยู่นั้น เธอก็โทรเข้ามา
“ โรงแรมทุ่งคา มันอยู่อีกฝั่งของถนนใหญ่นะ” เธอบอก
“ไม่ใช่ อยู่ฝั่งทิศตะวันออก ไม่ต้องข้าม” ผมย้ำว่าไม่ต้องข้ามถนน
“เหรอ” แล้วเธอก็วางสายไปแบบงง ๆ
18:00 “คุณถึงที่หมายแล้ว”...GPS บอกผมอย่างนั้น
ผมหยุดรถ มองซ้าย มองขวา สองข้างทางมีแต่ต้นหมาก กับต้นปลาม
‘เอาอีกแล้ว GPS หลอกอีกแล้ว’ ผมนึกในใจ
รีบโทรหาผู้ติดตามแล้วส่งพิกัดไปให้ บอกให้มาที่นี่ด่วนเลย ไม่นานผู้ติดตามก็มาถึง เธอบอกว่า ทุ่งคารีสอร์ทอยู่อีกฝั่งของถนน ต้องข้ามไปฝั่งโน้นแล้วขับย้อนไปอีก 4 กิโล แต่ตอนนี้ไกล้มืดแล้ว ไม่ไปดีกว่าอันตราย ให้หาที่พักที่อื่น
ผมดูใน GPS แล้ว ที่พักไกล้ที่สุด ที่อยู่ฝั่งเดียวกับเราอยู่ห่างลงไปอีก 13 กม. อาจจะมืดก่อนที่จะไปถึง หาที่พัก ที่อยู่ลึกลงไปในหมู่บ้าน ไม่มีเลย
“ห้ามปั่นบนถนนใหญ่ตอนโพล้เพล้ เด็ดขาด”...เธอยื่นคำขาด
“แต่มันก็มีที่พักอยู่ที่เดียว ริมถนน ปั่นลงไปอีก 13 กม”
ถึงมันจะต้องไปถึงมืด แต่มันไม่มีทางอื่น
อย่างไรเธอก็ไม่ยอมให้ผมปั่นบนถนนใหญ่อยู่ดี
ระหว่างหาทางออกไม่ได้อยู่นั้น ก็มีชายวัยประมาณ 60 กว่า ขี่มอเตอรืไซค์ผ่านมา จอดถามว่ามีอะไรหรือเปล่า เราก็บอกปัญหาเค้าไป
“ตามผมมา เดี๋ยวหาที่พักให้ ไม่ต้องข้ามไปฝั่งโน้นหรอก อันตราย” ชายแปลกหน้าพูดด้วยน้ำเสียงแสดงถึงความหวังดี ผู้ติดตามผมยังนิ่ง ..ดูเหมือนเธอไม่ใว้ใจคนแปลกหน้าที่เสนอน้ำใจให้ แต่ผม ใจมันไปแล้ว มัวแต่เถึยงกันอยู่ข้างถนน…มึดพอดี
ผมปั่นจักรยานตามหลังมอเตอร์ไซค์ของชายแปลกหน้า ข้างหลังผมมีรถของผู้ติดตาม ตามมาในระยะที่ไม่ห่างนัก จากทางในหมู่บ้าน ไม่นาน ก็แยกเข้ามาเป็นทางส่วนตัวในสวนมะพร้าว ชายแปลกหน้าหันหลังมามองรถผมเป็นระยะ ๆ บางครั้งก็ชลอรถเพื่อให้ผมปั่นตามให้ทัน ทางเส้นนี้มาสุดสายที่บ้านชั้นเดียวขนาดย่อมกลางดงมะพร้าว ชายแปลกหน้าบอกให้ผมรออยู่หน้าบ้าน ก่อนที่จะเข้าไปคุยกับผู้ที่อยู่ในบ้าน ไม่นานชายแปลกหน้าก็ออกมาพร้อมกับหญิงสูงวัยคนหนึ่ง
“เข้ามากันก่อนซิลูก”...หญิงสุงวัยเอ่ยเชิญเราไปในบ้าน
เราสองคนรีบเข้าไปสวัสดีหญิงสูงวัยและชายแปลกหน้า พร้อมกับเล่าเรื่องราวของเราให้ฟัง ถามชื่อได้ว่า ชื่อน้าสุทินกับน้าแดง เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน น้าแดงอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว น้าสุทินอยู่คนละหมู่บ้านห่างไปอีก 3 กิโล วันนี้น้าสุทินมาเยี่ยมพี่สาวบังเอิญมาเจอพวกเราเลยชวนมาด้วย มาพักบ้านน้าแดงนี่แหละ
“แล้วกินข้าวกันมาหรือยังล่ะ” น้าแดง ถาม
“ไม่เป็นไรครับ เราพอมีมาม่า ปลากะป๋อง”
“เดี๋ยวน้าจะพาไปกินร้านอาหาร กินฟรี” น้าแดงพูดแล้วยิ้ม
“ มีชุดดำมากันหรือเปล่า” น้าสุทินถาม
“พอดีน้าแดงกำลังจะไปงานศพ เดี๋ยวไปด้วยกัน”...น้าแดงบอก
คืนนั้นพวกเรา 3 คนไปงานศพของคนในหมู่บ้าน ห่างจากบ้านน้าแดงไปประมาณ 3 กม. น้าสุทินไม่ได้ไปด้วย ระหว่างทางได้คุยกัน ทราบว่าน้าแดงเคยโดนรถชนต้องดามกระดูก เดินไม่ค่อยปกติ
พวกเราต้องคอยพยุงแกลงจากรถเข้าไปในงาน น้าแดงแนะนำให้เรารู้จักคนโน้นคนนี้พอเป็นพิธี หลายคนในงานถามน้าแดงว่าเราเป็นใคร น้าแดงบอกว่าเป็นญาติมาจากกรุงเทพ แล้วหันมายิ้มให้พวกเรา ในงาน อาหารทะเลหลากหลายเมนูถูกนำมาเสิร์ฟ ผมถามน้าแดงว่าใส่ซองเท่าไรดี น้าแดงบอก 200 พอ คนที่นี่เค้าไม่ใส่กันเยอะหรอก
หลังจากพระสวดเสร็จ เราก็กลับ น้าแดงชวนให้เข้าไปนอนในบ้าน แกบอกว่าลูกเขยแกก็ชอบนอนเต็นท์ เคยเอาเต็นท์มากางนอนหน้าบ้านใต้ต้นมะพร้าว ลูกมะพร้าวมันหล่นใส่ แต่เราก็ยังยืนยันจะขอนอนกางเต็นท์ชายคานอกบ้าน เราใช้เวลาคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวกันภายในบ้านน้าแดงพอสมควร แล้วเราก็แยกย้ายกันเข้านอน ก่อนเข้านอน น้าแดงยังเปิดประตูมาถามพวกเราว่าจะเข้าห้องน้ำให้เปิดประดูเข้ามาได้เลย ประตูไม่ได้ล๊อก
***ขอบคุณ GPS ที่พาเราหลงทางมาเจอเรื่องดี ๆ คนดี ๆ เหล่านี้***.
วันนี้เดินทางได้ 105 กม ใช้เวลาเดินทาง 8 ชม. 20 นาที
9:20 ออกจาก บ้านแหลมเทียนแค็มปิ้ง มุ่งสู่ชุมพร

แผนที่เดินทางสำหรับวันนี้
วัดบางเบิด ปรับพื้นที่เตรียมงานปิดทอง
แวะพักกินกาแฟ ริมหาดบางเบิดก่อนเดินทางยาว
โครงการถนนเรียบชายฝั่ง จากสมุทรสงครามถึง ระนอง
เข้าเขตชุมพร
นักปั่นพ่อลูกอ่อน
นักปั่นโซล่าเซลล์
นักปั่นทางไกล ตัวจริง จากฝรั่งเศษ ปั่นมา 8 เดือน 10000 กม.
นักปั่น สมัคเล่น (ผมเอง)
GPS พาหลงอีกแล้ว
น้าแดง ผู้ให้ที่พัก อาหารแก่คนหลงทาง
จักรยานไฟฟ้าทัวร์รี่ง บางบัวทอง-ขนอม (นครศรีธรรมราช) ปั่นไป บิดไป 810 กม. วันที่ 5 บางสะพาน-ชุมพร
https://pantip.com/topic/41832858
อ่านเรื่องราววันที่ 3 ได้ที่นี่
https://pantip.com/topic/41828254
อ่านเรื่องราววันที่ 2 ได้ที่นี่
https://pantip.com/topic/41826655
อ่านเรื่องราวของวันแรกได้ที่นี่
https://pantip.com/topic/41824902
วันที่ 5 หาดบางเบิด(บางสะพาน)-ทุ่งคา (ชุมพร)
***นักปั่นทัวร์ริ่งต่างชาติ และเรื่องราวดีๆ จากการหลงทาง***
9:20 กล่าวลาพี่บุญชูเจ้าของแหลมเทียนแค็มปิ้งแล้วผมก็ออกเดินทางต่อ ผ่านหน้าวัดบางเบิดเห็นคุณลุงท่านหนึ่งกำลังทำความสะอาดบริเวณหน้าวัด เข้าไปทักทายได้ความว่าวัดบางเบิดกำลังเตรียมงานปิดทองฝังลูกนิมิตช่วงตรุษจีน แกชวนให้ผมมาเที่ยว แต่ผมคงไม่มีเวลา แกถามผมว่าจะไปไหน ผมบอกว่าจะเข้าตัวเมืองชุมพร แกอธิบายเส้นทางซะระเอียดยิบ ผมก็ได้แต่ยิ้มพยักหน้า ที่จริงผมตั้ง GPS ไว้แล้ว ที่ตัวเมืองชุมพร
09:40 แวะกินกาแฟที่ร้านกาแฟหน้าหาดบางเบิดชื่อ ร้านครัวกล้วยหอม ระหว่างรอกาแฟ หาเรื่องคุยกับเจ้าของร้าน
“ใกล้ปีใหม่แล้ว ขายดีมั้ย” ผมถาม
“ไม่ค่อยดีเลย คนไม่ค่อยมี” แม่ค้ากาแฟตอบ
“นี่มันวันธรรมดา ถ้าเป็นเสา-อาทิตย์น่าจะดีขึ้น”...ผมพูดให้กำลังใจ
“ก็เท่านี้แหละพี่ ไม่เยอะหว่านี้หรอก นี่ได้ข่าวว่าเค้าขอร้องไม่ให้จัดงานปีใหม่กันอยู่”
“แม่ค้าที่ตลาดก็ไม่กล้าซื้อวัตถุดิบมาเก็บไว้มาก หนูไปตลาดก็ไม่กล้าซื้อของไว้มาก โควิด ก็ 3 ปีแล้ว ปีนี้ว่าจะกลับเป็นปกติ แต่ก็ดูเหมือนจะยังไม่ปกติ” แม่ค้าบ่นให้ผมฟัง
“เดี๋ยวก็ดีขื้นเองแหละ” ผมก็ได้แต่พูดแนวนี้ แต่ที่จริง แม่ค้าเค้าก็คงรู้ดีกว่าผม
กาแฟหมดแก้วแล้ว ผมลาแม่ค้ากาแฟหาดบางเบิด มุ่งหน้าสู่ตัวเมืองชุมพร
ตามเส้นทาง 3374 ถนนจากหาดบางเบิดสู่ตัวเมืองชุมพร ถนนเส้นนี้ตรง ยาว รถน้อยมากปั่นสบาย ๆ มีนักปั่นจักรยานทัวร์ริ่ง ปั่นสวนมาเป็นระยะ ๆ บางทีเห็นปั่นเป็นกลุ่ม บ้างก็มีหางลากพ่วงลูกมาด้วย บ้างก็มีแผงโซล่าเซลส์ติดมาด้านหลัง นักปั่นคนหนึ่ง ปั่นลงไปทางเดียวกัน เลยเข้าไปถามได้ความว่า ปั่นมาจากฝรั่งเศษ ปั่นมา 8 เดือนแล้ว ทริปนี้เป้าหมายจะปั่นให้ได้ 10,000 กม.
16:04 ผมถึงแยกแห่งหนึ่ง ถ้าเลี้ยวขวาก็จะเข้าตัวเมืองชุมพร หาที่พัก แต่ถ้าตรงไป ผมก็จะสามารถทำระยะทางวันนี้ให้ไกลขึ้นได้อีก อีกซักประมาณ 20 กม. ผมหยิบโทรศัพท์มาหาที่พักที่อยู่ติดถนนและห่างลงไปทางใต้อีกไม่เกิน 20 กม. Thung Kha garden Hostel ชื่อที่พักที่อยู่ในรัศมีที่ผมต้องการเป็นภาษาอังกฤษแสดงขึ้นมาในแผนที่GPS ผมโทรไปถามข้อมูลห้องว่าง และราคาห้อง ตกลงจองเสร็จเรียบร้อย แล้วผมโทรบอกผู้ติดตาม
“17:00 เจอกันที่ทุ่งคารีสอร์ทนะ” ผมโทรไปบอกชื่อที่พักให้ผู้ติดตามทราบ
“ได้ ได้”...เธอรับทราบ
แล้วผมก็ปักหมุด GPS ไปที่ Thung Kha garden hostel เดินทางตรงลงใต้ สู่เป้าหมายด้วยความโล่งใจ คืนนี้มีที่พักแล้ว เหลืออีก 18 กม หกโมงเย็นก็คงถึง แบตเตอรี่ก้อนที่ 2 หมดไปตั้งแต่อยู่ 4 แยกแล้ว ใช้พลังขาอย่างเดียว แต่ก็มั่นใจว่าถึงที่หมายก่อนมืด ระหว่างปั่นชมสวนหมากสลับกับบ้านคนสองข้างทางอยู่นั้น เธอก็โทรเข้ามา
“ โรงแรมทุ่งคา มันอยู่อีกฝั่งของถนนใหญ่นะ” เธอบอก
“ไม่ใช่ อยู่ฝั่งทิศตะวันออก ไม่ต้องข้าม” ผมย้ำว่าไม่ต้องข้ามถนน
“เหรอ” แล้วเธอก็วางสายไปแบบงง ๆ
18:00 “คุณถึงที่หมายแล้ว”...GPS บอกผมอย่างนั้น
ผมหยุดรถ มองซ้าย มองขวา สองข้างทางมีแต่ต้นหมาก กับต้นปลาม
‘เอาอีกแล้ว GPS หลอกอีกแล้ว’ ผมนึกในใจ
รีบโทรหาผู้ติดตามแล้วส่งพิกัดไปให้ บอกให้มาที่นี่ด่วนเลย ไม่นานผู้ติดตามก็มาถึง เธอบอกว่า ทุ่งคารีสอร์ทอยู่อีกฝั่งของถนน ต้องข้ามไปฝั่งโน้นแล้วขับย้อนไปอีก 4 กิโล แต่ตอนนี้ไกล้มืดแล้ว ไม่ไปดีกว่าอันตราย ให้หาที่พักที่อื่น
ผมดูใน GPS แล้ว ที่พักไกล้ที่สุด ที่อยู่ฝั่งเดียวกับเราอยู่ห่างลงไปอีก 13 กม. อาจจะมืดก่อนที่จะไปถึง หาที่พัก ที่อยู่ลึกลงไปในหมู่บ้าน ไม่มีเลย
“ห้ามปั่นบนถนนใหญ่ตอนโพล้เพล้ เด็ดขาด”...เธอยื่นคำขาด
“แต่มันก็มีที่พักอยู่ที่เดียว ริมถนน ปั่นลงไปอีก 13 กม”
ถึงมันจะต้องไปถึงมืด แต่มันไม่มีทางอื่น
อย่างไรเธอก็ไม่ยอมให้ผมปั่นบนถนนใหญ่อยู่ดี
ระหว่างหาทางออกไม่ได้อยู่นั้น ก็มีชายวัยประมาณ 60 กว่า ขี่มอเตอรืไซค์ผ่านมา จอดถามว่ามีอะไรหรือเปล่า เราก็บอกปัญหาเค้าไป
“ตามผมมา เดี๋ยวหาที่พักให้ ไม่ต้องข้ามไปฝั่งโน้นหรอก อันตราย” ชายแปลกหน้าพูดด้วยน้ำเสียงแสดงถึงความหวังดี ผู้ติดตามผมยังนิ่ง ..ดูเหมือนเธอไม่ใว้ใจคนแปลกหน้าที่เสนอน้ำใจให้ แต่ผม ใจมันไปแล้ว มัวแต่เถึยงกันอยู่ข้างถนน…มึดพอดี
ผมปั่นจักรยานตามหลังมอเตอร์ไซค์ของชายแปลกหน้า ข้างหลังผมมีรถของผู้ติดตาม ตามมาในระยะที่ไม่ห่างนัก จากทางในหมู่บ้าน ไม่นาน ก็แยกเข้ามาเป็นทางส่วนตัวในสวนมะพร้าว ชายแปลกหน้าหันหลังมามองรถผมเป็นระยะ ๆ บางครั้งก็ชลอรถเพื่อให้ผมปั่นตามให้ทัน ทางเส้นนี้มาสุดสายที่บ้านชั้นเดียวขนาดย่อมกลางดงมะพร้าว ชายแปลกหน้าบอกให้ผมรออยู่หน้าบ้าน ก่อนที่จะเข้าไปคุยกับผู้ที่อยู่ในบ้าน ไม่นานชายแปลกหน้าก็ออกมาพร้อมกับหญิงสูงวัยคนหนึ่ง
“เข้ามากันก่อนซิลูก”...หญิงสุงวัยเอ่ยเชิญเราไปในบ้าน
เราสองคนรีบเข้าไปสวัสดีหญิงสูงวัยและชายแปลกหน้า พร้อมกับเล่าเรื่องราวของเราให้ฟัง ถามชื่อได้ว่า ชื่อน้าสุทินกับน้าแดง เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน น้าแดงอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว น้าสุทินอยู่คนละหมู่บ้านห่างไปอีก 3 กิโล วันนี้น้าสุทินมาเยี่ยมพี่สาวบังเอิญมาเจอพวกเราเลยชวนมาด้วย มาพักบ้านน้าแดงนี่แหละ
“แล้วกินข้าวกันมาหรือยังล่ะ” น้าแดง ถาม
“ไม่เป็นไรครับ เราพอมีมาม่า ปลากะป๋อง”
“เดี๋ยวน้าจะพาไปกินร้านอาหาร กินฟรี” น้าแดงพูดแล้วยิ้ม
“ มีชุดดำมากันหรือเปล่า” น้าสุทินถาม
“พอดีน้าแดงกำลังจะไปงานศพ เดี๋ยวไปด้วยกัน”...น้าแดงบอก
คืนนั้นพวกเรา 3 คนไปงานศพของคนในหมู่บ้าน ห่างจากบ้านน้าแดงไปประมาณ 3 กม. น้าสุทินไม่ได้ไปด้วย ระหว่างทางได้คุยกัน ทราบว่าน้าแดงเคยโดนรถชนต้องดามกระดูก เดินไม่ค่อยปกติ
พวกเราต้องคอยพยุงแกลงจากรถเข้าไปในงาน น้าแดงแนะนำให้เรารู้จักคนโน้นคนนี้พอเป็นพิธี หลายคนในงานถามน้าแดงว่าเราเป็นใคร น้าแดงบอกว่าเป็นญาติมาจากกรุงเทพ แล้วหันมายิ้มให้พวกเรา ในงาน อาหารทะเลหลากหลายเมนูถูกนำมาเสิร์ฟ ผมถามน้าแดงว่าใส่ซองเท่าไรดี น้าแดงบอก 200 พอ คนที่นี่เค้าไม่ใส่กันเยอะหรอก
หลังจากพระสวดเสร็จ เราก็กลับ น้าแดงชวนให้เข้าไปนอนในบ้าน แกบอกว่าลูกเขยแกก็ชอบนอนเต็นท์ เคยเอาเต็นท์มากางนอนหน้าบ้านใต้ต้นมะพร้าว ลูกมะพร้าวมันหล่นใส่ แต่เราก็ยังยืนยันจะขอนอนกางเต็นท์ชายคานอกบ้าน เราใช้เวลาคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวกันภายในบ้านน้าแดงพอสมควร แล้วเราก็แยกย้ายกันเข้านอน ก่อนเข้านอน น้าแดงยังเปิดประตูมาถามพวกเราว่าจะเข้าห้องน้ำให้เปิดประดูเข้ามาได้เลย ประตูไม่ได้ล๊อก
***ขอบคุณ GPS ที่พาเราหลงทางมาเจอเรื่องดี ๆ คนดี ๆ เหล่านี้***.
วันนี้เดินทางได้ 105 กม ใช้เวลาเดินทาง 8 ชม. 20 นาที