JJNY : 5in1 พิษศก.เจ้าของรง.ปลิดชีพ│ชี้"BA.2.75"น่ากังวล│ทุนสำรองหลุด2.2แสนล.!│‘ชูวิทย์’แฉมาเฟียจีน│มาเก๊าขยายล็อกดาวน์

พิษศก. เจ้าของโรงงานขนมปัง ต้องกู้หนี้นอกระบบ หาทางออกไม่ได้ ปลิดชีพตัวเองลาโลก
https://www.matichon.co.th/region/news_3456992


 
สลด เจ้าของโรงงานขนมปัง เจอพิษศก. ต้องกู้หนี้นอกระบบ หาทางออกไม่ได้ปลิดชีพตัวเองลาโลก
 
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 16 กรกฎาคม ร้อยตำรวจเอกประชิด ตะไลกลาง ร้อยเวรสอบสวน สภ.โนนสูง ได้รับแจ้งมีคนพบศพผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถกระบะตู้ทึบ บริเวณทางเข้าโรงงานร้าง ริมถนนมิตรภาพ ตำบลด่านทองหลาง อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา จึงได้รุดไปตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุพร้อมด้วย หน่วยกู้ภัยฮุก 31 จุดโนนสูง
  
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะตู้ทึบบรรทุกของยี่ห้อนิสสัน สีน้ำเงิน จอดอยู่ในป่าละเมาะข้างทาง ห่างจากถนนมิตรภาพประมาณ 100 เมตร ทางเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบภายในรถพบมีผู้เสียชีวิต 1 ราย สภาพศพสวมกางเกงยีนส์เสื้อยืดสีดำ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ เพราะศพเริ่มขึ้นอืด จากการตรวจสอบภายในรถพบมีเตาอั้งโล่ อยู่บริเวณด้านหน้ารถ และ พบจดหมายเขียนข้อความสั่งเสียให้ลูก
  
โดยข้อความในจดหมายระบุว่า “พ่อเหนื่อย พ่อปิดบังทุกคนมาตลอดพ่อจำเป็นต้องพึ่งพาหนี้นอกระบบ ถ้าไม่จ่ายนอกระบบกิจการก็จะเดินต่อได้ หนี้นอกระบบไม่ต้องไปจ่ายเพราะมันกินดอกไปเยอะแล้ว เอาศพไว้เพียง 1 วัน” ถูกวางไว้ข้างๆผู้เสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
 
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตาย ชื่อนายธนันชัย แท่งทองหลาง อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานขนมปัง ในตำบลบิง อำเภอโนนสูง โดยมีพนักงานและลูกน้องวิ่งส่งขนมปังไปตามร้านค้าต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและต่างจังหวัดประมาณ 50 คน หลังจากปัญหาโควิดระบาดในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ธุรกิจโรงงานขนมปังประสบปัญหาขายไม่ได้ ทำให้นายธนันชัย ผู้ตายต้องไปกู้หนี้นอกระบบ ที่ดอกเบี้ยแพงเพื่อมาพยุงกิจการของตนเอง และถูกเจ้าหนี้ติดตามทวงถามมาโดยตลอด ทำให้นายธนันชัยเกิดความกดดัน หาทางออกไม่ได้ จึงคิดฆ่าตัวตายดังกล่าว
 
ด้าน นายสังวาร แท่งทองหลาง อายุ 83 ปี พ่อของผู้ตายบอกว่า ผู้ตายไม่เคยเล่าเรื่องการเป็นหนี้ หรือ เรื่องครอบครัวให้ฟังเลย ก่อนที่ผู้ตายจะหายออกจากบ้านไป ผู้ตายก็ออกไปซื้อขนมในตลาดเพื่อเตรียมที่จะส่งไปขายให้กับลูกค้าตามปกติ จนกระทั่งวันที่ 4 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ผู้ตายไม่กลับบ้าน ทางญาติก็เลยประกาศตามหา พร้อมทั้งไปแจ้งความคนหายไว้ในพื้นที่ สภ.โนนสูง จนกระทั่งมีชาวบ้าน ออกมาที่นาของตนเอง สังเกตเห็นรถปิกอัพของผู้ตาย จอดทิ้งไว้หลายวันจึงได้โทรศัพท์ แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนญาติผู้เสียชีวิต เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่ชัดเจนต่อไป


หมอธีระ ชี้"โอมิครอน BA.2.75"น่ากังวล ผลวิจัยพบดื้อยา หลบภูมิใกล้เคียง BA.5
https://www.nationtv.tv/news/378879900

หมอธีระ เผยความน่ากังวลต่อ โอมิครอน BA.2.75 เบื้องต้นพบดื้อกับยาแอนติบอดี หลบภูมิคุ้มกันไม่ต่างจาก BA.5 มากนัก อันตรายกับผู้เคยติดโควิดเดลตา รอผลการศึกษาอย่างเป็นทางการยืนยันลักษณะการดื้อต่อภูมิคุ้มกัน

16 กรกฎาคม 2565 สถานการณ์โควิด-19 “โอมิครอน BA.2.75” ถูกจับตาเพิ่มจาก BA.5 ที่ครองการระบาดสูงสุดในโลก ล่าสุด “หมอธีระ” รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “Thira Woratanarat” พบว่า โอมิครอน BA.2.75 เป็นอีกสายพันธุ์ย่อยที่น่ากังวล ดื้อต่อภูมิคุ้มกันไม่ต่างจาก โอมิครอน BA.5 มากนัก และยังมีผลกระทบมากับผู้ที่เคยติด โควิด-19 สายพันธุ์ เดลตา อีกด้วย มีรายละเอียดดังนี้..

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 617,204 คน ตายเพิ่ม 1,095 คน รวมแล้วติดไป 566,020,541 คน เสียชีวิตรวม 6,383,840 คน โดย 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น อิตาลี สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้
 
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 7 ใน 10 อันดับแรก และ 14 ใน 20
อันดับแรกของโลก จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 70.47 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 65.38
    
 สถานการณ์ระบาดของไทย 
จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 11 ของโลก และอันดับ 3 ของเอเชีย แม้สธ.ไทยจะปรับระบบ รายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.จนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม
 
ตัวเลขรายงานของทั่วโลก จะเห็นว่าค่าเฉลี่ย 7 วันของจำนวนติดเชื้อใหม่ต่อประชากร 1 ล้านคนของโลก ทวีป และประเทศนั้น สะท้อนให้เห็นว่ากำลังอยู่ในขาขึ้นกันเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นของไทย ที่ตัวเลขรายงานแต่ละวันนั้นไม่ได้สะท้อนจำนวนติดเชื้อใหม่ที่เกิดขึ้นจริง แต่เลือกรายงานเฉพาะที่ป่วยมารับการรักษาในโรงพยาบาล 
 
การรายงานต่ำกว่าความเป็นจริงนั้นย่อมส่งผลกระทบต่อระบบข้อมูลของสากลที่ใช้ในการเปรียบเทียบ สถานการณ์ระหว่างประเทศและภาพรวมของโลกได้
 

ทั้งนี้หากมาดูค่าเฉลี่ยรอบ 7 วันของจำนวนเสียชีวิตใหม่ต่อประชากร 1 ล้านคน จะเห็นว่า จำนวนการเสียชีวิตของไทยสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลก ของทวีปเอเชีย และสูงกว่าอีกหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ 
 
ลักษณะดังกล่าวสะท้อนให้เห็นความไม่สอดคล้องกันของตัวเลขติดเชื้อที่รายงาน และตัวเลขการเสียชีวิตซึ่งตอกย้ำว่าตัวเลขติดเชื้อที่รายงานนั้นต่ำกว่าความเป็นจริงนั่นเอง
 
ดังนั้นหากเราตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อการรับรู้ของประชาชนในประเทศ และผลกระทบต่อการเฝ้าระวังระหว่างประเทศ การกลับทิศทางนโยบายให้หันมารายงานตัวเลขการติดเชื้อที่สะท้อนสถานการณ์จริงนั้นจะเป็นประโยชน์มากกว่าการปล่อยให้เป็นไปในลักษณะที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
 
 โควิด-19 ในสหราชอาณาจักร 
 
ล่าสุด Office for National Statistics (ONS) ได้ออกรายงานวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 อัพเดตสถานการณ์ที่สำรวจการติดเชื้อ พบว่ามีการติดเชื้อโควิดกันมากขึ้นกว่าเดิม โดยพบว่าประชากรในประเทศอังกฤษ เวลส์ ไอร์แลนด์เหนือ และสก็อตแลนด์ มีการติดเชื้อโควิดคิดเป็นสัดส่วน 1:19, 1:17, 1:17, และ 1:16 ตามลำดับ
   
 อัพเดต โอมิครอน BA.2.75 (nickname: Centaurus) 
 
Yamasoba D และคณะวิจัยจากญี่ปุ่น เผยแพร่ผลการวิจัยใน bioRxiv วันที่ 15 กรกฎาคม 2565 โดยศึกษาพบว่า BA.2.75 นั้นมีลักษณะการดื้อต่อ ยาแอนติบอดี ที่ใช้ในการรักษาหลายชนิด เฉกเช่นเดียวกับโอมิครอน Omicron สายพันธุ์ย่อยที่ระบาดมาก่อน แต่ยาแอนติบอดีบางชนิดก็ยังสามารถใช้ได้ผลในการจัดการเชื้อ เช่น Regdanvimab, Sotrovimab, Tixagevimab
 
ในขณะที่ Cao YR จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เผยแพร่ผลการศึกษาในห้องปฏิบัติการแบบไม่เป็นทางการ ชี้ให้เห็นว่า BA.2.75 มีแนวโน้มจะจับกับตัวรับ ACE2 ได้มากกว่า BA.4 และ BA.5 
     
แต่ในเรื่องการดื้อต่อ ภูมิคุ้มกัน นั้น ศึกษาโดยดูภูมิคุ้มกันจากคนที่ฉีดวัคซีนแล้วเกิดติดเชื้อโรคโควิด-19 พบว่า BA.2.75 ดื้อกว่า BA.2.12.1 แต่อาจน้อยกว่า BA.4 และ BA.5 
 
ยกเว้นกรณีที่เป็น คนที่เคยติดเชื้อ สายพันธุ์เดลตา มาก่อน BA.2.75 จะดื้อต่อภูมิมากกว่าคนที่ติดเชื้อสายพันธุ์ โอมิครอน BA.1 และ BA.2 มาก่อ
     
“ อย่างไรก็ตาม คงต้องรอผลการศึกษาอย่างเป็นทางการ และจากการวิจัยอื่นๆ ในเวลาอันใกล้นี้ เพื่อให้ ยืนยันลักษณะการดื้อต่อภูมิคุ้มกันของ BA.2.75 สำหรับการระบาดของไทยเราตอนนี้ การป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอเป็นเรื่องจำเป็น เลี่ยงกิจกรรมเสี่ยง สถานที่เสี่ยง ใส่หน้ากากให้ถูกต้องนะครับ สำคัญมาก ” หมอธีระ ย้ำในตอนท้าย
 
https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid03NFvHZnxJituNBt5NNHfra4R5akJbXLo8KPVrHiinpL9vmBMNU2Lp5ehdFuji9Uzl
 

 
ทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยหลุด 2.2 แสนล้าน! ครั้งแรกในรอบ 3 ปี
https://www.thansettakij.com/money_market/532875?as=

ธปท.รายงาน เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยลดลงต่ำกว่า 2.2 แสนล้านดอลล่าร์เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ! หลังเงินบาทอ่อนค่าแตะ 36.75 บาทต่อดอลล่าร์
 
ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานตัวเลขทุนสำรองทางการระหว่างประเทศรายสัปดาห์ ณ วันที่ 8 กรกฎาคม 2565 พบว่า ระดับทุนสำรองทางระหว่างประเทศทั้งสิ้น 2.18 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากสัปดาห์ก่อน(1 ก.ค.65) และเป็นการลดลงต่ำกว่าระดับ 2.2 แสนล้านบาทเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังเงินบาทอ่อนค่าแตะ 36.75 บาทต่อดอลลาร์ 
 
อย่างไรก็ตามระดับทุนสำรองของไทย ณ สิ้นปี 2564 เคยสูงที่ระดับ 2.42 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนที่จะปรับลดลง โดยล่าสุด ณ วันที่ 3 มิ.ย. 65 เงินทุนสำรองทางการเคยอยู่ที่ระดับ 2.29 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
 
แต่หลังจากนั้นทุนสำรองเริ่มลดลงต่อเนื่องเป็น 2.26 แสนล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ หลังจากเงินบาทอ่อนค่าลงตามลำดับก่อนจะทรงตัวที่ 2.21 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ 3 สัปดาห์และล่าสุดเหลือ 2.18 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
 
ทั้งนี้เชื่อว่า ทุนสำรองที่ลดลงอย่างรวดเร็ว อาจเกิดจากการที่ธปท.นำทุนสำรองเข้าไปแทรกแซงค่าเงินบาท เพื่อไม่ให้ผันผวนหรืออ่อนค่าลงแรงจนกระทบต่อผู้ส่งออกและนำเข้าที่ไม่สามารถโค้ดราคาได้
 

 
‘ชูวิทย์’ แฉ มาเฟียจีน ฟอกเงินข้ามประเทศ ฝ่ายค้านคลำถูกทาง ศึกซักฟอกรบ.ไม่ล้มก็จุก
https://www.matichon.co.th/social/news_3457532

‘ชูวิทย์’ แฉ มาเฟียจีน ฟอกเงินข้ามประเทศ ฝ่ายค้านคลำถูกทาง ศึกซักฟอกรบ.ไม่ล้มก็จุก
 
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักษ์ประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุว่า
 
ฟอกเงินข้ามประเทศ กับศึกซักฟอกรัฐบาล
 
ถึงเวลาที่รัฐ ที่มีหน่วยงานสารพัดจะได้ตรวจสอบการลงทุนของ “มาเฟียจีน” ที่ขยายอิทธิพลเข้ามาในประเทศไทย ครอบงำธุรกิจสีเทา
การที่จีนปิดประเทศ ปิดสถานบริการต่างๆ ทำให้คนจีนเอาทั้งทุน เครื่องไม้เครื่องมือ แสง สี เสียง ขนย้ายเข้ามาที่ไทย
เรื่องลงทุนดีๆ ไม่ทำ ทำแต่ตีหัวเข้าบ้าน เรื่องอบายมุข
 
ทุนไทยสู้ทุนจีนไม่ได้ เลยตั้งชื่อเยาะเย้ยว่า “เบบี้”
 
ให้เหมือนแปลว่าเด็กๆ ใช้เงินจีนลงทุน 4-5 ร้อยล้าน แค่นี้จิ๊บจ๊อย แต่คนไทยไม่มีปัญญา
 
ถามว่ามีผลดีกับไทยหรือไม่? เพราะเล่นจ่ายจบครบทุกหน่วย ได้เงินขนกลับจีน อยากเล่นของได้ทุกอย่างครบวงจร แต่ไม่มีเงินกระเด็นถึงระบบเศรษกิจไทยสักกระผีก
 
ไอ้จีนบอกเมืองไทยนี่มันช่างสบายอะไรอย่างนี้
 
งั้นอั๊วเปิดอีกที่เลยดีกว่า ที่แรกมันเด็กๆ คราวนี้เอาแบบเบิ้มๆ ชื่อ “ซุปเปอร์” ไปเลย เอาให้ยิ่งใหญ่ใจกลางสุขุมวิท
 
ลงทุนมากกว่า ใบอนุญาตไม่ต้อง เรื่องเล็ก เพราะเงินเยอะเคลียร์ถึง
 
เดี๋ยวก็รู้ว่าตอนเปิดเคลียร์ใคร เปิดได้ไง ใหญ่โตแค่ไหน?
 
การโอนเงินใต้ดินมาไทยนี่สิครับ ผ่านใคร? สุดคลาสสิก

สำนวนไทยบอก “ถี่ลอดตาช้าง ห่างลอดตาเล็น” มันใช่เลย คือละเอียดขนาดช้างลอดได้ทั้งตัว !
ศึกซักฟอกรัฐบาลรอบนี้ คงมันส์ถึงใจพระเดชพระคุณ เพราะฝ่ายค้านเริ่มคลำถูกทาง
ไม่ล้ม ก็จุกได้เหมือนกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่