[CR] [CR] Instagramable Oman .. โอมาน ล้านรูป ^^ ไม่มีความรู้ ไม่มีข้อมูล มีแต่เงินกับใจ ถ้าเราไปได้ ใครๆ ก็ไปได้!! Part 2

ต่อกันที่ Part 2 นะคะ 
Part นี้จะไปที่เที่ยวธรรมชาติ มีความผจญภัยเท่าที่สังขารของสตรีวัยเลข3จะเอื้ออำนวยค่ะ

เพิ่มเติม Part 1 : https://pantip.com/topic/41410249

Bimmah Sinkhole

อีกหนึ่ง checkpoint ของการมาเที่ยวโอมาน ที่นี่เป็นสระน้ำธรรมชาติที่เกิดจากการยุบตัวของแผ่นหินค่ะ ซึ่งคุณข้าวฟ่างเล่าว่าเชื่อกันว่าอุกกาบาตพุ่งชนทำให้เกิดแอ่งน้ำแห่งนี้ขึ้น

การเดินทางถือได้ว่าง่าย ขับตามmapมาได้เลยค่ะ (คุณข้าวฟ่างขับ) มีที่จอดรถอย่างดีเป็นสัดเป็นส่วน ตอนเราไปมีกรุ๊ปทัวร์คุณฝรั่งมาลง แต่ไม่ได้แออัดหรือเสียงดังอะไรนะคะ ก็ต่างแยกย้ายไปถ่ายรูป+เล่นน้ำกันค่ะ
ที่นี่จัดว่าดีเลย มีห้องน้ำให้เปลี่ยนชุดและทำกิจธุระได้ สะอาดในระดับปั๊มต่างจังหวัดค่ะ  
ทางเดินเข้าไปจะมีสวนสาธารณะที่เกือบจะร่มรื่น คือปลูกดอกไม้อะไรต่างๆ สวยงาม มีศาลาพักผ่อน แต่ติดตรงสู้แดดแผดเผาที่นี่ไม่ไหวค่ะ ความแดดทะเลทรายอ่ะเนอะ  5555

น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลามากๆ แต่ปลาตอดนะ
ทางลงเป็นบันไดมีที่เกาะ ไม่ได้สูงชันสู้ชีวิตอะไรมากมาย เห็นคุณฝรั่งสูงวัยก็เดินกันได้อยู่แต่อาจจะเดินลงค่อนข้างไกลนิดหน่อยค่ะ ประมาณตึก 5-6 ชั้น ส่วนพวกคุณฝรั่งวัยรุ่นก็จะไปขึ้นแง่งหินไกลๆ นั่นกระโดดน้ำกันนะคะ (ตรงทางลงมีป้ายติดว่าห้ามกระโดดจากตรงแนวรั้วข้างบน พี่สาวบอกว่ามันมีคนกระโดดจริงๆ บ้าบอมาก)  เรามนุษย์เหยาะแหยะก็ยืนถ่ายรูปริมน้ำพอค่ะ ก้นยังไม่ทันเปียกพอแล้วค่ะ 5555

Wadi Shab

ที่นี่จะห่างจาก sinkhole ไม่ไกลค่ะ ประมาณ 20 นาทีตามที่คุณข้าวฟ่างบอก ขับตามป้ายหรือตาม google map ได้เลย มีบอกไว้ชัดเจน มีที่จอดรถเป็นสัดเป็นส่วน ใกล้ๆ มีร้านชำขายพวกน้ำ/ขนมเล็กๆ น้อยๆ มีร้านอาหารเปิดอยู่ไม่ไกลค่ะ
การเดินทางจัดได้ว่าโหด ต้องมีความพร้อมของร่างกายและจิตใจประมาณนึง
ด่านแรกจะต้องข้ามเรือก่อน (ประมาณ 10 เมตร) ค่าเรือไป-กลับจะอยู่ที่ 1 OMR/คน ค่ะ แต่จะมี option จ้างไกด์อะไรต่างๆ ประมาณ 25 OMR ซึ่งแน่นอนว่าคนเบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างเราเลือกที่จะลุยเองค่ะ แต่จริงๆ จะไม่ข้ามเรือก็ได้นะคะ ต้องเดินลุยน้ำประมาณเอวข้ามไปเองค่ะ 
ด่านต่อมาจะเป็นการเดินทางไกลประหนึ่งค่ายลูกเสือค่ะ ทางช่วงแรกจะเป็นหินกรวดเดินง่ายๆ เป็นทางราบให้เราตายใจก่อนค่ะ ซึ่งตรงนี้จะใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที ชื่นชมธรรมชาติไปค่ะเพราะหลังจากนี้จะเริ่มของจริง

หมดจากทางราบจะเป็นทางหินปีนขึ้นแบบไม่ลาดชันมากไปได้ซักระยะ แต่ ... มันเริ่มสูง ละเริ่มเห็นสิ่งที่เรียกว่าหน้าผาอยู่ทางซ้ายมือ มองลงไปน้ำสีฟ้าสวยมากค่ะ สวยและสูงแบบไม่มีอะไรมากั้น อันนี้ไม่ใช่เปรียบเทียบนะคะ แต่ไม่มีอะไรมากั้นจริงๆ

ที่เห็นคนเดินไกลๆ นั่นคือเราเดินทางนั้นเข้ามาจริงๆ แล้วดูสภาพเรานะคะ รองเท้าคีบแตะหนีบ ขากลับเปลี่ยนเอาถุงเท้ากันลื่นมาใส่แทน ใส่ชุดว่ายน้ำข้างใน ละพันด้วยกระโปรงช้างไทยแลนด์ แบกชูชีพกับห่วงยางน้องสับปะรด (ซึ่งกลายเป็นว่าใครๆ ก็มาทักทายน้องเพราะไม่มีใครบ้าแบกไป ขนาดคนขับเรือยังบอกว่าเอาไปทำไมมันเข้าไม่ได้ 555) น้ำดื่มอีกขวด มือถือและเงินใส่กระเป๋าสงกรานต์ไป พี่อีกคนแบกชุดเปลี่ยนกับผ้าเช็ดตัวใส่กระเป๋ากันน้ำไป (ซึ่งไม่ได้ใช้ เพราะตัวแห้งไวมาก)
ตอนเดินเข้ามามีคุณฝรั่ง 2 คนตามหลังมา หันไปอีกทีหายไปตอนไหนไม่รู้ คนเดินลงที่สวนมาเป็นระยะๆ ก็ไม่มีแล้ว มีแค่เรา 2 คนกับภูเขาหิน มนุษย์เหยาะแหยะแบบเราจะถอดใจลงหลายครั้งแล้วค่ะ ป้ายบอกทางก็ไม่มี คิดว่าหลงทางแน่ๆ โชคดีมีคุณฝรั่งเดินสวนทางมาพอดี ละเค้าบอกว่า you are so close เดินไปอีกซัก 5 นาทีก็จะได้ยินเสียงคน เสียงน้ำแล้ว อ่ะ .. กัดฟันเดินต่อค่ะ ท้อมีไว้ให้ลิงถือ! แพ้เป็นถ่าน ผ่านเป็นเพชร! รับบท life-coach ก็มาาาาา 

พอถึงที่ที่เค้าว่ายน้ำกันเรานี่แทบร้องไห้ ดีใจประหนึ่งตายแล้วฟื้น มันมานีมานะปิติชูใจ มันสะท้านอยู่ในทรวง สวยมากหรอ? เปล่า ... ชั้นเหนื่อย !!
คือเราไม่ใช่สายปีนเขา ปกติการไปเที่ยวของเราคือการไปเปลี่ยนที่นอนตากแอร์ กินอาหารอร่อยๆ ที่ไทยก็เคยแค่เดินขึ้นเขาสั้นๆ แบบเวลาไปเกาะแล้วเดินไปจุดชมวิวไรงี้น่ะค่ะ 
แต่ยังก่อน .. หากคุณคิดว่าถึงแล้ว คุณคิดผิดค่ะ! คุณยังต้องว่ายน้ำเข้าไปอีกกกก คุณฝรั่งที่ทักทายน้องสับปะรดก็ขายเก่งเหลือเกิน เค้าบอกว่าข้างใน fantastic มาก ยูมาแล้วต้องเข้านะ มันดี มันเริ่ด มันปัง เสี้ยมเก่งเหลือเกินนน อ่ะ .. ก็ใส่ชูชีพแล้วว่ายไปเลยสิคะ (น้องสับปะรดให้พี่ที่ไปด้วยกันใช้ค่ะ)

น้ำเย็นสบายมาก แต่หินลื่นมาก เราใส่ถุงเท้ากันลื่นยังค่อนข้างลื่นเลย น้ำใสและค่อนข้างลึก เหมาะกับคนว่ายน้ำแข็งและร่างกายแข็งแรง ส่วนเราคนกากว่ายน้ำไม่เป็นเน้นได้รูปสวยก็ต้องใส่ชูชีพไปตามระเบียบค่ะ ใช่ค่ะ .. แบกไปจากที่ไทยเนี่ยแหล่ะค่ะ แต่โชคดีที่เตรียมไป ถ้าไม่ได้เอาไปเราไม่ได้ไปต่อแน่นอนค่ะ
ว่ายเข้าไปประมาณ 700 เมตรได้มั้งคะ ใส่ชูชีพตีขาเปาะแปะของเราไปเรื่อยๆ ค่ะ พวกฝรั่งกับแขกว่ายเร็วก็แซงไปเลยน้องไม่รีบ 
รูปนี้เราถ่ายหน้าทางเข้า ซอกเล็กๆ นั่นแหล่ะค่ะทางเข้าข้างใน ต้องจอดน้องสับปะรดไว้ข้างหน้าก่อนเข้าค่ะ เราคนหน้าใหญ่แทบจูบหินค่ะ แคบหน้าเบียดจริงๆ น้ำลึกค่ะตรงนี้แต่เรายืนบนหินแวะถ่ายรูปก่อน ตรงนี้จอดน้องสัปปะรดไว้แล้วต้องว่ายเอา (แต่ใส่ชูชีพเข้าได้อยู่ค่ะ)

ข้างในก็เป็นน้ำตกเล็กๆ ตามรูปเลยค่ะ มีความเป็นถ้ำแสงลอดเข้ามา ข้างฝาก็จะพอมีที่เกาะพักเหนื่อยค่ะ 
เด็กๆ ฝรั่งกับแขกเก่งมาก แต่ละคนตัวเท่าเอวเราแต่ว่ายเข้ามาได้โดยไม่ใช้ห่วงยางค่ะ ไม่กระจองอแงเลย เล่นน้ำจอยกันมากๆ
ขากลับก็กลับทางเดิมค่ะ เพิ่งสังเกตเห็นว่ามีลูกศรชี้ทางพ่นสเปรย์ไว้บนหิน แงงงงง 

สรุป ที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่ควรมาก่อนข้อเข่าเสื่อม แต่ควรเตรียมตัวในการขึ้นเขา ว่ายน้ำ ฟิตร่างกายให้พร้อม ควรมีอุปกรณ์สำหรับการว่ายน้ำมาด้วย และที่สำคัญ safety first นะคะ อะไรเสี่ยงๆ ไม่ควรทำค่ะ
ชื่อสินค้า:   ประเทศโอมาน
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่