“ โ อ ม า น ” ประเทศที่ไม่เคยคิดว่าจะไป...
ดูเหมือนจะไม่มีอะไร
แต่พอเที่ยวกลับมาแล้วรู้สึกว่า...
หลงไหลเมืองนี้จนหมดใจเลยหละ : )
สวัสดีครับ
กันต์กวี Chill Reporter เอง ขอบอกว่าไปเที่ยวประเทศโอมานมาจ้า ที่นี่เหมาะมากๆสำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากลองไปเที่ยวแบบ ชิกๆ เก๋ๆ ไม่ซ้ำใคร ...
โอมาน..จึงเป็นจุดหมายที่ กันต์กวี Chill Reporter และเพื่อนๆ ตั้งใจที่จะไปเที่ยวกัน
โดยแพลนที่เราจะไปเที่ยวตามนี้เลยครับ
+ ทริปนี้เราขับรถเที่ยวกันเองนะ +
Day 1 : กรุงเทพ- Muscat บินตรงไปลงเมืองหลวงของโอมานครับ
Day 2 : มัสยิด Sultan Qaboos Grand Mosque / วังสุลต่าน Al Alam Royal Palace
เดินทางไปเมือง Sur / ว่ายน้ำที่ Bimmah Sinkhole / แวะถ่ายรูปริมทะเล / นอนที่เมือง Sur
Day 3 : ขึ้นเขาไปตามหา Wadi Bani Khalid oasisกลางเทือกเขา / ตะลุยทะเลทราย Wahiba Sands / นอนที่เมือง Nizwa
Day 4 : บุกป้อมโบราณ Nizwa Fort / หมู่บ้านโบราณ Misfat al Abreyeen / เดินทางกลับ Muscat / ช็อปปิ้งห้าง City Center / เดินชิลตลาดท้องถิ่น Mutrah Souk / นอนที่เมือง Muscat
Day 5 : ถ่ายรูปเล่นที่สวนสาธารณะ / Royal Opera House / ชายหาด Al Shatti / ช็อปปิ้งห้าง Oman Avenues Mall / สนามบิน – เดินทางกลับกรุงเทพฯ
ต่อไปนี้! จะรีวิวแบบละเอียดยิบ ตามพวกเราไปบุก..โอมาน..กันเลยครับ
รีวิวนี้เป็น SR เราได้รับการสนับสนุนตั๋วเครื่องบิน นอกนั้นเราออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด เฉลี่ยคนละ 9,000 บาทครับ
Day1 : กรุงเทพฯ ดอนเมือง – สนามบิน Muscat – ที่พัก
กันต์กวี และเพื่อนๆรวม 5 คน เอาจริงๆคือไม่มีใครในทีมเคยเดินทางไปประเทศแถบตะวันออกกลางเลย เสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดตอนนี้คือ เสื้อผ้า + หน้าผม + กล้องถ่ายรูป + และท่าโพสสุดปังเตรียมไว้ในหัว อย่างอื่นค่อยว่า ขอถ่ายรูปออกมาตัวเราดูดีไว้ก่อน กลัวจะปังสู้วิวไม่ได้ อิอิ
+++ เดี๋ยวจะบอกการเตรียมตัว และข้อควรรู้อย่างละเอียดอีกที ด้านล่างรีวิวน้า +++
เริ่มออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ตอน 15.20 น.ครับ เดินทางถึง กรุงมัสกัส ตอน 18.00น.*เวลาท้องถิ่นนะครับ // เราจึงหมดเวลาไปกับการเดินทางโดยเครื่องบินไปทั้งหมดประมาณ 6 ชั่วโมง
+++ที่โอมานเวลาช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง+++
พอเครื่องกำลังจะ Landing ดวงตาก็เป็นประกาย เพราะสิ่งที่เรามองเห็นผ่านหน้าต่างเป็นสีน้ำตาลสุดลูกหูลูกตาเลย สวยงามแปลกตาน่าตะลึงสุดๆ
ประตูเครื่องเปิดปุ๊บสิ่งแรกที่เราสัมผัสได้คือ...ลมร้อนนนนนน
โอ้โห! ร้อนกว่าเมืองไทยเยอะเลยนะเนี่ยขนาด 6 โมงเย็นแล้ว แต่ว่า..ความร้อนไม่เป็นอุปสรรคในการเที่ยวของเราแน่นอน <คิดในใจ> ต้องติดตามต่อไปนะว่าจะร้อนแค่ไหน
// จะทนได้ไหม ทนได้รึปล่าว //
สนามบินที่นี่ไม่ใหญ่มาก แต่ก็สะดวกสบายดี...มาเที่ยวที่นี่เราทำ Visa on Arrival ครับ ต่อคิวไม่นาน จ่ายค่า Visa 5 OMR หรือประมาณ 500 บาท อยู่ได้ 10 เลยวันจ้า ทำวีซ่าเสร็จสรรพก็เดินมาต่อที่ ตม. ยิ้มหวาน : ) บอกเขาไปว่าเรามาเที่ยว แล้วก็ไปรับกระเป๋า ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก
"อีกหนึ่งสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตติดจอ"นั้นก็คือ.. ซื้อซิมการ์ดสิครับรออะไร มีทั้งบริษัท Ooredoo และ Omantel ให้เลือก กลุ่มเรามา 5 คน ซื้อแค่ 2 คนครับ คนละยี่ห้อเลย
++ ค่าซิม 2 OMR และมีค่าอินเทอร์เน็ต 1 GB อีก 3 OMR ใช้ได้ 1 Week รวมเป็น 5 OMR ในครั้งแรก
++ หลังจากนั้นก็ซื้อเติมเอาครับ 1 OMR / 1 GB / 1 วัน
หลักๆพวกเราใช้เข้าหาข้อมูลแล้วก็เปิด Map นำทาง ส่วน Line Facebook และ IG ก็เล่นได้ปกตินะครับ แต่ส่วนใหญ่เราก็ไปเล่น WI-FI ที่โรงแรมมากกว่าเก็บเน็ตไว้ เปิด Google Map นำทางครับ < กลัวหลง 555 > การซื้อซิมที่นี่มันจะต้องลงทะเบียนซิมด้วย คิวอาจยาวนิดนึง จริงๆแล้วไปซื้อตามร้านสะดวกซื้อข้างนอกก็ได้น้า
ต่อด้วยการไปรับรถเช่าครับ พอดีเราติดช่วงละหมาด พนักงานไปละหมาดกันหมดเลยครับ เราก็ยืนรอ วนไปครับ! ทุกคนทิ้งบูธทิ้งร้านกันไปหมดเยยยย
อ้อ..สำคัญมากๆเลยคือรถที่นี่ขับพวงมาลัยซ้าย ไปขับแรกๆนี่งงใช่เล่นเลย แต่ที่ดีสุดๆก็คือ ที่นี่น้ำมันถูกมากกก
เวลาที่รอคอยก็มาถึง!! มื้อแรกที่โอมานอยู่ไม่ไกลจากที่พักของเรา เป็นร้านอาหารในปั๊ม ขอทานง่ายๆเพราะหิวมากกกกก หน้าตาก็อย่างที่เห็นเลยครับ มีไก่ย่างมีข้าวคล้ายๆข้าวหมก แล้วก็มีแกงกะหรี่ไก่ทานคู่กับแผ่นแป้งอาราบิกครับ
ก่อนเข้าที่พักเราซื้อของไปตุนไว้กินพรุ่งนี้เช้าและตอนกลางวัน
ทำไมหรอครับ?? ก็เพราะเราไปในช่วงเดือนรอมฎอนไงหละ ร้านอาหารทุกร้าน..ย้ำว่า..ทุกร้าน จะเปิดขายหลังพระอาทิตย์ตกเท่านั้น < มีขายเฉพาะโซนอาหารปรุงสดในห้าง ร้านอาหารทั่วไปในห้างก็ปิด T T > เราจึงต้องเตรียมของไปทานกันในรถครับ อีกอย่างจะต้องไม่ทานอาหารและน้ำให้ชาวมุสลิมที่ถือศีลเห็นเด็ดขาด เป็นมารยาทที่สำคัญมากๆ
++ น้ำดื่ม น้ำอัดลม ขนม อาหาร ++ ราคาพอๆกับบ้านเราเลยครับ อยากกินอะไรหยิบเลยยย!!!! < ที่นี่เป็นประเทศมุสลิมจึงไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นะครับ >
Day2 : มัสยิด Sultan Qaboos Grand mosque / วังสุลต่าน Al Alam Royal Palace / เดินทางไปเมือง Sur / ว่ายน้ำที่ Bimmah Sinkhole / แวะถ่ายรูปริมทะเล / นอนที่เมือง Sur
วันนี้เป็นวันแรกที่เราได้เที่ยวกันแบบจริงๆจังๆ เปิดตัวพวกเรา 5 คนเดินออกจากโรงแรมด้วยชุดสุด*อลังการดาวล้านดวง*ที่เราเตรียมมาจากเมืองไทย เรียกว่าเราใช้เวลาแต่งหน้าแต่งตัวกันนานมาก โดยเฉพาะสาวๆที่ขนเครื่องเพชรต้นตระกูลเจ้าคุณย่า มาจากเมืองไทย พวกนางบอกว่าชุดนี้เรียบร้อยที่สุดตั้งแต่เกิดมา 5555
ชุดต้องอลังการสมสถานที่ครับเพราะที่แรกที่เราไปคือ...Sultan Qaboos Grand mosque ที่นี่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเฉพาะช่วงเช้าตั้งแต่ 8 โมง - 10 โมง เท่านั้น ปิดทุกวันศุกร์
ย้ำ!! ก่อนเข้าต้องแต่งกายสุภาพ ผู้หญิงต้องใส่ชุดยาวให้เลยข้อเท้า ข้อแขนและต้องมีผ้าคลุมผมให้มิดชิด ปกติแล้วที่โอมานจะไม่ค่อยซีเรียสกับการแต่งตัวของนักท่องเที่ยวเท่าไหร่นัก แต่ที่นี่เป็นสถานที่ทางศาสนาจึงเข้มงวดมาก <ใครชุดไม่พร้อมที่นี่มีให้เช่าด้วยนะ>
เข้าไปในแกรนด์มัสยิดขอบอกว่าเว่อร์วังอลังการยิ่งใหญ่แบบไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย คือมองไปทางไหนก็น่าถ่ายรูปไปหมด
“แชนเดอร์เลีย” คือใหญ่มากกกก เกิดมาไม่เคยเห็นที่ไหนใหญ่ขนาดนี้มาก่อน ที่สำคัญในนี้แอร์เย็นมากสบายสุดๆ อีกหนึ่งไฮไลท์คือพรมผืนใหญ่ติดอันดับโลกอยู่ที่พื้นของห้องโถงแห่งนี้ เค้าใช้เวลาทอนานหลายปีมากๆ
ตามมาเลย..เราขับรถกันไปต่อที่ วังสุลต่าน Al Alam Royal Palace อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่จากมัสยิด ที่นี่ถ่ายรูปได้แต่ด้านนอกนะจ๊ะ!!
ได้เวลาเดินทางไกลจาก Muscat ไปเมือง Sur ครับใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง วิวริมทางนี่สวยมากก แล้วไม่ต้องถามถึงอาหารเที่ยงนะครับ เรากินขนมที่เตรียมมากันบนรถ : )
ขับไปหลงไปแต่ก็มาถึง Bimmah Sinkhole เห็นของจริงพูดได้คำเดียวว่าตะลึง !! เพราะมันใหญ่กว่าที่ดูมาจากรูปเยอะมาก จะถามว่าที่นี่เกิดขึ้นได้ยังไง มีหลายข้อมูลมากบ้างก็ว่าเป็นหลุมยุบ บ้างก็ว่าหลุมอุกกาบาต
ถึงเวลาแล้วโดดน้ำโลด เพราะร้อนมาก ความคาดหวังกับน้ำสีมรกตสุดสวย คือต้องเป็นน้ำจืดแน่ๆ แต่ผิดคาดจ้าเป็นน้ำเค็ม !
ใครไม่ลงก็นั่งให้ปลาตอดขาก็ได้น้า ปลาที่นี่ทำงานดีมาก คงหิวเพราะไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเลย
เสร็จแล้ว Move ต่อ ขับรถไปจอดข้างทางแวะถ่ายรูปริมทะเลซะหน่อย
คืนนี้เรานอนกันที่เมือง Sur ครับ เป็นเมืองตากอากาศชื่อดังของโอมาน
[SR] [รีวิว] โอ้โห...โ อ ม า น • เที่ยวเอง • ยกก๊วน • วิวปัง • อลังเว่อร์ (รูปเยอะ+มีคลิป)
ดูเหมือนจะไม่มีอะไร
แต่พอเที่ยวกลับมาแล้วรู้สึกว่า...
หลงไหลเมืองนี้จนหมดใจเลยหละ : )
สวัสดีครับ กันต์กวี Chill Reporter เอง ขอบอกว่าไปเที่ยวประเทศโอมานมาจ้า ที่นี่เหมาะมากๆสำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากลองไปเที่ยวแบบ ชิกๆ เก๋ๆ ไม่ซ้ำใคร ...
โอมาน..จึงเป็นจุดหมายที่ กันต์กวี Chill Reporter และเพื่อนๆ ตั้งใจที่จะไปเที่ยวกัน
โดยแพลนที่เราจะไปเที่ยวตามนี้เลยครับ
+ ทริปนี้เราขับรถเที่ยวกันเองนะ +
Day 1 : กรุงเทพ- Muscat บินตรงไปลงเมืองหลวงของโอมานครับ
Day 2 : มัสยิด Sultan Qaboos Grand Mosque / วังสุลต่าน Al Alam Royal Palace
เดินทางไปเมือง Sur / ว่ายน้ำที่ Bimmah Sinkhole / แวะถ่ายรูปริมทะเล / นอนที่เมือง Sur
Day 3 : ขึ้นเขาไปตามหา Wadi Bani Khalid oasisกลางเทือกเขา / ตะลุยทะเลทราย Wahiba Sands / นอนที่เมือง Nizwa
Day 4 : บุกป้อมโบราณ Nizwa Fort / หมู่บ้านโบราณ Misfat al Abreyeen / เดินทางกลับ Muscat / ช็อปปิ้งห้าง City Center / เดินชิลตลาดท้องถิ่น Mutrah Souk / นอนที่เมือง Muscat
Day 5 : ถ่ายรูปเล่นที่สวนสาธารณะ / Royal Opera House / ชายหาด Al Shatti / ช็อปปิ้งห้าง Oman Avenues Mall / สนามบิน – เดินทางกลับกรุงเทพฯ
ต่อไปนี้! จะรีวิวแบบละเอียดยิบ ตามพวกเราไปบุก..โอมาน..กันเลยครับ
รีวิวนี้เป็น SR เราได้รับการสนับสนุนตั๋วเครื่องบิน นอกนั้นเราออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด เฉลี่ยคนละ 9,000 บาทครับ
Day1 : กรุงเทพฯ ดอนเมือง – สนามบิน Muscat – ที่พัก
กันต์กวี และเพื่อนๆรวม 5 คน เอาจริงๆคือไม่มีใครในทีมเคยเดินทางไปประเทศแถบตะวันออกกลางเลย เสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดตอนนี้คือ เสื้อผ้า + หน้าผม + กล้องถ่ายรูป + และท่าโพสสุดปังเตรียมไว้ในหัว อย่างอื่นค่อยว่า ขอถ่ายรูปออกมาตัวเราดูดีไว้ก่อน กลัวจะปังสู้วิวไม่ได้ อิอิ
+++ เดี๋ยวจะบอกการเตรียมตัว และข้อควรรู้อย่างละเอียดอีกที ด้านล่างรีวิวน้า +++
เริ่มออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ตอน 15.20 น.ครับ เดินทางถึง กรุงมัสกัส ตอน 18.00น.*เวลาท้องถิ่นนะครับ // เราจึงหมดเวลาไปกับการเดินทางโดยเครื่องบินไปทั้งหมดประมาณ 6 ชั่วโมง
+++ที่โอมานเวลาช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง+++
พอเครื่องกำลังจะ Landing ดวงตาก็เป็นประกาย เพราะสิ่งที่เรามองเห็นผ่านหน้าต่างเป็นสีน้ำตาลสุดลูกหูลูกตาเลย สวยงามแปลกตาน่าตะลึงสุดๆ
ประตูเครื่องเปิดปุ๊บสิ่งแรกที่เราสัมผัสได้คือ...ลมร้อนนนนนน
โอ้โห! ร้อนกว่าเมืองไทยเยอะเลยนะเนี่ยขนาด 6 โมงเย็นแล้ว แต่ว่า..ความร้อนไม่เป็นอุปสรรคในการเที่ยวของเราแน่นอน <คิดในใจ> ต้องติดตามต่อไปนะว่าจะร้อนแค่ไหน
// จะทนได้ไหม ทนได้รึปล่าว //
สนามบินที่นี่ไม่ใหญ่มาก แต่ก็สะดวกสบายดี...มาเที่ยวที่นี่เราทำ Visa on Arrival ครับ ต่อคิวไม่นาน จ่ายค่า Visa 5 OMR หรือประมาณ 500 บาท อยู่ได้ 10 เลยวันจ้า ทำวีซ่าเสร็จสรรพก็เดินมาต่อที่ ตม. ยิ้มหวาน : ) บอกเขาไปว่าเรามาเที่ยว แล้วก็ไปรับกระเป๋า ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก
"อีกหนึ่งสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตติดจอ"นั้นก็คือ.. ซื้อซิมการ์ดสิครับรออะไร มีทั้งบริษัท Ooredoo และ Omantel ให้เลือก กลุ่มเรามา 5 คน ซื้อแค่ 2 คนครับ คนละยี่ห้อเลย
++ ค่าซิม 2 OMR และมีค่าอินเทอร์เน็ต 1 GB อีก 3 OMR ใช้ได้ 1 Week รวมเป็น 5 OMR ในครั้งแรก
++ หลังจากนั้นก็ซื้อเติมเอาครับ 1 OMR / 1 GB / 1 วัน
หลักๆพวกเราใช้เข้าหาข้อมูลแล้วก็เปิด Map นำทาง ส่วน Line Facebook และ IG ก็เล่นได้ปกตินะครับ แต่ส่วนใหญ่เราก็ไปเล่น WI-FI ที่โรงแรมมากกว่าเก็บเน็ตไว้ เปิด Google Map นำทางครับ < กลัวหลง 555 > การซื้อซิมที่นี่มันจะต้องลงทะเบียนซิมด้วย คิวอาจยาวนิดนึง จริงๆแล้วไปซื้อตามร้านสะดวกซื้อข้างนอกก็ได้น้า
ต่อด้วยการไปรับรถเช่าครับ พอดีเราติดช่วงละหมาด พนักงานไปละหมาดกันหมดเลยครับ เราก็ยืนรอ วนไปครับ! ทุกคนทิ้งบูธทิ้งร้านกันไปหมดเยยยย
อ้อ..สำคัญมากๆเลยคือรถที่นี่ขับพวงมาลัยซ้าย ไปขับแรกๆนี่งงใช่เล่นเลย แต่ที่ดีสุดๆก็คือ ที่นี่น้ำมันถูกมากกก
เวลาที่รอคอยก็มาถึง!! มื้อแรกที่โอมานอยู่ไม่ไกลจากที่พักของเรา เป็นร้านอาหารในปั๊ม ขอทานง่ายๆเพราะหิวมากกกกก หน้าตาก็อย่างที่เห็นเลยครับ มีไก่ย่างมีข้าวคล้ายๆข้าวหมก แล้วก็มีแกงกะหรี่ไก่ทานคู่กับแผ่นแป้งอาราบิกครับ
ก่อนเข้าที่พักเราซื้อของไปตุนไว้กินพรุ่งนี้เช้าและตอนกลางวัน
ทำไมหรอครับ?? ก็เพราะเราไปในช่วงเดือนรอมฎอนไงหละ ร้านอาหารทุกร้าน..ย้ำว่า..ทุกร้าน จะเปิดขายหลังพระอาทิตย์ตกเท่านั้น < มีขายเฉพาะโซนอาหารปรุงสดในห้าง ร้านอาหารทั่วไปในห้างก็ปิด T T > เราจึงต้องเตรียมของไปทานกันในรถครับ อีกอย่างจะต้องไม่ทานอาหารและน้ำให้ชาวมุสลิมที่ถือศีลเห็นเด็ดขาด เป็นมารยาทที่สำคัญมากๆ
++ น้ำดื่ม น้ำอัดลม ขนม อาหาร ++ ราคาพอๆกับบ้านเราเลยครับ อยากกินอะไรหยิบเลยยย!!!! < ที่นี่เป็นประเทศมุสลิมจึงไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นะครับ >
Day2 : มัสยิด Sultan Qaboos Grand mosque / วังสุลต่าน Al Alam Royal Palace / เดินทางไปเมือง Sur / ว่ายน้ำที่ Bimmah Sinkhole / แวะถ่ายรูปริมทะเล / นอนที่เมือง Sur
วันนี้เป็นวันแรกที่เราได้เที่ยวกันแบบจริงๆจังๆ เปิดตัวพวกเรา 5 คนเดินออกจากโรงแรมด้วยชุดสุด*อลังการดาวล้านดวง*ที่เราเตรียมมาจากเมืองไทย เรียกว่าเราใช้เวลาแต่งหน้าแต่งตัวกันนานมาก โดยเฉพาะสาวๆที่ขนเครื่องเพชรต้นตระกูลเจ้าคุณย่า มาจากเมืองไทย พวกนางบอกว่าชุดนี้เรียบร้อยที่สุดตั้งแต่เกิดมา 5555
ชุดต้องอลังการสมสถานที่ครับเพราะที่แรกที่เราไปคือ...Sultan Qaboos Grand mosque ที่นี่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเฉพาะช่วงเช้าตั้งแต่ 8 โมง - 10 โมง เท่านั้น ปิดทุกวันศุกร์
ย้ำ!! ก่อนเข้าต้องแต่งกายสุภาพ ผู้หญิงต้องใส่ชุดยาวให้เลยข้อเท้า ข้อแขนและต้องมีผ้าคลุมผมให้มิดชิด ปกติแล้วที่โอมานจะไม่ค่อยซีเรียสกับการแต่งตัวของนักท่องเที่ยวเท่าไหร่นัก แต่ที่นี่เป็นสถานที่ทางศาสนาจึงเข้มงวดมาก <ใครชุดไม่พร้อมที่นี่มีให้เช่าด้วยนะ>
เข้าไปในแกรนด์มัสยิดขอบอกว่าเว่อร์วังอลังการยิ่งใหญ่แบบไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย คือมองไปทางไหนก็น่าถ่ายรูปไปหมด
“แชนเดอร์เลีย” คือใหญ่มากกกก เกิดมาไม่เคยเห็นที่ไหนใหญ่ขนาดนี้มาก่อน ที่สำคัญในนี้แอร์เย็นมากสบายสุดๆ อีกหนึ่งไฮไลท์คือพรมผืนใหญ่ติดอันดับโลกอยู่ที่พื้นของห้องโถงแห่งนี้ เค้าใช้เวลาทอนานหลายปีมากๆ
ตามมาเลย..เราขับรถกันไปต่อที่ วังสุลต่าน Al Alam Royal Palace อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่จากมัสยิด ที่นี่ถ่ายรูปได้แต่ด้านนอกนะจ๊ะ!!
ได้เวลาเดินทางไกลจาก Muscat ไปเมือง Sur ครับใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง วิวริมทางนี่สวยมากก แล้วไม่ต้องถามถึงอาหารเที่ยงนะครับ เรากินขนมที่เตรียมมากันบนรถ : )
ขับไปหลงไปแต่ก็มาถึง Bimmah Sinkhole เห็นของจริงพูดได้คำเดียวว่าตะลึง !! เพราะมันใหญ่กว่าที่ดูมาจากรูปเยอะมาก จะถามว่าที่นี่เกิดขึ้นได้ยังไง มีหลายข้อมูลมากบ้างก็ว่าเป็นหลุมยุบ บ้างก็ว่าหลุมอุกกาบาต
ถึงเวลาแล้วโดดน้ำโลด เพราะร้อนมาก ความคาดหวังกับน้ำสีมรกตสุดสวย คือต้องเป็นน้ำจืดแน่ๆ แต่ผิดคาดจ้าเป็นน้ำเค็ม !
ใครไม่ลงก็นั่งให้ปลาตอดขาก็ได้น้า ปลาที่นี่ทำงานดีมาก คงหิวเพราะไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเลย
เสร็จแล้ว Move ต่อ ขับรถไปจอดข้างทางแวะถ่ายรูปริมทะเลซะหน่อย
คืนนี้เรานอนกันที่เมือง Sur ครับ เป็นเมืองตากอากาศชื่อดังของโอมาน