คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ไม่มีใครบอกคุณเรื่องสภาวะพระนิพพานได้แท้จริง เท่ากับคุณทำให้เห็นแจ้งด้วยตนเอง แต่เขาสามารถบอกเนื้อหาตามพระไตรปิฏกได้ หรือชี้แจงความน่าจะเป็นได้

อธิบายโดยย่อ คำว่านิพพาน หมายถึง การออกจากตัณหาเครื่องร้อยรัด (นิวานะ) โดยทั่วไปพระพุทธองค์ทรงจำแนกพระนิพพานเป็น ๒ ประเภท คือ
สอุปาทิเสสนิพพาน หมายถึง พระอรหันต์ที่ดับกิเลสทั้งหมดแล้วแต่ยังมีชีวิตอยู่
อนุปาทิเสสนิพพาน หมายถึง พระอรหันต์เมื่อจุติแล้วไม่มีขันธ์เหลืออยู่เลย

หรือ พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ หน้าที่ 711
๑. ปฐมนิพพานสูตร ว่าด้วยอายตนะ คือ นิพพาน
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ หน้าที่ 719
๒. ทุติยนิพพานสูตร ว่าด้วยฐานะที่เห็นได้ยาก คือ นิพพาน

หรือ คลิก. https://www.dhammahome.com/webboard/topic/790
หรือคลิกหาในพันทิป ก็มีเพื่อนสมาชิกสนทนาถกเรื่องนี้ไว้เยอะพอดู
อธิบายโดยย่อ คำว่านิพพาน หมายถึง การออกจากตัณหาเครื่องร้อยรัด (นิวานะ) โดยทั่วไปพระพุทธองค์ทรงจำแนกพระนิพพานเป็น ๒ ประเภท คือ
สอุปาทิเสสนิพพาน หมายถึง พระอรหันต์ที่ดับกิเลสทั้งหมดแล้วแต่ยังมีชีวิตอยู่
อนุปาทิเสสนิพพาน หมายถึง พระอรหันต์เมื่อจุติแล้วไม่มีขันธ์เหลืออยู่เลย
หรือ พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ หน้าที่ 711
๑. ปฐมนิพพานสูตร ว่าด้วยอายตนะ คือ นิพพาน
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ หน้าที่ 719
๒. ทุติยนิพพานสูตร ว่าด้วยฐานะที่เห็นได้ยาก คือ นิพพาน
หรือ คลิก. https://www.dhammahome.com/webboard/topic/790
หรือคลิกหาในพันทิป ก็มีเพื่อนสมาชิกสนทนาถกเรื่องนี้ไว้เยอะพอดู
แสดงความคิดเห็น
อยากถามสภาวะของพระนิพพานค่ะ..
1. เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเข้าสู่พระนิพพานแล้ว
2. วิธีระงับกิเลสภายในจิตใจมีวิธีอย่างไร นอกจากการถือมั่นใน ศีล สมาธิ และปัญญา
3. หากเราคิดว่าเราควบคุมกิเลสไม่ได้เราควรทำอย่างไร (หากอธิบายเหตุผลที่ดิฉันต้องการถามก็คือ ตอนนี้ดิฉันเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำค่ะ.. เวลาจะทำอะไรเห็นพระเห็นเจ้าจะชอบเป็นคล้ายๆกระทู้นี้ตลอด https://pantip.com/topic/31156811 ทั้งๆที่เราเป็นคนที่ศรัทธาในพระพุทธเจ้ามากๆเลยค่ะ อย่างน้อยเราก็คิดว่าท่านเป็นผู้มีพระคุณ ซึ่งถ้ามองจากคห.ที่ 5 ในกระทู้ของคนที่เราส่งลิ้งก์ไปให้ เธอบอกว่าให้เมินเฉยยิ่งคิดมันยิ่งมีกำลัง ซึ่งดิฉันจึงจำและลองนำไปปฏิบัติจริง ซึ่งมันได้ผลจริงค่ะเสียงในหัวที่คิดเริ่มเบาลง แต่มันมีปัญหาอีกอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ดิฉันไม่ค่อยอยากคุยกับใครเลยค่ะ บางทีดิฉันไม่ได้ตั้งใจให้ตัวเองโดนกิเลสครอบงำค่ะบางทีมันจะผุดออกมาเองโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นมารขัดขวางพระนิพพานของดิฉันเป็นอย่างมาก บางทีเราจะเผลอพูดแรง ๆ ออกไป ซึ่งถือเป็นการพูดจาเสียดแทงจิตใจ ซึ่งตัวเราจะไม่รู้ว่าเราพูดอะไรออกไป ในใจตัวของเราเองจะคิดว่า มันคือคำพูดปกติ ซึ่งมันถือเป็นส่วนของการผิดศีลข้อ 3 ไปในตัวเลยค่ะ.. พอมารู้ตัวทีหลัง ถึงตัวเองจะรู้ว่าการไม่ได้เจตนา ถือไม่เป็นเวรกรรม แต่มันเหมือนเป็นเวรกรรมทางวาจาของดิฉันอย่างนึงเลยค่ะ แต่บางทีมันก็ห้ามไม่ได้ที่จะต้องพบปะผู้คนที่จะต้องพูดคุย จิตที่เกิดปัญญาของดิฉันทำให้ตระหนักคิดได้ว่า การที่เราปฏิบัติดีนั้น เหมือนเป็นการปิดกั้นกิเลสอย่างหนึ่ง หากมันอัดอยู่ข้างในมากๆมันก็จะระเบิดกรอบที่ปิดกั้นมันเอาไว้ออกมา.. เราพยายามหาวิธีแก้แต่มันไม่มีนอกจากจะปล่อยให้มันเป็นไปตามอนิจจัง)
สิ่งที่เราต้องการถามมีเพียงแค่นี้ค่ะ ขอบคุณทุกท่านล่วงหน้านะคะที่เข้ามาชี้แนะแนวทาง 🙏🙏🙏 (หากพูดอะไรผิดอีกฉันจะมานั่งทุกข์ใจอีกมั้ยเนี่ย 😅)