สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
มันเป็นธรรมดาค่ะ สำหรับคนที่ต้องการทำความดี หลายคนก็เป็นกัน แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้พูดออกมาว่าเป็น
ความคิดด้านลบ และด้านร้ายนี้ มันบั่นทอนหัวใจคนเรา โดยเฉพาะคนที่ใฝ่ธรรมะ มักจะมีอุปสรรคจากความคิดเหล่านี้
จิตกลายเป็นมาร ขัดขวางตัวเอง กลั่นแกล้งตัวเอง เพราะจิตใจคนเราก็มีทั้งฝ่ายดี และฝ่ายร้าย ... ยิ่งห้าม ยิ่งคิด .. ดังนั้น อย่าไปห้ามมันค่ะ
เมื่อเกิดความคิดร้ายๆเหล่านี้ เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า ถึงเวลาแล้ว ที่ต้องตั้งใจปฏิบัติกรรมฐานแบบจริงจัง เจริญสติ ตามดูความคิดของตน ดูไปตามที่มันเป็น ทั้งดีและร้าย มองดูแล้วก็วางลง ทำใจเฉยๆนิ่งๆเหมือนมองผ่านๆ... ผ่านมา ...และ ผ่านไป ... แรกๆอาจทำยาก ... แต่ฝืนใจทำไปสักพัก ก็จะดีขึ้นค่ะ แม้ความคิดร้ายกาจผุดขึ้นมา ก็อย่าน้อยใจ อย่าเสียใจ อย่าโกรธความคิดเหล่านั้น ให้ดูเฉยๆ ความคิดร้ายมันจะอ่อนแรงลง ...
จริงๆนั้น ความคิดร้ายหรือดี ก็พึ่งพาอะไรไม่ค่อยได้นัก มันคงไม่ใช่ของเรา เราจึงควบคุมมันไม่ได้ ... พอๆกับ ที่บอกให้หัวใจหยุดเต้นไม่ได้ บอกกระเพาะหยุดบีบตัวก็ไม่ได้... ทุกอย่างทำงานด้วยตัวของเขาเอง ... ความคิด ก็เช่นกัน เขามีวิถีของเขาเอง ... ว่างๆเขาก็แว้บเข้ามาในหัวสมองคนเรา ดึงเรื่องร้ายๆเข้ามา ให้เรารู้สึกแย่ .. ว่างๆก็ลากไปในอดีต ขุดเรื่องเก่าๆเศร้าและเจ็บปวดมาให้ร้องไห้ได้อีก ว่างๆก็ดึงไปหาอนาคต จินตนาการอย่างสุดโต่ง ทั้งร้าย ทั้งดี ...ปะปนกันไป ...
วีธีแก้ มีอยู่ทางเดียว คือ ดูเฉยๆค่ะ ... วันนึง ความคิดเหล่านั้น มันก็จะอ่อนแรงลง เพราะเราไม่ใส่ใจมัน..
วิธีช่วยให้ปล่อยวางได้มากขึ้น คงต้องเจริญสติ ตามดูลมหายใจ กับดูอาการเคลื่อนไหวของร่างกาย เมื่อความคิดเข้ามา ก็ดูและสลัดมันทิ้งไป ให้อยู่กับปัจจุบันขณะ ณ วินาทีนี้ก็พอค่ะ สาธุค่ะ ^/\^
ความคิดด้านลบ และด้านร้ายนี้ มันบั่นทอนหัวใจคนเรา โดยเฉพาะคนที่ใฝ่ธรรมะ มักจะมีอุปสรรคจากความคิดเหล่านี้
จิตกลายเป็นมาร ขัดขวางตัวเอง กลั่นแกล้งตัวเอง เพราะจิตใจคนเราก็มีทั้งฝ่ายดี และฝ่ายร้าย ... ยิ่งห้าม ยิ่งคิด .. ดังนั้น อย่าไปห้ามมันค่ะ
เมื่อเกิดความคิดร้ายๆเหล่านี้ เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า ถึงเวลาแล้ว ที่ต้องตั้งใจปฏิบัติกรรมฐานแบบจริงจัง เจริญสติ ตามดูความคิดของตน ดูไปตามที่มันเป็น ทั้งดีและร้าย มองดูแล้วก็วางลง ทำใจเฉยๆนิ่งๆเหมือนมองผ่านๆ... ผ่านมา ...และ ผ่านไป ... แรกๆอาจทำยาก ... แต่ฝืนใจทำไปสักพัก ก็จะดีขึ้นค่ะ แม้ความคิดร้ายกาจผุดขึ้นมา ก็อย่าน้อยใจ อย่าเสียใจ อย่าโกรธความคิดเหล่านั้น ให้ดูเฉยๆ ความคิดร้ายมันจะอ่อนแรงลง ...
จริงๆนั้น ความคิดร้ายหรือดี ก็พึ่งพาอะไรไม่ค่อยได้นัก มันคงไม่ใช่ของเรา เราจึงควบคุมมันไม่ได้ ... พอๆกับ ที่บอกให้หัวใจหยุดเต้นไม่ได้ บอกกระเพาะหยุดบีบตัวก็ไม่ได้... ทุกอย่างทำงานด้วยตัวของเขาเอง ... ความคิด ก็เช่นกัน เขามีวิถีของเขาเอง ... ว่างๆเขาก็แว้บเข้ามาในหัวสมองคนเรา ดึงเรื่องร้ายๆเข้ามา ให้เรารู้สึกแย่ .. ว่างๆก็ลากไปในอดีต ขุดเรื่องเก่าๆเศร้าและเจ็บปวดมาให้ร้องไห้ได้อีก ว่างๆก็ดึงไปหาอนาคต จินตนาการอย่างสุดโต่ง ทั้งร้าย ทั้งดี ...ปะปนกันไป ...
วีธีแก้ มีอยู่ทางเดียว คือ ดูเฉยๆค่ะ ... วันนึง ความคิดเหล่านั้น มันก็จะอ่อนแรงลง เพราะเราไม่ใส่ใจมัน..
วิธีช่วยให้ปล่อยวางได้มากขึ้น คงต้องเจริญสติ ตามดูลมหายใจ กับดูอาการเคลื่อนไหวของร่างกาย เมื่อความคิดเข้ามา ก็ดูและสลัดมันทิ้งไป ให้อยู่กับปัจจุบันขณะ ณ วินาทีนี้ก็พอค่ะ สาธุค่ะ ^/\^
แสดงความคิดเห็น
ชอบคิดคำหยาบคาย คิดไม่ดีกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราควรทำอย่างไรดีTT