“แนะสังเกตอาการผิดปกติเวลาออกกำลังกายและวิธีป้องกัน”



“แนะสังเกตอาการผิดปกติเวลาออกกำลังกายและวิธีป้องกัน”



ยุคนี้ใครๆ ก็หันมาดูแลใส่ใจสุขภาพและออกกำลังกายกันมากขึ้น การออกกำลังกายเป็นประจำจะทำให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรง ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ รวมถึงโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้ ในทางกลับกันการออกกำลังกายมากจนเกินไปหรือหักโหมเกินไปก็อาจจะก่อให้เกิดการบาดเจ็บได้
 
ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องสังเกตตัวเองและเลือกประเภทกีฬาให้เหมาะสมกับอายุ น้ำหนัก หรือถ้ามีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อนออกกำลังกาย เพราะเมื่อเกิดอาการบาดเจ็บ บางอาการเราสามารถดูรักษาได้ด้วยตัวเอง แต่อาการผิดปกติหรือสัญญาณเตือนบางอย่างหากเกิดขึ้นเราก็อาจจำเป็นต้องรีบไปพบแพทย์ 



อาการบาดเจ็บหรืออาการผิดปกติเหล่านี้อาจจะเกิดขึ้นได้ถ้าผู้ออกกำลังกายไม่ระมัดระวัง เช่น

· เจ็บตามข้อเท้า ข้อเข่า หัวไหล่หลัง
· ปวดหรือเจ็บกล้ามเนื้อเอ็นในจุดต่างๆ
· หอบ เหนื่อย หายใจผิดปกติ
· เจ็บ จุก หรือแน่นหน้าอก
· เวียนศีรษะ หน้ามืด



อาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ในขณะที่เราออกกำลังกาย ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการเหล่านี้ แนะนำให้

*  ถ้ามีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจหรือหลอดเลือดหัวใจตีบ ควรปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายก่อนที่จะออกกำลังกาย

*  ควรทดสอบสมรรถภาพทางกายเพื่อหาขีดจำกัดในการออกกำลังกาย

*  ก่อนออกกำลังกายให้ทำการอบอุ่นร่างกายและให้ยืดเหยียดกล้ามเนื้อเพื่อเตรียมพร้อมกับกิจกรรมที่จะทำ

*  ประเมินความพร้อมของร่างกาย สวมใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่จะออกกำลังกายและเลือกใส่รองเท้าที่เหมาะกับกิจกรรม

*  ไม่หักโหมออกกำลังกายหรือออกกำลังกายเกินขีดความสามารถของตัวเองและไม่ออกกำลังกายตามผู้อื่น

*  หมั่นฝึกซ้อมทักษะเฉพาะเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ทำเพื่อช่วยลดการบาดเจ็บ

*  หลังจากออกกำลังกาย อย่าหยุดออกกำลังกายในทันที ควรอบอุ่นร่างกายประมาณ 5-10 นาที จนกระทั่งชีพจรกลับคืนสู่สภาพปกติ และควรดื่มน้ำให้เพียงพอหลังออกกำลังกาย

* ถ้ามีอาการหอบ เหนื่อย หายใจผิดปกติ หรือ เจ็บแน่นหน้าอกในขณะที่ออกกำลังกาย ให้หยุดออกกำลังกายทันทีและพัก ถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

การออกกำลังกายที่ดีควรเป็นการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำเป็นครั้งคราวแต่หักโหม เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง แนะนำให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ30 นาที สัปดาห์ละ 3-4 ครั้งนอกจากจะเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บแล้ว ยังช่วยลดความเครียด 
ทำให้อารมณ์ดีได้อีกด้วยนะครับ...



ผศ.ดร.สิทธา พงษ์พิบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การกีฬา การฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและปอด
การออกกำลังกายเพื่อรักษาโรค โรงพยาบาลรามคำแหง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่