Review ปรึกษาจิตแพทย์ออนไลน์ App Raksa

* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ
สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เรายินดีที่จะเล่าประสบการณ์การปรึกษาจิตแพทย์ออนไลน์ผ่าน App Raksa แต่จะไม่ลงรายละเอียดข้อมูลการรักษาที่เป็นส่วนตัวของเรานะคะ

เริ่มด้วยเราเจอปัญหาชีวิตมากมายจนสภาพจิตใจเราในช่วงนี้ไม่ค่อยโอเค เลยมีความคิดที่อยากจะปรึกษาจิตแพทย์ โดยมีสองทางเลือกคือปรึกษาจิตแพทย์แบบเจอหน้ากันตัวต่อตัว และ ปรึกษาจิตแพทย์ออนไลน์ในแอป Raksa

ความจริงแล้วเราเทใจไปทางปรึกษาจิตแพทย์แบบเจอกันตัวต่อตัวมากกว่าค่ะ เพราะการปรึกษาออนไลน์มันเป็นเรื่องที่ใหม่มาก ๆ บวกกับกระทู้นี้ที่ได้เข้าไปอ่านมา

แอปรักษา แอปผิดกฏหมาย (App Raksa) ?
https://pantip.com/topic/39795492

แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนเรารู้สึกดิ่งมาก ร้องไห้ฟูมฟายตั้งแต่ช่วง ตี 5 - 6 โมงเช้า จุดหนึ่งรู้สึกว่าไม่ไหวแล้วขอแพทย์ด่วน จึงตัดสินใจโหลด App Raksa ดูรีวิวในทวิตเตอร์ แล้วศึกษาวิธีการใช้แอพผ่านคลิปคุณคนนี้

https://youtu.be/qTpXm1Mk8vI

ปล.ในคลิปบอกว่าส่งยาเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นทั่วประเทศไทยแล้วนะคะ

__________

มาเริ่มที่หน้าแอพเลยค่ะ เรากดเลือกหมวดที่อยากปรึกษาเรียบร้อยแล้วก็มาเลือกคุณหมอต่อค่ะ ถ้าคุณหมอออนไลน์อยู่ตอนนี้มันจะขึ้นสัญลักษณ์วงกลมสีเขียวที่รูปคุณหมอค่ะ ส่วนดาวกับรีวิวข้างหลังในทวิตบอกว่าถ้าคุณหมอมีเคสน้อยมีรีวิวน้อยอาจจะเป็นเพราะคุณหมอเพิ่งเข้าร่วมแอพไม่ใช่ว่าคุณหมอไม่เก่งนะคะ





เรากดเลือกคุณหมอ (เป็นตัวอย่าง) แล้วกด see more จะเห็นรายละเอียดที่คุณหมอรับปรึกษา ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน และโรงพยาบาลที่คุณหมออยู่ค่ะ มีรีวิวของคนที่เคยปรึกษาคุณหมอให้เราอ่านก่อนตัดสินใจด้วย แต่รู้สึกว่ามีให้อ่านน้อยเกินไปอยากให้ขึ้นรีวิวทั้งหมด ส่วนตัวเราไล่อ่านของหมอที่ขึ้นออนไลน์อยู่จนครบแล้วค่อยตัดสินใจเลือกค่ะ ใครชอบคุณหมอที่ออฟไลน์อยู่เรากดให้แจ้งเตือนตอนคุณหมอออนได้นะคะ แต่เราไม่รอแล้ว





พอเลือกได้แล้วจะเห็นว่า 3 ปุ่มสีน้ำเงินข้างล่างเป็นรูปแบบการปรึกษา มีทั้งแชท โทร และวิดีโอคอล ของเราเลือกเป็นโทรค่ะ 500 บาท ได้ 15 นาที เราเติมเงินเข้าแอพทำตามคลิปที่เราแปะไว้ข้างบนเลยค่ะ แจ้งอาการ จ่ายเงิน และรอคุณหมออ่านอาการ 3 นาที แล้วคุณหมอก็โทรผ่านแอพมาค่ะ

คุณหมอจะทวนชื่อและอาการพร้อมกับถามว่ามีอะไรอยากเล่าให้คุณหมอฟัง หลังจากนั้นเราก็พรั่งพรูเลยค่ะ ร้องไห้คัดจมูกเสียงอู้อี้สงสารคุณหมอมาก เวลาพูดคุยคุณหมอจะเรียกเราว่าคุณตามด้วยชื่อตลอดเลยค่ะ คุณหมอบอกว่า ‘ตอนนี้คุณหมอรับฟังคุณ…คุณหมออยู่กับคุณ…นะคะ’ เอ้า ร้องหนักกว่าเดิม

คุณหมอถามด้วยว่าเราเคยเข้ารับการปรึกษาจิตแพทย์มาก่อนมั้ย ส่วนตัวเราไม่เคยค่ะ เป็นครั้งแรก ก่อนปรึกษาเราเตรียมเรื่องที่จะเล่าไว้ในหัว ใครจำไม่ได้จดไว้เลยนะคะจะได้ไม่กุกกัก ไม่เสียเวลาด้วย ตอนแรกเราแอบกลัวว่าการปรึกษาออนไลน์แบบนี้คุณหมอจะลดความสนใจลงมั้ย ประสิทธิภาพจะต่างกับการปรึกษาแบบตัวต่อตัวเปล่า แต่ไม่เลยค่ะ คุณหมออนุมานการใช้ชีวิตประจำวันของเราได้โดยที่เราไม่ได้เล่า มันแสดงให้เห็นว่าคุณหมอตั้งใจฟังเราจริง ๆ ไม่ใช่มาให้คำปรึกษาส่ง ๆ ตรงนี้เราประทับใจมาก ใครกลัวเล่าต่อไม่ถูกไม่ต้องกังวลค่ะ คุณหมอถามเจาะเราไปในแต่ละเรื่องแล้วเล่าตามที่คุณหมอถามเลยค่ะ

หลังจากนั้นคุณหมอก็จะบอกอาการหรือโรคให้เราทราบ ให้คำแนะนำ แนวทางการปฏิบัติ ซักประวัติเรื่องโรคประจำตัว ยาประจำตัว และประวัติการแพ้ยา เสร็จแล้วคุณหมอก็ค่อยสั่งจ่ายยาค่ะ

ของเรา 15 นาที เอาอยู่ค่ะ คงเป็นเพราะเตรียมเรื่องเล่ามาแล้วด้วย แต่สำหรับคนไหนที่ต้องการเวลาเยอะ ก่อนจะจ่ายเงินเราเห็นมันให้เพิ่มเวลาได้นะคะ แต่เราไม่ได้กดเลยไม่ทราบค่ะว่าต้องเสียเงินเพิ่มอีกเท่าไหร่ พอวางสายเสร็จมันจะขึ้นมาให้เขียนรีวิวค่ะ เขียนรีวิวได้ตามสบายเลย

วางสายเสร็จแล้วรอสักพัก ยาที่คุณหมอให้เราจะขึ้นอยู่ในตะกร้าช้อปปิ้งเราสามารถกดจ่ายเงินได้เลยค่ะ ส่งผ่าน Kerry เสร็จแล้วกดที่ประวัติการปรึกษาก็จะขึ้นประวัติ ยาที่คุณหมอสั่ง และคำแนะนำที่คุณหมอใส่ไว้ค่ะ กด see more จะเห็น…

- อาการที่เราแจ้ง
- โรค
- คำแนะนำคุณหมอตอนโทรคุยกันและคำแนะนำเพิ่มเติม
- ชื่อยา รายละเอียดยา ผลข้างเคียง วิธีใช้ยา

ของเราคุณหมอโน้ตไว้ด้วยว่าจะนัดติดตามอาการค่ะ เราอยู่ต่างจังหวัดไกลมาก รอประมาณ 3 วัน วันนี้ยามาถึงแล้วค่ะเลยมาเขียนรีวิวให้ทุกคนได้อ่าน









สรุปค่าใช้จ่ายกรณีเราค่ะ

ค่าปรึกษา 15 นาที 500 บาท
ยาตามอาการ 228 บาท

รวม 728 บาท (อย่างน้อยก็ประหยัดค่าเดินทาง)


ส่วนตัวเรารู้สึกว่าโอเคกับการมีแอพนี้นะคะ กรณีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ของเรามีคุณหมอมาเซฟได้ทันเวลา หลังจากได้ปรึกษาก็โล่งขึ้นมาก ทีนี้เหลือแค่เยียวยาสภาพจิตใจให้กลับมาสดใสเหมือนเดิม มันมีสั่งยาเองปรึกษาเภสัชกรได้ด้วยค่ะ แต่แนะนำพบคุณหมอดีกว่า อย่างน้อยหมอยืนยันมาก็เบาใจลงหน่อย เราว่าแต่ละคนประเมินอาการตัวเองได้อยู่แล้วค่ะว่าเป็นอะไรระดับไหน ปรึกษาได้หรือควรพบแพทย์ต่อหน้าไปเลยดี หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่สนใจนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่