ว๊ายตายแล้ว น้องหมาหลุดออกไปนอกบ้าน ไม่รู้ไปแอบมีความสัมพันธ์กับตัวผู้ที่ไหนมาหรือเปล่า หากคุณกำลังสงสัยว่าหมาตัวเองกำลังท้อง บทความ 6 วิธีสังเกตอาการสุนัขท้องแบบง่าย ๆ นี้ จะช่วยบอกคุณได้คร่าว ๆ ว่าน้องหมาท้องหรือเปล่า ตามไปดูกันค่ะ
1.ไม่ค่อยอยากทำกิจกรรม
หากคุณสังเกตเห็นว่าช่วงนี้น้องหมาไม่ค่อยอยากทำกิจกรรมต่าง ๆ เท่าไหร่ ดูเหนื่อยง่าย นอนมากกว่าปกติ ประกอบกับน้องหมาเคยหลุดออกไปนอกบ้านมาก่อน อาจจะนำมาเป็นหนึ่งเบาะแสที่บอกว่าน้องหมา “อาจจะ” กำลังท้องค่ะ
ในสุนัขปกติที่เป็นสุนัขร่าเริง อาการเหนื่อยง่ายควรได้รับความใส่ใจเป็นพิเศษ หากเป็นไปได้ควรพาไปให้หมอตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง เพราะอาการเหนื่อยง่าย ซึม ไม่ใช่อาการที่เฉพาะเจาะจงของภาวะท้องและสามารถพบได้ในสุนัขป่วยทุกตัว
ในสุนัขปกติที่เป็นสุนัขไม่ค่อยทำกิจกรรมอยู่แล้ว การสังเกตว่าสุนัขเหนื่อยง่ายหรือไม่อาจทำได้ยากกว่าสุนัขร่าเริง แนะนำให้สังเกตเวลาสุนัขเดิน เพื่อดูว่าน้องเหนื่อยเร็วผิดปกติหรือไม่
2.ความอยากอาหารไม่เหมือนเดิม
วิธีสังเกตอาการสุนัขท้องโดยดูจากความอยากอาหารนั้นสามารถบอกได้คร่าว ๆ ว่าสุนัขท้องหรือไม่ ซึ่งความอยากอาหารจะเปลี่ยนแปลงตามฮอร์โมนในร่างกายของสุนัขที่เปลี่ยนแปลงไปในระหว่างตั้งท้อง และแต่ละตัวก็จะแสดงออกไม่เหมือนกันอีกด้วย
อาจพบสุนัขไม่ค่อยอยากอาหาร ทานอาหารได้น้อยลง และพบอาการอาเจียน ในขณะที่บางตัวก็ทานอาหารเยอะขึ้นมากกว่าปกติก็เป็นไปได้
3.พฤติกรรมเปลี่ยน
เมื่อสุนัขท้องคุณอาจสังเกตเห็นพฤติกรรมของสุนัขเปลี่ยนแปลงไป โดยอาจพบสุนัขมีความต้องการความสนใจจากเจ้าของ อ้อนมากขึ้น ตามติดเจ้าของมากขึ้น หรืออาจจะพบว่าสุนัขปลีกตัวไปอยู่ตัวเดียวมากขึ้น รำคาญเวลาคนเข้าใกล้ก็เป็นไปได้
4.หัวนมเปลี่ยนสีและขนาดใหญ่ขึ้น
สุนัขเพศเมียในภาวะปกติแล้วหัวนมจะมีขนาดเล็ก การตั้งท้องส่งผลให้หัวนมมีขนาดใหญ่ขึ้นและสีเปลี่ยนไป โดยสามารถพบการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ระยะแรกของการตั้งท้องหรืออายุครรภ์ 1 เดือน สีของหัวนมที่เปลี่ยนไปอาจพบสีหัวนมคล้ำขึ้นหรือสีชมพูมากขึ้น ขึ้นอยู่กับสีผิวของสุนัข สีที่เปลี่ยนไปนี้เกิดขึ้นเนื่องมาจากมีการไหลเวียนของเลือดมาบริเวณนี้มากขึ้นนั่นเอง
5.ท้องโตและน้ำหนักเพิ่มขึ้น
หากคุณอ่านมาถึงข้อนี้และสังเกตเห็นสุนัขท้องโตมากขึ้น ประกอบกับสุนัขมีแนวโน้มที่จะออกจากบ้านไปผสมพันธุ์มา การเห็นสุนัขท้องโตขึ้นก็เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าสุนัขน่าจะท้องแน่ ๆ แล้วค่ะ ถึงเวลาแล้วที่จะพาน้องไปตรวจครรภ์กับคุณหมอ อ่านสุนัขท้องกี่เดือนกันแน่และถ้าพาไปฝากท้องจะได้ตรวจอะไรบ้าง?
แต่อย่างไรก็ตามในทางสัตวแพทย์มีโรคบางชนิดที่ทำให้น้องหมาท้องโตได้เหมือนกัน เช่น โรคตับ โรคหัวใจ หากไม่มั่นใจว่าน้องหมาท้องโตจากสาเหตุอะไร การพาสุนัขไปหาหมอจะช่วยบอกเราได้ชัดเจนที่สุด
6.พบพฤติกรรมสร้างรัง
พฤติกรรมสร้างรังของสุนัข คือ พฤติกรรมที่สุนัขพยายามหาวัสดุอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็น ที่นอน กระดาษลัง หมอน หรือสิ่งของต่าง ๆ ที่สุนัขจะหาได้ นำมาสร้างเป็นรังเพื่อเตรียมเอาไว้สำหรับการคลอดและการดูแลลูกสุนัข
โดยพฤติกรรมนี้สามารถพบได้ในช่วงท้ายของการตั้งครรภ์ ในฐานะเจ้าของเราสามารถช่วยสุนัขได้โดยการจำกัดบริเวณไม่ให้คนภายนอกเข้ามารบกวนแม่สุนัข โดยเฉพาะเด็กเล็กซึ่งอาจเกิดอันตรายจากแม่สุนัขที่มีพฤติกรรมหวงลูก
.
จากปัญหาดังกล่าว ทำให้ Tammy F. Olsen และ Andrew L. Allen แห่งมหาวิทยาลัย The Western College of Veterinary Medicine ประเทศแคนนาดา ทำการเก็บข้อมูลทางสถิติของน้องหมาที่เสียชีวิตแบบเฉียบพลันจากโรคร้ายที่เกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ยังมีร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ดี ซึ่งผลวิจัยได้พบว่า โรคร้ายที่ทำให้น้องหมาจากไปก่อนวัยอันควรนั้น มักมีสาเหตุมาจาก 5 โรคดังนี้ค่ะ
.
โรคหัวใจและหลอดเลือด นับเป็นโรคยอดฮิตอันดับหนึ่งที่น้องหมาหลายๆ ตัวมักจะเป็นกัน ซึ่งเกิดขึ้นได้หลากหลายลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจเสื่อมแบบพองขยาย ที่มักพบในน้องหมาพันธุ์ใหญ่ มีอายุตั้งแต่ 4 – 10 ปีขึ้นไป, โรคลิ้นหัวใจเสื่อม มักพบในน้องหมาพันธุ์เล็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป รวมไปถึงโรคลิ้นหัวใจตีบแต่กำเนิด ที่มักเป็นมากในน้องหมาอายุ 2 เดือนถึง 2 ปี ฯลฯ ซึ่งอาการโรคหัวใจนี้มักทำให้น้องมีอาการเหนื่อยง่าย หอบ ไอแห้งๆ หายใจลำบาก ท้องกางขยายขึ้น หรือตัวบวมน้ำ หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นว่าน้องมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น ก็อาจเป็นไปได้ว่าน้องกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจอยู่ ควรพาน้องไปหาหมอโดยเร็ว เพื่อวินิจฉัยอาการ และรักษาได้ทันท่วงทีค่ะ
.
ร่างกายน้องได้รับสารพิษ หลายครั้งหลายคราที่น้องหมามักเสียชีวิตจากการโดนวางยาโดยคนใจร้าย ซึ่งมักจะเป็นยาเบื่อหนูกลุ่มวาร์ฟาริน ที่มีคุณสมบัติในการทำลายการแข็งตัวของเลือด เมื่อน้องได้รับยากลุ่มนี้เข้าสู่ร่างกาย จะทำให้น้องดิ้นทุรนทุราย ชักเหยียดเกร็ง มีอาการตกเลือด มีเลือดไหลออกจากรูทวารทั้งหก และเสียชีวิตในที่สุด แต่หากคุณพ่อคุณแม่สามารถพาน้องไปหาคุณหมอได้ทัน โอกาสที่น้องอาจจะรอดชีวิตก็ยังพอมีอยู่บ้าง โดยคุณหมอจะทำการฉีดวิตามินเค-1, ให้น้ำเกลือเข้าเส้นเลือดเพื่อให้ไตขับสารพิษออกจากร่างกาย และอาจต้องได้รับการถ่ายเลือดร่วมด้วยค่ะ
.
ปัญหาในระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะปัญหากระเพาะบิดขยายและบิดหมุน ที่มีสาเหตุเกิดจากการที่มีแก๊สหรืออาหารสะสมในกระเพาะอาหารอยู่เป็นจำนวนมาก จนทำให้กระเพาะอาหารขยายขนาดใหญ่ขึ้นคล้ายลูกโป่ง เมื่อน้องมีการเคลื่อนตัวไปมา ทำให้ภายในช่องท้องเกิดการบิดหมุนตามมา สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเลือดไม่สามารถไหลเวียนได้ตามปกติ อาจทำให้เส้นเลือดฉีกขาดและเสียเลือดได้ เมื่ออาการดังกล่าวเกิดขึ้น จะทำให้น้องเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลา 1 – 3 ชั่วโมง ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นอาการน้องหมาทำท่าจะอาเจียน แต่ไม่มีอะไรขย้อนออกมา มีน้ำลายมาก ทำท่าโก่งตัว สังเกตเห็นท้องขยายใหญ่แบบเฉียบพลัน มีอาการหอบ หายใจลำบาก เหงือกและลิ้นม่วง และร้องครางด้วยความเจ็บปวด ให้รีบป้อนยาลดแก๊สในกระเพาะอาหารให้น้อง หรือรีบพาน้องส่งโรงพยาบาลทันทีค่ะ
.
น้องได้รับบาดเจ็บ การประสบอุบัติเหตุก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้น้องเสียชีวิตได้ แม้ว่าจะไม่มีบาดแผลให้เห็นชัดเจนภายนอกก็ตาม แต่หากอวัยวะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง เช่น ตับฉีกขาด ม้ามแตก กระบังลมฉีกขาด กระดูกหัก มีเลือดออกในช่องท้อง หรืออวัยวะภายในเคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง ก็สามารถทำให้น้องเสียชีวิตได้ง่ายๆ เช่นเดียวกัน
.
น้องมีเลือดออกในร่างกาย โดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ โดยมักพบว่าน้องหมาเป็นมะเร็งชนิด Hemangiosarcoma ที่มักจะเป็นที่หัวใจห้องบนขวาและม้าม ทำให้เกิดเลือดออกภายในร่างกาย จนน้องเกิดภาวะช็อคและเสียชีวิตได้ในที่สุด ซึ่งน้องหมาที่มีอายุมากตั้งแต่ 8 – 13 ปีขึ้นไป มักจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งชนิดนี้ โดยเฉพาะน้องหมาพันธุ์ใหญ่ หากคุณพ่อคุณแม่พบว่าน้องมีน้ำหนักลดลง กินอาหารได้น้อยลง มีเหงือกซีด หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ แต่เสียงหัวใจเต้นเบาลง มีอาการเหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ควรพาน้องไปหาหมอเพื่อตรวจร่างกายโดยละเอียด ก่อนที่น้องจะจากไปแบบไม่ทันได้ลานะคะ
.
แม้ว่าทั้ง 5 โรคนี้ก็เป็นโรคที่มักจะทำให้น้องหมาด่วนจากเราไปได้บ่อยๆ ก็จริง แต่ก็ยังมีโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ อีกมากมายที่เราควรเฝ้าระวังไว้ไม่ให้เกิดกับน้องหมาได้ การหมั่นสังเกตอาการของน้องอย่างใกล้ชิด จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่คุณพ่อคุณแม่จะช่วยน้องได้ เพราะน้องไม่สามารถพูดได้อย่างเราๆ จึงไม่สามารถบอกได้ว่าตัวเองป่วยเป็นอะไรหรือเจ็บตรงไหน โดยเฉพาะน้องหมาที่มีอายุมาก แม้ว่าจะยังเดินเหินได้อยู่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าน้องจะมีสุขภาพดี ดังนั้นหากเป็นไปได้ ก็ควรพาน้องหมาไปตรวจสุขภาพกับคุณหมอเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้คุณหมอช่วยดูแลสุขภาพของน้องให้ดีอย่างสม่ำเสมอ และมีอายุยืนตามอายุขัยของน้องนะคะ
หมาไอแปลว่า ท้อง ?
1.ไม่ค่อยอยากทำกิจกรรม
หากคุณสังเกตเห็นว่าช่วงนี้น้องหมาไม่ค่อยอยากทำกิจกรรมต่าง ๆ เท่าไหร่ ดูเหนื่อยง่าย นอนมากกว่าปกติ ประกอบกับน้องหมาเคยหลุดออกไปนอกบ้านมาก่อน อาจจะนำมาเป็นหนึ่งเบาะแสที่บอกว่าน้องหมา “อาจจะ” กำลังท้องค่ะ
ในสุนัขปกติที่เป็นสุนัขร่าเริง อาการเหนื่อยง่ายควรได้รับความใส่ใจเป็นพิเศษ หากเป็นไปได้ควรพาไปให้หมอตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง เพราะอาการเหนื่อยง่าย ซึม ไม่ใช่อาการที่เฉพาะเจาะจงของภาวะท้องและสามารถพบได้ในสุนัขป่วยทุกตัว
ในสุนัขปกติที่เป็นสุนัขไม่ค่อยทำกิจกรรมอยู่แล้ว การสังเกตว่าสุนัขเหนื่อยง่ายหรือไม่อาจทำได้ยากกว่าสุนัขร่าเริง แนะนำให้สังเกตเวลาสุนัขเดิน เพื่อดูว่าน้องเหนื่อยเร็วผิดปกติหรือไม่
2.ความอยากอาหารไม่เหมือนเดิม
วิธีสังเกตอาการสุนัขท้องโดยดูจากความอยากอาหารนั้นสามารถบอกได้คร่าว ๆ ว่าสุนัขท้องหรือไม่ ซึ่งความอยากอาหารจะเปลี่ยนแปลงตามฮอร์โมนในร่างกายของสุนัขที่เปลี่ยนแปลงไปในระหว่างตั้งท้อง และแต่ละตัวก็จะแสดงออกไม่เหมือนกันอีกด้วย
อาจพบสุนัขไม่ค่อยอยากอาหาร ทานอาหารได้น้อยลง และพบอาการอาเจียน ในขณะที่บางตัวก็ทานอาหารเยอะขึ้นมากกว่าปกติก็เป็นไปได้
3.พฤติกรรมเปลี่ยน
เมื่อสุนัขท้องคุณอาจสังเกตเห็นพฤติกรรมของสุนัขเปลี่ยนแปลงไป โดยอาจพบสุนัขมีความต้องการความสนใจจากเจ้าของ อ้อนมากขึ้น ตามติดเจ้าของมากขึ้น หรืออาจจะพบว่าสุนัขปลีกตัวไปอยู่ตัวเดียวมากขึ้น รำคาญเวลาคนเข้าใกล้ก็เป็นไปได้
4.หัวนมเปลี่ยนสีและขนาดใหญ่ขึ้น
สุนัขเพศเมียในภาวะปกติแล้วหัวนมจะมีขนาดเล็ก การตั้งท้องส่งผลให้หัวนมมีขนาดใหญ่ขึ้นและสีเปลี่ยนไป โดยสามารถพบการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ระยะแรกของการตั้งท้องหรืออายุครรภ์ 1 เดือน สีของหัวนมที่เปลี่ยนไปอาจพบสีหัวนมคล้ำขึ้นหรือสีชมพูมากขึ้น ขึ้นอยู่กับสีผิวของสุนัข สีที่เปลี่ยนไปนี้เกิดขึ้นเนื่องมาจากมีการไหลเวียนของเลือดมาบริเวณนี้มากขึ้นนั่นเอง
5.ท้องโตและน้ำหนักเพิ่มขึ้น
หากคุณอ่านมาถึงข้อนี้และสังเกตเห็นสุนัขท้องโตมากขึ้น ประกอบกับสุนัขมีแนวโน้มที่จะออกจากบ้านไปผสมพันธุ์มา การเห็นสุนัขท้องโตขึ้นก็เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าสุนัขน่าจะท้องแน่ ๆ แล้วค่ะ ถึงเวลาแล้วที่จะพาน้องไปตรวจครรภ์กับคุณหมอ อ่านสุนัขท้องกี่เดือนกันแน่และถ้าพาไปฝากท้องจะได้ตรวจอะไรบ้าง?
แต่อย่างไรก็ตามในทางสัตวแพทย์มีโรคบางชนิดที่ทำให้น้องหมาท้องโตได้เหมือนกัน เช่น โรคตับ โรคหัวใจ หากไม่มั่นใจว่าน้องหมาท้องโตจากสาเหตุอะไร การพาสุนัขไปหาหมอจะช่วยบอกเราได้ชัดเจนที่สุด
6.พบพฤติกรรมสร้างรัง
พฤติกรรมสร้างรังของสุนัข คือ พฤติกรรมที่สุนัขพยายามหาวัสดุอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็น ที่นอน กระดาษลัง หมอน หรือสิ่งของต่าง ๆ ที่สุนัขจะหาได้ นำมาสร้างเป็นรังเพื่อเตรียมเอาไว้สำหรับการคลอดและการดูแลลูกสุนัข
โดยพฤติกรรมนี้สามารถพบได้ในช่วงท้ายของการตั้งครรภ์ ในฐานะเจ้าของเราสามารถช่วยสุนัขได้โดยการจำกัดบริเวณไม่ให้คนภายนอกเข้ามารบกวนแม่สุนัข โดยเฉพาะเด็กเล็กซึ่งอาจเกิดอันตรายจากแม่สุนัขที่มีพฤติกรรมหวงลูก
.
จากปัญหาดังกล่าว ทำให้ Tammy F. Olsen และ Andrew L. Allen แห่งมหาวิทยาลัย The Western College of Veterinary Medicine ประเทศแคนนาดา ทำการเก็บข้อมูลทางสถิติของน้องหมาที่เสียชีวิตแบบเฉียบพลันจากโรคร้ายที่เกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ยังมีร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ดี ซึ่งผลวิจัยได้พบว่า โรคร้ายที่ทำให้น้องหมาจากไปก่อนวัยอันควรนั้น มักมีสาเหตุมาจาก 5 โรคดังนี้ค่ะ
.
โรคหัวใจและหลอดเลือด นับเป็นโรคยอดฮิตอันดับหนึ่งที่น้องหมาหลายๆ ตัวมักจะเป็นกัน ซึ่งเกิดขึ้นได้หลากหลายลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจเสื่อมแบบพองขยาย ที่มักพบในน้องหมาพันธุ์ใหญ่ มีอายุตั้งแต่ 4 – 10 ปีขึ้นไป, โรคลิ้นหัวใจเสื่อม มักพบในน้องหมาพันธุ์เล็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป รวมไปถึงโรคลิ้นหัวใจตีบแต่กำเนิด ที่มักเป็นมากในน้องหมาอายุ 2 เดือนถึง 2 ปี ฯลฯ ซึ่งอาการโรคหัวใจนี้มักทำให้น้องมีอาการเหนื่อยง่าย หอบ ไอแห้งๆ หายใจลำบาก ท้องกางขยายขึ้น หรือตัวบวมน้ำ หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นว่าน้องมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น ก็อาจเป็นไปได้ว่าน้องกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจอยู่ ควรพาน้องไปหาหมอโดยเร็ว เพื่อวินิจฉัยอาการ และรักษาได้ทันท่วงทีค่ะ
.
ร่างกายน้องได้รับสารพิษ หลายครั้งหลายคราที่น้องหมามักเสียชีวิตจากการโดนวางยาโดยคนใจร้าย ซึ่งมักจะเป็นยาเบื่อหนูกลุ่มวาร์ฟาริน ที่มีคุณสมบัติในการทำลายการแข็งตัวของเลือด เมื่อน้องได้รับยากลุ่มนี้เข้าสู่ร่างกาย จะทำให้น้องดิ้นทุรนทุราย ชักเหยียดเกร็ง มีอาการตกเลือด มีเลือดไหลออกจากรูทวารทั้งหก และเสียชีวิตในที่สุด แต่หากคุณพ่อคุณแม่สามารถพาน้องไปหาคุณหมอได้ทัน โอกาสที่น้องอาจจะรอดชีวิตก็ยังพอมีอยู่บ้าง โดยคุณหมอจะทำการฉีดวิตามินเค-1, ให้น้ำเกลือเข้าเส้นเลือดเพื่อให้ไตขับสารพิษออกจากร่างกาย และอาจต้องได้รับการถ่ายเลือดร่วมด้วยค่ะ
.
ปัญหาในระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะปัญหากระเพาะบิดขยายและบิดหมุน ที่มีสาเหตุเกิดจากการที่มีแก๊สหรืออาหารสะสมในกระเพาะอาหารอยู่เป็นจำนวนมาก จนทำให้กระเพาะอาหารขยายขนาดใหญ่ขึ้นคล้ายลูกโป่ง เมื่อน้องมีการเคลื่อนตัวไปมา ทำให้ภายในช่องท้องเกิดการบิดหมุนตามมา สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเลือดไม่สามารถไหลเวียนได้ตามปกติ อาจทำให้เส้นเลือดฉีกขาดและเสียเลือดได้ เมื่ออาการดังกล่าวเกิดขึ้น จะทำให้น้องเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลา 1 – 3 ชั่วโมง ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นอาการน้องหมาทำท่าจะอาเจียน แต่ไม่มีอะไรขย้อนออกมา มีน้ำลายมาก ทำท่าโก่งตัว สังเกตเห็นท้องขยายใหญ่แบบเฉียบพลัน มีอาการหอบ หายใจลำบาก เหงือกและลิ้นม่วง และร้องครางด้วยความเจ็บปวด ให้รีบป้อนยาลดแก๊สในกระเพาะอาหารให้น้อง หรือรีบพาน้องส่งโรงพยาบาลทันทีค่ะ
.
น้องได้รับบาดเจ็บ การประสบอุบัติเหตุก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้น้องเสียชีวิตได้ แม้ว่าจะไม่มีบาดแผลให้เห็นชัดเจนภายนอกก็ตาม แต่หากอวัยวะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง เช่น ตับฉีกขาด ม้ามแตก กระบังลมฉีกขาด กระดูกหัก มีเลือดออกในช่องท้อง หรืออวัยวะภายในเคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง ก็สามารถทำให้น้องเสียชีวิตได้ง่ายๆ เช่นเดียวกัน
.
น้องมีเลือดออกในร่างกาย โดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ โดยมักพบว่าน้องหมาเป็นมะเร็งชนิด Hemangiosarcoma ที่มักจะเป็นที่หัวใจห้องบนขวาและม้าม ทำให้เกิดเลือดออกภายในร่างกาย จนน้องเกิดภาวะช็อคและเสียชีวิตได้ในที่สุด ซึ่งน้องหมาที่มีอายุมากตั้งแต่ 8 – 13 ปีขึ้นไป มักจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งชนิดนี้ โดยเฉพาะน้องหมาพันธุ์ใหญ่ หากคุณพ่อคุณแม่พบว่าน้องมีน้ำหนักลดลง กินอาหารได้น้อยลง มีเหงือกซีด หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ แต่เสียงหัวใจเต้นเบาลง มีอาการเหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ควรพาน้องไปหาหมอเพื่อตรวจร่างกายโดยละเอียด ก่อนที่น้องจะจากไปแบบไม่ทันได้ลานะคะ
.
แม้ว่าทั้ง 5 โรคนี้ก็เป็นโรคที่มักจะทำให้น้องหมาด่วนจากเราไปได้บ่อยๆ ก็จริง แต่ก็ยังมีโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ อีกมากมายที่เราควรเฝ้าระวังไว้ไม่ให้เกิดกับน้องหมาได้ การหมั่นสังเกตอาการของน้องอย่างใกล้ชิด จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่คุณพ่อคุณแม่จะช่วยน้องได้ เพราะน้องไม่สามารถพูดได้อย่างเราๆ จึงไม่สามารถบอกได้ว่าตัวเองป่วยเป็นอะไรหรือเจ็บตรงไหน โดยเฉพาะน้องหมาที่มีอายุมาก แม้ว่าจะยังเดินเหินได้อยู่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าน้องจะมีสุขภาพดี ดังนั้นหากเป็นไปได้ ก็ควรพาน้องหมาไปตรวจสุขภาพกับคุณหมอเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้คุณหมอช่วยดูแลสุขภาพของน้องให้ดีอย่างสม่ำเสมอ และมีอายุยืนตามอายุขัยของน้องนะคะ