รับคำท้า(หัวใจ)ยัยตัวแสบ ตอนที่3 ค่าจ้างของเขา?

รับคำท้า(หัวใจ)ยัยตัวแสบ ตอนที่ 2  ให้ไปส่งก็ได้นะ!  https://pantip.com/topic/40783041

               ปริมากรีดร้องเสียงดังด้วยความตกใจเมื่อหันมามองหน้าของคนประคองตัวเธอเอาไว้  เธอรีบผละออกจากอ้อมแขนของชายหนุ่มอย่างด่วนจี๋

               “นะ...นาย! เข้ามาทำไมเงียบ ๆ”  แม่ครัวรัวคำพูดด้วยความตกใจไม่หาย
                “ต่อไปห้ามเข้ามาเงียบ ๆ อีก เข้าใจไหม!”  หญิงสาวโวยวายเสียงดังลั่นมองใบหน้าอมยิ้มน้อย ๆ ของหนุ่มผมยาวยิ่งไม่พอใจ ยิ่งหงุดหงิดเพิ่มขึ้น  ทำไมเขาถึงไม่กลับบ้านกลับช่องไปสักทีนะ!
                “ฉันถามว่าเข้าใจไหม!”

                คนถูกถามก้มหัวลงรับคำอย่างเชื่องช้า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มระรื่น ทำตาแบ๊วๆ
                "เข้าใจ...แต่จะทำตามหรือไม่ ก็...อีกเรื่องหนึ่ง" เขาเอียงคอแล้วยักคิ้วให้อย่างกวนประสาท          
       
                ปริมาถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้ม!! เกลียดรอยยิ้มกวนโอ๊ยของเขาเสียจริง  เธอเดินเลี่ยงไปเก็บเปลือกส้มและล้างภาชนะต่อ

                “นี่! ขอน้ำกินหน่อย ขับรถไปตั้งไกล ทั้งเหนื่อยทั้งร้อนมากรู้หรือเปล่า?”  เขาเริ่มบ่นบ้าง
                “แก้วอยู่นั่น” เธอชี้มือไปยังชั้นวางแก้วน้ำและมีเหยือกน้ำตั้งอยู่ใกล้ ๆ
                “บริการตัวเองนะ ยังไม่ว่าง!” 

                หนุ่มผมยาวส่ายหัว ก่อนจะหยิบแก้วแล้วเดินไปเปิดตู้เย็น เขามองเห็นน้ำส้มคั้นในเหยือกใสสี่เหลี่ยมทรงสูง ปฏิการยกเหยือกมาเทน้ำส้มใส่แก้วดื่มด้วยความกระหาย รู้สึกสดชื่นหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง รสชาติหวานเปรี้ยวถูกใจจริง ๆ

                ปริมาหันมามองด้วยความตกใจ เบิกตาโต เมื่อเห็นเหยือกน้ำส้มอยู่ในมือของหนุ่มจอมกวน
                “นี่! ใครอนุญาตให้นายกินน้ำส้ม”
                หนุ่มผมยาวเลิกคิ้ว  “ต้องขออนุญาตด้วย?”  
               เขาพ่นลมออกมาทางปาก  
                “เหอะ!”
                มันอะไรกันเนี่ย!  เขี้ยวชะมัด!  คิดแล้วเขาก็เทน้ำส้มใส่แก้วเพิ่มอีกหน้าตาเฉย
                แม่ครัวร่างเล็กรีบปราดเข้ามาแย่งเหยือกน้ำส้มจากมือของอีกฝ่ายทันที พลางตะโกนเสียงดังห้ามปราม
                “หยุด! พอแล้ว!”
                “ยังไม่พอ... ยังไม่หายหิวเลย” เขายื้อเหยือกน้ำส้มมาประชิดตัวเอง มองหน้าคนโวยวายแล้วยิ้มอย่างกวนประสาท ปฏิการยังพยายามเทน้ำส้มใส่แก้วตัวเองอีก
                “เอ๊... อย่าแย่งสิ! เดี๋ยวหก นี่เป็นค่าจ้างของฉันนะ” หนุ่มขี้แกล้งเบี่ยงตัวหลบ ยกเหยือกขึ้นสูง รอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากอย่างนึกสนุกมีความสุขที่ได้กวนเจ้าของบ้าน
                “ฉันกับพี่ปรามยังไม่ได้กินเลยนะ นายจะกินหมดเลยเหรอ” เสียงหญิงสาวอ่อนลง เมื่อไม่สามารถแย่งเหยือกน้ำส้มที่อยู่สูงกว่าตัวเธอได้
                “ก็ได้!” เขามองแม่ครัวตัวดีอย่างสงสาร “แล้วมีอะไรกินบ้างล่ะ” 
                “ต้มมะระผักกาดดอง ของโปรดพี่ปรามเลย” พี่ชายได้บอกเธอก่อนหน้านี้ ให้ทำอาหารตามที่ปฏิการขอและย้ำกับเธอว่าต้องทำให้เขาด้วย แต่คนอย่างเธอมีหรือที่จะยอมทำให้เขาง่าย ๆ ไม่มีทางหรอก!!
               "ทำไม! กินไม่เป็นเหรอ หรือกินไม่ได้!"  เธอมองหน้าเขาที่ดูจะไม่ปลื้มเท่าไหร่
                หนุ่มผมยาวทำจมูกย่น เขาเกลียดมะระทำไมค่าจ้างของเขากลายเป็นต้มมะระผักกาดดองไปได้  ไม่เอาเด็ดขาด!
                “กินได้ แต่ไม่อยากกิน มีอะไรไหม? ปรามบอกว่าอยากกินอะไรให้บอกเธอได้เลย คงเข้าใจนะ” เขาพูดพลางตีสีหน้ายียวนกวนโอ๊ย
                “แล้วจะกินอะไร ไม่ทราบ?! ทำเองเลยก็ได้นะ” เธอสะบัดเสียงห้วนอย่างไม่พอใจ จนมุมที่จะเลี่ยงไม่ยอมทำให้เขาพลางเดินไปดูหม้อข้าวที่หุงสุกแล้ว

                “นี่! ฉันอุตส่าห์ช่วยไปส่งของให้เธอตั้งไกลนะ เธอทำแบบนี้กับผู้มีบุญคุณได้ยังไง” ปฏิการเดินตามไปโวยวายกับเธอต่อ
                ปริมาหันมาจ้องหน้าหนุ่มจอมกวน
                “บุญคุณหมดไป ตั้งแต่...นายต้องการค่าจ้างแล้ว” หญิงสาวเน้นคำ
                “งั้น! ฉันต้องการรับค่าจ้าง เดี๋ยวนี้!” คนตัวสูงก้มหน้ามองคนตัวเล็กที่สูงเลยไหล่ของเขานิดเดียว

                ปริมาอยากจะร้องกรี๊ด  แต่ทว่าเธอห้ามตัวเองเอาไว้ พลางถอนหายใจออกเบา ๆ  บอกตัวเองใจเย็นไว้พร้อมกับเม้มริมฝีปากแน่น 
                “ได้สิ! อยากกินอะไรคะ” เธอกัดฟันข่มใจให้ร่ม ๆ แกล้งทำเป็นพูดดีกับเขา

               เพื่อนพี่ชายตีสีหน้าครุ่นคิด  แล้วดีดนิ้วอย่างนึกอะไรบางอย่างออก
               "ต้มยำ ทำเป็นมั้ยล่ะ” เขารู้สึกคิดถึงแม่ขึ้นมา ตอนแม่ยังไม่เลิกกับพ่อ แม่ของเขาชอบทำต้มยำให้ทาน ฝีมือแม่อร่อยมาก
               "ได้...แต่ตอนนี้ในตู้เย็นมีของไม่ครบ นายจะช่วยไปเก็บในสวนให้หน่อยได้ไหมล่ะ” เธอแกล้งทำเสียงขอร้อง
                 "ไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้หิวมาก หาอะไรมารองท้องก่อนสิ” เขายกมือตบท้องตัวเองเบา แล้วไปนั่งรอที่โต๊ะกลางห้อง

                  แม่ครัวตัวดีเดินไปหยิบกล้วยมาให้
                 หนุ่มผมยาวเบิกตาโตมองกล้วยน้ำว้าสุกงอมจนเปลือกกลายเป็นสีดำครึ่งหวีในมือของเธอ
                 "หะ!" เขาอุทานในลำคอ
                 "ให้กินกล้วยเน่านี่นะ!" ปกติเขาไม่เคยนึกอยากกินกล้วยซักนิดเลย แม้จะมีกล้วยสวย ๆ หวีงาม ๆ วางอยู่บนโต๊ะอาหารก็ตาม

              
             "อะไร! นี่คือของมีค่าของที่นี่เลยนะ เน่าที่ไหน ยังไม่เน่า นายไม่รู้อะไร... กล้วยมีประโยชน์มาก อุดมด้วยวิตามินมากมาย แค่กินกล้วยก็ได้วิตามินเกือบครบแล้ว ไม่เชื่อลองค้นหาในกูเกิ้ลดูสิ ที่รีสอร์ตของเราใช้กล้วยแทนน้ำตาลในการทำน้ำปั่นผัก ขายดีสุด ๆ เลย" เธอพูดถึงรีสอร์ตเล็กๆ ชื่อบ้านไร่ทะเลฝัน อยู่ติดทะเล ซึ่งแม่ทิ้งมรดกไว้ให้ก่อนเสียชีวิต  ปริมาเดินเอากล้วยไปวางที่โต๊ะกลางห้องครัวแถมหยิบส้มมาวางให้อีกสองสามลูก

                 ชายหนุ่มเลิกคิ้วมองส้มเหี่ยวๆ ที่เธอนำมาวาง ให้ตายสิ! ค่าจ้างแต่ละอย่างช่างดีงามเหลือเกิน

                 อีกฝ่ายหันมามอง "ยังไม่เน่า ก็น้ำส้มที่นายกินไปไง ทำจากส้มนี้แหละ นี่เป็นส้มไร้สารพิษนะ รู้ไหม  ส้มทั่วไปมีสารเคมีมากแค่ไหน แล้วปลูกแบบไม่ใส่สารเคมีปลูกยากมากนะอีกอย่างส้มนี้วางอยู่ในอุณหภูมิห้องมาแค่สามอาทิตย์เอง รสชาติยังไม่เปลี่ยนเลย" แม่ครัวตัวดีอธิบายผลการทดลองการเก็บส้มในอุณหภูมิห้อง

                  "เขี้ยวชะมัด!"  เขาบ่นขมุบขมิบเบา ๆ
                  "ตกลงจะกินหรือไม่กิน  อย่างนาย...คงจะ..."  แม่ครัวตัวแสบมองใบหน้าขาวละมุนดูเป็นลูกผู้ดีมีตระกูล ผู้ชายอะไรผิวดีขนาดนี้ จะต้องเป็นพวกกินยากเลือกกินแน่นอนเลย 

                  "กินสิ!" เขารีบพูดทับขึ้นมาขณะที่เธอยังพูดไม่ทันจบ สองมือรีบคว้าทั้งกล้วยทั้งส้มรวบมาไว้ใกล้ตัว
                 คนถูกสบประมาทรีบบิดกล้วยงอมเปลือกสีกระดำกระด่างออกจากหวี พอปอกเปลือกออกผิวข้างในยังดูดีอย่างที่เธอบอกแต่แรก เขาแกล้งกินกล้วยอย่างเอร็ดอร่อยโชว์ทั้งที่ไม่เคยชอบกล้วยเลย จากนั้นแกะเปลือกส้มเหี่ยว ๆ ออกแม้ว่าจะแกะค่อนข้างยากเพราะผิวส้มนั้นแห้งจนติดเนื้อแต่เนื้อส้มข้างในยังสดมาก รสชาติหวานอร่อยชื่นใจ แถมซังยังนุ่มอีกด้วย มันดูที่ภายนอกอย่างเดียวไม่ได้จริง ๆ

                 "แล้วจะต้องไปเก็บอะไรบ้างล่ะ เก็บที่ไหน" เขาลุกขึ้นเตรียมพร้อมเป็นลูกมือของเธอแล้ว     
                 หญิงสาวชี้นิ้วไปที่สวนครัวหลังบ้าน ซุปเปอร์มาร์เก็ตมีชีวิตของบ้านไร่ทะเลฝัน
                หนุ่มมาดกวนชะงักเล็กน้อย เกิดมาเคยเข้าสวนที่ไหน ตั้งแต่เล็กเขาจับไมโครโฟนเพื่อฝึกร้องเพลงและเล่นแต่กีต้าร์มาตลอด
                "นำไปสิ" เขาเบ้หน้าให้เจ้าของบ้านเดินนำ
                แม่ครัวตัวแสบหมุนตัวเดินไปที่ประตู ใบหน้าซ่อนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ‘คราวนี้นายโดนดีแน่!’ เธอพาเขาเดินไปเก็บเห็ดก่อน เริ่มจากงานง่ายที่สุด
               "เราจะทำต้มยำเห็ดฟาง ต้องไปเก็บเห็ดก่อน” เจ้าของสวนบ้านไร่ทะเลฝันพาเขาเดินไปยังแปลงเพาะเห็ดฟาง ซึ่งมองเห็นเป็นแปลงสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้างราวหนึ่งเมตรแต่ละแปลงจะคลุมด้วยฟางจนมิด แล้วคลุมด้วยพลาสติกใสอีกทีหนึ่ง

               หนุ่มผมยาวมองเห็ดฟางด้วยความตื่นเต้น อดเอามือถือออกมาถ่ายรูปไม่ได้ ดอกเห็ดฟางลูกกลมมนสีขาวอมเทาโผล่พ้นดินสีดำที่มีความอุ่นและชื้น
                "อยากกินเท่าไหร่ก็เก็บเอาเลย" ปริมาส่งถังขนาดเล็กให้เขาไว้ใส่เห็ดฟาง
                "ถ่ายรูปให้หน่อยสิ ดอกใหญ่มาก” เขาส่งมือถือให้เธอก่อนหยิบเห็ดฟางดอกงามมาวางชิดแก้มขาวใสของตัวเอง ริมฝีปากบางนั้นโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มละมุนที่มุมปาก

                ปริมารับมือถือมาถ่ายรูปให้ แม้ว่าจะแอบค่อนแคะเขาอยู่ในใจ ‘ผู้ชายอะไรยิ้มหวานราวกับผู้หญิงขนาดนี้’
                "นี่! ถ้าฉันมารับจ้างเก็บเห็ดเธอจะรับไหม"  ชายหนุ่มค่อย ๆ ดึงเห็ดฟางออกมาพลางสลัดดินที่ติดมาออกแล้วใส่ลงในถัง
                "ไว้มาจริง ๆ ก่อนเหอะ” เธอตอบอย่างไม่เชื่อว่า หนุ่มมาดสำอางดูเป็นศิลปินจ๋าอย่างเขาจะมารับจ้างเธอจริง ๆ แค่เห็นเขาแต่งตัวก็ขัดหูขัดตาเธอไปหมด ไม่ว่าจะเป็นทรงผม ตุ้มหู เท่ตายล่ะ!

                หนุ่มหน้ามนเดินตามหญิงสาวลอดซุ้มเตี้ย ๆ มองเห็นมะเขือเทศสุกสีแดงลูกใหญ่ห้อยระย้าเป็นพวงเต็มไปหมด มีทั้งพริกทั้งบวบ และมะระจีนที่เรื้อยเกาะเกี่ยวกันตามห้างร้านที่ทำจากเชือกในล่อนเป็นตาข่ายที่สูงระดับไหล่ 
                ปริมาแอบอมยิ้มเมื่อเห็น หนุ่มมาดกวนก้มโค้งเก็บมะเขือเทศ เก็บพริก ท่าทางจะก้มจนปวดหลังเพราะเขาตัวสูงมาก แขนขายาวเก้งก้างไปหมด เมื่อต้องอยู่ในที่แคบ ๆ แบบนี้  แม้แปลงผักจะมีอยู่หลายแปลงแต่เธอเจตนาแกล้งให้เขาต้องมาเข้าแปลงนี้โดยเฉพาะ 

                "พอยัง ปวดหลังจะแย่แล้ว” ชายหนุ่มเริ่มบ่นที่ต้องก้มตัวตลอดเวลา เพราะหลังคาซุ้มนั้นเตี้ยกว่าตัวเขาเล็กน้อย
               "ไหนบอกจะมารับจ้างไม่ใช่เหรอ?"  
               "ถ้าเธอจ้างจริง ทำได้อยู่แล้ว.... จะให้เก็บอะไรบอกมาเลยคร้าบ..." เขาพยายามยิ้มกลบเกลื่อนแม้จะเริ่มรู้สึกเหนื่อยและร้อนก็ตาม  พลางยกมือขยับคอเสื้อยืดสีขาวไปมา เกิดมาไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย  
               "ต้องเก็บข่ากับตะไคร้เพิ่ม"

               เจ้าของสวนพาเขาออกจากซุ้มมาไม่นานก็เจอแปลงปลูกตะไคร้และข่า  
                "หักตะไคร้มาสี่ห้าอัน อย่าให้รากมันติดมาล่ะ"  
                ชายหนุ่มวางถังเก็บเห็ดและมะเขือเทศลงกับพื้นดินแล้วย่อตัวลงข้าง ๆ โคนของต้นตะไคร้กอใหญ่
                "เอาต้นใหญ่ ๆ อวบ ๆ นะ"  

                 อยู่ ๆ หนุ่มผมยาวสะดุ้งโหยง พลันกระโดดออกจากโคนต้นตะไคร้ทันที
                 "มด..........!” คนตัวสูงตะโกนลั่น รีบวิ่งออกไปยืนห่างๆ ก้มตัวปัดมดตามมือและขากางเกงออกอย่างเร็วที่สุด

                 หญิงสาวหัวเราะ ก่อนเดินเข้าไปหาแล้วหยิบน้ำมันเขียวจากกระเป๋ากางเกงส่งให้
                 "โชคดีที่ยังไม่ทันโดนกัด” เขามองหน้าเธอดูมีความสุขเสียจริง นี่มันแกล้งกันใช่ไหม?
                 "โธ่เอ๊ย! ร้องซะดังเลย ปอดชะมัด" เธอยื่นหน้าไปยิ้มเยาะใส่เขา

                 ปฏิการชี้นิ้วมาที่หน้าผากของหญิงสาวแล้วชี้ไปยังผมของตัวเอง
                 "มดอยู่ที่ผมเธอ"

                 สิ้นคำพูดของเขา อีกฝ่ายรีบก้มศีรษะลง ยกมือปัดผมตัวเองเป็นพัลวัน
                 หนุ่มหน้ากวนฉีกยิ้มกว้าง

                 “มีซะเมื่อไหร่? ล้อเล่น...น้า...."  เขาเอาคืนบ้าง พลางโบกมือล้ออีกฝ่าย     
            
                  ปริมาชักสีหน้าตึงขึ้นมาทันทีเมื่อถูกชายหนุ่มแกล้งเอาบ้าง
                 "ทำงานต่อได้แล้ว หิ้วถังมาด้วย” คนเสียหน้าหันไปสั่งเสียงห้วน แล้วเดินนำไป
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่