ในห้วงแห่งภวังค์ กึ่งหลับ กึ่งตื่น...
ออเรเคิล พบว่าตนเองอยู่ท่ามกลางความมืด มองไม่เห็นสิ่งใด
แต่รู้สึกว่ารอบกายนั้นเยียบเย็น สัมผัสได้ถึงความเหลวและขุ่นข้นของน้ำ
ในท่ามกลางแห่งความมืดนั้น มีแสงสว่างดวงเล็กๆ เรืองขึ้น แล้วค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น สว่างมากขึ้น...และกลางแสงสว่างนั้น ร่างของสตรีนางหนึ่งในชุดขาวทั้งชุด ปรากฏขึ้น...
เป็นผู้ที่นางมิได้พบเห็นมาเนิ่นนาน...แต่อยู่ในความทรงจำของตนเสมอมา
"ท่านแม่!!"
ทันทีที่ออเรเคิลร้องเรียก สตรีนั้นก็ยิ้มให้ เป็นยิ้มที่เปี่ยมด้วยความรักความอบอุ่น และสายตาที่มองนางก็เต็มไปด้วยความรักใคร่อ่อนโยน เหมือนอย่างที่เคยได้ยินและได้เห็นในอดีต
"จ้ะ...ออเรเคิล แม่มาแล้ว..."
"ท่านแม่..."
ออเรเคิลร้องไห้โฮ ความรู้สึกของนางตอนนี้เหมือนกับเด็กหญิงตัวน้อยๆ อย่างที่เคยเป็นในอดีต
สตรีผู้เป็นแม่ ซึ่งคือมารดาบุญธรรมในอดีต เข้ามาโอบกอดนางไว้ มือข้างหนึ่งลูบศีรษะเพื่อปลอบประโลม ปล่อยให้นางร้องไห้สะอึกสะอื้นแนบอก ระบายความอัดอั้นให้เต็มที่...เนิ่นนาน
ในที่สุด ผู้เป็นลูกก็เงยหน้าขึ้น มองหน้าผู้เป็นแม่ แล้วถามคำถามแรก
"นี่ข้าตายแล้วใช่ไหม ถึงได้พบกับท่านแม่อย่างนี้ ?"
ผู้เป็นแม่ยิ้มพลางส่ายหน้า
"ไม่จ้ะลูก...เจ้ายังไม่ตายหรอก และเจ้าจะตายไม่ได้!"
ออเรเคิลน้ำตาไหลอีกครั้งและคร่ำครวญ
"ทำไม...ข้าอยากตาย แต่ตายไม่ได้เล่า ท่านแม่ ? ชีวิตข้าไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว ข้าสิ้นหวัง สูญสิ้นทุกอย่าง จนข้ามอบกายมอบชีวิตให้แก่น้ำในทะเลสาบนี้แล้ว ข้าสมควรตายไปแล้วสิท่านแม่"
สตรีผู้เคยรับนางไปเลี้ยงดูนั้น ยิ้มและส่ายหน้าอีกครั้ง
"เจ้าตายไม่ได้หรอกลูก...ทะเลสาบแห่งนี้ ชื่ออะไร ?"
ออเรเคิลนึกเพียงครู่เดียว แล้วทำตาโต ตอบอย่างขัดใจ
"ทะเลสาบ...โพเซดอน!"
"ถูกต้องจ้ะ" ผู้เป็นแม่พยักหน้า ยังยิ้มเหมือนเดิม แล้วถาม
"เจ้าก็ได้พบกับโพเซดอนแล้วมิใช่หรือ ?"
"หมายความว่า เขาช่วยข้าไว้หรือ ?"
"เปล่าหรอกจ้ะ" คราวนี้ผู้เป็นแม่ส่ายหน้าปฏิเสธ
"ในเมื่อเขาไม่ได้มาช่วย ข้าก็ควรต้องตายแล้วสิ ทำไม..ข้าจึงไม่ตายเล่า ?"
คำตอบของมารดาบุญธรรม สร้างความงุนงงสงสัยแก่ออเรเคิลอย่างมากมาย
"เพราะเจ้าเป็นลูกของเขา เจ้าจึงไม่ตายจ้ะ และไม่มีวันที่จะตายได้!"
ออเรเคิลมองหน้าผู้เป็นแม่ด้วยความข้องใจ
"ไม่ต้องสงสัยอะไรมากนักเลยลูก...แล้วเจ้าจะเข้าใจเอง! แม่ไม่จำเป็นต้องอธิบาย เชื่อแม่เถิด,สมญานาม 'สมุทรเทพ' ของพ่อเจ้า มิไช่ได้มาเพราะโชคช่วย! มิใช่ผู้คนกล่าวเลื่อนลอยแต่อย่างใด เขาสมควรได้รับการยกย่องเช่นนั้น! เจ้าจะเข้าใจในภายหลัง...เอาละ ออเรเคิลลูกแม่...ฟังแม่นะ...เจ้ายังเชื่อฟังแม่ไหม ?"
"แน่นอนเจ้าค่ะ!" ออเรเคิลตอบโดยไม่ต้องคิด "ในโลกนี้ ข้าเชื่อฟังท่านแม่แต่เพียงผู้เดียว!"
"เจ้ายืนยัน และสัญญาแม่ได้ไหม กับคำพูดนี้ของเจ้า ?" ผู้เป็นแม่ถามย้ำพร้อมกับยิ้มอันเปี่ยมด้วยความรักความอบอุ่นอย่างคงเส้นคงวาไม่แปรเปลี่ยน
"ข้ายืนยัน และสัญญา ด้วยชีวิตเจ้าค่ะ! ท่านแม่" นางพยักหน้า ตอบเสียงหนักแน่น
"ดีมากจ้ะลูกรัก! ถ้าอย่างนั้น จงฟังแม่ให้ดี...สิ่งที่ผ่านพ้นไปในอดีต จงปล่อยให้มันผ่านไป เและจงมีชีวิตใหม่! ให้ถือว่า ออเรเคิลผู้โศกศัลย์ เมามาย ได้จมลงสู่ทะเลสาบโพเซดอนแห่งนี้ และตายไปแล้ว เมื่อเจ้าขึ้นจากน้ำ เจ้าจงเป็นออเรเคิลคนใหม่! คนที่จะไม่มีวันหวนกลับเข้าไปในด้านมืดอีก! มิตรสหายดีๆ ของเจ้ามีอยู่มากมาย พี่สาวของเจ้าก็เช่นเดียวกัน แม้แต่ไดโอเซนัสผู้เป็นอาจารย์ และฟรีด้า ศิษย์ผู้พี่ของเจ้า ก็เช่นกัน จงพยายามทำดีต่อพวกเขาเถิด"
"ท่านแม่ จะให้ข้าเลิกพยายามไขว่คว้าความเป็นใหญ่ เลิกการปีนป่ายขึ้นไปสู่จุดสูงสุดเหนือผู้อื่น ดังคำที่ท่านเคยสั่งสอนข้าไว้ก่อนตายแล้วหรือเจ้าคะ ?" ออเรเคิลถามอย่างข้องใจอีกครั้ง
"จ้ะลูก..." ผู้เป็นแม่ยิ้มปลอบโยนและพยักหน้า
"แม่ขอถอนคำพูดเหล่านั้น...คำสั่งสอนที่แม่เคยกล่าวสั่งเสียแก่ลูกนั้น เป็นคำสั่งสอนที่ผิด เกิดจากความคับแค้นใจ ผลของมันทำให้ลูกทำผิดมากมายหลายประการ ลูกได้ทุกสิ่งตามที่ลูกปรารถนาก็จริง แต่สิ่งเหล่านั้นมันไม่จีรัง เป็นเพียงภาพลวงตา สุดท้ายลูกก็ต้องสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ที่สำคัญ คำสั่งสอนที่ผิดๆ ที่แม่ให้แก่ลูก ก็สร้างความทุกข์ทรมาณอย่างแสนสาหัสแก่แม่ด้วยในโลกวิญญาณ! ไม่อาจก้าวข้ามภพไปสู่สุคติได้! ลูกคงไม่ต้องการให้แม่ทนทุกข์ทรมาณต่อไปกระมัง ?"
"ไม่แน่นอนเจ้าค่ะ!!" ออเรเคิลตอบโดยไม่ต้องคิดอีกครั้ง
"ดังนั้น ลูกต้องเลิกเป็นคนที่เคยเป็น ให้ออเรเคิลคนเก่าตายไป จงเป็นออเรเคิลคนใหม่ผู้ฟื้นขึ้นมาจากความตาย และพยายามทำคุณงามความดีให้มากที่สุดนะลูก แล้วในอนาคต เราจะได้พบกันอีก!"
ออเรเคิลนิ่งเงียบอยู่นาน ก่อนจะกล่าวถึงความวิตกกังวลของตนที่มีอยู่
"ท่านแม่...ข้าทำความผิดต่อผู้คนมากมาย โดยเฉพาะกับอาจารย์และศิษย์พี่ ข้าละอายใจอย่างท่วมท้น จะมีหน้ากลับไปหาพวกเขาได้อย่างไร..."
ผู้เป็นมารดายิ้มปลอบใจนางอีกครั้ง ยกมือลูบศีรษะนางขณะที่กล่าวแนะนำ
"ละอายใจ ไม่อยากกลับไปหาพวกเขา ก็ไม่จำเป็นต้องให้พวกเขาพบหน้าก็ได้นี่จ๊ะลูก! การทำความดี ทำโดยไม่ต้องให้ใครรู้ว่าเราทำ ก็ได้นี่นา!"
ออเรเคิลเงยหน้าขึ้น สบตานาง แล้วยิ้ม
"เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่!!"
"ดีจ้ะลูก มานี่มา..."
นางโอบกอดลูกอีกครั้ง แล้วให้คำสั่งสอนสุดท้าย ก่อนจากลา...
"ต่อไป ก็เชื่อฟังพ่อเขาด้วยนะลูก...เขามิใช่คนธรรมดา และเจ้าก็เช่นเดียวกัน!"
"ท่านแม่...จะไปจากข้าแล้วหรือเจ้าคะ ?" ออเรเคิลแหงนหน้าขึ้นถามด้วยน้ำตาคลอ
"ถึงเวลาที่แม่ต้องไปแล้วจ้ะลูก...แต่ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกังวล แม่จะคอยเฝ้าดูลูกอยู่เสมอ แล้วพบกันใหม่จ้ะ ลูกรัก..."
"ท่านแม่..." ออเรเคิลกอดนางกระชับแน่น นางผู้เป็นแม่โอบกอดตอบ ลูบศีรษะนางไปมา...
และแล้ว นางก็อันตรธานหายไป !!
"ท่านแม่...อุ๊บบบ..."
ออเรเคิลร้องละเมอ แล้วสะดุ้งตื่นอย่างฉับพลัน !! เพราะรู้สึกมีน้ำเข้าปากขณะที่นางเปิดปาก! และพบว่า ตนเอง อยุ๋ในน้ำ! อยู่ที่ก้นทะเลสาบ...
บุ๋งๆๆๆๆ..........
บุ๋งๆๆๆๆ..........
บุ๋งๆๆๆๆๆ.........
หูได้ยินเสียงน้ำเป็นฟองๆ พวยพุ่งขึ้นใกล้ๆ บริเวณริมแก้ม ใกล้ใบหู ลงไปจนก่อนจะถึงคาง!
ออเรเคิลรู้สึกตื่นเต้น! เพราะตอนนี้ นางมิได้หายใจทางจมูก! ภายในรูจมูกทั้งสองข้างเหมือนมีอวัยวะบางอย่างปิดกั้นไว้!
แต่ว่า นางก็กำลังหายใจ !!
บุ๋งๆๆๆๆๆๆ.......
บุ๋งๆๆๆๆๆๆ.........
บุ๋งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.......
บริเวณใต้ริมแก้มสองข้าง อวัยวะบางอย่าง กำลังทำงานหายใจแทนจมูก...รู้สึกได้ว่ามันมีความเคลื่อนไหว ปิด เปิด ปิด เปิด เพยิบๆ ยามที่ปิด อากาศในน้ำถูกดูดและกรองเข้าสู่ร่างกาย ยามที่เปิด อากาศเสียถูกปล่อยอกมา ทำให้เกิดฟองน้ำลอยฟ่องขึ้นผ่านข้างใบหู ผ่านศีรษะขึ้นไปข้างบน....นางลองเอาสองมือลูบคลำดู...
เหงือก !! ตอนนี้ นางมีเหงือกสองข้างเหมือนปลา !! จึงหายใจในน้ำได้ !!
รู้สึกปวดหนึบๆ นิดๆ เหมือนกันบริเวณที่ตั้งของเหงือกทั้งสองข้าง! แสดงว่ามันเพิ่งเปิด หลังจากนางจมลงในน้ำ...
น้ำรอบกายเย็นเฉียบ มองเห็นกลายเป็นน้ำแข็งบางส่วน โดยเฉพาะด้านบน บริเวณผิวน้ำ
ออเรเคิลพลันนึกถึงคำพูดของแม่บุญธรรม...
"เพราะเจ้าเป็นลูกของเขา เจ้าจึงไม่ตายจ้ะ และไม่มีวันที่จะตายได้!"
"เชื่อแม่เถิด,สมญานาม 'สมุทรเทพ' ของพ่อเจ้า มิไช่ได้มาเพราะโชคช่วย! มิใช่ผู้คนกล่าวเลื่อนลอยแต่อย่างใด เขาสมควรได้รับการยกย่องเช่นนั้น! เจ้าจะเข้าใจในภายหลัง..."
ถึงตอนนี้ ออเรเคิล มีความรู้สึกว่าตนเอง
"มีชีวิตใหม่" จริงๆ !!
นางแหวกว่ายน้ำขึ้นสู่เบื้องบน...รู้สึกสนุกกับการหายใจวิธีใหม่!
พอว่ายน้ำขึ้นไป สายตาก็มองเห็นสัตว์ชนิดหนึ่งสองสามตัว ว่ายเข้าหาตัว
จระเข้ !! สามตัว! ท่าทางเหมือนกำลังหิวทีเดียว!!
"เจ้าพวกนี้ ส่งโทรจิตบอกกันดีๆ คงไม่ได้แน่!" ออเรเคิลนึกพลางมือข้างซ้ายดึงด้ามไลท์เซเบอร์ซึ่งยังคงพกติดอยู่ข้างเอวออกมา กดปุ่มเปิด
วูมมมมม........
แท่งเลเซอร์รูปดาบยาวพุ่งปราดออกจากโคนด้าม ออเรเคิลแหวกว่ายน้ำกลับหลังหันเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายกระหายเลือดทั้งสามตัว กวัดแกว่งดาบเลเซอร์เข้าใส่เจ้าตัวแรกสุดที่พุ่งเข้าจู่โจมตน และกรีดมันระหว่างปากยาวๆ ของมันที่อ้าออกแล้วผ่ามันตลอดทั้งตัว สะบัดดาบเลเซอร์วูบ! จระเข้นั้นขาดสองท่อน!! เลือดคาวคละคลุ้งกระจายปนกับน้ำโดยรอบ
ควากกก.....!!!
เจ้าตัวแรกตายทันทีทันใด อีกสองตัวเมื่อได้กลิ่นเลือดจากร่างของเพื่อนพวกมันซึ่งถูกผ่าเป็นสองซีก ก็พุ่งเข้าไปงับ ตัวละซีก แบ่งกันลงตัวพอดี !! แล้วว่ายน้ำจากไป
ออเรเคิล ขึ้นสู่ผิวน้ำ ใช้ปลายดาบเลเซอร์กรีดแผ่นน้ำแข็งเบื้องบนเป็นวงกลม แล้วส่งตัวเองลอดช่องน้ำแข็งขึ้นจากน้ำ
พอขึ้นมาอยู่บนบก เหงือกบริเวณข้างแก้มใกล้คางก็ยุบเข้าไป "วาลว์" ภายในรูจมูกเปิดรับอ๊อกซิเจนแทนที่โดยอัตโนมัติ
"เฮ้อ..." ออเรเคิลถอนใจ และยิ้มให้ตัวเอง
"ชีวิตหนอชีวิต...ตลกจริงๆ! อุตส่าห์ลงน้ำเพื่อฆ่าตัวตายแท้ๆ กลับตายไม่ได้ แต่เป็นการมีชีวิตใหม่ กลายเป็นคนสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกเสียอย่างนั้น !! เหลือเชื่อจริงๆ !!"
ส่ายหน้าให้กับตัวเองทีหนึ่ง จากนั้นเดินกลับขึ้นไปบนเทือกเขาแอตลาส ณ จุดเดิมอีกครั้ง มองดูลานประลองประวัติศาสตร์แล้วอดรู้สึกสะท้อนใจเสียมิได้ นึกถึงคำสนทนาระหว่างตนกับแม่บุญธรรมขึ้นมาอีกครั้ง...
"...คำสั่งสอนที่แม่เคยกล่าวสั่งเสียแก่ลูกนั้น เป็นคำสั่งสอนที่ผิด เกิดจากความคับแค้นใจ ผลของมันทำให้ลูกทำผิดมากมายหลายประการ..."
"...ที่สำคัญ คำสั่งสอนที่ผิดๆ ที่แม่ให้แก่ลูก ก็สร้างความทุกข์ทรมาณอย่างแสนสาหัสแก่แม่ด้วยในโลกวิญญาณ! ไม่อาจก้าวข้ามภพไปสู่สุคติได้! ...."
"...ลูกต้องเลิกเป็นคนที่เคยเป็น ให้ออเรเคิลคนเก่าตายไป จงเป็นออเรเคิลคนใหม่ผู้ฟื้นขึ้นมาจากความตาย และพยายามทำคุณงามความดีให้มากที่สุดนะลูก...."
"...การทำความดี ทำโดยไม่ต้องให้ใครรู้ว่าเราทำ ก็ได้นี่นา!"
"ท่านอาจารย์...ศิษย์พี่...ข้าจะพยายามชดใช้ในสิ่งที่ข้าได้ทำกับพวกท่าน..." ออเรเคิลพูดพึมพำขณะจ้องมองดูลานประลองนั้น แล้วเดินไปยังโพรงมืดอันเป็นช่องทางลับซึ่งนำไปสู่เกาะนิรนาม
"ป่านนี้ เจ้านีลาคงรอคอยเราอยู่ คงเหงาแย่แล้ว รอหน่อยนะลูก...แม่กำลังกลับมาหาเจ้าแล้ว"
แล้วสูดลมหายใจลึก...โดดลงไปสู่ความมืดดำ อันมีสายน้ำรออยู่เบื้องล่าง...
=============================
ก่อนหน้าที่ออเรเคิลจะตัดสินใจฆ่าตัวตาย...ทางด้านเหนือน่านฟ้าเมืองโลโคเทียและมลรัฐใกล้เคียง สงครามระหว่างชาวโลกคือชาวแอตแลนติสร่วมกับกัปตันและคณะ กับเหล่าชนเร็พไทเลี่ยนผู้มาจากดาวไซเมนนัสแห่งกลุ่มดาวแมงป่อง ก็เริ่มเปิดฉาก หลังการเผยตัวของยานแม่ของฝ่ายหลังซึ่งซ่อนตัวอยู่ภายใต้เปลือกนอกเป็นดาวเคราะห์น้อยขนาดยักษ์ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณถึงห้ากิโลเมตร และยาวเป็นสิบๆ กิโลเมตร
เมื่อยานแม่ขนาดยักษ์เปิดช่องใต้ท้องปล่อยยานลูกนับร้อยนับพันลำลงมาและกระจายกำลังไปทั่วทุกทิศ ฝูงยานรบของชาวแอตแลนติสก็บินขึ้นไปต่อกรด้วย รวมทั้ง THE FUGITIVE ของกัปตันวันชนะและชาวคณะส่วนใหญ่ กับยาน SAVIOR FALCON ของสถาพร ซึ่งมีเอวาและสามหนุ่มอาข่าอยู่ด้วย ซึ่งขณะนี้ทั้ง 4 คนผ่านการเรียนรู้และฝึกฝนจากเจ้าของยานจนสามารถเป็นผู้ช่วยได้เป็นอย่างดี โดยเอวาเป็นนักบินผู้ช่วยคนที่หนึ่ง บรรจงเป็นคนที่สอง อาบือเป็นคนที่สามและอาเจอะรั้งท้ายในตำแหน่งผู้ช่วยคนที่สี่ ส่วนสมาชิกพิเศษคือนางหมูไลล่าถูกฉีดยานอนหลับแล้วถูกพาไปนอนอยู่ใน "คอกพิเศษ" เป็นห้องๆ หนึ่งซึ่งจัดไว้ให้มันต่างหากเพื่อมิให้มันร้องและวิ่งพล่านวุ่นวาย
(มีต่อครับ) ^^
💫🕛💫🚀 แดนศิวิไลซ์ ( หลงกาล ภาค 2 ) ตอนที่ 57 🚀💫🕛💫
ออเรเคิล พบว่าตนเองอยู่ท่ามกลางความมืด มองไม่เห็นสิ่งใด แต่รู้สึกว่ารอบกายนั้นเยียบเย็น สัมผัสได้ถึงความเหลวและขุ่นข้นของน้ำ
ในท่ามกลางแห่งความมืดนั้น มีแสงสว่างดวงเล็กๆ เรืองขึ้น แล้วค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น สว่างมากขึ้น...และกลางแสงสว่างนั้น ร่างของสตรีนางหนึ่งในชุดขาวทั้งชุด ปรากฏขึ้น...
เป็นผู้ที่นางมิได้พบเห็นมาเนิ่นนาน...แต่อยู่ในความทรงจำของตนเสมอมา
"ท่านแม่!!"
ทันทีที่ออเรเคิลร้องเรียก สตรีนั้นก็ยิ้มให้ เป็นยิ้มที่เปี่ยมด้วยความรักความอบอุ่น และสายตาที่มองนางก็เต็มไปด้วยความรักใคร่อ่อนโยน เหมือนอย่างที่เคยได้ยินและได้เห็นในอดีต
"จ้ะ...ออเรเคิล แม่มาแล้ว..."
"ท่านแม่..."
ออเรเคิลร้องไห้โฮ ความรู้สึกของนางตอนนี้เหมือนกับเด็กหญิงตัวน้อยๆ อย่างที่เคยเป็นในอดีต
สตรีผู้เป็นแม่ ซึ่งคือมารดาบุญธรรมในอดีต เข้ามาโอบกอดนางไว้ มือข้างหนึ่งลูบศีรษะเพื่อปลอบประโลม ปล่อยให้นางร้องไห้สะอึกสะอื้นแนบอก ระบายความอัดอั้นให้เต็มที่...เนิ่นนาน
ในที่สุด ผู้เป็นลูกก็เงยหน้าขึ้น มองหน้าผู้เป็นแม่ แล้วถามคำถามแรก
"นี่ข้าตายแล้วใช่ไหม ถึงได้พบกับท่านแม่อย่างนี้ ?"
ผู้เป็นแม่ยิ้มพลางส่ายหน้า
"ไม่จ้ะลูก...เจ้ายังไม่ตายหรอก และเจ้าจะตายไม่ได้!"
ออเรเคิลน้ำตาไหลอีกครั้งและคร่ำครวญ
"ทำไม...ข้าอยากตาย แต่ตายไม่ได้เล่า ท่านแม่ ? ชีวิตข้าไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว ข้าสิ้นหวัง สูญสิ้นทุกอย่าง จนข้ามอบกายมอบชีวิตให้แก่น้ำในทะเลสาบนี้แล้ว ข้าสมควรตายไปแล้วสิท่านแม่"
สตรีผู้เคยรับนางไปเลี้ยงดูนั้น ยิ้มและส่ายหน้าอีกครั้ง
"เจ้าตายไม่ได้หรอกลูก...ทะเลสาบแห่งนี้ ชื่ออะไร ?"
ออเรเคิลนึกเพียงครู่เดียว แล้วทำตาโต ตอบอย่างขัดใจ
"ทะเลสาบ...โพเซดอน!"
"ถูกต้องจ้ะ" ผู้เป็นแม่พยักหน้า ยังยิ้มเหมือนเดิม แล้วถาม "เจ้าก็ได้พบกับโพเซดอนแล้วมิใช่หรือ ?"
"หมายความว่า เขาช่วยข้าไว้หรือ ?"
"เปล่าหรอกจ้ะ" คราวนี้ผู้เป็นแม่ส่ายหน้าปฏิเสธ
"ในเมื่อเขาไม่ได้มาช่วย ข้าก็ควรต้องตายแล้วสิ ทำไม..ข้าจึงไม่ตายเล่า ?"
คำตอบของมารดาบุญธรรม สร้างความงุนงงสงสัยแก่ออเรเคิลอย่างมากมาย
"เพราะเจ้าเป็นลูกของเขา เจ้าจึงไม่ตายจ้ะ และไม่มีวันที่จะตายได้!"
ออเรเคิลมองหน้าผู้เป็นแม่ด้วยความข้องใจ
"ไม่ต้องสงสัยอะไรมากนักเลยลูก...แล้วเจ้าจะเข้าใจเอง! แม่ไม่จำเป็นต้องอธิบาย เชื่อแม่เถิด,สมญานาม 'สมุทรเทพ' ของพ่อเจ้า มิไช่ได้มาเพราะโชคช่วย! มิใช่ผู้คนกล่าวเลื่อนลอยแต่อย่างใด เขาสมควรได้รับการยกย่องเช่นนั้น! เจ้าจะเข้าใจในภายหลัง...เอาละ ออเรเคิลลูกแม่...ฟังแม่นะ...เจ้ายังเชื่อฟังแม่ไหม ?"
"แน่นอนเจ้าค่ะ!" ออเรเคิลตอบโดยไม่ต้องคิด "ในโลกนี้ ข้าเชื่อฟังท่านแม่แต่เพียงผู้เดียว!"
"เจ้ายืนยัน และสัญญาแม่ได้ไหม กับคำพูดนี้ของเจ้า ?" ผู้เป็นแม่ถามย้ำพร้อมกับยิ้มอันเปี่ยมด้วยความรักความอบอุ่นอย่างคงเส้นคงวาไม่แปรเปลี่ยน
"ข้ายืนยัน และสัญญา ด้วยชีวิตเจ้าค่ะ! ท่านแม่" นางพยักหน้า ตอบเสียงหนักแน่น
"ดีมากจ้ะลูกรัก! ถ้าอย่างนั้น จงฟังแม่ให้ดี...สิ่งที่ผ่านพ้นไปในอดีต จงปล่อยให้มันผ่านไป เและจงมีชีวิตใหม่! ให้ถือว่า ออเรเคิลผู้โศกศัลย์ เมามาย ได้จมลงสู่ทะเลสาบโพเซดอนแห่งนี้ และตายไปแล้ว เมื่อเจ้าขึ้นจากน้ำ เจ้าจงเป็นออเรเคิลคนใหม่! คนที่จะไม่มีวันหวนกลับเข้าไปในด้านมืดอีก! มิตรสหายดีๆ ของเจ้ามีอยู่มากมาย พี่สาวของเจ้าก็เช่นเดียวกัน แม้แต่ไดโอเซนัสผู้เป็นอาจารย์ และฟรีด้า ศิษย์ผู้พี่ของเจ้า ก็เช่นกัน จงพยายามทำดีต่อพวกเขาเถิด"
"ท่านแม่ จะให้ข้าเลิกพยายามไขว่คว้าความเป็นใหญ่ เลิกการปีนป่ายขึ้นไปสู่จุดสูงสุดเหนือผู้อื่น ดังคำที่ท่านเคยสั่งสอนข้าไว้ก่อนตายแล้วหรือเจ้าคะ ?" ออเรเคิลถามอย่างข้องใจอีกครั้ง
"จ้ะลูก..." ผู้เป็นแม่ยิ้มปลอบโยนและพยักหน้า "แม่ขอถอนคำพูดเหล่านั้น...คำสั่งสอนที่แม่เคยกล่าวสั่งเสียแก่ลูกนั้น เป็นคำสั่งสอนที่ผิด เกิดจากความคับแค้นใจ ผลของมันทำให้ลูกทำผิดมากมายหลายประการ ลูกได้ทุกสิ่งตามที่ลูกปรารถนาก็จริง แต่สิ่งเหล่านั้นมันไม่จีรัง เป็นเพียงภาพลวงตา สุดท้ายลูกก็ต้องสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ที่สำคัญ คำสั่งสอนที่ผิดๆ ที่แม่ให้แก่ลูก ก็สร้างความทุกข์ทรมาณอย่างแสนสาหัสแก่แม่ด้วยในโลกวิญญาณ! ไม่อาจก้าวข้ามภพไปสู่สุคติได้! ลูกคงไม่ต้องการให้แม่ทนทุกข์ทรมาณต่อไปกระมัง ?"
"ไม่แน่นอนเจ้าค่ะ!!" ออเรเคิลตอบโดยไม่ต้องคิดอีกครั้ง
"ดังนั้น ลูกต้องเลิกเป็นคนที่เคยเป็น ให้ออเรเคิลคนเก่าตายไป จงเป็นออเรเคิลคนใหม่ผู้ฟื้นขึ้นมาจากความตาย และพยายามทำคุณงามความดีให้มากที่สุดนะลูก แล้วในอนาคต เราจะได้พบกันอีก!"
ออเรเคิลนิ่งเงียบอยู่นาน ก่อนจะกล่าวถึงความวิตกกังวลของตนที่มีอยู่
"ท่านแม่...ข้าทำความผิดต่อผู้คนมากมาย โดยเฉพาะกับอาจารย์และศิษย์พี่ ข้าละอายใจอย่างท่วมท้น จะมีหน้ากลับไปหาพวกเขาได้อย่างไร..."
ผู้เป็นมารดายิ้มปลอบใจนางอีกครั้ง ยกมือลูบศีรษะนางขณะที่กล่าวแนะนำ
"ละอายใจ ไม่อยากกลับไปหาพวกเขา ก็ไม่จำเป็นต้องให้พวกเขาพบหน้าก็ได้นี่จ๊ะลูก! การทำความดี ทำโดยไม่ต้องให้ใครรู้ว่าเราทำ ก็ได้นี่นา!"
ออเรเคิลเงยหน้าขึ้น สบตานาง แล้วยิ้ม
"เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่!!"
"ดีจ้ะลูก มานี่มา..."
นางโอบกอดลูกอีกครั้ง แล้วให้คำสั่งสอนสุดท้าย ก่อนจากลา...
"ต่อไป ก็เชื่อฟังพ่อเขาด้วยนะลูก...เขามิใช่คนธรรมดา และเจ้าก็เช่นเดียวกัน!"
"ท่านแม่...จะไปจากข้าแล้วหรือเจ้าคะ ?" ออเรเคิลแหงนหน้าขึ้นถามด้วยน้ำตาคลอ
"ถึงเวลาที่แม่ต้องไปแล้วจ้ะลูก...แต่ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกังวล แม่จะคอยเฝ้าดูลูกอยู่เสมอ แล้วพบกันใหม่จ้ะ ลูกรัก..."
"ท่านแม่..." ออเรเคิลกอดนางกระชับแน่น นางผู้เป็นแม่โอบกอดตอบ ลูบศีรษะนางไปมา...
และแล้ว นางก็อันตรธานหายไป !!
"ท่านแม่...อุ๊บบบ..."
ออเรเคิลร้องละเมอ แล้วสะดุ้งตื่นอย่างฉับพลัน !! เพราะรู้สึกมีน้ำเข้าปากขณะที่นางเปิดปาก! และพบว่า ตนเอง อยุ๋ในน้ำ! อยู่ที่ก้นทะเลสาบ...
บุ๋งๆๆๆๆ.......... บุ๋งๆๆๆๆ..........บุ๋งๆๆๆๆๆ.........
หูได้ยินเสียงน้ำเป็นฟองๆ พวยพุ่งขึ้นใกล้ๆ บริเวณริมแก้ม ใกล้ใบหู ลงไปจนก่อนจะถึงคาง!
ออเรเคิลรู้สึกตื่นเต้น! เพราะตอนนี้ นางมิได้หายใจทางจมูก! ภายในรูจมูกทั้งสองข้างเหมือนมีอวัยวะบางอย่างปิดกั้นไว้!
แต่ว่า นางก็กำลังหายใจ !!
บุ๋งๆๆๆๆๆๆ....... บุ๋งๆๆๆๆๆๆ......... บุ๋งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.......
บริเวณใต้ริมแก้มสองข้าง อวัยวะบางอย่าง กำลังทำงานหายใจแทนจมูก...รู้สึกได้ว่ามันมีความเคลื่อนไหว ปิด เปิด ปิด เปิด เพยิบๆ ยามที่ปิด อากาศในน้ำถูกดูดและกรองเข้าสู่ร่างกาย ยามที่เปิด อากาศเสียถูกปล่อยอกมา ทำให้เกิดฟองน้ำลอยฟ่องขึ้นผ่านข้างใบหู ผ่านศีรษะขึ้นไปข้างบน....นางลองเอาสองมือลูบคลำดู...
เหงือก !! ตอนนี้ นางมีเหงือกสองข้างเหมือนปลา !! จึงหายใจในน้ำได้ !!
รู้สึกปวดหนึบๆ นิดๆ เหมือนกันบริเวณที่ตั้งของเหงือกทั้งสองข้าง! แสดงว่ามันเพิ่งเปิด หลังจากนางจมลงในน้ำ...
น้ำรอบกายเย็นเฉียบ มองเห็นกลายเป็นน้ำแข็งบางส่วน โดยเฉพาะด้านบน บริเวณผิวน้ำ
ออเรเคิลพลันนึกถึงคำพูดของแม่บุญธรรม...
"เพราะเจ้าเป็นลูกของเขา เจ้าจึงไม่ตายจ้ะ และไม่มีวันที่จะตายได้!"
"เชื่อแม่เถิด,สมญานาม 'สมุทรเทพ' ของพ่อเจ้า มิไช่ได้มาเพราะโชคช่วย! มิใช่ผู้คนกล่าวเลื่อนลอยแต่อย่างใด เขาสมควรได้รับการยกย่องเช่นนั้น! เจ้าจะเข้าใจในภายหลัง..."
ถึงตอนนี้ ออเรเคิล มีความรู้สึกว่าตนเอง "มีชีวิตใหม่" จริงๆ !!
นางแหวกว่ายน้ำขึ้นสู่เบื้องบน...รู้สึกสนุกกับการหายใจวิธีใหม่!
พอว่ายน้ำขึ้นไป สายตาก็มองเห็นสัตว์ชนิดหนึ่งสองสามตัว ว่ายเข้าหาตัว
จระเข้ !! สามตัว! ท่าทางเหมือนกำลังหิวทีเดียว!!
"เจ้าพวกนี้ ส่งโทรจิตบอกกันดีๆ คงไม่ได้แน่!" ออเรเคิลนึกพลางมือข้างซ้ายดึงด้ามไลท์เซเบอร์ซึ่งยังคงพกติดอยู่ข้างเอวออกมา กดปุ่มเปิด
วูมมมมม........
แท่งเลเซอร์รูปดาบยาวพุ่งปราดออกจากโคนด้าม ออเรเคิลแหวกว่ายน้ำกลับหลังหันเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายกระหายเลือดทั้งสามตัว กวัดแกว่งดาบเลเซอร์เข้าใส่เจ้าตัวแรกสุดที่พุ่งเข้าจู่โจมตน และกรีดมันระหว่างปากยาวๆ ของมันที่อ้าออกแล้วผ่ามันตลอดทั้งตัว สะบัดดาบเลเซอร์วูบ! จระเข้นั้นขาดสองท่อน!! เลือดคาวคละคลุ้งกระจายปนกับน้ำโดยรอบ
ควากกก.....!!!
เจ้าตัวแรกตายทันทีทันใด อีกสองตัวเมื่อได้กลิ่นเลือดจากร่างของเพื่อนพวกมันซึ่งถูกผ่าเป็นสองซีก ก็พุ่งเข้าไปงับ ตัวละซีก แบ่งกันลงตัวพอดี !! แล้วว่ายน้ำจากไป
ออเรเคิล ขึ้นสู่ผิวน้ำ ใช้ปลายดาบเลเซอร์กรีดแผ่นน้ำแข็งเบื้องบนเป็นวงกลม แล้วส่งตัวเองลอดช่องน้ำแข็งขึ้นจากน้ำ
พอขึ้นมาอยู่บนบก เหงือกบริเวณข้างแก้มใกล้คางก็ยุบเข้าไป "วาลว์" ภายในรูจมูกเปิดรับอ๊อกซิเจนแทนที่โดยอัตโนมัติ
"เฮ้อ..." ออเรเคิลถอนใจ และยิ้มให้ตัวเอง "ชีวิตหนอชีวิต...ตลกจริงๆ! อุตส่าห์ลงน้ำเพื่อฆ่าตัวตายแท้ๆ กลับตายไม่ได้ แต่เป็นการมีชีวิตใหม่ กลายเป็นคนสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกเสียอย่างนั้น !! เหลือเชื่อจริงๆ !!"
ส่ายหน้าให้กับตัวเองทีหนึ่ง จากนั้นเดินกลับขึ้นไปบนเทือกเขาแอตลาส ณ จุดเดิมอีกครั้ง มองดูลานประลองประวัติศาสตร์แล้วอดรู้สึกสะท้อนใจเสียมิได้ นึกถึงคำสนทนาระหว่างตนกับแม่บุญธรรมขึ้นมาอีกครั้ง...
"...คำสั่งสอนที่แม่เคยกล่าวสั่งเสียแก่ลูกนั้น เป็นคำสั่งสอนที่ผิด เกิดจากความคับแค้นใจ ผลของมันทำให้ลูกทำผิดมากมายหลายประการ..."
"...ที่สำคัญ คำสั่งสอนที่ผิดๆ ที่แม่ให้แก่ลูก ก็สร้างความทุกข์ทรมาณอย่างแสนสาหัสแก่แม่ด้วยในโลกวิญญาณ! ไม่อาจก้าวข้ามภพไปสู่สุคติได้! ...."
"...ลูกต้องเลิกเป็นคนที่เคยเป็น ให้ออเรเคิลคนเก่าตายไป จงเป็นออเรเคิลคนใหม่ผู้ฟื้นขึ้นมาจากความตาย และพยายามทำคุณงามความดีให้มากที่สุดนะลูก...."
"...การทำความดี ทำโดยไม่ต้องให้ใครรู้ว่าเราทำ ก็ได้นี่นา!"
"ท่านอาจารย์...ศิษย์พี่...ข้าจะพยายามชดใช้ในสิ่งที่ข้าได้ทำกับพวกท่าน..." ออเรเคิลพูดพึมพำขณะจ้องมองดูลานประลองนั้น แล้วเดินไปยังโพรงมืดอันเป็นช่องทางลับซึ่งนำไปสู่เกาะนิรนาม
"ป่านนี้ เจ้านีลาคงรอคอยเราอยู่ คงเหงาแย่แล้ว รอหน่อยนะลูก...แม่กำลังกลับมาหาเจ้าแล้ว"
แล้วสูดลมหายใจลึก...โดดลงไปสู่ความมืดดำ อันมีสายน้ำรออยู่เบื้องล่าง...
เมื่อยานแม่ขนาดยักษ์เปิดช่องใต้ท้องปล่อยยานลูกนับร้อยนับพันลำลงมาและกระจายกำลังไปทั่วทุกทิศ ฝูงยานรบของชาวแอตแลนติสก็บินขึ้นไปต่อกรด้วย รวมทั้ง THE FUGITIVE ของกัปตันวันชนะและชาวคณะส่วนใหญ่ กับยาน SAVIOR FALCON ของสถาพร ซึ่งมีเอวาและสามหนุ่มอาข่าอยู่ด้วย ซึ่งขณะนี้ทั้ง 4 คนผ่านการเรียนรู้และฝึกฝนจากเจ้าของยานจนสามารถเป็นผู้ช่วยได้เป็นอย่างดี โดยเอวาเป็นนักบินผู้ช่วยคนที่หนึ่ง บรรจงเป็นคนที่สอง อาบือเป็นคนที่สามและอาเจอะรั้งท้ายในตำแหน่งผู้ช่วยคนที่สี่ ส่วนสมาชิกพิเศษคือนางหมูไลล่าถูกฉีดยานอนหลับแล้วถูกพาไปนอนอยู่ใน "คอกพิเศษ" เป็นห้องๆ หนึ่งซึ่งจัดไว้ให้มันต่างหากเพื่อมิให้มันร้องและวิ่งพล่านวุ่นวาย
(มีต่อครับ) ^^