💫🕛💫🚀 แดนศิวิไลซ์ ( หลงกาล ภาค 2 ) ตอนที่ 56 🚀💫🕛💫

กระทู้คำถาม
ในที่สุด เวลาแห่งการเริ่มไต่สวนความ ก็มาถึง.....

เฮโรดัส ในฐานะหัวหน้าตุลาการศาลทวีป ขึ้นนั่งบนบัลลังก์ผู้พิพากษา เริ่มกล่าวนำ

"การพิจารณาชี้ขาดองค์จักรพรรดิที่แท้จริงในวันนี้ จะไม่มีการใช้บุคคลหนึ่งบุคคลใดมาเป็นผู้ชี้ขาดเพียงผู้เดียว เหมือนอย่างคราวที่แล้ว ซึ่งทำให้ศาลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างเสียๆ หายๆ เป็นอันมาก สร้างความเสื่อมเสียให้แก่กระบวนการยุติธรรมแห่งทวีป ทำให้หลายคนหมดความเชื่อถือ มิหนำซ้ำยังถูกกล่าวว่าว่าลำเอียงไม่เป็นธรรม จนทำให้จักรพรรดิฝ่ายเหนือซึ่งได้รับความพ่ายแพ้ต้องพบกับความลำบากอย่างมากมาย..." กล่าวจบประโยคแล้วหยุดชั่วครู่ มองดูผู้เข้ามาฟังในศาลทั้งสองฝ่าย และสังเกตเห็นว่าฝ่ายใต้มีสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์ ในขณะที่ฝ่ายเหนือมีท่าทางผ่อนคลาย แล้วกล่าวต่อไป

"โชคยังดีที่เรายังมีของสิ่งหนึ่งซึ่งยังมิได้พิสูจน์ว่าของใครจริงของใครปลอม นั่นก็คือ ตราพระราชลัญจกรแห่งองค์จักรพรรดิ ซึ่งเป็นสมบัติมรดกตกทอดจากจักรพรรดิรุ่นสู่รุ่น รัชกาลสู่รัชกาล ...คราวที่แล้ว เราไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าของใครเป็นของจริง ของใครเป็นของปลอม เพราะแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญทางอัญมณีจากทั้งสองฝ่าย ก็ไม่สามารถจะแยกแยะได้...แต่วันนี้ เราจะให้จักรพรรดิจากทั้งสองฝ่าย เป็นผู้เปิดเผยความลับของตราพระราชลัญจกรซึ่งตนครอบครองอยู่ ว่ามีปริศนาอันใดซ่อนอยู่ และต้องแสดงให้ทุกคนเห็นประจักษ์แจ้งซึ่งปริศนานั้น หลังจากจักรพรรดิทั้งสองได้แสดงแล้ว คณะลูกขุนจำนวนสองร้อยคน จะลงมติว่า ตราพระราชลัญจกรของจักรพรรดิฝ่ายไหน น่าเชื่อถือที่สุด จักรพรรดิฝ่ายใด ได้คะแนนจากการลงมติของคณะลูกขุนมากกว่า จักรพรรดิฝ่ายนั้น จะถูกประกาศอย่างเป็นทางการว่าคือจักรพรรดิองค์ที่แท้จริง และจะมีการทูลเกล้าถวายพระราชมงกุฏเพชรประดับด้วยอัญมณีหลากชนิด และเสื้อคลุมฉลองพระองค์แห่งจักรพรรดิ ให้แก่จักรพรรดิองค์จริงผู้ถูกประกาศรับรองสถานภาพ และขอให้เจ้าหน้าที่ประจำศาลเตรียมตัวให้พร้อม เตรียมอาวุธให้พร้อม เพื่อจับตัวจักรพรรดิตัวปลอมทันทีหลังการประกาศผล! หากเกิดเหตุการณ์จราจล เป็นต้นว่า คนของจักรพรรดิฝ่ายที่แพ้ ไม่ยอมรับการตัดสิน ก่อเหตุวุ่นวายขึ้นในศาลประการหนึ่งประการใดก็ตาม ขอให้เจ้าหน้าที่ศาลดำเนินการกับผู้ก่อความวุ่นวายด้วยมาตรการเฉียบขาดและฉับพลันทันที และ เพื่อป้องกันความปั่นป่วนวุ่นวายมิให้เกิดขึ้นในห้องพิจารณาคดีชั้นศาลฎีกาแห่งนี้ ศาลจึงขอห้ามการพนันขันต่อทุกชนิด ในห้องพิจารณาคดีแห่งนี้!"

มีเสียงฮือฮาดังอื้ออึงขึ้นมาระงม ส่วนใหญ่มาจากนักพนันซึ่งเคยได้เสียกันหนักๆ ที่ผ่านมาในครั้งก่อน พากันร้องโอดครวญด้วยความเสียดาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เสียและหวังจะแก้มือ แต่ก็มีผู้ทางทางออกให้แก่เรื่องนี้ได้ คือศาลห้ามเฉพาะในห้องพิจารณาคดี แต่ที่อื่นไม่ห้าม! ดังนั้นเหล่านักพนันตัวยงจึงเฮโลกันไปมั่วสุมวางเดิมพันกันตามที่ต่างๆไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า ด้านหลัง หรือด้านข้างของศาลาว่าการ

"ต่อไป ข้า เฮโรดัส ผู้ทำหน้าที่หัวหน้าตุลาการ จะทำการเสี่ยงโยนเหรียญ เพื่อหาว่า ฝ่ายใด จะแสดงตราพระราชลัญจกรและเปิดเผยความลับ ไขปริศนาก่อน...ดังนั้น ข้าจะขอถามจักรพรรดิทั้งสองก่อนว่าจะเลือกหัวหรือก้อย"

"ข้าขอเลือก หัว!" จักรพรรดิจำแลงผู้นั่งบนบัลลังก์ฝ่ายใต้ชิงยกมือขึ้นกล่าวเลือกก่อน

"ได้! ข้าเอาก้อยก็ได้ ไม่ขัดข้อง" เนรอสซึ่งประทับนั่งบนบัลลังก์จักรพรรดิฝ่ายเหนือพยักหน้าและตอบรับเหรียญอีกด้านหนึ่ง

"เป็นอันว่า จักรพรรดิฝ่ายใต้ เลือก หัว และจักรพรรดิฝ่ายเหนือ เลือก ก้อย, " เฮโรดัสกล่าวต่อไป "ต่อไปนี้...ข้า จะโยนเหรียญเงินเหรียญนี้ลงไป ขอให้เจ้าหน้าที่ศาลคนหนึ่งเดินเข้าไปดูว่าออกด้านไหนแล้วประกาศดังๆ ถ้าออกหัว จักรพรรดิฝ่ายใต้ จะเป็นผู้แสดงตราพระราชลัญจกรและการไขปริศนาก่อน ถ้าออกก้อย ทางด้านจักรพรรดิฝ่ายเหนือ ก็จะได้เริ่มก่อนเช่นเดียวกัน...ขอให้เจ้าหน้าที่ศาลหนึ่งคน เตรียมตัว"

"ขอรับ ใต้เท้า" เจ้าหน้าที่นายหนึ่งยกมือขึ้นรับอาสาเป็นผู้ตรวจดูเหรียญ แล้วเดินมาหยุดยืนหน้าบัลลังก์ผู้พิพากษา

เฮโรดัสยื่นมือขวาซึ่งกำเหรียญไว้ไปข้างหน้า แล้วโยนเหรียญขึ้น! 

เหรียญเงินขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณนิ้วครึ่ง หมุนพลิ้วกลางอากาศแล้วตกลงมากระทบพื้นหินอ่อนเสียงดังใสกังวาน... 

กิ๊งงงง

แล้วหมุนวนๆๆ หลายรอบ ก่อนเอนลงนอนราบกับพื้นนิ่งสนิท

เจ้าหน้าที่คนนั้นเดินเข้าไปก้มดู แล้วประกาศขานเสียงดังก้องไปทั่วห้องพิจารณา

"เหรียญออก ด้าน หัว ขอรับใต้เท้า" 

"เพราะฉะนั้น เชิญ จักรพรรดิฝ่ายใต้ เริ่มก่อน แสดงตราพระราชลัญจการ แล้วบอกความลับ หรือสิ่งที่เป็นปริศนาออกมา แสดงให้ศาลและทุกคนในที่นี้ได้มองเห็นกัน เริ่มได้ ณ บัดนี้!" เฮโรดัสกล่าวและผายมือไปทางบัลลังก์จักรพรรดิฝ่ายใต้

สายตาของทุกคนทั้งที่อยู่ในศาลและนอกศาล จ้องมองจักรพรรดิจำแลง รอลุ้นฟังคำพูดของเขาและรอชมการเผยความลับ หรือการแก้ปริศนาของตราพระราชลัญจกร

จักรพรรดิจำแลง ส่งเสียงกระแอมไอเล็กน้อย ขณะเอามือจับดวงตราพระราชลัญจกรที่ห้อยคอของตนอยู่ แล้วเริ่มพูด

"ชาวแอตแลนติสทั้งหลาย จงฟัง! ตราพระราชลัญจกรที่ห้อยอยู่กับสายสร้อยที่ข้าสวมอยู่นี้ เป็นของเก่าแก่ เป็นมรดกตกทอดมานาน ความลับของตราพระราชลัญจกรนี้ เกี่ยวข้องกับ...แสงอาทิตย์!"

เสียงฮือฮาจากประชาชนผู้อยู่ในศาลดังขึ้นเล็กน้อย ตามมาด้วยเสียงซุบซิบพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์ และหากมีใครสังเกตดูสีหน้าอาการของเนรอส จะพบว่ามีลักษณะเครียดระคนกับความสงสัย ?

แต่เมื่อได้ยินคำพูดต่อไปของจักรพรรดิจำแลงแล้ว ปรากฏว่า เนรอสมีท่าทางผ่อนคลายลง!

"เพชรสีน้ำเงินเข้มกึ่งกลางดวงตราพระราชลัญจกรนี้ หากต้องแสงอาทิตย์ยามเที่ยง ซึ่งแดดจัดจ้า จะเปลี่ยนสีไปได้หลากสี อย่างสวยงาม ทำให้ผู้ที่สวมใส่คือจักรพรรดินั้นดูเด่นมีสง่าราศรีมากยิ่งขึ้น"

"ถ้าอย่างนั้น ต้องพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นกัน เจ้าหน้าที่ศาล จงเปิดช่องวงกลมซึ่งเป็นเพดานข้างบนออก ให้แสงอาทิตย์ส่องลงมา!!" เฮโรดัสหัวหน้าผู้พิพากษาสั่งการกับเจ้าหน้าที่

"ขอรับ ใต้เท้า" เจ้าหน้าที่คนหนึ่งตอบรับแล้วเดินไปที่ห้องควบคุมระบบต่างๆ ในศาล กดปุ่มๆ หนึ่ง เพดานทรงกลมแบ่งส่วนเป็นเสี้ยวๆ หลายเสี้ยว ก็แยกออกจากจุดศูนย์กลางหดหายเข้าไปในขอบวงกลม แสงอาทิตย์สาดส่องลงมา...

จักรพรรดิจำแลงถอดสร้อยอันมีตราพระราชลัญจกรห้อยอยู่ออกจากคอ จับโคตรเพชรสีน้ำเงินหงายขึ้นรับแสงอาทิตย์

"ฮืมมมม..........." ประชาชนผู้ชมทั้งในและนอกศาลร้องฮือฮากันมากกว่าครั้งแรก

แสงอาทิตย์เมื่อส่องต้องโคตรเพชรสีน้ำเงินเข้า ทำให้เพชรขนาดมหึมานั้นเป็นประกายวูบวาบ แล้วเปลี่ยนสีจากน้ำเงิน เป็นเขียว แสด แดง ม่วง คราม และกลับมาที่สีน้ำเงินอีกครั้ง เป็นสีรุ้งอย่างสวยสดงดงาม และเปลี่ยนสีไปอีกเรื่อยๆ ตราบเท่าที่มันยังต้องกับแสงอาทิตย์!

จักรพรรดิจำแลง โชว์การเปลี่ยนสีของโคตรเพชรแห่งตราพระราชลัญจกรอยู่เนิ่นนานจนเสียงฮือฮาจากปวงประชาสร่างซาลง แล้วจึงหยุดการแสดงโชว์ สวมสร้อยห้อยตราพระราชลัญจกรไว้ที่คอตามเดิม

"การแสดงตราพระราชลัญจกรของจักรพรรดิฝ่ายใต้ ก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว พร้อมกับการเผยปริศนาของตราพระราชลัญจกร อันน่าตื่นตาตื่นใจ" เฮโรดัสกล่าวชม ทำให้จักรพรรดิจำแลงหน้าตาสดชื่น ท่าทางมั่นใจยิ่งขึ้น

"ทีนี้ ถึงคราวของจักรพรรดิฝ่ายเหนือบ้าง ดูซิว่าจะมีทีเด็ดอะไรที่เหนือกว่าเพชรสีรุ้งยามต้องแสงตะวันของจักรพรรดิฝ่ายใต้ หรือไม่ ? เชิญจักรพรรดิฝ่ายเหนือแสดงและเผยปริศนาของตราพระราชลัญจกรของตนได้ ณ บัดนี้!" พูดจบ "พ่อตา" ของเนรอส ก็ผายมือไปยังบัลลังก์ที่ "ลูกเขย" ประทับนั่งอยู่

เนรอส นั่งปรบมือช้าๆ สามสี่ครั้งให้แก่การแสดงของจักรพรรดิจำแลง ก่อนจะลุกขึ้นยืนกล่าว

"การแสดงเพชรสีรุ้ง สวยงามมากจริงๆ ข้าขอชมจากใจ!" จักรพรรดิตัวจริงตรัสแล้วหยุดนิดหนึ่ง แล้วจึงค่อยๆ เปิดเผยความจริงด้วยวาทะเด็ด "แต่ทว่า สิ่งที่สวยงาม ก็ใช่ว่าทรงคุณค่าหมดทุกสิ่ง ของที่เปล่งประกายเหลืองอร่าม ก็ใช่ว่าจะเป็นทองคำเสมอไป..."

ครั้นตรัสจบประโยคที่สอง จึงใช้สองหัตถ์ค่อยๆ บรรจงถอดสายสร้อยซึ่งห้อยตราพระราชลัญจกรอยู่ออกจากพระศอและทรงชูขึ้น ตรัสประโยคต่อไปด้วยการทรงเน้นพระดำรัสหนักแน่น ข่มขวัญฝ่ายตรงกันข้าม! "และสิ่งนี้ ก็เช่นเดียวกัน! ดวงที่เปล่งแสงสีรุ้งตระการตาสลับสีกันอยู่ไปมาดุจมายาหลอกคน ก็ใช่ว่าจะเป็นตราพระราชลัญจกรที่แท้จริงเสมอไป !!!"

ปวงประชาส่งเสียงฮือฮาและโห่ร้องขึ้นกระหึ่ม! เพราะครั้งนี้ กองเชียร์จักรพรรดิตัวจริงมีมากกว่าแล้วอย่างเห็นได้ชัด!

"พูดมากไปไย! แสดงมาซี่...ว่าตราพระราชลัญจกรของเจ้า มีอะไรดีกว่าของข้า ?" จักรพรรดิจำแลงกล่าวเบรค และในใจของตนเริ่มหวั่นไหว!

"ไม่ต้องเร่ง...ข้ากำลังจะแสดงให้ทุกคนรวมทั้งเจ้าได้ดู ในอีกไม่กี่อึดใจ..." เนรอสโต้ตอบ แล้วหยุดคิดครู่หนึ่งก่อนกล่าวต่อ "แต่บอกตรงๆ นะ ทีแรกที่เจ้าบอกว่าเกี่ยวข้องกับแสงอาทิตย์ ทำให้ข้าตกใจเลย! สงสัยด้วย ว่า เจ้ารู้ได้อย่างไร...ใช่! มันเกี่ยวกับแสงอาทิตย์...แต่มิใช่แบบที่เจ้าแสดงให้ผู้คนได้ดูกัน ไอ้แบบนั้นมันของเล่นเด็กชัดๆ! เอาไว้แสดงให้เด็กดู !! สมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิที่แท้จริงมันต้องมีความหมายเป็นพิเศษ ลึกซึ้งและลับเฉพาะ มากกว่านั้น !!!"

"ก็แสดงเสียทีสิวะ!! โยกโย้อยู่ได้ รำคาญโว้ย!!" จักรพรรดิจำแลงโต้ตอบเดือด แต่สีหน้ายิ่งนานยิ่งไม่สู้ดี

เนรอสยิ้มให้มันอย่างเยาะหยัน แล้วยกโคตรเพชรสีน้ำเงินกลางตราพระราชลัญจกรขึ้นส่องกับแสงอาทิตย์ด้วยมือข้างซ้าย แล้วใช้นิ้วทั้งห้าของมือข้างขวา จับขอบของโคตรเพชรไว้ แล้วบิด! หมุนเพชรไปทางขวา !!

มันหมุนได้ !!! นี่คือความลับข้อแรก...แต่ความลับสำคัญคือสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากนั้น !! ???

ความตื่นเต้นเกิดขึ้นกับผู้ชมทุกคนทั้งในศาลและนอกศาล หลายคนที่นั่งอยู่ในศาลนั่งไม่ติดต้องลุกขึ้นยืนดู แม้แต่เฮโรดัสผู้ทำหน้าที่ผู้พิพากษาก็ถึงกับลืมตัวยืนขึ้นชะเง้อคอจ้องดูการเปิดเผยปริศนาตราพระราชลัญจกรของเนรอส!

ครั้นโคตรเพชรถูกเนรอสใช้นิ้วมือจับที่ขอบและหมุนไปทางขวาตามเข็มนาฬิกา ทุกคนได้ยินเสียงตัง กริ๊ก! และ ตี๊ดดด......ตามมา จากนั้นลำแสงเล็กๆ ลำหนึ่งพุ่งออกจากกลางเพชรและขยายลำแสงกว้างขึ้นใหญ่ขึ้น...สุดท้ายกลายเป็นภาพสามมิติลอยอยู่กลางอากาศ...

เป็นภาพ จักรพรรดิและจักรพรรดินี พระชนกพระชนนีของเนรอส รวมทั้งตัวเนรอสเองในวัยเยาว์ ยังแบเบาะอยู่ในอ้อมอกพระชนนี และมีอักษรแอตแลนเชี่ยนขนาดใหญ่เบ้อเร่อด้านล่างภาพ ข้อความว่า "นี่คือ เนรอส รัชทายาทของเรา" !!!

เท่านั้นเอง ผืนแผ่นดินก็แทบทรุดด้วยเสียงเฮเสียงโห่ร้องอย่างกึกก้องถล่มทลายจากประชาชน !!

และยิ่งกว่านั้น ปรากฏการณ์ครั้งใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในการตัดสินคดีในศาลทวีปแอตแลนติส ก็เกิดขึ้น!

คนในคณะลูกขุน ทั้งหมดสองร้อยคน ยืนขึ้นหมดทุกคน และจากนั้นหัวหน้าคณะลูกขุนกล่าวต่อเฮโรดัสผู้นั่งบัลลังก์ผู้พิพากษา

"เรียนใต้เท้า จากการแสดงออกของประชาชนโดยส่วนใหญ่ข้างนอกศาลซึ่งมากันอย่างมืดฟ้ามัวดิน ได้แสดงให้เห็นชัดว่า พวกเขายอมรับจักรพรรดิฝ่ายเหนือ เป็นจักรพรรดิที่แท้จริง และพวกเราคณะลูกขุนทั้งหมด ก็เห็นคล้อยตามพวกเขาเช่นกัน จึงขอเรียนต่อใต้เท้าว่า ไม่จำเป็นต้องมีการลงมติแล้วหละขอรับ!!"

"เฮ้ย! ทำอย่างนั้นไม่ได้ !! ข้าไม่ยอม!!" จักรพรรดิตัวปลอมคัดค้านทันที "จะอย่างไรก็ตาม ข้าขอดูผลการลงมติเสียก่อน! หากผลการลงมติออกมาให้ข้าแพ้จริงๆ ข้าจึงจะยอมรับ!!"

"เอาละๆ ทุกๆ ท่าน ใจเย็นๆ กันก่อน" เฮโรดัสยกไม้ยกมือขึ้นห้ามปราม แต่ตอนนี้เสียงพูดคุยโต้ตอบกันเถียงกันดังอื้ออึงไปหมด เมื่อเห็นว่าชักจะเริ่มวุ่นวายกันทั้งสองฝ่าย เฮโรดัสจึงยกฆ้อนขึ้นทุบโต๊ะหน้าบัลลังก์ของตนสามครั้งเพื่อห้ามปราม

ปังง...ปัง..ปังง !!

(มีต่อครับ) ^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่