ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ บอนด์อาร์มส์ ใช้ชื่อรุ่นว่า Bullpup9 ซึ่งปกติชื่อ “บูลพัพ” จะหมายถึงปืนยาวไรเฟิลหรือลูกซอง ที่ออกแบบให้สั้นพิเศษโดยใช้ห้องลูกเลื่อนเป็นพานท้าย ย้ายชุดลั่นไกไปไว้ด้านหน้าใต้ลำกล้อง
บอนด์อาร์มส์ (Bond Arms Inc.) จดทะเบียนบริษัทในปี 1995 ในเมือง แกรนด์บิวรี รัฐเทกซัส (Grandbury, Texas) ผู้ ก่อตั้งคือ เกร็ก บอนด์ (Greg Bond) อาชีพเดิมเป็นช่างทำแบบแม่พิมพ์ คุ้นเคยกับงานละเอียดประณีตเป็นอย่างดี ผลงานหลักที่สร้างชื่อให้บริษัทคือปืนพกซ่อนในรูปแบบ “เดอริงเยอร์” (Derringer ปืนตัวเล็กหักลำ) ได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐสำหรับปืนชนิดนี้
ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ เป็นปืนพกกึ่งอัตโนมัติกระบอกแรกของ บอนด์อาร์มส์ ใช้ชื่อรุ่นว่า Bullpup9 ซึ่งปกติชื่อ “บูลพัพ” จะหมายถึงปืนยาวไรเฟิลหรือลูกซอง ที่ออกแบบให้สั้นพิเศษโดยใช้ห้องลูกเลื่อนเป็นพานท้าย ย้ายชุดลั่นไกไปไว้ด้านหน้าใต้ลำกล้อง ซองกระสุนและช่องคัดปลอกจะอยู่ด้านหลัง บริเวณที่แนบแก้ม ตัวปืนที่สั้นลงประมาณ 10 นิ้ว โดยความยาวลำกล้องเท่าเดิม ปืนไรเฟิลจู่โจมยุคใหม่นิยมทำแบบนี้เพื่อความคล่องตัว
เกร็ก บอนด์ ไม่ได้ออก แบบปืนกระบอกนี้ด้วยตัวเองแต่แรก เป็นการซื้อปืน XR9 ของ Boberg Arms มาแบบเหมาหมดทั้งปืนทั้งบริษัท ปืน XR9 มีระบบการทำงานที่ไม่เหมือนใคร ผู้ออกแบบเดิมเรียกชื่อว่า reverse feed system คือกระสุนถอยหลังออกจากแมก กาซีน ตั้งบริษัททำขายตั้งแต่ปี 2009 มีปัญหาด้านการทำงานของปืนติดขัด จนถึงปี 2016 จึงขายกิจการทั้งหมดให้ บอนด์อาร์มส์ ซึ่งใช้เวลาสองปี ปรับแบบแก้ไขชิ้นส่วนภายในกว่าสิบแบบ จึงได้ผลงานเป็น Bullpup9 ของวันนี้
ตัวปืน Bullpup9 เมื่อดูภายนอกเหมือนเป็นปืนกระเป๋าสั้นพิเศษ ปลายลำกล้องยื่นพ้นหน้าโกร่งไกเพียงเล็กน้อย แต่ความจริงใช้ลำกล้องยาว 3.3 นิ้ว เท่า ๆ กับปืนระดับซับคอมแพ็ค 9 มม. ทั่วไป ที่ทำตัวปืนได้สั้นเนื่องจากร่นชุดลำกล้องและลำเลื่อนมาด้านหลัง แมกกาซีนอยู่หน้าช่องคัดปลอก ในการยิงแต่ละนัดเมื่อกระสุนลั่นลำเลื่อนจะวิ่งมาด้านหลัง ขอรั้งปลอกด้านบนดึงปลอกออกจากรังเพลิงเหมือนปืนกึ่งอัตโนมัติทั่วไป ที่แตกต่างคือด้านล่างมีปากคีบปลายเป็นตะขอคู่ จับที่ร่องจานท้ายดึงกระสุนนัดใหม่ออกจาก แมกกาซีน ก่อนจะกระดกขึ้น รับลำเลื่อนที่เดินหน้ากลับมาด้วยแรงสปริงป้อนกระสุนเข้ารังเพลิง คล้ายการทำงานของปืนลูกซองห้านัดที่หลอดบรรจุกระสุนอยู่ใต้ลำกล้อง
การขัด กลอนเป็นแบบ ลำกล้องหมุน ตัวลำกล้องถอยหลังมาในแนวตรง ไม่ กระดก, จุดชนวนด้วยนก สับ, ไกทำงานแบบดับเบิลทุกนัด (DAO : Double Action Only) คือลดนกตลอดเวลา ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีห้ามไก, แมกกาซีนจุ 7 นัด มีลักษณะพิเศษคือไม่มีลิ้นป้อนกระสุน และบรรจุโดยเสียบหัวกระสุนเข้าจากด้านหลัง, เมื่อยิงนัดสุดท้ายแล้วลำเลื่อนไม่เปิดค้าง เพราะต้องอาศัยลำเลื่อนถอยหลังก่อนเพื่อดึงกระสุนออกจากแม็ก แล้วจึงเดินหน้าป้อนกระสุนเข้ารังเพลิง ถ้าลำเลื่อนเปิดค้างเมื่อยิงนัดสุดท้ายจะทำให้เสียเวลาโดยใช่เหตุ
โดยรวม Bond Bullpup9 จัดเป็นปืนระดับพกซ่อน ที่ลำกล้องยาวเท่าปืนซับคอมแพ็ค ข้อได้เปรียบคือความเร็วกระสุน และความคล่องตัวในการพกพา/ใช้งาน จุดเด่นอีกจุดหนึ่งคือไกดับเบิลเรียบลื่นดีมาก แรงเหนี่ยวไกเพียง 8 ปอนด์ เหนือกว่าปืนลูกโม่ชั้นดี ยิงได้นิ่มนวลแม่นยำดีมาก มีข้อควรระวังคือระบบการป้อนกระสุนที่ซับซ้อนกว่าปืนทั่วไป ควรเลือกใช้แต่กระสุนชนิดหัวเคลือบเปลือกแข็ง ถ้าเป็น “ลูกซ้อม” หัวตะกั่วปืนจะทำงานติดขัด เนื่องจากหัวกระสุนขัดกับกลไกภายใน.
https://www.dailynews.co.th/article/672216
...................................
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 568 Bond Bullpup9 สั้นพิเศษ ดับเบิลล้วน
บอนด์อาร์มส์ (Bond Arms Inc.) จดทะเบียนบริษัทในปี 1995 ในเมือง แกรนด์บิวรี รัฐเทกซัส (Grandbury, Texas) ผู้ ก่อตั้งคือ เกร็ก บอนด์ (Greg Bond) อาชีพเดิมเป็นช่างทำแบบแม่พิมพ์ คุ้นเคยกับงานละเอียดประณีตเป็นอย่างดี ผลงานหลักที่สร้างชื่อให้บริษัทคือปืนพกซ่อนในรูปแบบ “เดอริงเยอร์” (Derringer ปืนตัวเล็กหักลำ) ได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐสำหรับปืนชนิดนี้
ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ เป็นปืนพกกึ่งอัตโนมัติกระบอกแรกของ บอนด์อาร์มส์ ใช้ชื่อรุ่นว่า Bullpup9 ซึ่งปกติชื่อ “บูลพัพ” จะหมายถึงปืนยาวไรเฟิลหรือลูกซอง ที่ออกแบบให้สั้นพิเศษโดยใช้ห้องลูกเลื่อนเป็นพานท้าย ย้ายชุดลั่นไกไปไว้ด้านหน้าใต้ลำกล้อง ซองกระสุนและช่องคัดปลอกจะอยู่ด้านหลัง บริเวณที่แนบแก้ม ตัวปืนที่สั้นลงประมาณ 10 นิ้ว โดยความยาวลำกล้องเท่าเดิม ปืนไรเฟิลจู่โจมยุคใหม่นิยมทำแบบนี้เพื่อความคล่องตัว
เกร็ก บอนด์ ไม่ได้ออก แบบปืนกระบอกนี้ด้วยตัวเองแต่แรก เป็นการซื้อปืน XR9 ของ Boberg Arms มาแบบเหมาหมดทั้งปืนทั้งบริษัท ปืน XR9 มีระบบการทำงานที่ไม่เหมือนใคร ผู้ออกแบบเดิมเรียกชื่อว่า reverse feed system คือกระสุนถอยหลังออกจากแมก กาซีน ตั้งบริษัททำขายตั้งแต่ปี 2009 มีปัญหาด้านการทำงานของปืนติดขัด จนถึงปี 2016 จึงขายกิจการทั้งหมดให้ บอนด์อาร์มส์ ซึ่งใช้เวลาสองปี ปรับแบบแก้ไขชิ้นส่วนภายในกว่าสิบแบบ จึงได้ผลงานเป็น Bullpup9 ของวันนี้
ตัวปืน Bullpup9 เมื่อดูภายนอกเหมือนเป็นปืนกระเป๋าสั้นพิเศษ ปลายลำกล้องยื่นพ้นหน้าโกร่งไกเพียงเล็กน้อย แต่ความจริงใช้ลำกล้องยาว 3.3 นิ้ว เท่า ๆ กับปืนระดับซับคอมแพ็ค 9 มม. ทั่วไป ที่ทำตัวปืนได้สั้นเนื่องจากร่นชุดลำกล้องและลำเลื่อนมาด้านหลัง แมกกาซีนอยู่หน้าช่องคัดปลอก ในการยิงแต่ละนัดเมื่อกระสุนลั่นลำเลื่อนจะวิ่งมาด้านหลัง ขอรั้งปลอกด้านบนดึงปลอกออกจากรังเพลิงเหมือนปืนกึ่งอัตโนมัติทั่วไป ที่แตกต่างคือด้านล่างมีปากคีบปลายเป็นตะขอคู่ จับที่ร่องจานท้ายดึงกระสุนนัดใหม่ออกจาก แมกกาซีน ก่อนจะกระดกขึ้น รับลำเลื่อนที่เดินหน้ากลับมาด้วยแรงสปริงป้อนกระสุนเข้ารังเพลิง คล้ายการทำงานของปืนลูกซองห้านัดที่หลอดบรรจุกระสุนอยู่ใต้ลำกล้อง
การขัด กลอนเป็นแบบ ลำกล้องหมุน ตัวลำกล้องถอยหลังมาในแนวตรง ไม่ กระดก, จุดชนวนด้วยนก สับ, ไกทำงานแบบดับเบิลทุกนัด (DAO : Double Action Only) คือลดนกตลอดเวลา ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีห้ามไก, แมกกาซีนจุ 7 นัด มีลักษณะพิเศษคือไม่มีลิ้นป้อนกระสุน และบรรจุโดยเสียบหัวกระสุนเข้าจากด้านหลัง, เมื่อยิงนัดสุดท้ายแล้วลำเลื่อนไม่เปิดค้าง เพราะต้องอาศัยลำเลื่อนถอยหลังก่อนเพื่อดึงกระสุนออกจากแม็ก แล้วจึงเดินหน้าป้อนกระสุนเข้ารังเพลิง ถ้าลำเลื่อนเปิดค้างเมื่อยิงนัดสุดท้ายจะทำให้เสียเวลาโดยใช่เหตุ
โดยรวม Bond Bullpup9 จัดเป็นปืนระดับพกซ่อน ที่ลำกล้องยาวเท่าปืนซับคอมแพ็ค ข้อได้เปรียบคือความเร็วกระสุน และความคล่องตัวในการพกพา/ใช้งาน จุดเด่นอีกจุดหนึ่งคือไกดับเบิลเรียบลื่นดีมาก แรงเหนี่ยวไกเพียง 8 ปอนด์ เหนือกว่าปืนลูกโม่ชั้นดี ยิงได้นิ่มนวลแม่นยำดีมาก มีข้อควรระวังคือระบบการป้อนกระสุนที่ซับซ้อนกว่าปืนทั่วไป ควรเลือกใช้แต่กระสุนชนิดหัวเคลือบเปลือกแข็ง ถ้าเป็น “ลูกซ้อม” หัวตะกั่วปืนจะทำงานติดขัด เนื่องจากหัวกระสุนขัดกับกลไกภายใน.
https://www.dailynews.co.th/article/672216
...................................
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช