สารานุกรมปืนตอนที่ 1111 เอชเค 45C สิบเอ็ด มม. สไตล์เยอรมัน

ด้วยนโยบายเน้นการขายอาวุธสำหรับกองทัพเป็นหลัก เอชเคใช้งบวิจัยและพัฒนา สูงกว่าผู้ผลิตปืนที่มุ่งตลาดเอกชน ปืนของ เอชเคหลายรุ่นมีชื่อ เสียงในด้านคุณภาพและประสิทธิภาพ เช่น ไรเฟิลจู่โจม HK33, ปืนพกกล MP5 เป็นต้น



เมื่อเยอรมนีเป็นฝ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สอง โรงงานเมาเซอร์ที่เมืองโอเบิร์นดอร์ฟ (Oberndorf) ถูกฝรั่งเศสเข้ายึด และเคลื่อนย้ายเครื่องมือที่ใช้ประโยชน์ได้ออกไปหมด วิศวกรเยอรมันสามนาย คือ เอ็ดมุนด์ เฮ็คแลร์  (Edmund Heckler), เธโอดอร์ โคค (Theodor Koch), และ อเลกซ์ ไซเดล (Alex Seidel) รวบรวมสิ่งที่เหลือ  เริ่มงานใหม่ในโรงงานที่ว่างเปล่า  ทำชิ้นส่วนโลหะเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับจักรเย็บผ้าและเครื่องมือทั่วไปเป็นต้น และจดทะเบียนเป็น บริษัท Heckler & Koch GmbH ในปี 1949  ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทุกวันนี้ในชื่อย่อ เอชเค (HK)
ปี 1956 เยอรมันตะวันตกรับภารกิจสร้างกองทัพอีกครั้งหนึ่ง เพื่อคานอำนาจเยอรมันตะวันออกที่อยู่ในอาณัติของสหภาพโซเวียต รัฐบาลเยอรมันตะวันตกต้องการปืนประจำการทหารรุ่นใหม่   เอชเคเสนอปืนไรเฟิล G3 และได้รับเลือกในปี 1959 เป็นสัญญาซื้อลอตใหญ่ครั้งแรกของบริษัท ที่จะเติบโตเป็นผู้ผลิตอาวุธปืนระดับโลกมาจนทุกวันนี้



ด้วยนโยบายเน้นการขายอาวุธสำหรับกองทัพเป็นหลัก เอชเคใช้งบวิจัยและพัฒนา     สูงกว่าผู้ผลิตปืนที่มุ่งตลาดเอกชน ปืนของ เอชเคหลายรุ่นมีชื่อ เสียงในด้านคุณภาพและประสิทธิภาพ เช่น ไรเฟิลจู่โจม HK33, ปืนพกกล  MP5 เป็นต้น ช่วงหลังสงครามเย็นทางรัฐบาลตัดงบสนับสนุน  เอชเคต้องดิ้นรนหานักลงทุนมาซื้อกิจการ  ได้บริษัท บริติช แอโรสเปซ (British Aerospace) เข้าซื้อในปี 1991  งานของเอชเคดำเนินได้ต่อเนื่อง จนถึงปี 2003  กลุ่มนักลงทุนเยอรมันซื้อกิจการคืนจาก บริติช     แอโรสเปซ ตั้งบริษัท HK Holding  แยกการผลิตและตลาดเป็นสองส่วน คือขายภาครัฐ กับขายภาคเอกชน ซึ่งเอชเคเดิมวางแนวไว้ตั้งแต่ปี 1974
หลังจากบุกตลาดสหรัฐ ไม่นาน ในปี   2004 เอชเคได้สัญญาซื้อปืนพก 65,000 กระบอกจากกระทรวงความมั่นคงภายใน (Department of Homeland Security : DHS)  ซึ่งเป็นการสั่งซื้อครั้งเดียวมากที่สุดของหน่วยงานรัฐที่ไม่ใช่กองทัพ   เอชเคในปัจจุบันมีฐานการผลิตในสหรัฐ ถึงสามแห่ง ตั้งอยู่ในรัฐเวอร์จิเนีย, นิวแฮมเชอร์ และ จอร์เจีย นอกเหนือจากแหล่งต้นกำเนิดในเยอรมนี และอีกแห่งหนึ่งในฝรั่งเศส
สำหรับปืน HK45C นี้  เป็นวิวัฒนาการจากปืน USP ที่ขายให้หน่วยงาน DHS เริ่มจากโครงการจัดหาปืนพกสำหรับหน่วยรบพิเศษของสหรัฐ ในปี 2007 จาก USP ขนาด .45 ออโตฯ เอชเคขยายตัวปืนขึ้นไปเป็น Mark 23 ตัวใหญ่กว่า 1911 มาตรฐาน แม้ว่าจะเป็นปืนที่มีประสิทธิภาพ สูง แม่นยำ ทนทาน แต่ก็ใหญ่เทอะทะ  จาก Mark 23 ลดขนาดลงมาเป็น HK45 ลำกล้องสี่นิ้วครึ่ง  และในที่สุดเป็นรุ่นคอมแพ็ค ลำกล้องสั้นกว่าสี่นิ้ว จุกระสุนแปดนัด
ระบบการทำงาน เหมือนกับ  USP และขนาดตัวเท่าๆ กับ USP .45 Compact (เดลินิวส์ 15 มี.ค. 57) ใช้ลำกล้องกระดก รังเพลิงพอกหนาขัดกลอนกับช่องสลัดปลอก ควบคุมการขัด กลอนด้วยผิวเอียงใต้ลำกล้อง โดยทำผิวเอียงรับกันไว้ที่ปลายแกนสปริงลำเลื่อนด้านใน มีวัสดุสังเคราะห์ช่วยดูดซับแรงกระแทก ยืดอายุการใช้งานและลดแรงสะบัด ลำกล้องมีแหวนยางแข็งส่วนปลาย ช่วยให้ฟิตแน่นกับลำเลื่อนเพิ่มความแม่นยำ
ชุดลั่นไก โรงงานมีให้เลือกได้หลายแบบตามหลักการโมดุลลาร์  ที่เข้ามาบ้านเราเป็นแบบ ดับเบิล/ซิงเกิล เหนี่ยวไกนัดแรกได้โดยไม่ต้องง้างนก จากนั้นปืนทำงานคัดปลอกบรรจุกระสุนใหม่  นกง้างยิงแบบซิงเกิล ไกเบาลงจาก 11 ปอนด์ เหลือสี่ปอนด์ครึ่ง ห้ามไกอยู่ในตำแหน่งเดียวกับปืน 1911 มีเฉพาะด้านซ้าย แต่คันค้างลำเลื่อน    ให้มาทั้งซ้ายขวา หลังด้ามเปลี่ยนได้สองขนาด    ใต้โครงปืนโพลิเมอร์มีรางพิคคาทินนีมาตรฐาน  ติดอุปกรณ์ได้สะดวก
โดยรวมสำหรับ เอชเค 45C เป็นปืนขนาดพกพาสะดวก ใช้กระสุน .45 จุแปดนัดแต่ด้ามไม่หนา  น้ำหนักเบา พกซองนอกหรือซองในขอบกางเกงได้ จุดเด่นคือยิงได้นุ่มนวลแม่นยำ  สามารถใช้เป็นปืนหลักได้ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ใช้ซองกระสุนจุสิบนัดของรุ่นมาตรฐานได้  อายุใช้งานผ่านการทดสอบสองหมื่นนัดไม่มีขัดข้อง.



ข้อมูลสรุป HK 45C
ขนาดกระสุน .45 ACP (11 มม.)
ความจุ 8+1 นัด
มิติ ยาวxสูงxหนา : 183x142x36 มิลลิเมตร
ลำกล้องยาว 100 มม. (3.94 นิ้ว)
น้ำหนัก 807 กรัม
แรงเหนี่ยวไก ดับเบิล 5,100 กรัม (11.2 ปอนด์), ซิงเกิล 2000 กรัม (4.4 ปอนด์)
วัสดุ โครงปืนโพลิเมอร์เสริมใยแก้วหุ้มรางเหล็ก, ลำกล้องสเตนเลส,
ลำเลื่อนเหล็กเคลือบผิวดำ
อื่น ๆ ห้ามไกทำงานเป็นคันลดนก
ลักษณะใช้งาน ต่อสู้ระยะใกล้ถึงปานกลาง, พกซองนอก/พกซ่อน
ตัวเลือกอื่น Smith M&P 45c, Springfield XD

ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช
.................................
https://d.dailynews.co.th/article/239636/



สวัสดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่