หัวหน้ารับพนักงานใหม่เข้ามาทำงานร่วมกับเรา เขาให้เรากับพนักงานใหม่ทำงานด้วยกัน โดยไม่ต้องแบ่งงานกัน เพราะว่าอยากให้พนักงานใหม่สามารถทำงานแทนเราได้ทุกอย่าง เรารู้สึกไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะงานสามารถแบ่งกันทำได้ มีงาน A-B-C-D ถ้าแบ่งกันทำ เราทำงาน A-B แล้วให้อีกคนทำงาน C-D จะได้ไม่ต้องก้าวก่ายกัน และไม่มั่วด้วย เพราะบางทีงาน A มันมีหลายชิ้น ต้องมาจดมาจำอีกว่างาน A ชิ้นนี้ใครรับผิดชอบอยู่
และด้วยความที่งานเรามันเป็นงานใหม่ของแผนก ทั้งเราและหัวหน้าต่างยังไม่แม่นยำในเนื้องาน มีอะไรให้ต้องปรับต้องแก้กันเยอะ ซึ่งเรากับหัวหน้าก็ช่วยกันปรับแก้ไปเยอะพอสมควรแล้วก่อนที่จะรับพนักงานใหม่เข้ามา เรารู้สึกว่าถ้าไม่แบ่งงานกัน เวลามีใครคนหนึ่งอยากปรับอะไรบางอย่างเกี่ยวกับงาน แล้วอีกคนหนึ่งไม่เห็นด้วย มันจะเกิดความรู้สึกขัดแย้งกัน (เรื่องนี้ที่เรากำลังจะเล่าต่อไป)
แต่ในเมื่อหัวหน้าไม่ให้เรากับพนักงานใหม่แบ่งงานกัน เราก็ต้องทำตามนั้น แรกๆไม่มีปัญหา แต่พอผ่านไปสักพัก พนักงานใหม่เกิดอยากปรับเปลี่ยนรูปแบบงานบางอย่าง ซึ่งเราเห็นว่าพนักงานใหม่ยังไม่เข้าใจงานดีพอ เขาย่อมคิดแต่ในมุมของเขา อาจอยากเปลี่ยนเพื่อให้ตัวเองทำงานได้สะดวกขึ้น หรือคิดในมุมมองของคนนอกมากกว่ามุมมองของคนที่ทำงานอยู่ตรงนี้ ซึ่งบางครั้งทำให้เขาเข้าใจไปว่าระบบการทำงานของที่นี่ไม่ดี
ส่วนเรา ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจพนักงานใหม่นะ แต่เราทำงานนี้มานานกว่า ทำให้รู้ว่างานบางอย่างไม่สามารถปรับให้เป๊ะหรือสะดวกได้ดั่งใจ แต่เรากับหัวหน้าก็พยายามปรับให้ดีเท่าที่จะได้แล้ว เราต่างก็อยากทำงานสบายกันทั้งนั้น สิ่งที่พนักงานใหม่อยากปรับ มันเป็นสิ่งที่หัวหน้าเคยดูและเคยปรับมาแล้วเมื่อไม่นานมานี้ และการจะปรับเปลี่ยนอะไรนั้น พนักงานไม่สามารถปรับเองโดยพลการ แต่หัวหน้าต้องรับรู้และอนุมัติด้วย
ทีนี้พอเราเห็นว่า สิ่งที่พนักงานอยากเปลี่ยนนั้น มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไม่ได้ในตอนนี้ เราก็อธิบายเหตุผลให้เขาฟัง (เราพูดไม่เยอะ เพราะไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจ) แต่ด้วยนิสัยดื้อรั้นของพนักงานใหม่ อยากจะปรับเปลี่ยนให้ได้ เขาก็พยายามอธิบายเหตุผลของเขาให้เราฟัง ทีนี้เราเลยบอกให้เขาเข้าไปคุยกับหัวหน้าเอง เรารู้สึกว่า งานของเขาที่เขาต้องทำ เขาก็ยังทำได้ไม่ถึงไหน แต่อยากจะปรับเปลี่ยนนั่นนี่ ไปคุยกับหัวหน้าเองเถอะ
พนักงานใหม่ก็เข้าไปคุยกับหัวหน้า (เราไม่เข้าไปด้วย) เขากับหัวหน้าถกกันอยู่นานมาก แต่สุดท้ายหัวหน้าก็ไม่อนุมัติให้เขาปรับเปลี่ยนรูปแบบงาน โดยหัวหน้าให้เหตุผลเหมือนกับเรา หัวหน้าอธิบายซะยืดยาวจนในที่สุดพนักงานใหม่ก็ต้องยอม พอเขาคุยกับหัวหน้าเสร็จ เราก็พูดกับเขาประมาณว่า "เห็นไหม...บอกแล้ว...มีอะไรเข้าใจยากหรือ..."
จากนั้นเราก็เงียบ ไม่สบอารมณ์ ไม่ชอบคนดื้อ เราเองก็ดื้อ แต่ถ้าเป็นเรื่องงานเราจะเชื่อฟังหัวหน้าหรือคนที่ทำมาก่อนเป็นหลัก ถ้าเราเห็นว่ามีอะไรน่าเปลี่ยนแปลง เราก็จะถามหยั่งเชิงก่อน ถ้าเขาบอกไม่ เราก็ไม่ตื๊อต่ออีก เราถือว่าเราเพิ่งเข้ามาทำงาน รูปแบบงานเดิมเรายังเรียนรู้และเข้าใจไม่หมด แล้วจะมาอยากเปลี่ยนใหม่ให้เป็นไปตามใจเราเพื่อ? เราอยากทำงานกับคนอื่นได้อย่างราบรื่น
สุดท้ายหัวหน้าก็คุยกับเราว่า พนักงานใหม่ยังไม่เข้าใจงาน คงจะเจอปัญหามาถึงได้อยากปรับเปลี่ยนนั่นนี่ แต่บางอย่างไม่สามารถเปลี่ยนได้อย่างที่เขาคิด เพราะต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง บางครั้งปรับเปลี่ยนแล้วก็ทำงานลำบากขึ้นกว่าเดิม อีกอย่างเขาไม่ควรด่วนสรุปว่าระบบงานที่นี่ไม่ดี... เราก็ไม่ได้พูดอะไรมาก รู้ว่าปัญหาที่พนักงานใหม่เจอมันเป็นเรื่องปกติ แต่เราก็อยากให้หัวหน้ายอมให้เราแบ่งงานกับพนักงานใหม่อย่างชัดเจน ปัญหาความขัดแย้งนี้จะได้น้อยลง ไม่รู้จะอธิบายให้หัวหน้าเข้าใจได้ยังไง
ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อหัวหน้าให้พนักงาน 2 คน ทำงานด้วยกัน โดยไม่แบ่งงานกันให้ชัดเจน
และด้วยความที่งานเรามันเป็นงานใหม่ของแผนก ทั้งเราและหัวหน้าต่างยังไม่แม่นยำในเนื้องาน มีอะไรให้ต้องปรับต้องแก้กันเยอะ ซึ่งเรากับหัวหน้าก็ช่วยกันปรับแก้ไปเยอะพอสมควรแล้วก่อนที่จะรับพนักงานใหม่เข้ามา เรารู้สึกว่าถ้าไม่แบ่งงานกัน เวลามีใครคนหนึ่งอยากปรับอะไรบางอย่างเกี่ยวกับงาน แล้วอีกคนหนึ่งไม่เห็นด้วย มันจะเกิดความรู้สึกขัดแย้งกัน (เรื่องนี้ที่เรากำลังจะเล่าต่อไป)
แต่ในเมื่อหัวหน้าไม่ให้เรากับพนักงานใหม่แบ่งงานกัน เราก็ต้องทำตามนั้น แรกๆไม่มีปัญหา แต่พอผ่านไปสักพัก พนักงานใหม่เกิดอยากปรับเปลี่ยนรูปแบบงานบางอย่าง ซึ่งเราเห็นว่าพนักงานใหม่ยังไม่เข้าใจงานดีพอ เขาย่อมคิดแต่ในมุมของเขา อาจอยากเปลี่ยนเพื่อให้ตัวเองทำงานได้สะดวกขึ้น หรือคิดในมุมมองของคนนอกมากกว่ามุมมองของคนที่ทำงานอยู่ตรงนี้ ซึ่งบางครั้งทำให้เขาเข้าใจไปว่าระบบการทำงานของที่นี่ไม่ดี
ส่วนเรา ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจพนักงานใหม่นะ แต่เราทำงานนี้มานานกว่า ทำให้รู้ว่างานบางอย่างไม่สามารถปรับให้เป๊ะหรือสะดวกได้ดั่งใจ แต่เรากับหัวหน้าก็พยายามปรับให้ดีเท่าที่จะได้แล้ว เราต่างก็อยากทำงานสบายกันทั้งนั้น สิ่งที่พนักงานใหม่อยากปรับ มันเป็นสิ่งที่หัวหน้าเคยดูและเคยปรับมาแล้วเมื่อไม่นานมานี้ และการจะปรับเปลี่ยนอะไรนั้น พนักงานไม่สามารถปรับเองโดยพลการ แต่หัวหน้าต้องรับรู้และอนุมัติด้วย
ทีนี้พอเราเห็นว่า สิ่งที่พนักงานอยากเปลี่ยนนั้น มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไม่ได้ในตอนนี้ เราก็อธิบายเหตุผลให้เขาฟัง (เราพูดไม่เยอะ เพราะไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจ) แต่ด้วยนิสัยดื้อรั้นของพนักงานใหม่ อยากจะปรับเปลี่ยนให้ได้ เขาก็พยายามอธิบายเหตุผลของเขาให้เราฟัง ทีนี้เราเลยบอกให้เขาเข้าไปคุยกับหัวหน้าเอง เรารู้สึกว่า งานของเขาที่เขาต้องทำ เขาก็ยังทำได้ไม่ถึงไหน แต่อยากจะปรับเปลี่ยนนั่นนี่ ไปคุยกับหัวหน้าเองเถอะ
พนักงานใหม่ก็เข้าไปคุยกับหัวหน้า (เราไม่เข้าไปด้วย) เขากับหัวหน้าถกกันอยู่นานมาก แต่สุดท้ายหัวหน้าก็ไม่อนุมัติให้เขาปรับเปลี่ยนรูปแบบงาน โดยหัวหน้าให้เหตุผลเหมือนกับเรา หัวหน้าอธิบายซะยืดยาวจนในที่สุดพนักงานใหม่ก็ต้องยอม พอเขาคุยกับหัวหน้าเสร็จ เราก็พูดกับเขาประมาณว่า "เห็นไหม...บอกแล้ว...มีอะไรเข้าใจยากหรือ..."
จากนั้นเราก็เงียบ ไม่สบอารมณ์ ไม่ชอบคนดื้อ เราเองก็ดื้อ แต่ถ้าเป็นเรื่องงานเราจะเชื่อฟังหัวหน้าหรือคนที่ทำมาก่อนเป็นหลัก ถ้าเราเห็นว่ามีอะไรน่าเปลี่ยนแปลง เราก็จะถามหยั่งเชิงก่อน ถ้าเขาบอกไม่ เราก็ไม่ตื๊อต่ออีก เราถือว่าเราเพิ่งเข้ามาทำงาน รูปแบบงานเดิมเรายังเรียนรู้และเข้าใจไม่หมด แล้วจะมาอยากเปลี่ยนใหม่ให้เป็นไปตามใจเราเพื่อ? เราอยากทำงานกับคนอื่นได้อย่างราบรื่น
สุดท้ายหัวหน้าก็คุยกับเราว่า พนักงานใหม่ยังไม่เข้าใจงาน คงจะเจอปัญหามาถึงได้อยากปรับเปลี่ยนนั่นนี่ แต่บางอย่างไม่สามารถเปลี่ยนได้อย่างที่เขาคิด เพราะต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง บางครั้งปรับเปลี่ยนแล้วก็ทำงานลำบากขึ้นกว่าเดิม อีกอย่างเขาไม่ควรด่วนสรุปว่าระบบงานที่นี่ไม่ดี... เราก็ไม่ได้พูดอะไรมาก รู้ว่าปัญหาที่พนักงานใหม่เจอมันเป็นเรื่องปกติ แต่เราก็อยากให้หัวหน้ายอมให้เราแบ่งงานกับพนักงานใหม่อย่างชัดเจน ปัญหาความขัดแย้งนี้จะได้น้อยลง ไม่รู้จะอธิบายให้หัวหน้าเข้าใจได้ยังไง