วัดหลวงขุนวิน
จะมีวัดอยู่แห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาที่อยู่ระหว่างดอยอินทนนท์และอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เขตอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นวัดที่มีประวัติยาวนานหลายร้อยปีและมักเป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยในแบบการขับรถจักรยานยนต์วิบาก หรือรถโฟว์วีล มีคลิปการเดินทางขึ้นไปที่วัดอยู่ในยูทูปพอสมควร (ส่วนนี่เป็นกระทู้ในพันทิพย์
https://pantip.com/topic/40389010) เราขึ้นไปช่วงสายๆ ของวันที่ 14 มีนาคม 2564 โดยการขับรถเช่าแบบอีโคคาร์ เครื่อง 1200 ซีซี ขึ้นไป โดยจุดสำคัญของการเดินทางขึ้นไปวัดหลวงขุนวินสำหรับผู้ไม่เคยไป นอกจากความไม่สะดวกสบายของเส้นทางแล้วยังเป็นการหลงทางจากระบบนำทางของ google map เราก็เช่นกัน
จากภาพด้านบน ถ้าเราค้นหาใน google map ว่าวัดหลวงขุนวิน ระบบจะมาปักหมุดให้ที่หมายเลข (2) ซึ่งขอการนำทางจะได้เส้นทางที่ใช้ทางหลวงหมายเลข 1013 ถึงวัดสบวินก็เลี้ยวขวาขึ้นมาจนถึงจุดหมายเลข (2) แต่ตรงนี้ยังไม่ใช่วัด เป็นแค่จุดเริ่มต้นของถนนเข้าวัดยาวกว่า 10 กิโลเมตร โดยตัววัดจริงๆ จะอยู่ที่หมายเลข (1)
แต่ถ้าเรามาปักหมดไว้ที่หมายเลข (1) ระบบจะพาเรามาทางถนนเส้นทางขวาของรูป (หมายเลข 3) และถ้าขับตามเส้นทางนี้พอถึงกลางทางจะพบป้ายของคนในพื้นที่ระบุว่าทางนี้ขึ้นไปวัดหลวงฯ ไม่ได้ ให้กลับไปขึ้นทางอำเภอแม่วางแทน โดยเราก็เจอเหตุการณ์นี้เช่นกัน ก็เลยใช้เวลาพอสมควรก่อนที่จะพบเส้นทางที่ถูกต้อง (เราเข้าไปดูคลิปรีวิวการขับรถขึ้นไปในยูทูปประกอบ)
ถนนเส้น 1013 ช่วงก่อนเข้าเขตอำเภอแม่วาง ถนนจะเลาะธารน้ำไป โดยในธารน้ำจะมีกิจกรรมล่องแพอยู่เป็นระยะๆ
ถนนหลังจากที่เลี้ยวขวาที่วัดสบวินแล้ว บางช่วงเป็นคอนกรีต
บางช่วงเป็นดิน
แต่ยังมีป้ายแนะนำทางว่าเป็นเส้นทางมุ่งหน้าวัดหลวงขุนวินให้เราอุ่นใจ รูปล่างนี้คือบริเวณหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานออบขาน (ห้วยหยวก)
เส้นทางช่วงสั้นๆ เป็นทางลาดยางดำ
และเส้นทางหลังจากนั้นจะเป็นคอนกรีตเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่เรียบครับ น่าจะเพราะตั้งใจให้ช่วยป้องกันการลื่นไถลของรถที่จะขับขึ้นมา หรือลงสุ่พื้นราบ แต่ยังไงก็ยังมีป้ายแนะนำทางว่ามุ่งหน้าสู่วัดหลวงขุนวินเป็นระยะๆ โดยข้างทางมีร่องรอยของไฟป่าจนดูแห้งแล้งไปทั่ว ต้นไม้ยื่นต้นทิ้งใบเกือบทั้งหมดไปทั่วทั้งป่า
และสุดท้ายก็ได้มาถึงประตูเข้าเขตวัดจนได้
พระพุทธรูปยืนปางจงกรมแก้วแกะสลักจากซุงไม้จำปี ประดิษฐานเป็นประธานในโบสถ์พระยืน (วิหารพระยืน) ที่ทำจากไม้ทั้งหลัง ที่หน้าบันของหลังคาชั้นล่างสลักเป็นรูปนกยูงลำแพนพร้อมลวงลายกนก ส่วนหน้าบันของหลังคาชั้นบนสลักเป็นรูปธรรมจักร ซึ่งเป็นเครื่องหมายหนึ่งของศาสนาพุทธ
พระพุทธรูปนอนปางไสยาสน์แกะสลักจากซุงไม้จำปี ในภาพจะเห็นต้นสาละคู่และความโศกเศร้าของบรรดาสิงห์สาราสัตว์รอบข้าง รวมทั้งเหล่าเทพเทวดาทั้งหลาย ซึ่งจัดเป็นการเล่าพุทธประวัติตอนปรินิพพานอย่างชัดเจน ส่วนตัวอาคารสร้างจากไม้ทั้งหมด หลังคาสามชั้นที่หน้าบันด้านหน้าของวิหารสลักเป็นรูปบุษบกที่ลอยอยู่เหนือก้อนเมฆ ตรงกลางของสันหลังคาประดับด้วยฉัตรทอง โดยอาคารทั้งหลังถูกล้อมรอบด้วยนาค 2 ตัวหันหน้ามาทางด้านหน้าของวิหาร ส่วนอีก 2 ตัวหันหน้าไปทางด้านหลัง และหางของนาคมาบรรจบกันที่กึ่งกลางของวิหารทั้งสองฝั่ง
โดยสลักยักษ์และเทพขนาดใหญ่ไว้โดยรอบ
วิหารหลวงสร้างจากไม้ทั้งหลัง ชายคาเตี้ยตามรูปแบบสถาปัตยกรรมของอาคารภาคเหนือ ด้านหลังเป็นเจดีย์องค์สีขาวขลิบทอง มีฉัตรสีทองอยู่บนสุดทำด้วยโลหะ ด้านในประดิษฐานพระพุทธรูปขัดสมาธิราบปางมารวิชัยไว้เป็นพระประธาน
หอไตร (หอพระไตร) ตั้งอยู่ด้านข้างของวิหารหลวง สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง แบ่งเป็นสองชั้น ชั้นล่างจัดเป็นห้องสมุดและประดิษฐานพระพุทธรูปขัดสมาธิเพชรปางมารวิชัยครองจีวรแบบพริ้วไหวแบบผ้าธรรมชาติไว้
บริเวณรอบวิหารหลวงซึ่งตั้งคู่กับหอไตร ที่ทำจากไม้ทั้งหลังนั้น จะพบว่ามีร่องรอยของซุ้มประตูวัดและกำแพงวัดที่ทำจากอิฐที่มีร่องรอยของการทลายลงมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยด้านข้างของกำแพงมีการปลูกต้นขนุนไว้เป็นแถวซึ่งเป็นไปตามความเชื่อด้านความเป็นมงคลของคนท้องถิ่น
ส่วนตรงนี้เป็นลานหน้าวัดซึ่งจัดให้เป็นที่จอดรถ มีร้านกาแฟเล็กๆ แบบ mobile อยู่ตรงนั้นด้วย
เราลงมาสู่พื้นราบด้วยเส้นทางเดิมหลังจากที่ไหว้พระและพักผ่อนอยู่บนนั้นราว 2 ชั่วโมง ซึ่งจากที่เราสังเกตนะครับ ที่นี่เป็นวัดสำหรับผู้ที่ต้องการมาปฏิบัติธรรม สำหรับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาเป็นหมู่คณะและขึ้นมาด้วยรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ไม่ก็มอเตอร์ไซค์วิบาก โดยมีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มขึ้นมาโดยการเดิน (วิ่ง) ประเภท trail running และบางกลุ่มก็เดินช้าๆ แบบแบกกล้องสองตาเพื่อวัตถุประสงค์ในการดูนกก็มี
-----------------
ภูไพรพรรณ Kitchen & Organic Farm
โดยถ้าเราลงจากดอยอินทนนท์ทางที่ผ่านอำเภอแม่วาง รวมทั้งที่เราขึ้นไปที่วัดหลวงขุนวินก็เช่นกัน ถ้าเราจะเข้าเมืองเชียงใหม่โดยเลี่ยงถนนสาย 108 ที่จะผ่านตัวอำเภอสันป่าตองโดยถนนจะแคบและมักมีปัญหารถติด ไปทางเส้นชลประทาน (เลี่ยงเมืองสันปาตองหางดง, ผ่านอุทยานหลวงราชพฤกษ์) จะมีร้านอาหารอยู่ร้านหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมถนนสายนี้ มีจุดสังเกตุเด่นชัดคือแปลงดอกไม้ขนาดใหญ่ที่จะปลูกดอกไม้หมุนเวียนกันไป โดยภูไพรพรรณฯ จะบริการทั้งอาหาร (ที่ชูจุดเด่นคือออแกนิคส์) และกาแฟรวมทั้งขนมหวาน ส่วนแปลงดอกไม้ที่เราสามารถลงไปถ่ายรูปได้นั้นถือเป็นกิมมิค
--------------------
คุณหมูยอ
เดินทาง 13-16 มีนาคม 2564
บันทึกไว้ 6 เมษายน 2564
------------------
เชียงใหม่ปลายฤดูหนาวตอนอื่นๆ
[CR] มีนาคม 2564 เชียงใหม่ปลายฤดูหนาว ตอน 2 วัดหลวงขุนวิน #ศาสนสถานร้อยปีกลางป่าเขา
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้