เชียงใหม่ 13-16 มีนาคม 2564
ตลาดจริงใจ
คราวนี้เราถึงเชียงใหม่ช่วงเย็นของวันที่ 13 มีนาคม 2564 ท่ามกลางหมอกควันกระจายทั่วไปทั้งท้องฟ้า แต่จะว่าไปการมีหมอกควันมันก็ทำให้พระอาทิตย์ยามบ่ายแก่ๆ สวยขึ้น เรื่องของการไปเดินตลาดจริงใจนั้นคือเช้าของวันรุ่งขึ้น (14 มีนาคม 2564)
จริงๆ ที่เชียงใหม่ นอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยงธรรมชาติแบบที่หลายคนสามารถจินตนาการถึงได้ อีกกิจกรรมท่องเที่ยวซึ่งมักถูกสอดแทรกเข้าไปในโปรแกรมเที่ยวเชียงใหม่อยู่เสมอๆ คือการเดินตลาด ไม่ว่าจะเป็นตลาดคนเดินที่นับเป็นต้นแบบของตลาดคนเดินแทบจะทั่วประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ถูกอกถูกใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เช่นตลาดถนนคนเดินวัวลาย หรือประตูท่าแพ และตลาดแบบที่ผนวกแนวคิดเรื่องความปลอดภัยในสุขภาพและอาหาร เข้าด้วยกันอย่างเช่นตลาดจริงใจ (ที่นำเสนอรูปแบบตลาดและความสวยงามน่าเดิน ความแปลกตาและน่าตื่นตาตื่นใจ โดยบริษัทผู้นำระบบการค้าปลีกรายใหญ่ของไทย) ที่ประกอบด้วยหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็น Farmer market - ตลาดนัดเกษตรกร, ตลาดสินค้าออแกนิกส์, รวมไปถึงตลาดที่รองรับสินค้าทำมือที่เป็นเหมือนเวทีให้เหล่าผู้ประกอบการหน้าใหม่นำเสนอสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง และเป็นชิ้นเดียวในโลก
เป็นตลาดวันเสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่ราว 6 โมงเช้าถึงบ่ายโมง ตั้งอยู่บริเวณตลาดคำเที่ยงซึ่งเป็นบริเวณค้าขายขนาดใหญ่ และเป็นตลาดต้นไม้ที่ขึ้นชื่อของเมืองเชียงใหม่ เราสามารถค้นหาได้ใน google map แล้วเปิดระบบนำทางไปได้ ที่จอดรถจะหายากสักหน่อย สามารถจอดรถได้ริมถนน, ในซอยแถวนั้น, หรือถ้าเอาที่สบายใจคือในลานจอดรถเอกชนที่ต้องเสียค่าจอดรถสักหน่อย แต่ในความเห็นเรา บางทีเรียก grab ไปก็ง่าย และ grab เชียงใหม่หาง่าย ราคาไม่แพง แถมบางทีจะมีโค้ดลดราคาอยู่บ่อยๆ
เราไปถึงตลาดราว 9 โมงเช้า ของวันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม 2564 โดยจอดรถไว้ในซอยเล็กตรงข้ามทางเข้าตลาด แดดไม่ร้อนครับ เดินสบาย โดยในตลาดจะมีรถโดยสารแบบรถกอล์ฟให้บริการแบบไม่คิดค่าใช้จ่าย ด้านหน้าตลาดมีทางม้าลายและเจ้าหน้าที่อำนวยการจราจร 9 โมงเช้าก็ถือว่ากำลังคึกคักทั้งร้านค้า และผู้ที่มาเยี่ยมชม จับจ่ายซื้อของ
“จริงใจ” (Jing Jai) หมายถึงความจริงใจและตั้งใจที่จะให้สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งรวบรวมผลิตภัณฑ์และสินค้าต่างๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ไว้อยู่ด้วยกัน ภายในเนื้อที่ 40 ไร่ บนถนนอัษฎาธร ที่พัฒนาเป็นถนนตัวอย่างทางด้านภูมิทัศน์ เพราะนำระบบสาธารณูปโภคลงใต้ดินทั้งหมด สิ่งที่ทำให้ที่นี่แตกต่างจากที่อื่น คือความร่มรื่นเขียวชอุ่ม เน้นบรรยากาศสบายๆ เป็นส่วนตัว ไม่แออัด แต่ยังคงเอกลักษณ์บางส่วนของสถาปัตยกรรมล้านนา ที่ทำให้คุณได้สัมผัสกลิ่นอายของเมืองแห่งวัฒนธรรม มีสถานที่จอดรถสะดวกสบาย ทุกคนที่มาสัมผัสความจริงใจของชาวเชียงใหม่ที่จริงใจมาร์เก็ต นอกจากจะได้ทั้งของถูกใจแล้ว ยังจะได้รอยยิ้มกลับไปฝากคนที่บ้านอีกด้วย ร้านค้า ร้านอาหาร ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ห้องประชุม ห้องเวิร์คช้อป ตลาดเช้าวันเสาร์-อาทิตย์อันลือชื่อ ทั้ง รัสติคมาร์เก็ต และ จริงใจ Farmers Market เชียงใหม่ ซึ่งเป็นศูนย์รวมสินค้าแฮนด์เมดที่ใหญ่ที่สุดและเป็นตลาดเกษตรอินทรีย์แห่งแรกของจังหวัดเชียงใหม่
นอกจากจะมีร้านค้า ร้านอาหาร เครื่องดื่ม กาแฟ สินค้าทางการเกษตร และถ่ายรูปสวยแล้ว การเดินเลือกชมสินค้าที่นี่ยังมีกิมมิคคือเพลงสดแบบอะคูสติคขับกล่อมเคล้าไปกับทุกย่างก้าวของเราครับ
-----------------
Note
โรงแรมอักษรา เฮอริเทจ เชียงใหม่ เป็นโรงแรมที่เราได้เข้าพักในคืนวันแรก (13 มีนาคม 2564 จองผ่านโครงการเที่ยวด้วยกัน โรงแรมตั้งอยู่ภายในคูเมือง อยู่ระแวกประตูท่าแพ (ประตูท่าแพคือประตูเมืองเชียงใหม่โบราณ ซึ่งตั้งอยู่กึ่งกลางกำแพงเมืองเชียงใหม่ด้านตะวันออก) สามารถเดินไปได้ในระยะประมาณ 100 เมตร โรงแรมอยู่ตรงข้าม AUA เชียงใหม่ และข้างวัดพันอ้น มีศูนย์บริการโตโยต้าอยู่ไม่ห่าง (สามารถอ้างอิงให้กับแท็กซี่, รถแดง, หรือ grab car ได้) เป็นโรงแรมที่ให้บรรยากาศเรียบหรู ห้องพักใหญ่ พื้นหินขัด เฟอร์นิเจอร์ไม้จริง เตียงนุ่มใหญ่ หมอน 2 ใบ (นุ่มฟูและนุ่มแน่น) สระว่ายน้ำ และห้องฟิตเน็ตเล็กๆ 1 ห้อง
ห้องพักเก็บเสียงดี อาหารเช้าคุณภาพดี กาแฟอร่อยครับ
-------------
คุณหมูยอ
เดินทาง 13-16 มีนาคม 2564
บันทึกไว้เมื่อ 6 เมษายน 2564
------------
เชียงใหม่ปลายฤดูหนาวตอนอื่นๆ
[CR] มีนาคม 2564 เชียงใหม่ปลายฤดูหนาว ตอน 1 ตลาดจริงใจวันอาทิตย์
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้