พันมิติ ภาคห้า (The Parallel Dimensions 5) บทที่ ๑๓

กระทู้สนทนา
ใกล้จบแล้วค่ะ คราวหน้าเหลือบทที่ ๑๔ กับบทส่งท้ายก็จะจบแล้วนะคะ

ความเดิม
ภาคห้า บทที่ ๑ https://pantip.com/topic/40438663
ภาคห้า บทที่ ๑๒ https://pantip.com/topic/40606169

###

บทที่ ๑๓

พวกเขาทดสอบความสามารถของเจ้าอิมในร่างจิ้งจอกล่องหน

ผมคิดว่าโอลีนคงยังไม่กล้าให้มันเปลี่ยนเป็นนกไฟ อาจเพราะกลัวมันจะเผาฐานอีกกระมัง

พวกเขาเอามันใส่กรงแคบๆ ใช้เครื่องมือสแกนมันขณะล่องหน ดูภาพเทียบกับตอนที่ยังมองเห็นมันอยู่ ซึ่งแน่นอน หากสแกนภาพธรรมดาก็จะมองไม่เห็น ต้องใช้คลื่นอินฟราเรดตรวจจับความร้อนแทน บางครั้งก็มีการเจาะเลือดไปตรวจสอบด้วย

ผมสงสารเจ้าอิม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ผมได้แต่ปลอบมัน บอกให้มันอดทน ให้มันทำตามคำสั่งของพวกอินูเวไปก่อน

ผมไม่รู้ว่าเขาเอามุสกับเวิร์นไปไว้ที่ไหน ได้ยินพวกอินูเวซุบซิบกันว่า มุสดื้อมาก ไม่ให้ความร่วมมือเลย บางครั้งยังแทบพังห้องทดลองเสียด้วย หากไม่ใช่เพราะผม มุสคงถล่มฐานนี้แล้วหนีออกไปตั้งนานแล้วกระมัง

ไม่สิ เขาคงไม่ถูกจับตั้งแต่แรกต่างหาก

ผมยังได้ยินพวกเขาคุยกันอีกว่าพวกนาร์คูลทั้งหมดถูกนำไปเก็บรวมกัน รอซ่อมแหล่งพลังงานก่อนแล้วค่อยปล่อยออกมาใช้งานอีก ดูเหมือนพวกเขามีแผนจะปรับปรุงนาร์คูล แทนที่จะใช้ห่วงคอล่ามไว้ ก็จะเปลี่ยนเป็นฝังชิปในร่างกายแทน ซึ่งจะทำให้ควบคุมความคิดและการกระทำของนาร์คูลได้...ดูเหมือนโอลีนจะได้ความคิดนี้มาจากมิติของผม

ผมไม่อยากให้พวกเขาทำสำเร็จ และหวังว่าพวกเขาจะทำไม่สำเร็จ

กิจวัตรประจำวันของพวกอินูเวเหมือนกันทุกวัน ซึ่งจะเป็นไปตามเวลา ฐานนี้มีกำแพงและเพดานคลุมราวกับอยู่ในกล่อง ไม่เห็นแสงเดือนแสงตะวัน (ถึงจะถูกบังไว้ด้วยเถ้าถ่านก็เถอะ) ทำให้บอกเวลากลางวันกลางคืนไม่ได้

ทุกวันพวกเขาจะเอาผมออกจากห้องขังไปยังห้องที่ทดลองเจ้าอิม ให้ผมสั่งมันทำโน่นทำนี่สักสองชั่วโมงก็ให้พัก (พวกอินูเวก็พักด้วย) สักครู่หนึ่งพวกเขาก็ให้ผมทำการทดลองกับเจ้าอิมต่อ สลับกันเป็นช่วงๆ แบบนี้ทั้งวัน พวกเขาเอาอาหารและน้ำให้ผมกินตามเวลา แล้วพากลับไปห้องขังยามหมดวัน

ผ่านไปสักสองสามวัน ระหว่างที่กำลังตรวจสอบการเคลื่อนไหวของเจ้าอิมขณะล่องหน โดยให้มันวิ่งแล้วสแกนดูความร้อนในแต่ละจุดของร่างกาย ผมก็ได้ยินเสียงโครมครามดังขึ้น

พวกอินูเวตื่นตระหนกเป็นการใหญ่ พวกเขาเร่งรุดออกจากห้องไป ครู่ต่อมาเสียงโครมก็ดังขึ้นอีก อินูเวสี่ห้าคนกระเด็นกลับเข้ามาในห้อง

คนที่เดินหลังแอ่นตามเข้ามาคืออินูเวคนหนึ่ง หน้าตาเขาแตกตื่น มือทั้งสองยกขึ้นข้างตัว น่าแปลกที่เขาไม่ได้สวมแหวนแบบอินูเวคนอื่น

ด้านหลังของเขาเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง มือซ้ายของเธอหิ้วด้านหลังปกเสื้อเขา นิ้วหัวแม่มือสวมแหวนหลวมโพรก ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าแหวนของเวิร์น มือขวาของเธอซ่อนอยู่แถวเอวอินูเวผู้นั้น และคงเป็นสาเหตุให้เขาเดินหลังแอ่น แต่ผมมองไม่เห็นว่าเธอถืออะไรหรือไม่

“ไอดิน!” เธอเรียกชื่อผม พร้อมกับชะโงกมองมาจากด้านหลังอินูเวคนนั้น

“ชะ...ชาเวียร์!”

เธอยิ้มรับ แล้วหันกลับไปตะคอกอินูเวตรงหน้า “สามีข้าล่ะ เขาอยู่ไหน!”

“ข้า...ข้าไม่รู้ ข้าจับตาดูเจ้าอยู่ จะรู้ได้ยังไงว่าพวกเขาเอาสามีเจ้าไปขังที่ไหน”

เธอขยับแขนที่อยู่ตรงเอวเขา เปลี่ยนเป้าหมายมาที่ลำคอ ผมจึงเห็นว่าในมือของเธอมีมีดทำครัวเล่มหนึ่ง เธอจ่อมีดที่ลำคอเขา ที่นิ้วหัวแม่มือยังสวมแหวนหลวมๆ ซึ่งมีลักษณะคล้ายของเวิร์นแต่ขนาดใหญ่กว่า ถึงอย่างนั้นก็ยังดูเล็กกว่าของโอลีน

“ถ้าอย่างนั้นก็หาสิ!” เธอตะคอกกรอกหูอินูเวผู้โชคร้าย แล้วจึงหันมาเอ่ยกับผมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ไอดิน ไปกันเถอะ” จากนั้นเธอก็บังคับให้อินูเวคนนั้นหันหลังก้าวออกจากห้อง

ผมคว้าเจ้าอิมออกจากกรงแล้วรีบตามเธอไปโดยไม่ลังเล ระหว่างนั้นผมอดสงสัยไม่ได้ว่าชาเวียร์มาได้อย่างไร เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ที่สำคัญเธอจับอินูเวคนนี้ไว้ได้อย่างไร

ชาเวียร์เอามีดจี้คออินูเวผู้โชคร้าย อินูเวคนอื่นเห็นก็ไม่กล้าทำอะไร ผมไม่แน่ใจว่าพวกเขากลัวพวกของตัวเองบาดเจ็บ หรือเพราะอะไรกันแน่... ผมหมายถึง พวกเขามีเวทมนตร์ หากช่วยเพื่อนของเขาก็ไม่น่ายาก แต่ทุกคนเห็นมีดเล่มนั้นแล้วดูแตกตื่นโกลาหล

แต่ชาเวียร์ดูไม่สนใจ เธอมีเป้าหมาย และเป้าหมายของเธอก็ชัดเจน

ยามเดินผ่านประตูห้องแต่ละห้อง ชาเวียร์จะยื่นมือซ้ายที่สวมแหวนวงเล็กออก ปล่อยแสงสีแดงพุ่งกระแทกประตูพังลง แล้วเข้าไปกวาดดูรอบห้อง

“เจ้าแค่ใช้พลังน้อยๆ แหวนข้าก็เปิดประตูได้นะ” อินูเวผู้โชคร้ายบอกเบาๆ

“หนวกหู!” เธอตวาดกลับ “ไอ้แหวนนี่ใช้ยากจะตาย พังๆ ไปน่ะดีแล้ว” เธอบ่นแล้วก็ปล่อยพลังใส่เครื่องมือที่ขวางลูกตาพังกระจายไป แต่เมื่อไม่พบเป้าหมายเธอก็กลับออกจากห้อง เตรียมพังห้องต่อไป

ผมไม่แน่ใจว่าคิดไปเองรึเปล่า แต่ดูเหมือนแสงสีแดงที่เธอปล่อยออกมาแต่ละครั้งดูไม่ค่อยสม่ำเสมอ บางครั้งลำแสงใหญ่ บางครั้งเล็ก บางครั้งยังเอียงๆ เฉๆ จนเกือบโดนอินูเวที่ล้อมรอบอยู่ด้วย (ดีที่ผมตามอยู่ด้านหลัง จึงไม่อยู่ในรัศมีพลาดเป้าของเธอ)

ถล่มไปอีกสามสี่ห้อง โอลีนจึงมาต้อนรับเธอ

เขาก้าวมาตามทางเดินพร้อมกับอินูเวจำนวนหนึ่ง ท่ามกลางอินูเวที่ติดตามมานั้นยังมีลูกโป่งแสงสีแดงบรรจุเวิร์นอยู่ด้วย

“หากเจ้าไม่หยุด ข้าจะฆ่าเวิร์นเสีย!” โอลีนตวาดยามเห็นชาเวียร์ก้าวออกมาจากห้องล่าสุดที่เพิ่งถล่มเจ๊งไป

ชาเวียร์หมุนตัวดึงอินูเวผู้โชคร้ายมากันด้านหน้า แล้วดึงมีดมาจ่อที่ด้านหลังแทน พอเธอเห็นเวิร์นในลูกโป่งแสงเธอก็ร้องขึ้น “สามี!” แต่ไม่ได้สนใจคำพูดของโอลีนเลยสักนิด

ครั้นแล้วลูกโป่งแสงก็บีบเล็กลง เวิร์นตัวงอด้วยความเจ็บปวด แต่กัดฟันไม่ร้องออกมา

“สามี!” ชาเวียร์ร้องอย่างตื่นตระหนก แล้วสะบัดหันไปทางโอลีน “ปล่อยสามีข้า!”

โอลีนเหยียดยิ้มหยันพร้อมกับส่ายหน้าช้าๆ “เขายังทำงานไม่เสร็จ ไปไหนไม่ได้หรอก” เขาเอ่ย แต่ไม่ได้บอกให้ปล่อยคนของตัวเอง

“จะปล่อยหรือไม่ปล่อย!” ท่าทางชาเวียร์ไม่ได้สนใจคำพูดของโอลีนสักเท่าไร มือซ้ายที่หิ้วคออินูเวผู้โชคร้ายกระตุกครั้งหนึ่ง เขาก็ร้องขึ้นด้วยความตระหนก

สายตาโอลีนเปลี่ยนเป็นเย็นชา “เจ้าคิดว่าจะขู่ข้าได้หรือ” น้ำเสียงของเขาก็เยียบเย็น จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นตวาด “จับมันไว้!”

ชาเวียร์ยกแขนขวาขึ้น ชี้ปลายมีดขู่ไปรอบด้าน แล้วพับแขนจ่อมืดที่คออินูเวผู้โชคร้ายอีก “พวกเจ้ากล้าหรือ”

ไม่มีใครกล้า อินูเวเหล่านั้นเห็นมีดแล้วก็หยุดกึก แทบไม่กล้าหายใจเสียด้วยซ้ำ

สีหน้าโอลีนก็เปลี่ยนไปยามเห็นมีดทำครัวเล่มนั้น คิ้วของของกระตุก “แหวนของซาฮาร์ มิน่าคนพวกนี้ถึงไม่กล้าเข้าใกล้เจ้า แถมยังจับคนของข้าได้อีก” โอลีนเอ่ยช้าๆ

สรุปว่าพวกเขากลัวแหวนของซาฮาร์ ไม่ได้กลัวมีดหรอกหรือ

“ซาฮงซาฮาร์อะไรข้าไม่รู้จัก” ชาเวียร์บอก “ข้าเจอแหวนนี่ที่บ้านตอนที่เจ้าบ้านี่จะจับข้า ดีที่มันปอดแหกกลัวแหวน ข้าก็เลยเอามีดจี้ ยึดแหวนมัน แล้วสั่งให้มันพาข้ามาที่นี่”

โอลีนหัวเราะ “ถึงเจ้าจะมีแหวนของซาฮาร์ แต่จะใช้พลังจากมันได้สักเท่าไรเชียว!” เขากระแทกเสียงในตอนท้าย พร้อมกันนั้นก็ปล่อยพลังพุ่งใส่ชาเวียร์!

หรือจะพูดให้ถูกคือพุ่งใส่อินูเวผู้โชคร้ายที่ชาเวียร์ใช้เป็นเครื่องกำบังต่างหาก

ทันใดนั้นเอง เปลวไฟสีแดงฉานพุ่งไปปะทะพลังของโอลีน ทั้งเปลวไฟทั้งลำแสงสีแดงสลายไป

เจ้าอิมที่ผมอุ้มมาด้วย เปลี่ยนร่างเป็นบาเจียอิมทั้งแต่เมื่อไรไม่ทราบ มันบินลงมาขวางหน้าชาเวียร์ (และอินูเวผู้โชคร้าย) ไว้ คิดจะปกป้องพวกเขา

แต่เจ้าอิมจะสู้โอลีนได้หรือ...

โอลีนเหยียดยิ้มที่มุมปาก “น่าสนุก” เขาพึมพำแล้วยื่นมือมาตรงหน้า ปล่อยแสงสีแดงใส่เจ้าอิม ทว่าแสงนั้นลำเล็ก เหมือนเพียงแค่จะหยอกให้มันเปลืองพลังเล่นๆ มากกว่า

เจ้าอิมพ่นไฟเข้าปะทะ แสงนั้นก็สลายหายไป

โอลีนปล่อยพลังใส่มันอีก เจ้าอิมก็ทำเหมือนเดิม แต่คราวนี้แสงสีแดงกลับไม่สลายไปแล้ว โอลีนเกร็งแขนปล่อยพลังไม่ขาดสาย ทำให้เจ้าอิมต้องพ่นไฟทานไว้ ร่างนกไฟกระพือปีกเลี้ยงตัวอยู่กลางอากาศ แต่ตัวมันกลับค่อยๆ ถอยหลังไปเรื่อยๆ

“ไอดิน ถือมีดไว้” ชาเวียร์ชำเลืองมาทางผม แล้วกลอกตากลับไปทางเจ้าอิม ผมจึงขยับไปจับด้ามมีดที่ยังจ่อคออินูเวผู้โชคร้ายอยู่ “จับไว้ดีๆ ล่ะ อย่าให้หลุดไปได้” เธอว่าพลางปล่อยมือ จากนั้นจึงก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง แต่แล้วก็ชะงัก หันกลับมา ถอนแหวนวงเล็กที่นิ้วหัวแม่มือซ้ายยัดใส่มือผมไว้ด้วย “ลองใช้ดู ไม่ยากหรอก” เธอว่าแล้วก็เร่งก้าวไปช่วยเจ้าอิม

ผมก้มมองดูแหวนในมือ...คือ ไม่ยากนี่มันใช้ยังไง เธอไม่ได้บอกผม

ชาเวียร์ก้าวไปยืนในระนาบเดียวกันกับเจ้าอิม จากนั้นก็ยื่นมือขวาไปด้านหน้า แสงสีแดงเรืองขึ้นรอบแหวนของซาฮาร์ซึ่งสวมอยู่ที่นิ้วมือขวา แล้วพุ่งใส่ร่างโอลีน

โอลีนรีบขยับตัวหลบ แสงสีแดงนั้นจึงพุ่งใส่อินูเวที่ด้านหลังของเขาแทน ร่างคนผู้นั้นปลิวไปกระแทกเพื่อนที่อยู่ทางด้านหลัง ต่อๆ กันไปสองสามคน

“โอ้...วงนี้แรงดีจริงๆ ด้วย” ชาเวียร์ท่าทางตื่นเต้น

โอลีนกัดฟันกรอด หันไปตวาดสั่งอินูเวที่อยู่ข้างตัว “มัวทำอะไรอยู่ จับมันเซ่!”

อินูเวเหล่านั้นรับคำแต่ยังไม่ทันทำอะไร เจ้าอิมก็พ่นไฟใส่พวกเขาจนต้องกระโดดหลบกระเจิดกระเจิง ชาเวียร์ฉวยจังหวะนั้นปล่อยพลังพุ่งใส่โอลีนอีก เขาหมุนตัวหลบแล้วปล่อยพลังกลับมา ชาเวียร์ก้มตัวหลบ ปล่อยให้เจ้าอิมพ่นไฟต้านพลังของโอลีนกลับไป

ดูเหมือนเจ้าอิมกับชาเวียร์จะเข้าขากันดี

ระหว่างที่ลุ้นการต่อสู้ของพวกเขาอยู่ อินูเวผู้โชคร้ายก็อาศัยทีเผลอ กระทุ้งศอกใส่ท้องผมจนตัวงอ จากนั้นเขาก็คว้างข้อมือผมข้างที่ถือมีดบิดไปด้านหลัง ผมร้องโอยขึ้นคำหนึ่ง มือที่กำมีดคลายออก เขาดึงมีดจากมือผมไปแล้วใช้มันจ่อคอผมแทน

“ถ้าไม่อยากให้มันตายก็ยอมให้จับเสียดีๆ”

ทุกคนหันมาตามเสียงของเขา เจ้าอิมส่งเสียงประท้วง แต่ก็ไม่กล้าทำอะไร

ทุกอย่างเงียบกริบไปชั่วครู่ ก่อนที่เสียงหัวเราะของโอลีนจากดังขึ้นทำลายความเงียบ เขาปรบมือดังๆ สามสี่ครั้ง แล้วจึงเอ่ย “ดีมาก...เจ้าทำดีมาก แล้วข้าจะเลื่อนตำแหน่งให้”

อินูเวผู้...ไม่โชคร้ายแล้ว...ค้อมศีรษะรับคราหนึ่ง

“เอาละ จับพวกมันทั้งหมดไว้” โอลีนหันไปสั่งพวกของตน

###
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่