(แก้ไข หัวข้อกระทู้ พิมพ์ผิด 24:31) แก้เป็น 24:21
.........................................................................................................................................................................................................................
นิสัยของชัยตอนมันจะหลบๆซ่อนๆด้วยความเกรงกลัวความรู้จากอัลกุรอาน ความจริงชัยตอนมันขี้ขลาด มันจะแอบๆซ่อนๆ คอยหาโอกาสนำความคิด
ที่ชั่วช้าของมัน มาสอดแทรกความคิดที่ดีของมนุษย์

อัลลอฮ์ทรงบอกแก่เราว่า:

...ความลามกและความชั่วที่ชัยฏอน หลอกล่อให้มนุษย์ทำลายผลงานตามธรรมชาติของอัลลอฮ์ผู้สร้าง มาชั่วลูกชั่วหลาน ตามที่กล่าวมาแล้ว คือ การ
ทำลายอวัยวะเพศหญิง และเปลี่ยนแปลงองัยวะเพศชายโดยการขลิบหนังหุ้มปลายลึงค์ของชาย ลำหรับเพศหญิงสร้างตวามทุกข์ทรมาณต่อเผ่าพันธุ์มนุษยชาติในบางสังคม ตามที่กล่าวมาแล้ว ในกระทู้ "ผู้ใดที่ยึดเอาชัยฏอนเป็นผู้ช่วยเหลือแล้ว แน่นอนเขาก็สูญเสีย อย่างชัดเจน"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้"ผู้ใดที่ยึดเอาชัยฏอนเป็นผู้ช่วยเหลือแล้ว แน่นอนเขาก็สูญเสีย อย่างชัดเจน"
 https://pantip.com/topic/40433544
เรื่อง FGMเป็นเรื่องที่มีสาเหตุมาจาก ฮาดีษบทนี้   الْخِتَانُ سُنَّةٌ لِلرِّجَالِ، مَكْرُمَةٌ لِلنِّسَاءِ ซึ่งเป็นฮาดีษ ที่อ่อนและไม่น่าเชื่อถือ  ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน
และขัดกับอัลกุรอาน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แม้กระนั้นก็ตาม ทั้งๆที่รู้ ว่าการขริบอวัยวะเพศหญิง ไม่เป็นทั้ง "วายิบและซุนนะห์" แต่นักวิชาการในบ้านเรายังยืนยัน หลอกลวงต่อไปว่า การตัด คลิตอริสของสตรีมีประโยชน์ในทางแพทย์ ที่ทำกันในสมัยนบี แต่ไม่บอกว่า ทำการขริบอย่างไร และมีประโยชน์อย่างไร?   เพียงแต่บอกว่า ทำก็ได้ไม่ทำก็ได้ ถึงแม้ว่าทำก็จะไม่ได้บุญอะไร แต่ "การตัดคลิตอริสต์ นี้มีประโยชน์ แพทย์ในปัจจุบันอธิบายไม่ถูกต้อง

ครูสอนศาสนาผู้นี้ยังกล่าวต่อไปว่า "การตัดคลิตอริสต์ นี้มีประโยชน์ถ้าทำให้ถูกต้องในสมัยนบี แต่ไม่มีคำอธิบายว่ามีประโยชน์อย่างไร?
การอ้างส่งๆโดยไม่มีคำอธิบายเช่นนี้ เป็นอันตรายมาก สร้างความเข้าใจผิด และเป็นการลวงให้มุสลิมหลงทางไปในทางของชัยตอน ซึ่ง
เป็นสาเหตุ ให้มุสลิมที่ขาดความรู้คงดำเนินการทำลายอวัยวะเพศหญิงต่อไป เพราะฮาดีษของชัยตอนดังกล่าว ยังคงหมุนเวียนใช้กันอยู่
ในสังคมมุสลิม ทั่วโลก เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะไม่ให้ความสำคัญในแนวทางของอัลลออ์ ตามคำสอนของท่านรอซูล แล้วจะเรียกว่า เชื่อฟัง
และเคารพรักท่านรอซูลได้อย่างไร? 
อัลลออ์ทรงบัญญํติไว้ว่า:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้{3:31} จงกล่าวเถิดว่า "หากพวกเธอรักอัลลอฮฺ ก็จงตามฉัน อัลลอฮฺก็จะทรงรักพวกเธอ และจะทรงอภัยบาปแก่พวกเธอ และอัลลอฮฺคือ
พระผู้ทรงอภัยโทษเสมอ พระผู้ทรงปรานียิ่ง
{3:32} จงกล่าวเถิดว่า "พวกเธอจงภักดีต่ออัลลอฮฺและศาสนทูตเถิด แต่ถ้าพวกเขาผินหลังให้ อัลลอฮฺก็ไม่ทรงโปรดปรานบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา"{8:20} ดูกร บรรดาผู้มีศรัทธา! จงเชื่อฟังอัลลอฮฺและศาสนทูตของพระองค์เถิด และจงอย่าได้ผินหลังให้แก่เขา ขณะที่พวกเธอฟังกันอยู่
 ท่านนบีสอนว่า 

عَنْ أَنَسِ بْنِ مَالِكٍ قَالَ قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ إِنَّ لِلَّهِ أَهْلِينَ مِنْ النَّاسِ قَالُوا يَا رَسُولَ اللَّهِ مَنْ هُمْ قَالَ هُمْ أَهْلُ الْقُرْآنِ أَهْلُ اللَّهِ وَخَاصَّتُهُ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้215 سنن ابن ماجه كتاب المقدمة باب فضل من تعلم القرآن وعلمه
179 المحدث الألباني خلاصة حكم المحدث صحيح في صحيح ابن ماجه
มีเรื่องเล่าว่า: อานาส อิบนุ มาลิก รายงานว่า:
ท่านรอซูลฯ กล่าวว่า อย่างแท้จริง อัลลอฮ์มีชุมชนของพระองค์เองท่ามกลางมวลมนุษยชาติ, 
พวกเขาถามต่อไปว่า โอท่านรอซูล เขาเหล่านั้นคือใคร? 
" ท่านศาสดาตอบว่า,   
“ พวกเขาเป็นประชากรของอัลกุรอาน ประชากรของอัลลอฮ์และผู้ที่อัลลอฮ์ได้เลือกแล้ว ”

จากเรื่องบอกเล่านี้เราจะเห็นได้ว่ามันเป็นความจริง ทั้งนี้เพราะว่า ท่านรอซูลต้องการให้มุสลิมศึกษาอัลกุรอานซึ่งเป็นคำสั่งของอัลลอฮ์ 
เช่นเดียวกัน มีเรื่องเล่า (ฮาดีษ)ที่สนับสนุนการศึกษาอัลกุรอานนี้หลายเรื่องด้วยกัน ได้แก่:

 "ผู้ที่ดีที่สุดในหมู่มุสลิมคือผู้ที่ศึกษาอัลกุรอานและนำความรู้และวิทยปัญญาไปสอนผู้คน"

 "อัลกุรอานเป็นแนวทางที่แท้จริงจากอัลลอฮ์ มุสลิมจะต้องศึกษาให้เข้าใจอย่างน้อย 50 บทเป็นประจำทุกๆวัน"

      ท่านรอซูลสอนมุสลิมว่า อย่าละทิ้งถ้อยคำของอัลลอฮ์ และห้ามการเสาะหาแนวทางนำอื่นๆ ที่ไม่ใช่แนวทางของอัลลอฮ์ (อัลกุรอาน) 
เพราะว่า แนวทางอื่นนอกจาก ที่บัญญัติไว้ในอัลกุรอาน จะทำให้มุสลิมหลงทางไปสู่เงื้อมมือของชัยตอน อย่างเช่นที่มันหลอกมุสลิมมาหลายชั่วคน 
ให้ทำลายผลงานของธรรมชาติของผู้สร้าง คือการตัดทำลายอวัยวะเพศหญิง และชาย อย่างเช่น  ชัยฏอน(อิบลีส) ตัดหูวัว/ควาย(4:119)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้قالَ الإِمامُ عَلِيُِ بْنُ مُوسَـى الرِّضا (عَلَيْهِ السَّلامُ): كَلامُ اللّهِ لا تَتَجاوَزُوهُ وَ لا تَطْـلُـبُوا الْهُدى فِي غَيْرِهِ فَتَضِلُّوا.
Imam ‘Ali ibne Musa al-Ridha (peace be upon him) has said: “Do not disregard the Words of Allah, and do not seek 
guidance from other than Him, for then (surely) you will go astray.” 
..จากเรื่องบอกเล่านี้เราจะเห็นได้ว่าเป็นความจริง ทั้งนี้เพราะว่า ท่านรอซูลต้องการให้มุสลิมศึกษาอัลกุรอาน
ซึ่งเป็นคำสั่งของอัลลอฮ์ เช่นเดียวกัน มีเรื่องเล่าที่สนับสนุนการศึกษาอัลกุรอานนี้หลายเรื่องด้วยกัน ที่เกี่ยว
กับความรู้และวิทยปัญญาในอัลกุรอานที่ทำให้ ซัยตอนเกรงกลัว  

ข้อเตือนใจ:
   มุสลิมผู้ที่ไม่เชื่อว่า ชัยตอนมันหลอกมนุษย์ให้ ทำลายผลงานตามธรรมชาติของผู้สร้างสำเร็จหรือไม่
นั้น โปรดก้มหน้าลงดูแผลเป็นของเราว่า สิ่งนี้ มีความจำเป็นหรือไม่ที่ต้องทำ และมีอะไรที่เกี่ยวกับหลัก
ศรัทธาของศาสนาอิสลามหรือไม่?