"
หลุดมาจนได้นะ นังมารร้าย!"
ออเรร่าหันขวับมามอง ก่อนจะหันกลับไปหาร่างของกามาร่าซึ่งปราศจากศีรษะ ลำคอที่ขาดกำลังถูกกัดกร่อนด้วยน้ำกรดเข้มข้นอยู่อย่างต่อเนื่องส่งกลิ่นและควันฟู่ๆ ทั้งร่างกำลังดิ้นและชักกระตุกตลอดเวลา ขณะที่ศีรษะของมันซึ่งตกอยู่ใกล้ผนังถ้ำอีกด้านหนึ่งก็แสดงสีหน้าบิดเบี้ยวเหยเกด้วยความเจ็บปวดทรมาณจากความเจ็บปวดซึ่งถ่ายทอดจากร่างของมันมา
ออเรเคิลมองร่างของกามาร่าที มองไปที่ศีรษะของมันที แล้วถามผู้เป็นพี่สาวฝาแฝด
"เจ้าตัวนี้น่ะหรือ ที่ปลอมตัวเป็นจักรพรรดิ และหลอกข้ากับลาลูน่า ?"
"ใช่!" ออเรร่าตอบสั้นๆ
"เจ้ากำลังจะฆ่ามัน ?"
"แน่นอนสิ จะปล่อยมันไว้ทำซากอะไรเล่า ?"
"งั้น ขอข้าเป็นคนจัดการกับมันด้วยตัวของข้าเองได้ไหม ? มันแสบมาก หลอกข้าเสียสนิทใจทีเดียว เจ็บใจจริงๆ" ผู้เป็นน้องลองเอ่ยปากขอผู้เป็นพี่ดู ประการหนึ่งก็อยากจะหยั่งเชิงนาง อีกอย่างก็เผื่อฟลุ้คว่าถ้านางยินยอม ก็จะได้จัดการกามาร่าให้หายแค้นและให้หนำใจสุดๆ ทีเดียว
"เจ้า..." ออเรร่าลังเลเล็กน้อย แล้วถามไปคำถามหนึ่ง "...เจ้า คงยังมิได้...พลาดท่าเสียทีให้กับมันกระมัง ในขณะที่มันปลอมตัวเป็นจักรพรรดิ และอยู่กับเจ้าในตำหนัก ?"
"ไม่แน่นอน!" ออเรเคิลตอบโดยไม่ต้องคิด "แต่ก็ใกล้เต็มที...โดยเฉพาะวันคืนที่ผ่านมา"
"เจ้าเกือบจะขึ้นนั่งบัลลังก์จักรพรรดินีอยู่แล้ว..." ออเรร่ากล่าวพลางจ้องตาน้องสาวฝาแฝดเขม็ง
"ใช่...กำลังเตรียมการอยู่ทีเดียว แต่ลาลูน่ามาแจ้งข่าวให้ข้ารู้เสียก่อนว่าที่แท้จักรพรรดิถูกแฝงร่างโดยเจ้านี่ ในขณะที่ข้ากำลังแต่งองค์ทรงเครื่องเตรียมเข้าพิธี แล้วข้ากับนาง ก็พากันกลับไปที่พระตำหนัก เพื่อจะตามหาจักรพรรดิและพาพระองค์หนีไปด้วยกัน แต่ข้าคาดไม่ถึงว่าเจ้านี่ปลอมตัวเป็นจักรพรรดิและหลอกข้ากับลาลูน่ามาถึงที่นี่..."
"กว่าเจ้าจะรู้ ก็สายไปเสียแล้ว โดนมันจับมาทั้งคู่..."
"อืมม..."
ส่วนศีรษะของกามาร่าฟังสองพี่น้องพูดคุยกันจนอดรนทนต่อไปมิได้เพราะตนเองก็กำลังเจ็บปวดแสบปวดร้อนจากฤทธิ์น้ำกรดซึ่งถูกราดลงบนแผลที่คอซึ่งขาดบนลำตัวดิ้นชักกระตุกไม่ยอมหยุด จึงเปล่งเสียงแหบๆ ออกมา
"พวกเจ้าสองคน...จะพูดคุยกันต่อไปอีกนานเท่าใด พอเถิด! รีบสังหารข้าให้ตายๆ ไปเสียที อ่าาากก..."
"ฮึ!" ออเรเคิลแค่นเสียงออกจมูก จ้องมองมันด้วยนัยน์ตาเขียวปัด "อยากตายไวๆ หรือ เจ้าสัตว์ rะยำ ?"
ครั้นพูดจบ แฝดผู้น้องก็ก้าวเดินเข้าไปยังร่างอันปราศจากศีรษะของมัน แล้วชักด้าม "ไลท์เซเบอร์" ออกมาจากข้างเอว กดปุ่มปล่อยลำแสงยาวเฟื้อยฟอร์มตัวเป็นรูปดาบ หันไปมองศีรษะของกามาร่าทีหนึ่ง ก่อนจะบอกกับมัน แล้วฟันดาบเลเซอร์ตัดแขนขวาของมันขาดจากร่างทันที
"นี่...คือโทษฐานที่หลอกข้า !!"
วูปปป.........
ฉับบ!!
"อ้าาากกก!!!"
กามาร่า ทางด้านศีรษะ แหกปากร้องโหยหวน พร้อมๆ กับทางด้านร่างกายซึ่งแยกกันอยู่ต่างหากนั้นดิ้นพราดๆ
"ขอข้าร่วมสนุกด้วยคนสิ!" ลาลูน่าซึ่งนั่งพิงผนังถ้ำอีกด้านหนึ่งเอ่ยขึ้นแล้วลุกขึ้นยืน ดึงดาบจันทร์เสี้ยวเล่มหนึ่งออกมาจากเข็มขัดข้างเอว จากนั้นเดินเข้าไปหาร่างของกามาร่าแล้วเงื้อดาบจันทร์เสี้ยวขึ้นในลักษณะคว่ำเสี้ยวพระจันทร์ คมดาบอยู่ข้างล่าง สันดาบอยู่ข้างบน แล้วจ้วงปลายดาบจันทร์เสี้ยวอันแหลมคมลงไปตรงกลางอกของกามาร่า จากนั้นออกแรงกรีดลากยาว!
"นี่...คือโทษฐานที่เจ้าหลอกข้าอีกคน เจ้าเดรัจฉาน!!"
ฉึกก!! ครืดดดดดดดดดดด.............
"
อ้าาาากกกกกก.........."
ส่วนศีรษะของกามาร่า แกปากร้องลั่นอีกคำรบและส่ายไปมา ในขณะที่ส่วนร่างกายดิ้นเร่าๆ
กามาร่าร้องโอดโอยอยู่ครู่ใหญ่ๆ แล้วกลับแผดเสียงหัวร่อออกมาหน้าตาเฉย
"ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าาา......พวกเจ้า...ฆ่าข้าไม่ได้หรอก!"
ลาลูน่าทำหน้างงๆ ส่วนออเรเคิลพยายามสังเกตดูปฏิกริยาของร่างอันปราศจากศีรษะของมันอยู่ แล้วจึงเห็น!
แขนขวาของมันซึ่งถูกนางตัดขาด ค่อยๆ คืบคลานกลับเข้าหาตัวของกามาร่า เพื่อจะเชื่อมต่อกับท่อนแขนที่กุด แล้วก็เชื่อมต่อเข้าด้วยกันได้จริงๆ พร้อมกับเนื้อเยื่องอกออกมาผสานยึดติดกันแน่น! ส่วนบริเวณกลางอกจนถึงกลางสะดือซึ่งถูกลาลูน่ากรีดเปิดแผลเป็นทางยาว ก็เริ่มปิดเข้าหากัน เนื้อเยื่อรอบบาดแผลค่อยๆ งอกปกคลุม ประสานบาดแผลอันยาวเหยียดนั้นได้เองอย่างเหลือเชื่อ!
"หนอยแน่....เจ้าเดนนรก!" ออเรเคิลขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด่า
"ในโลกนี้ มีสัตว์ประหลาดเยี่ยงนี้อยู่ด้วยหรือนี่ ?" ลาลูน่าร้องคราง จ้องมองดูศีรษะของกามาร่าซึ่งกำลังยิ้มแบบหน้าบูดหน้าเบี้ยวอย่างไม่อยากเชื่อต่อสายตาตัวเอง
"ในโลกนี้น่ะหรือ ไม่มีหรอก!" ออเรร่าบอกกับนาง "มันมาจากนอกโลกต่างหากเล่า!"
ลาลูน่ามองหน้านางด้วยความทึ่งแล้วถาม "ดูเหมือน...ท่านรู้เรื่องเกี่ยวกับมัน ? แล้ว เหตุใด ท่านจึงมีหน้าตาเหมือนท่านหัวหน้าของข้าจังเลย ?"
"เราเป็นพี่น้องกันน่ะ" ออเรเคิลเป็นผู้ตอบ "...เป็นฝาแฝด ก็เลยมีหน้าตาเหมือนกันอย่างที่เจ้าเห็น"
"โอ้ว!" สาวดาบวงพระจันทร์ทำตาโต แล้วยิ้ม กล่าวแสดงความยินดีอย่างใสซื่อ "ถ้าอย่างนั้น ยินดีด้วยเจ้าค่ะท่านหัวหน้า!"
"ยินดีบ้าอะไรเล่า!!" ออเรเคิลตวาดแว้ด
"อ้าว ??? ทำไมล่ะท่านหัวหน้า ท่านไม่ดีใจหรือไร ??" ลาลูน่างง และเริ่มข้องใจในตัวผู้เป็นเจ้านายอีกครั้ง
"จะมายินดีอะไรกัน ? ข้าใช่ว่าอยากจะพบนางเสียเมื่อไร !!"
" หึ !!" ออเรร่าแค่นเสียงออกมาบ้าง "ยังกับว่าข้าอยากมาช่วยเจ้านัก! ถ้าไม่เป็นเพราะถูกพ่อบีบบังคับ ข้าไม่มาหรอกจะบอกให้!!"
"รู้แล้ว!!" ออเรเคิลกระแทกเสียงตอบ "ไม่ต้องตอกย้ำนักหรอก! แล้วขอร้องที อย่าเรียกตาเฒ่าโพเซดอนว่าพ่อให้ข้าได้ยินอีก ข้าไม่อยากได้ยิน แสลงหู!!"
ออเรร่านึกสนุก อยากยั่วนางขึ้นมา จึงยิ้มพราย แล้วตอบ "ทำไม...เป็นอะไรนักหนาเจ้า ? ห๊ะ ?
น้องรัก! ใช้หัวคิดบ้างซี่...ว่า '
ท่านพ่อ' เค้าเป็นห่วงเจ้า จึงให้ข้ามาช่วยเจ้าเนี่ย ถ้าไม่อย่างนั้น ป่านฉะนี้ เจ้าคงตกเป็นทาสบำเรอกามแก่เจ้าอสูรร้ายนี้ไปแล้ว รวมทั้งนางด้วย!" พูดพลางพยักเพยิดไปทางลาลูน่า
"อ๊ายยยยย ยายบ้า!!!" ได้ผล ออเรเคิลกรี๊ดลั่น " หยุดเลยนะ! ห้ามตลอดกาลเลย ห้ามเรียกข้าว่าน้องเด็ดขาดเลยนะ และห้ามพูดคำว่าพ่อให้ข้าได้ยินอีก!! ไม่งั้นข้าจะฆ่าเจ้า! เป็นไงเป็นกัน ให้ตายเถอะ!!"
"โอ....จะฆ่า '
พี่สาว' ได้ลงคอเชียวหรือ
น้องเอ๋ย.." ผู้เป็นพี่ยังไม่ยอมหยุด พูดไปยิ้มไป
"
ฮึ่ยยย!!!" โมโหสุดจะทน ออเรเคิลชักไลท์เซเบอร์ออกมาและกดปุ่มปล่อยลำแสงดาบพรืดพลางปรี่เข้าหาพี่สาว ร้อนถึงลาลูน่าต้องเข้ามาขวางสุดกำลัง
"
อ๊ายยย อย่าเจ้าค่ะ! ปัดโธ่เอ๊ยย อะไรกันเนี่ย พี่น้องกันแท้ๆ !!" พูดพลางดันตัวออเรเคิลไปพลางจนห่างออกไปจากออเรร่าสามสี่ก้าว "จัดการกับเจ้าเดรัจฉานนั่นดีกว่าเจ้าค่ะ ท่านหัวหน้า! ท่านอย่าใช้อารมณ์เยี่ยงนี้เลย จะเสียการไปเปล่านะเจ้าคะ!"
"ฮึ่ยยย บ้าเอ๊ยย!!" ออเรเคิลยังฮึดฮัด กระฟัดกระเฟียด "แล้วจะจัดการกับมันยังไง ? เห็นไหมนั่น ว่ามันสามารถรักษาตัวมันเองได้ แบบนี้จะฆ่ามันได้ไง ?"
"เจ้าตัวทุเรศแบบนี้ ข้าเคยจัดการมาแล้ว!" ออเรร่าได้ทีคุยข่ม ยืนกอดอก เชิดหน้ายิ้มที่มุมปาก
"เชอะ! ทำเป็นคุยโอ่ หมั่นไส้!" แฝดผู้น้องยังวีนไม่เลิก
"ข้ารู้แล้ว!" ลาลูน่าโพล่งออกมาและชี้มือไปที่ขวดแก้วเล็กในมือแฝดผู้พี่ พูดกับนาง "ต้องเป็นเพราะน้ำกรดในขวดของท่านนั่นแน่เลย ใช่ไหมเจ้าคะ"
ออเรร่าพยักหน้ายิ้มๆ และนางพบว่าตัวเองเริ่มรู้สึกถูกชะตากับสาวดาบวงพระจันทร์นี้เสียแล้ว ทั้งๆ ที่เคยปะทะกันมาถึงสองครั้ง แต่ดูเหมือนว่านางจะจำตนมิได้ เพราะตอนที่ต่อสู้กันนั้นต่างฝ่ายต่างอยู่ห่างไกลกัน และลาลูน่าก็ไม่ทันได้สังเกตหน้าตาของตน
ออเรเคิลมองหน้าพี่สาวอย่างชั่งใจ เม้มปากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากถามออกไป
"ข้า...ขอยืมใช้หน่อยสิ ได้ไหม ?"
ออเรร่ายิ้มกว้างทันทีและตอบ "ตายละ...เมื่อสักครู่นี้ ยังเข้ามาจะฆ่าข้าอยู่เลย"
ออเรเคิลสะอึก คอแข็ง ก่อนจะพูดเบาๆ "...ข..ข้า ข้าขอโทษละกัน"
"ฮึ! ง่ายจริงเนาะ" ผู้เป็นพี่แหย่มาอีก แล้วลองถามเล่นๆ อีกหนึ่งประโยค "เรียกข้าว่า '
ท่านพี่' สักคำสิ แล้วข้าจะให้ทั้งขวดเลย"
"
ให้ข้าตายเสียดีกว่า !!!" ผู้เป็นน้องสวนทันควัน
ออเรร่าหัวเราะ ก่อนจะยื่นขวดน้ำกรดให้ลาลูน่าก่อน
"เจ้าเอาไปใช้ก่อนก็แล้วกันนะ ลาลูน่า ราดที่แผลเดิมของมัน! หรือไม่ เจ้าอาจจะฟันหรือกรีดมันเพิ่มอีกสักแผลสองแผล หรือหลายๆ แผล แล้วรอดู พอเห็นมันเริ่มรักษาตัวเองเมื่อไร ก็หยดน้ำกรดลงไปที่แผลเมื่อนั้น เจ้าเดนนรกนี่อย่าให้มันตายไวนัก ต้องค่อยๆ ทรมาณให้สาแก่ใจ!!"
"เจ้าค่ะ...ท่าน..เอ้อ ท่านหญิง" ลาลูน่าลังเลไม่รู้จะเรียกออเรร่าว่าอย่างไรดีขณะกำลังยื่นมือออกไปรับขวดน้ำกรดขวดเล็กนั้นจากนาง
"เฮอะ! ท่านหญิง..." ออเรเคิลกล่าวด้วยความหมั่นไส้ "แค่บอก 'ขอบใจ' เฉยๆ ก็เพียงพอแล้ว ยกย่องอะไรกันนักกันหนา!"
"โธ่...ท่านหัวหน้า !!" ลาลูน่าหันมาทำตาโต ออกอาการประหลาดใจและข้องใจกับนาง "ท่านหญิงพี่สาวของท่านเนี่ย อุตส่าห์มาช่วยพวกเรานะเจ้าคะ ต่อให้นางถูกบังคับให้มาก็ตามที ข้าก็ยังเห็นว่าสมควรยกย่องอยู่ดี"
"นังเด็กโง่เอ๊ยย....เจ้าจำไม่ได้หรือไร ว่านางคือคู่ต่อสู้ของเจ้า ผู้ที่เคยยัดเยียดความปราชัยให้เจ้ามาถึงสองครั้งสองคราน่ะ หา !!"
คราวนี้สาวดาบวงพระจันทร์หันขวับมาจ้องหน้าออเรร่าอีกครั้งอย่างพินิจพิเคราะห์ด้วยความทึ่ง แล้วกรี๊ดออกมาด้วยอารมณ์สับสนวุ่นวาย
"อ๊ายยย!! ข้านึกไม่ถึงเลย เป็นท่านหรือเนี่ย !! "
"อืมม...ใช่ ข้าเองแหละ" ออเรร่ากล่าวยอมรับยิ้มๆ "แต่ตอนนั้นเราอยู่ห่างกันนี่นา เจ้าคงยากที่จะมองเห็นข้าได้ชัดเจนและจดจำข้าได้ อย่าว่าแต่เพียงแค่ข้ามีหน้าตาเหมือน 'ท่านหัวหน้า' ของเจ้า เจ้าก็ต้องมึนงงแล้วถ้ามองเห็นชัดในตอนนั้น ทั้งสองครั้งนั่นแหละ"
"โห....ท่านหญิง ท่านเก่งมาก รู้ไหมเจ้าคะ!!" ลาลูน่ากลับกล่าวชมออกมาหน้าตาเฉย ซึ่งผิดความคาดหมายของออเรเคิลอย่างยิ่งเพราะนางนึกว่าลูกน้องตนจะโกรธแค้นฝ่ายตรงกันข้ามซึ่งเคยสยบตนเองมาแล้วอย่างน่าอับอาย
"ไม่เก่งหรอก...ข้าเพียงแต่..โชคดี ที่บังเอิญรับดาบของเจ้าได้ เท่านั้นเอง" ออเรร่ากล่าวไปยิ้มไป ยิ่งสร้างความหมั่นไส้แก่ออเรเคิลเป็นทวีคูณ
"โอย...ตั้งสองครั้งสองหนนะเจ้าคะ ข้าจะบอกท่านนะ...ไม่เคยมีใครรับดาบของข้าได้ ไม่เคยมีมาก่อนเลย มีท่านนี่แหละเป็นคนแรก"
"ฮืมม.....ไม่โกรธข้าดอกหรือ ที่นอกจากทำให้เจ้าแพ้แล้ว ยังทำให้เจ้าได้รับบาดเจ็บอีกด้วย ?"
"งือ...ตอนนั้นก็โกรธเหมือนกันเจ้าค่ะ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว.."
"น่ารักจัง.." ออเรร่ายิ้มหวาน พลางเอื้อมมือไปแตะที่แขนข้างซ้ายของนาง "เจ็บมากไหมตอนนั้น ?"
"นิดหน่อยเจ้าค่ะ ท่านหญิง"
"ข้าขอโทษเจ้าละกันนะ แล้วเลิกเรียกข้าว่า 'ท่านหญิง' เสียทีเถอะ ฟังแล้วจั๊กกะจี๋ยังไงพิกล"
"ถ้าอย่างนั้น ขอข้าเรียกท่านว่า พี่สาว 'ก็แล้วกัน' นะเจ้าคะ"
"แล้วแต่เจ้าเถอะ"
"อ๊ายยยย !!!" ออเรเคิลส่งเสียงกรี๊ดสะท้านไปทั้งถ้ำ ก่อนจะรัวด่าลูกน้องคนสวยเป็นชุด "นังเด็กเวรเอ๊ยย!! แทนที่จะโกรธเกรี้ยว กลับยกย่อง แถมไปสนิทสนม ผูกมิตรไมตรีกับเขาอีก งี่เง่าจริงๆ !! แหม คุยกันกระหนุงกระหนิง เข้ากันดีเหลือเกิน ไปอยู่กับนางเลยไป !!"
"ข้ามิได้งี่เง่าหรอก
ท่านต่างหากที่งี่เง่า!!" คราวนี้ลาลูน่าสวนกลับผู้เป็นเจ้านายชนิดเหนือความคาดหมาย ทำเอาคนโดนสวนกลับถึงกับอึ้ง และยิ่งอึ้งหนักขึ้นเมื่อเห็นสาวดาบวงพระจันทร์ยกมือขึ้นชี้หน้า "เดี๋ยวเราต้องสะสางกัน ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง! ตอนนี้ข้าขอจัดการกับเจ้าสัตว์เดรัจฉานนี่ก่อน" บุ้ยใบ้มาทางร่างของกามาร่าที่ไร้ศีรษะ "มันเกือบจะเข้ามาจัดการขยี้พรหมจรรย์ของข้าอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้พี่สาวออเรร่ามาช่วย ข้าก็คงตกเป็นเหยื่อกามราคะของมันไปเรียบร้อยแล้ว ท่านก็เหมือนกัน
ออเรเคิล !!!"
เป็นครั้งแรกที่ลาลูน่าหาญกล้าออกปากเรียกชื่อผู้เป็นเจ้านายตรงๆ เจ้าตัวถึงกับอึ้งพูดไม่ออก!
แล้วสาวดาบวงพระจันทร์ก็กลับหลังหันไปหากามาร่า
(ต่อครับ) ^^
💫🕛💫🚀 แดนศิวิไลซ์ ( หลงกาล ภาค 2 ) ตอนที่ 44 🚀💫🕛💫
ออเรร่าหันขวับมามอง ก่อนจะหันกลับไปหาร่างของกามาร่าซึ่งปราศจากศีรษะ ลำคอที่ขาดกำลังถูกกัดกร่อนด้วยน้ำกรดเข้มข้นอยู่อย่างต่อเนื่องส่งกลิ่นและควันฟู่ๆ ทั้งร่างกำลังดิ้นและชักกระตุกตลอดเวลา ขณะที่ศีรษะของมันซึ่งตกอยู่ใกล้ผนังถ้ำอีกด้านหนึ่งก็แสดงสีหน้าบิดเบี้ยวเหยเกด้วยความเจ็บปวดทรมาณจากความเจ็บปวดซึ่งถ่ายทอดจากร่างของมันมา
ออเรเคิลมองร่างของกามาร่าที มองไปที่ศีรษะของมันที แล้วถามผู้เป็นพี่สาวฝาแฝด
"เจ้าตัวนี้น่ะหรือ ที่ปลอมตัวเป็นจักรพรรดิ และหลอกข้ากับลาลูน่า ?"
"ใช่!" ออเรร่าตอบสั้นๆ
"เจ้ากำลังจะฆ่ามัน ?"
"แน่นอนสิ จะปล่อยมันไว้ทำซากอะไรเล่า ?"
"งั้น ขอข้าเป็นคนจัดการกับมันด้วยตัวของข้าเองได้ไหม ? มันแสบมาก หลอกข้าเสียสนิทใจทีเดียว เจ็บใจจริงๆ" ผู้เป็นน้องลองเอ่ยปากขอผู้เป็นพี่ดู ประการหนึ่งก็อยากจะหยั่งเชิงนาง อีกอย่างก็เผื่อฟลุ้คว่าถ้านางยินยอม ก็จะได้จัดการกามาร่าให้หายแค้นและให้หนำใจสุดๆ ทีเดียว
"เจ้า..." ออเรร่าลังเลเล็กน้อย แล้วถามไปคำถามหนึ่ง "...เจ้า คงยังมิได้...พลาดท่าเสียทีให้กับมันกระมัง ในขณะที่มันปลอมตัวเป็นจักรพรรดิ และอยู่กับเจ้าในตำหนัก ?"
"ไม่แน่นอน!" ออเรเคิลตอบโดยไม่ต้องคิด "แต่ก็ใกล้เต็มที...โดยเฉพาะวันคืนที่ผ่านมา"
"เจ้าเกือบจะขึ้นนั่งบัลลังก์จักรพรรดินีอยู่แล้ว..." ออเรร่ากล่าวพลางจ้องตาน้องสาวฝาแฝดเขม็ง
"ใช่...กำลังเตรียมการอยู่ทีเดียว แต่ลาลูน่ามาแจ้งข่าวให้ข้ารู้เสียก่อนว่าที่แท้จักรพรรดิถูกแฝงร่างโดยเจ้านี่ ในขณะที่ข้ากำลังแต่งองค์ทรงเครื่องเตรียมเข้าพิธี แล้วข้ากับนาง ก็พากันกลับไปที่พระตำหนัก เพื่อจะตามหาจักรพรรดิและพาพระองค์หนีไปด้วยกัน แต่ข้าคาดไม่ถึงว่าเจ้านี่ปลอมตัวเป็นจักรพรรดิและหลอกข้ากับลาลูน่ามาถึงที่นี่..."
"กว่าเจ้าจะรู้ ก็สายไปเสียแล้ว โดนมันจับมาทั้งคู่..."
"อืมม..."
ส่วนศีรษะของกามาร่าฟังสองพี่น้องพูดคุยกันจนอดรนทนต่อไปมิได้เพราะตนเองก็กำลังเจ็บปวดแสบปวดร้อนจากฤทธิ์น้ำกรดซึ่งถูกราดลงบนแผลที่คอซึ่งขาดบนลำตัวดิ้นชักกระตุกไม่ยอมหยุด จึงเปล่งเสียงแหบๆ ออกมา
"พวกเจ้าสองคน...จะพูดคุยกันต่อไปอีกนานเท่าใด พอเถิด! รีบสังหารข้าให้ตายๆ ไปเสียที อ่าาากก..."
"ฮึ!" ออเรเคิลแค่นเสียงออกจมูก จ้องมองมันด้วยนัยน์ตาเขียวปัด "อยากตายไวๆ หรือ เจ้าสัตว์ rะยำ ?"
ครั้นพูดจบ แฝดผู้น้องก็ก้าวเดินเข้าไปยังร่างอันปราศจากศีรษะของมัน แล้วชักด้าม "ไลท์เซเบอร์" ออกมาจากข้างเอว กดปุ่มปล่อยลำแสงยาวเฟื้อยฟอร์มตัวเป็นรูปดาบ หันไปมองศีรษะของกามาร่าทีหนึ่ง ก่อนจะบอกกับมัน แล้วฟันดาบเลเซอร์ตัดแขนขวาของมันขาดจากร่างทันที
"นี่...คือโทษฐานที่หลอกข้า !!"
วูปปป.........ฉับบ!!
"อ้าาากกก!!!"
กามาร่า ทางด้านศีรษะ แหกปากร้องโหยหวน พร้อมๆ กับทางด้านร่างกายซึ่งแยกกันอยู่ต่างหากนั้นดิ้นพราดๆ
"ขอข้าร่วมสนุกด้วยคนสิ!" ลาลูน่าซึ่งนั่งพิงผนังถ้ำอีกด้านหนึ่งเอ่ยขึ้นแล้วลุกขึ้นยืน ดึงดาบจันทร์เสี้ยวเล่มหนึ่งออกมาจากเข็มขัดข้างเอว จากนั้นเดินเข้าไปหาร่างของกามาร่าแล้วเงื้อดาบจันทร์เสี้ยวขึ้นในลักษณะคว่ำเสี้ยวพระจันทร์ คมดาบอยู่ข้างล่าง สันดาบอยู่ข้างบน แล้วจ้วงปลายดาบจันทร์เสี้ยวอันแหลมคมลงไปตรงกลางอกของกามาร่า จากนั้นออกแรงกรีดลากยาว!
"นี่...คือโทษฐานที่เจ้าหลอกข้าอีกคน เจ้าเดรัจฉาน!!"
ฉึกก!! ครืดดดดดดดดดดด.............
"อ้าาาากกกกกก.........."
ส่วนศีรษะของกามาร่า แกปากร้องลั่นอีกคำรบและส่ายไปมา ในขณะที่ส่วนร่างกายดิ้นเร่าๆ
กามาร่าร้องโอดโอยอยู่ครู่ใหญ่ๆ แล้วกลับแผดเสียงหัวร่อออกมาหน้าตาเฉย
"ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าาา......พวกเจ้า...ฆ่าข้าไม่ได้หรอก!"
ลาลูน่าทำหน้างงๆ ส่วนออเรเคิลพยายามสังเกตดูปฏิกริยาของร่างอันปราศจากศีรษะของมันอยู่ แล้วจึงเห็น!
แขนขวาของมันซึ่งถูกนางตัดขาด ค่อยๆ คืบคลานกลับเข้าหาตัวของกามาร่า เพื่อจะเชื่อมต่อกับท่อนแขนที่กุด แล้วก็เชื่อมต่อเข้าด้วยกันได้จริงๆ พร้อมกับเนื้อเยื่องอกออกมาผสานยึดติดกันแน่น! ส่วนบริเวณกลางอกจนถึงกลางสะดือซึ่งถูกลาลูน่ากรีดเปิดแผลเป็นทางยาว ก็เริ่มปิดเข้าหากัน เนื้อเยื่อรอบบาดแผลค่อยๆ งอกปกคลุม ประสานบาดแผลอันยาวเหยียดนั้นได้เองอย่างเหลือเชื่อ!
"หนอยแน่....เจ้าเดนนรก!" ออเรเคิลขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด่า
"ในโลกนี้ มีสัตว์ประหลาดเยี่ยงนี้อยู่ด้วยหรือนี่ ?" ลาลูน่าร้องคราง จ้องมองดูศีรษะของกามาร่าซึ่งกำลังยิ้มแบบหน้าบูดหน้าเบี้ยวอย่างไม่อยากเชื่อต่อสายตาตัวเอง
"ในโลกนี้น่ะหรือ ไม่มีหรอก!" ออเรร่าบอกกับนาง "มันมาจากนอกโลกต่างหากเล่า!"
ลาลูน่ามองหน้านางด้วยความทึ่งแล้วถาม "ดูเหมือน...ท่านรู้เรื่องเกี่ยวกับมัน ? แล้ว เหตุใด ท่านจึงมีหน้าตาเหมือนท่านหัวหน้าของข้าจังเลย ?"
"เราเป็นพี่น้องกันน่ะ" ออเรเคิลเป็นผู้ตอบ "...เป็นฝาแฝด ก็เลยมีหน้าตาเหมือนกันอย่างที่เจ้าเห็น"
"โอ้ว!" สาวดาบวงพระจันทร์ทำตาโต แล้วยิ้ม กล่าวแสดงความยินดีอย่างใสซื่อ "ถ้าอย่างนั้น ยินดีด้วยเจ้าค่ะท่านหัวหน้า!"
"ยินดีบ้าอะไรเล่า!!" ออเรเคิลตวาดแว้ด
"อ้าว ??? ทำไมล่ะท่านหัวหน้า ท่านไม่ดีใจหรือไร ??" ลาลูน่างง และเริ่มข้องใจในตัวผู้เป็นเจ้านายอีกครั้ง
"จะมายินดีอะไรกัน ? ข้าใช่ว่าอยากจะพบนางเสียเมื่อไร !!"
" หึ !!" ออเรร่าแค่นเสียงออกมาบ้าง "ยังกับว่าข้าอยากมาช่วยเจ้านัก! ถ้าไม่เป็นเพราะถูกพ่อบีบบังคับ ข้าไม่มาหรอกจะบอกให้!!"
"รู้แล้ว!!" ออเรเคิลกระแทกเสียงตอบ "ไม่ต้องตอกย้ำนักหรอก! แล้วขอร้องที อย่าเรียกตาเฒ่าโพเซดอนว่าพ่อให้ข้าได้ยินอีก ข้าไม่อยากได้ยิน แสลงหู!!"
ออเรร่านึกสนุก อยากยั่วนางขึ้นมา จึงยิ้มพราย แล้วตอบ "ทำไม...เป็นอะไรนักหนาเจ้า ? ห๊ะ ? น้องรัก! ใช้หัวคิดบ้างซี่...ว่า 'ท่านพ่อ' เค้าเป็นห่วงเจ้า จึงให้ข้ามาช่วยเจ้าเนี่ย ถ้าไม่อย่างนั้น ป่านฉะนี้ เจ้าคงตกเป็นทาสบำเรอกามแก่เจ้าอสูรร้ายนี้ไปแล้ว รวมทั้งนางด้วย!" พูดพลางพยักเพยิดไปทางลาลูน่า
"อ๊ายยยยย ยายบ้า!!!" ได้ผล ออเรเคิลกรี๊ดลั่น " หยุดเลยนะ! ห้ามตลอดกาลเลย ห้ามเรียกข้าว่าน้องเด็ดขาดเลยนะ และห้ามพูดคำว่าพ่อให้ข้าได้ยินอีก!! ไม่งั้นข้าจะฆ่าเจ้า! เป็นไงเป็นกัน ให้ตายเถอะ!!"
"โอ....จะฆ่า 'พี่สาว' ได้ลงคอเชียวหรือ น้องเอ๋ย.." ผู้เป็นพี่ยังไม่ยอมหยุด พูดไปยิ้มไป
"ฮึ่ยยย!!!" โมโหสุดจะทน ออเรเคิลชักไลท์เซเบอร์ออกมาและกดปุ่มปล่อยลำแสงดาบพรืดพลางปรี่เข้าหาพี่สาว ร้อนถึงลาลูน่าต้องเข้ามาขวางสุดกำลัง
"อ๊ายยย อย่าเจ้าค่ะ! ปัดโธ่เอ๊ยย อะไรกันเนี่ย พี่น้องกันแท้ๆ !!" พูดพลางดันตัวออเรเคิลไปพลางจนห่างออกไปจากออเรร่าสามสี่ก้าว "จัดการกับเจ้าเดรัจฉานนั่นดีกว่าเจ้าค่ะ ท่านหัวหน้า! ท่านอย่าใช้อารมณ์เยี่ยงนี้เลย จะเสียการไปเปล่านะเจ้าคะ!"
"ฮึ่ยยย บ้าเอ๊ยย!!" ออเรเคิลยังฮึดฮัด กระฟัดกระเฟียด "แล้วจะจัดการกับมันยังไง ? เห็นไหมนั่น ว่ามันสามารถรักษาตัวมันเองได้ แบบนี้จะฆ่ามันได้ไง ?"
"เจ้าตัวทุเรศแบบนี้ ข้าเคยจัดการมาแล้ว!" ออเรร่าได้ทีคุยข่ม ยืนกอดอก เชิดหน้ายิ้มที่มุมปาก
"เชอะ! ทำเป็นคุยโอ่ หมั่นไส้!" แฝดผู้น้องยังวีนไม่เลิก
"ข้ารู้แล้ว!" ลาลูน่าโพล่งออกมาและชี้มือไปที่ขวดแก้วเล็กในมือแฝดผู้พี่ พูดกับนาง "ต้องเป็นเพราะน้ำกรดในขวดของท่านนั่นแน่เลย ใช่ไหมเจ้าคะ"
ออเรร่าพยักหน้ายิ้มๆ และนางพบว่าตัวเองเริ่มรู้สึกถูกชะตากับสาวดาบวงพระจันทร์นี้เสียแล้ว ทั้งๆ ที่เคยปะทะกันมาถึงสองครั้ง แต่ดูเหมือนว่านางจะจำตนมิได้ เพราะตอนที่ต่อสู้กันนั้นต่างฝ่ายต่างอยู่ห่างไกลกัน และลาลูน่าก็ไม่ทันได้สังเกตหน้าตาของตน
ออเรเคิลมองหน้าพี่สาวอย่างชั่งใจ เม้มปากคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากถามออกไป
"ข้า...ขอยืมใช้หน่อยสิ ได้ไหม ?"
ออเรร่ายิ้มกว้างทันทีและตอบ "ตายละ...เมื่อสักครู่นี้ ยังเข้ามาจะฆ่าข้าอยู่เลย"
ออเรเคิลสะอึก คอแข็ง ก่อนจะพูดเบาๆ "...ข..ข้า ข้าขอโทษละกัน"
"ฮึ! ง่ายจริงเนาะ" ผู้เป็นพี่แหย่มาอีก แล้วลองถามเล่นๆ อีกหนึ่งประโยค "เรียกข้าว่า 'ท่านพี่' สักคำสิ แล้วข้าจะให้ทั้งขวดเลย"
"ให้ข้าตายเสียดีกว่า !!!" ผู้เป็นน้องสวนทันควัน
ออเรร่าหัวเราะ ก่อนจะยื่นขวดน้ำกรดให้ลาลูน่าก่อน
"เจ้าเอาไปใช้ก่อนก็แล้วกันนะ ลาลูน่า ราดที่แผลเดิมของมัน! หรือไม่ เจ้าอาจจะฟันหรือกรีดมันเพิ่มอีกสักแผลสองแผล หรือหลายๆ แผล แล้วรอดู พอเห็นมันเริ่มรักษาตัวเองเมื่อไร ก็หยดน้ำกรดลงไปที่แผลเมื่อนั้น เจ้าเดนนรกนี่อย่าให้มันตายไวนัก ต้องค่อยๆ ทรมาณให้สาแก่ใจ!!"
"เจ้าค่ะ...ท่าน..เอ้อ ท่านหญิง" ลาลูน่าลังเลไม่รู้จะเรียกออเรร่าว่าอย่างไรดีขณะกำลังยื่นมือออกไปรับขวดน้ำกรดขวดเล็กนั้นจากนาง
"เฮอะ! ท่านหญิง..." ออเรเคิลกล่าวด้วยความหมั่นไส้ "แค่บอก 'ขอบใจ' เฉยๆ ก็เพียงพอแล้ว ยกย่องอะไรกันนักกันหนา!"
"โธ่...ท่านหัวหน้า !!" ลาลูน่าหันมาทำตาโต ออกอาการประหลาดใจและข้องใจกับนาง "ท่านหญิงพี่สาวของท่านเนี่ย อุตส่าห์มาช่วยพวกเรานะเจ้าคะ ต่อให้นางถูกบังคับให้มาก็ตามที ข้าก็ยังเห็นว่าสมควรยกย่องอยู่ดี"
"นังเด็กโง่เอ๊ยย....เจ้าจำไม่ได้หรือไร ว่านางคือคู่ต่อสู้ของเจ้า ผู้ที่เคยยัดเยียดความปราชัยให้เจ้ามาถึงสองครั้งสองคราน่ะ หา !!"
คราวนี้สาวดาบวงพระจันทร์หันขวับมาจ้องหน้าออเรร่าอีกครั้งอย่างพินิจพิเคราะห์ด้วยความทึ่ง แล้วกรี๊ดออกมาด้วยอารมณ์สับสนวุ่นวาย
"อ๊ายยย!! ข้านึกไม่ถึงเลย เป็นท่านหรือเนี่ย !! "
"อืมม...ใช่ ข้าเองแหละ" ออเรร่ากล่าวยอมรับยิ้มๆ "แต่ตอนนั้นเราอยู่ห่างกันนี่นา เจ้าคงยากที่จะมองเห็นข้าได้ชัดเจนและจดจำข้าได้ อย่าว่าแต่เพียงแค่ข้ามีหน้าตาเหมือน 'ท่านหัวหน้า' ของเจ้า เจ้าก็ต้องมึนงงแล้วถ้ามองเห็นชัดในตอนนั้น ทั้งสองครั้งนั่นแหละ"
"โห....ท่านหญิง ท่านเก่งมาก รู้ไหมเจ้าคะ!!" ลาลูน่ากลับกล่าวชมออกมาหน้าตาเฉย ซึ่งผิดความคาดหมายของออเรเคิลอย่างยิ่งเพราะนางนึกว่าลูกน้องตนจะโกรธแค้นฝ่ายตรงกันข้ามซึ่งเคยสยบตนเองมาแล้วอย่างน่าอับอาย
"ไม่เก่งหรอก...ข้าเพียงแต่..โชคดี ที่บังเอิญรับดาบของเจ้าได้ เท่านั้นเอง" ออเรร่ากล่าวไปยิ้มไป ยิ่งสร้างความหมั่นไส้แก่ออเรเคิลเป็นทวีคูณ
"โอย...ตั้งสองครั้งสองหนนะเจ้าคะ ข้าจะบอกท่านนะ...ไม่เคยมีใครรับดาบของข้าได้ ไม่เคยมีมาก่อนเลย มีท่านนี่แหละเป็นคนแรก"
"ฮืมม.....ไม่โกรธข้าดอกหรือ ที่นอกจากทำให้เจ้าแพ้แล้ว ยังทำให้เจ้าได้รับบาดเจ็บอีกด้วย ?"
"งือ...ตอนนั้นก็โกรธเหมือนกันเจ้าค่ะ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว.."
"น่ารักจัง.." ออเรร่ายิ้มหวาน พลางเอื้อมมือไปแตะที่แขนข้างซ้ายของนาง "เจ็บมากไหมตอนนั้น ?"
"นิดหน่อยเจ้าค่ะ ท่านหญิง"
"ข้าขอโทษเจ้าละกันนะ แล้วเลิกเรียกข้าว่า 'ท่านหญิง' เสียทีเถอะ ฟังแล้วจั๊กกะจี๋ยังไงพิกล"
"ถ้าอย่างนั้น ขอข้าเรียกท่านว่า พี่สาว 'ก็แล้วกัน' นะเจ้าคะ"
"แล้วแต่เจ้าเถอะ"
"อ๊ายยยย !!!" ออเรเคิลส่งเสียงกรี๊ดสะท้านไปทั้งถ้ำ ก่อนจะรัวด่าลูกน้องคนสวยเป็นชุด "นังเด็กเวรเอ๊ยย!! แทนที่จะโกรธเกรี้ยว กลับยกย่อง แถมไปสนิทสนม ผูกมิตรไมตรีกับเขาอีก งี่เง่าจริงๆ !! แหม คุยกันกระหนุงกระหนิง เข้ากันดีเหลือเกิน ไปอยู่กับนางเลยไป !!"
"ข้ามิได้งี่เง่าหรอก ท่านต่างหากที่งี่เง่า!!" คราวนี้ลาลูน่าสวนกลับผู้เป็นเจ้านายชนิดเหนือความคาดหมาย ทำเอาคนโดนสวนกลับถึงกับอึ้ง และยิ่งอึ้งหนักขึ้นเมื่อเห็นสาวดาบวงพระจันทร์ยกมือขึ้นชี้หน้า "เดี๋ยวเราต้องสะสางกัน ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง! ตอนนี้ข้าขอจัดการกับเจ้าสัตว์เดรัจฉานนี่ก่อน" บุ้ยใบ้มาทางร่างของกามาร่าที่ไร้ศีรษะ "มันเกือบจะเข้ามาจัดการขยี้พรหมจรรย์ของข้าอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้พี่สาวออเรร่ามาช่วย ข้าก็คงตกเป็นเหยื่อกามราคะของมันไปเรียบร้อยแล้ว ท่านก็เหมือนกัน ออเรเคิล !!!"
เป็นครั้งแรกที่ลาลูน่าหาญกล้าออกปากเรียกชื่อผู้เป็นเจ้านายตรงๆ เจ้าตัวถึงกับอึ้งพูดไม่ออก!
แล้วสาวดาบวงพระจันทร์ก็กลับหลังหันไปหากามาร่า
(ต่อครับ) ^^