หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิว Ryoshi Sushi ร้านซูชิบาร์และอาหารญี่ปุ่นที่เลือกใช้เฉพาะวัตถุดิบนำเข้าคุณภาพสูงระดับพรีเมี่ยม✨
กระทู้รีวิว
อาหารญี่ปุ่น
ปลาทูน่า
ปลาแซลมอน
ซูชิ
ร้านอาหาร
วันก่อนมาทานข้าวกับเพื่อนๆที่ทำงานบนห้าง Gateway บางซื่อก่อนกลับบ้านเจอร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่ติดๆกันมีป้ายโปรโมชั่นเต็มหน้าร้านดูน่าสนใจคือ Ryoshi Sushi กำลังจัดโปรโมชั่นซาชิมิ Uni คือไข่หอยเม่นและ Blue Fin Tuna ราคาพิเศษเริ่มต้นแค่ 250 บาท ไปหาอ่านรีวิวตามเว็บไซต์ต่างๆส่วนใหญ่ไปในทางค่อนข้างดีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 4.0-4.3 เต็ม 5 คะแนน เลยถ่ายรูปไปให้คุณแฟนดูว่าร้านนี้กำลังจัดโปรโมชั่นอยู่แถมตอนนี้เขายังจัดบุฟเฟ่ต์กับ Hungry Hub ราคาเริ่มต้นที่ 990 บาท แต่ต้องเลือกทานชุดแพงสุด 1,590 บาท จึงจะได้ทานซูชิฮอนมากุโระแบบไม่อั้น แต่ส่วนตัวเคยมีประสบการณ์ทานบุฟเฟ่ต์โอโทโร่มาก่อนแค่ 10 ชิ้น สมองก็สั่งการให้หยุดกินแล้วเพราะไขมันในปลาแทรกเยอะจนเลี่ยน อีกทั้งที่ร้านนี้เขาบังคับเสิร์ฟแบบรวมทุกส่วนในเมนูบุฟเฟ่ต์ (ไม่สามารถเลือกส่วนใดส่วนนึงได้) เลยตัดสินใจกันว่าเรามาทานแบบ A La Carte แทนก็แล้วกันครับ ส่วนวิธีการเดินทางมาที่ร้านก็ง่ายๆตั้งอยู่บนห้าง Gateway บางซื่อชั้น 4 โซนหน้าห้างมีที่จอดรถด้านในมากมาย หากมาด้วยบริการขนส่งสาธารณะสามารถลงได้ที่ MRT บางโพหรือเตาปูนแล้วเรียกรถหรือเดินเท้าเข้ามาอีกแค่ประมาณ 600 เมตรก็ถึงหน้าห้างแล้วครับ จะมีเมนูอะไรเด็ดๆน่าทานหรือว่าน่าสนใจบ้างเรามาเปิดอ่านเล่มเมนูหน้าร้านก่อนเข้าไปนั่งด้านในพร้อมกันเลยครับผม
เล่มเมนูหน้าร้านเปิดมาก็เจอโปรโมชั่นหัวปลาแซลมอนต้มซีอิ๊วเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยฟรีแค่ 99 บาท จนถึงสิ้นปีนี้เท่านั้น หน้าต่อมาเป็นรายชื่อสาขาต่างๆของร้าน Ryoshi Sushi ปัจจุบันเขาเปิดให้บริการถึง 4 สาขาได้แก่ 1.ห้าง Gateway เอกมัยชั้น G 2.ห้างลาซาลอเวนิว 3.ห้าง I Am Chinatown ชั้น 2 และ 4.ก็คือสาขาที่เรามารีวิวกันในวันนี้ เข้าสู่รายการอาหารหมวดแรกเป็น "แนะนำโดยเชฟ" รวมเมนูเด็ดของที่ร้านเอาไว้ทั้งซูชิ/มากิโรล/ข้าวหน้า/ซาชิมิ/สลัด ราคาเริ่มต้นที่ 220-650 บาท เมนูอาหารทานเล่นเรียกน้ำย่อยเริ่มต้นที่ 60-240 บาท เมนูสลัดราคาเริ่มต้นที่ 220-440 บาท ซาชิมิสั่งแบบเดี่ยว (ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่เลือก) ราคาเริ่มต้นที่ 75-380 บาท ซาชิมิจัดเป็นเซ็ต ราคาเริ่มต้นที่ 360-1,190 บาท ชุดซูชิแบบคอมโบราคาเริ่มต้นที่ 165-500 บาท ซูชิหน้าต่างๆสั่งเป็นคำราคาเริ่มต้นที่ 30-190 บาท ซูชิโรลชิ้นใหญ่สามารถสั่งได้ว่าจะทานแค่ 4 หรือ 8 คำราคาเริ่มต้นที่ 100-385 บาท ซูชิมากิห่อสาหร่ายชิ้นเล็กราคาเริ่มต้นที่ 110-180 บาท ข้าวหน้าต่างๆสไตล์ญี่ปุ่นฟรีซุปมิโสะและยำสาหร่ายราคาเริ่มต้นที่ 200-550 บาท เมนูปลาย่างและเทปันยากิฟรีข้าวกับซุปมิโสะราคาเริ่มต้นที่ 129-450 บาท เทมปุระทอดกรอบๆราคเริ่มต้นที่ 120-340 บาท เมนูข้าวและเส้นราคาเริ่มต้นที่ 30-200 บาท หม้อไฟและชาบูๆราคาเริ่มต้นที่ 230-350 บาท ขนมหวานเมนูละ 70 บาท เครื่องดื่ม 25-45 บาท ก็ถือว่ามีทั้งราคาถูกและแพงปนๆกันมาตามคุณภาพของวัตถุดิบที่เลือก ถ้าเทียบกับร้านอาหารญี่ปุ่นที่ขายเมนูระดับพรีเมี่ยมในระดับเดียวกันถือว่าถูกกว่าหลายรายการ ส่วนรสชาติและฝีมือของเชฟที่นี่จะสู้กับร้านดังที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนานหรือไม่เข้าก็ไปชิมพร้อมกันเลยครับ
บรรยากาศภายในร้านตกแต่งด้วยลายไม้สีน้ำตาลทั้งผนังและเฟอร์นิเจอร์ตัดด้วยเบาะผ้าสีน้ำเงิน กำแพงที่ร้านมีความเป็นปูนเปลือยประดับด้วยใบสนเล็กๆสีเขียวห้อยด้วยโคมไฟเหล็กดัดเป็นตารางสไตล์ญี่ปุ่น หน้าซูชิบาร์ไม่ได้เปิดให้นั่งแต่สามารถเดินมาดูวัตถุดิบต่างๆคุณภาพระดับพรีเมี่ยมจัดเรียงเอาไว้อย่างสวยงามเต็มตู้ โดยมีให้บริการแค่เพียง 6 โต๊ะภายในร้านรูปตัว L มีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติขนาดใหญ่ทำให้รู้สึกโล่งไม่อึดอัดถึงร้านเป็นเล็กครับ
มานั่งที่โต๊ะพนักงานก็จะเริ่มวางจาน-ตะเกียบแบบหักเองลงบนกระดาษรอง พร้อมวาซาบิบด-ขิงดองรสหวานส่วนโชยุมีเป็นขวดวางไว้บนโต๊ะ เครื่องดื่มแบบรีฟีลมีให้เลือก 2 รายการคือชาเขียวร้อนและชาเขียวเย็นที่ร้านเขาใช้ผงชาเขียวมัจฉะชงใหม่ๆมาเสิร์ฟให้เพียงคนละ 30 บาทเติมได้เรื่อยๆถือว่าถูกกว่าร้านอื่นที่มักจะเริ่มต้นที่คนละ 60 บาท กลิ่นชาเขียวหอมระดับกลางไม่มากเกินไปดื่มแล้วสดชื่นช่วยล้างคาวปลาและไขมันปลาในปากได้ดีเลยครับผม
เมนูจานแรกมาเสิร์ฟก่อนเป็นชุดโปรโมชั่นจากราคาเต็ม 2,990 บาท เหลือเพียง 1,790 บาท นั่นคือ Sashimi Hon Maguro Set หรือชุดซาชิมิปลาทูน่าครีบน้ำเงินรวมทุกส่วนอร่อยอย่างละ 2 ชิ้น คือโอโทโร่/ชูโทโร่และอากามิเสิร์ฟมาชิ้นใหญ่+หนาแทรกไขมันราวกับเนื้อวากิวแห่งท้องทะเล เริ่มชิมจากโอโทโร่ที่มีรสชาติปริมาณเนื้อน้อยสุดแต่ไขมันเยอะมากที่สุดได้ควมละลายในปาก ส่วนชูโทโร่ได้สัมผัสของเนื้อกับไขมันเข้ากันอย่างสมดุลและอากามิมีไขมันน้อยที่สุดแต่ได้รสชาติของเนื้อเข้มข้นที่สุด แบ่งทานกันแค่คนละ 1 ชิ้นบอกได้เลยว่าดีต่อใจสุดๆเลยครับผม จานต่อมาก็คือ Special Hon Maguro Set หรือ ชุดซูชิปลาทูน่าครีบน้ำเงินเสิร์ฟ 9 คำได้แก่ซูชิหน้าโอโทโร่/ชูโทโร่และอากามิกรีดเส้นแนวยาวท๊อบปิ้งด้วยวาซาบิดอง 6 ชิ้น และส่วนโทโร่สับม้วนในซูชิมากิอีก 3 ชิ้นราคา 890 บาท ใช้ปลาระดับเดียวกันกับที่เสิร์ฟเป็นซาชิมิแต่ได้ความนุ่มหวานอมเปรี้ยวของข้าวฉุนวาซาบิดองเล็กน้อยทำให้สดชื่นมากกว่า ส่วนโทโร่สับเป็นการนำปลาทูน่าครีบน้ำเงินมาปรุงรสกับหอมใหญ่จึงทำให้ทานได้ง่ายๆ อร่อยลงตัวในทุกชิ้นเลยครับ
หนักเมนูปลามากุโร่ไปแล้วมาลองชิมซาชิมิปลาอื่นๆของทางร้านบ้างเลยสั่งเป็น Ryoshi Mini Set ราคา 650 บาท เป็นชุดปลาดิบรวมขนาดเล็กต้องย้ำอีกครั้งว่านี่คือขนาดเล็กเท่านั้นแต่ให้ปริมาณมาไม่เล็กสมชื่อ จัดมาให้เต็มๆทั้งซาชิมิปลาแซลมอนชิ้นนหนาสีสดเนื้อแทรกไขมันละเอียดทานแล้วละมุนในปาก 3 ชิ้น ซาชิมิปลาโอเนื้อละเอียดไร้กลิ่นคาวเลือด 3 ชิ้น ปลาฮามาจิแทรกไขมันฉ่ำๆเนื้อสีขาวฟินห์ๆอีก 3 ชิ้น หมึกทาโกะต้มมาขอบนอกกรุบกรอบตรงกลางเนื้อหวานฉ่ำ 3 ชิ้น เสิร์มด้วยปูอัดซาชิมิอีก 3 ชิ้นและไข่หวานเนื้อเนียนๆอีก 3 ชิ้นให้อย่างจุใจเต็มชาม เมนูต่อไปก็ลดราคาและสั่งมาเป็นจานหลักคือ Otoro Uni Don จากราคาปกติ 2,100 บาท เหลือแค่ 900 บาท เป็นข้าวซูชิปรุงรสหวานอมเปรี้ยวท๊อบปิ้งด้วยโทโร่สับใส่ต้นหอมหวานมัน แต่งหน้าด้วยไข่ปลาแซลมอนสดซาชิมิส่วนชูโทโร่ 2 ชิ้น ด้านบนสุดใส่ไข่หอยเม่นให้ 3 ชิ้นตามด้วยคาร์เวียร์และทองคำเปลว ชามนี้เป็นของแฟนผมเลยขอแบ่งชิมแค่ อูนิด้านบนนิดเดียวบอกได้เลยว่าเนื้อแน่นสดหวานเป็นชิ้นคีบง่ายและระเบิดเป็นครีมในปากคุณภาพสูงจริงไม่จกตา ส่วนไข่ปลาแซลมอนที่นี่เม็ดเล็กเนื้อมันดองมาเค็มอ่อนๆ ส่วนประกอบอื่นๆก็เหมือนที่ทานในซูชิ-ซาชิมิจานก่อนหน้านี้ ถือว่าเขารักษาคุณภาพมาเป็นอย่างดีเชฟไม่มีฝีมือตกถึงแม้ว่าจะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เพิ่งเปิดขึ้นมาไม่นานก็ตาม
จานต่อมาเป็นของผมคือ Kaisen Don หรือข้าวหน้าทะเลรวมสไตล์ญี่ปุ่น ราคา 490 บาท ข้าวซูชิปรุงรสท๊อบปิ้งด้วยหน้าปลาดิบต่างๆทั้งแซลมอนสด/แซลมอนส่วนท้อง/ปลาโอสด/หมึกทาโกะ/ปูอัด/กุ้งต้ม/ไข่หวานและปลาไหลญี่ปุ่นย่างซอสชิ้นใหญ่ ก่อนทานแค่เอาโชยุผสมวาซาบิราดลงไปบนข้าวก่อนทานได้รสชาติของเครื่องทะเลอย่างหลากหลายในชามเดียวกัน วัตถุดิบที่ชอบในชามนี้คือท้องแซลมอนเนื้อมันๆ/กุ้งต้มตัวใหญ่และปลาไหลญี่ปุ่นย่างมาชิ้นหนาราดซอสหวานเค็มกลมกล่อมดีงามสุดๆ เมนูต่อไปเป็นซูชิมากิแบบสุกอย่าง Wagyu Foiegras Roll ราคา 550 บาท เป็นชูชิโรลมากิสอดไส้ฟัวกราส์และอโวคาโด้ก่อนจะห่อด้วยเนื้อวากิวลนไฟราดด้วยซอสโชยุหวานและสไปซี่ท๊อบปิ้งด้วยต้นหอมและไข่ปลาแซลมอน ได้รสชาติทั้งหวาน-มัน-เผ็ดเปรี้ยวซอสสไปซี่นิดๆทานอร่อยไม่มีเลี่ยน
เห็นในเล่มเมนูมีซูชิพิเศษเสิร์ฟคำเดียวเลยสั่งมา 1 คำลองชิมดูคือ 3 Kings nigiri หรือซูชิหน้า 3 กษัตริย์ เป็นข้าวซูชิคำเล็กพันด้วยเนื้อวากิวก่อนจะท๊อบปิ้งด้วยฟัวกราส์ย่างหั่นเต๋าและไข่ปลาแซลมอนราดด้วยซอสโชยุรสหวาน ได้ทั้งความหอม-มัน-เค็มและหวานจากวัตถุดิบคุณภาพพรีเมี่ยมเต็มปากในราคา 190 บาท เมนูต่มาเป็นจานสลัดก็คือ Hamachi And Truffle Ponzu Dressing หรือ ฮามาจิราดซอสทรัฟเฟิลพอนสึราคา 440 บาท เป็นซอสรสเปรี้ยวเค็มหอมโชยุและน้ำมันทรัฟเฟิลทานกับปลาฮามาจิซาชิมิชิ้นหนาๆ ลดความเลี่ยนของไขมันด้วยกระเทียมสด/หัวไชเท้าเส้นและพริกชี้ฟ้าเขียวทำให้สดชื่นทานได้อร่อยลงตัว เมนูสุดท้ายราคาถูกแต่ได้ทานมากุโร่ครีบน้ำเงินสุดคุ้มคือ Negi Toro Maki หรือข้าวห่อสาหร่ายสอดไส้โทโร่สับ ราคา 280 บาท รสชาติแบบเดียวกันกับที่เสิร์ฟ 4 ชิ้นในซูชิปลามากุโร่รวม 9 ชิ้นจานแรก แต่จานนี้ให้มา 6 ชิ้นขายราคาถูกกว่ากันหลายเท่า เหมาะสำหรับคนอยากลองทานปลามากุโร่อร่อยๆแต่งบไม่เยอะมาสั่งจานนี้ทานก็คุ้มดีครับ ตอนนี้อิ่มท้องแล้วเรียกน้องพนักงานมาเก็บเงินกันดีกว่า
****** เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ ******
ชื่อสินค้า:
Ryoshi Sushi สาขา Gateway บางซื่อ
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ไปกินปลาดิบดิบ Joushitsu Sushi (โจชิซึ ซูชิ) 上質
สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปร้าน JOUSHITSU SUSHI โจชิซึ ซูชิ ค่ะ ที่อยู่: 20/2 ซอยเอกมัย 2 ถนนสุขุมวิท วัฒนา กทม โทรศัพท์: 02-714-3984 Mon.-Sun. 11:30-14:30 Mon.-Sun. 18:00-23:00 เชฟหน้าบาร์ ซาชิมิไข
greenygreenys
รีวิว Haru Kappo บุฟเฟ่ต์แซลมอน-อาหารญี่ปุ่นเกือบ 100 เมนูใน Siam Discovery ชั้น 4 เพียงคนละ 499 บาท
วันนี้เป็นวันเกิดของตัวผมเองเลยจัดการนัดครอบครัวมาทานอาหารด้วยกันแถว BTS สถานีสยามเพราะตอนนี้การเดินทางมาจากรามอินทราด้วยรถไฟฟ้านั้นสะดวกสบายมากกว่าเมื่อก่อน โดยร้านที่เรานัดมาทานกันเป็นบุฟเฟ่ต์ปลาแซล
Food Addicts
Kabocha Sushi เพียงแค่ 6 คำ ที่แสนจะประทับใจ
กลับมาอีกครั้งกับร้านประจำแห่งนี้ Kabocha Sushi สาขา ลาดพร้าว 19 ครับ ร้านที่ทำให้ผมหลงรักชิ้นปลาดิบ ที่แปะอยู่บนก้อนข้าวสวยญี่ปุ่น แบบลืมหูลืมตาไม่ขึ้นเลย เนื่องด้วยโปรโมชั่นเดือนธันวาคม ล่อตาล่อใจอ
luizano
ห๊ะ !!! บุฟเฟต์ซูชิ โอโทโร่ ราคาไม่ถึง 1400 มันจะมีจริงๆเหรอ วันนี้ไปดูกัน ณ sushi oku @ k-village
สืบเนื่องจาก ก่อนหน้านี้ มีข่าว ร้านนี้มีโปร 999+ บุฟเฟ่ต์ซูชิ แต่คิวแน่นข้ามเดือนเลยไม่มีโอกาสได้ไปลอง ตอนนี้ปรับราคามาปกติแล้ว จองได้ไม่ยากเท่าไร เลยมารีวิวดู เผื่อใครกำลั
Elle bear
บุฟเฟ่ซูชิ 1500++ ยูซูกิ
#Yuzuki Izakaya & Sushi bar ถ้ากินเอามันส์มานี่ ถ้าเอาสตอรี่ไปโอมากาเสะ บุฟเฟ่ต์ซูชิร้านนี้คือยืนหนึ่งในใจเลยตอนนี้ วัตถุดิบสดเอาเรื่องและเมนูต่างๆพรีเมี่ยมทั้งนั้น มื้อนี้เราต้องเก็บท้องไว้ให้ Bl
สมาชิกหมายเลข 5349634
ประสบการณ์ทานโอมากาเซะครั้งแรก ที่ร้าน Cutts Sushi Bar
🍣 สวัสดีจ้าทุกคน วันนี้มินมารีวิวแหวกแนวกว่าปกติซักหน่อย เพิ่งได้มีโอกาสลองกินโอมากาเซะครั้งแรกในชีวิต 🍣 แล้วเป็นร้านอารมณ์แบบกึ่งๆ Hidden Place ที่ดารา/เซเลบไอจีทั้งหลายไปทานกัน (อันนี้เพื่อนสน
hikaru-hikari
ว่ากันด้วยเรื่อง ปลาแซลม่อน ปลาดิบเกรดซาชิมิ (Sashimi Grade Fish)
คือผมค่อนข้างมีความสับสนมากๆ เกี่ยวกับคำว่าปลาแซลม่อน เกรดซาชิมิ (Sashimi Grade Fish) มาหลายปีแล้วครับ เพราะเท่าที่ผมได้ศึกษามา กับประสบการณ์ส่วนตัว คือคำว่าปลาเกรดซาชิมิ ทางโซนอเมริกา ยุโรป จะหมายถึง
thanagorn_ac120
Zero sushi กับช่วงเวลา 1 แถม 1
เดินทางมาธุระแถวจามจุรีสแควร์ ก็เลยแวะมาใช้โปรโมชั่นซูชิ 1 คำ ฟรี 1 คำฮะ ซึ่งช่วงเวลาที่ใช้ได้คือ 14:00 - 17:00 ของทุกวัน ซูชิราคากลางๆ คุณภาพโอนะ ยิ่งมาเจอโปรนี้เข้าไปบอกเลยว่าคุ้มสลัด ยกตัวอย่างหน
luizano
Rakuzen Time ร้านอาหารญี่ปุ่นลับๆย่านห้วยขวาง อร่อยเด็ดต้องไปโดน
Rakuzen Time ร้านอาหารญี่ปุ่นลับย่านห้วยขวาง เห็นแว๊บแรกไม่นึกเลยว่าจะเป็นร้านอาหาร เพราะให้ฟีลโฮมมี่ น่ารักๆ แต่บอกเลยว่าในบ้านหลังนี้มีทีเด็ด !! 😁👉👉 บรรยากาศภ
พี่ผัก
เที่ยวดีมีคืน ความคุ้มค่าที่คุณเป็นผู้ชนะ E tax
วันนี้รีบใช้ E tax มันซ้ำกับ คนละครึ่งพลัส ด้วย เลือกไม่ถูกเลยครับ เอาเที่ยวดีมีคืนก่อน ลดหย่อนได้เยอะดีครับ ที่ร้าน Zen restaurant วันนี้เป็นเมนูเลือกได้ 5 อย่าง Katsu senshou mix and match
สมาชิกหมายเลข 4755513
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
อาหารญี่ปุ่น
ปลาทูน่า
ปลาแซลมอน
ซูชิ
ร้านอาหาร
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิว Ryoshi Sushi ร้านซูชิบาร์และอาหารญี่ปุ่นที่เลือกใช้เฉพาะวัตถุดิบนำเข้าคุณภาพสูงระดับพรีเมี่ยม✨
เล่มเมนูหน้าร้านเปิดมาก็เจอโปรโมชั่นหัวปลาแซลมอนต้มซีอิ๊วเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยฟรีแค่ 99 บาท จนถึงสิ้นปีนี้เท่านั้น หน้าต่อมาเป็นรายชื่อสาขาต่างๆของร้าน Ryoshi Sushi ปัจจุบันเขาเปิดให้บริการถึง 4 สาขาได้แก่ 1.ห้าง Gateway เอกมัยชั้น G 2.ห้างลาซาลอเวนิว 3.ห้าง I Am Chinatown ชั้น 2 และ 4.ก็คือสาขาที่เรามารีวิวกันในวันนี้ เข้าสู่รายการอาหารหมวดแรกเป็น "แนะนำโดยเชฟ" รวมเมนูเด็ดของที่ร้านเอาไว้ทั้งซูชิ/มากิโรล/ข้าวหน้า/ซาชิมิ/สลัด ราคาเริ่มต้นที่ 220-650 บาท เมนูอาหารทานเล่นเรียกน้ำย่อยเริ่มต้นที่ 60-240 บาท เมนูสลัดราคาเริ่มต้นที่ 220-440 บาท ซาชิมิสั่งแบบเดี่ยว (ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่เลือก) ราคาเริ่มต้นที่ 75-380 บาท ซาชิมิจัดเป็นเซ็ต ราคาเริ่มต้นที่ 360-1,190 บาท ชุดซูชิแบบคอมโบราคาเริ่มต้นที่ 165-500 บาท ซูชิหน้าต่างๆสั่งเป็นคำราคาเริ่มต้นที่ 30-190 บาท ซูชิโรลชิ้นใหญ่สามารถสั่งได้ว่าจะทานแค่ 4 หรือ 8 คำราคาเริ่มต้นที่ 100-385 บาท ซูชิมากิห่อสาหร่ายชิ้นเล็กราคาเริ่มต้นที่ 110-180 บาท ข้าวหน้าต่างๆสไตล์ญี่ปุ่นฟรีซุปมิโสะและยำสาหร่ายราคาเริ่มต้นที่ 200-550 บาท เมนูปลาย่างและเทปันยากิฟรีข้าวกับซุปมิโสะราคาเริ่มต้นที่ 129-450 บาท เทมปุระทอดกรอบๆราคเริ่มต้นที่ 120-340 บาท เมนูข้าวและเส้นราคาเริ่มต้นที่ 30-200 บาท หม้อไฟและชาบูๆราคาเริ่มต้นที่ 230-350 บาท ขนมหวานเมนูละ 70 บาท เครื่องดื่ม 25-45 บาท ก็ถือว่ามีทั้งราคาถูกและแพงปนๆกันมาตามคุณภาพของวัตถุดิบที่เลือก ถ้าเทียบกับร้านอาหารญี่ปุ่นที่ขายเมนูระดับพรีเมี่ยมในระดับเดียวกันถือว่าถูกกว่าหลายรายการ ส่วนรสชาติและฝีมือของเชฟที่นี่จะสู้กับร้านดังที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนานหรือไม่เข้าก็ไปชิมพร้อมกันเลยครับ
บรรยากาศภายในร้านตกแต่งด้วยลายไม้สีน้ำตาลทั้งผนังและเฟอร์นิเจอร์ตัดด้วยเบาะผ้าสีน้ำเงิน กำแพงที่ร้านมีความเป็นปูนเปลือยประดับด้วยใบสนเล็กๆสีเขียวห้อยด้วยโคมไฟเหล็กดัดเป็นตารางสไตล์ญี่ปุ่น หน้าซูชิบาร์ไม่ได้เปิดให้นั่งแต่สามารถเดินมาดูวัตถุดิบต่างๆคุณภาพระดับพรีเมี่ยมจัดเรียงเอาไว้อย่างสวยงามเต็มตู้ โดยมีให้บริการแค่เพียง 6 โต๊ะภายในร้านรูปตัว L มีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติขนาดใหญ่ทำให้รู้สึกโล่งไม่อึดอัดถึงร้านเป็นเล็กครับ
มานั่งที่โต๊ะพนักงานก็จะเริ่มวางจาน-ตะเกียบแบบหักเองลงบนกระดาษรอง พร้อมวาซาบิบด-ขิงดองรสหวานส่วนโชยุมีเป็นขวดวางไว้บนโต๊ะ เครื่องดื่มแบบรีฟีลมีให้เลือก 2 รายการคือชาเขียวร้อนและชาเขียวเย็นที่ร้านเขาใช้ผงชาเขียวมัจฉะชงใหม่ๆมาเสิร์ฟให้เพียงคนละ 30 บาทเติมได้เรื่อยๆถือว่าถูกกว่าร้านอื่นที่มักจะเริ่มต้นที่คนละ 60 บาท กลิ่นชาเขียวหอมระดับกลางไม่มากเกินไปดื่มแล้วสดชื่นช่วยล้างคาวปลาและไขมันปลาในปากได้ดีเลยครับผม
เมนูจานแรกมาเสิร์ฟก่อนเป็นชุดโปรโมชั่นจากราคาเต็ม 2,990 บาท เหลือเพียง 1,790 บาท นั่นคือ Sashimi Hon Maguro Set หรือชุดซาชิมิปลาทูน่าครีบน้ำเงินรวมทุกส่วนอร่อยอย่างละ 2 ชิ้น คือโอโทโร่/ชูโทโร่และอากามิเสิร์ฟมาชิ้นใหญ่+หนาแทรกไขมันราวกับเนื้อวากิวแห่งท้องทะเล เริ่มชิมจากโอโทโร่ที่มีรสชาติปริมาณเนื้อน้อยสุดแต่ไขมันเยอะมากที่สุดได้ควมละลายในปาก ส่วนชูโทโร่ได้สัมผัสของเนื้อกับไขมันเข้ากันอย่างสมดุลและอากามิมีไขมันน้อยที่สุดแต่ได้รสชาติของเนื้อเข้มข้นที่สุด แบ่งทานกันแค่คนละ 1 ชิ้นบอกได้เลยว่าดีต่อใจสุดๆเลยครับผม จานต่อมาก็คือ Special Hon Maguro Set หรือ ชุดซูชิปลาทูน่าครีบน้ำเงินเสิร์ฟ 9 คำได้แก่ซูชิหน้าโอโทโร่/ชูโทโร่และอากามิกรีดเส้นแนวยาวท๊อบปิ้งด้วยวาซาบิดอง 6 ชิ้น และส่วนโทโร่สับม้วนในซูชิมากิอีก 3 ชิ้นราคา 890 บาท ใช้ปลาระดับเดียวกันกับที่เสิร์ฟเป็นซาชิมิแต่ได้ความนุ่มหวานอมเปรี้ยวของข้าวฉุนวาซาบิดองเล็กน้อยทำให้สดชื่นมากกว่า ส่วนโทโร่สับเป็นการนำปลาทูน่าครีบน้ำเงินมาปรุงรสกับหอมใหญ่จึงทำให้ทานได้ง่ายๆ อร่อยลงตัวในทุกชิ้นเลยครับ
หนักเมนูปลามากุโร่ไปแล้วมาลองชิมซาชิมิปลาอื่นๆของทางร้านบ้างเลยสั่งเป็น Ryoshi Mini Set ราคา 650 บาท เป็นชุดปลาดิบรวมขนาดเล็กต้องย้ำอีกครั้งว่านี่คือขนาดเล็กเท่านั้นแต่ให้ปริมาณมาไม่เล็กสมชื่อ จัดมาให้เต็มๆทั้งซาชิมิปลาแซลมอนชิ้นนหนาสีสดเนื้อแทรกไขมันละเอียดทานแล้วละมุนในปาก 3 ชิ้น ซาชิมิปลาโอเนื้อละเอียดไร้กลิ่นคาวเลือด 3 ชิ้น ปลาฮามาจิแทรกไขมันฉ่ำๆเนื้อสีขาวฟินห์ๆอีก 3 ชิ้น หมึกทาโกะต้มมาขอบนอกกรุบกรอบตรงกลางเนื้อหวานฉ่ำ 3 ชิ้น เสิร์มด้วยปูอัดซาชิมิอีก 3 ชิ้นและไข่หวานเนื้อเนียนๆอีก 3 ชิ้นให้อย่างจุใจเต็มชาม เมนูต่อไปก็ลดราคาและสั่งมาเป็นจานหลักคือ Otoro Uni Don จากราคาปกติ 2,100 บาท เหลือแค่ 900 บาท เป็นข้าวซูชิปรุงรสหวานอมเปรี้ยวท๊อบปิ้งด้วยโทโร่สับใส่ต้นหอมหวานมัน แต่งหน้าด้วยไข่ปลาแซลมอนสดซาชิมิส่วนชูโทโร่ 2 ชิ้น ด้านบนสุดใส่ไข่หอยเม่นให้ 3 ชิ้นตามด้วยคาร์เวียร์และทองคำเปลว ชามนี้เป็นของแฟนผมเลยขอแบ่งชิมแค่ อูนิด้านบนนิดเดียวบอกได้เลยว่าเนื้อแน่นสดหวานเป็นชิ้นคีบง่ายและระเบิดเป็นครีมในปากคุณภาพสูงจริงไม่จกตา ส่วนไข่ปลาแซลมอนที่นี่เม็ดเล็กเนื้อมันดองมาเค็มอ่อนๆ ส่วนประกอบอื่นๆก็เหมือนที่ทานในซูชิ-ซาชิมิจานก่อนหน้านี้ ถือว่าเขารักษาคุณภาพมาเป็นอย่างดีเชฟไม่มีฝีมือตกถึงแม้ว่าจะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เพิ่งเปิดขึ้นมาไม่นานก็ตาม
จานต่อมาเป็นของผมคือ Kaisen Don หรือข้าวหน้าทะเลรวมสไตล์ญี่ปุ่น ราคา 490 บาท ข้าวซูชิปรุงรสท๊อบปิ้งด้วยหน้าปลาดิบต่างๆทั้งแซลมอนสด/แซลมอนส่วนท้อง/ปลาโอสด/หมึกทาโกะ/ปูอัด/กุ้งต้ม/ไข่หวานและปลาไหลญี่ปุ่นย่างซอสชิ้นใหญ่ ก่อนทานแค่เอาโชยุผสมวาซาบิราดลงไปบนข้าวก่อนทานได้รสชาติของเครื่องทะเลอย่างหลากหลายในชามเดียวกัน วัตถุดิบที่ชอบในชามนี้คือท้องแซลมอนเนื้อมันๆ/กุ้งต้มตัวใหญ่และปลาไหลญี่ปุ่นย่างมาชิ้นหนาราดซอสหวานเค็มกลมกล่อมดีงามสุดๆ เมนูต่อไปเป็นซูชิมากิแบบสุกอย่าง Wagyu Foiegras Roll ราคา 550 บาท เป็นชูชิโรลมากิสอดไส้ฟัวกราส์และอโวคาโด้ก่อนจะห่อด้วยเนื้อวากิวลนไฟราดด้วยซอสโชยุหวานและสไปซี่ท๊อบปิ้งด้วยต้นหอมและไข่ปลาแซลมอน ได้รสชาติทั้งหวาน-มัน-เผ็ดเปรี้ยวซอสสไปซี่นิดๆทานอร่อยไม่มีเลี่ยน
เห็นในเล่มเมนูมีซูชิพิเศษเสิร์ฟคำเดียวเลยสั่งมา 1 คำลองชิมดูคือ 3 Kings nigiri หรือซูชิหน้า 3 กษัตริย์ เป็นข้าวซูชิคำเล็กพันด้วยเนื้อวากิวก่อนจะท๊อบปิ้งด้วยฟัวกราส์ย่างหั่นเต๋าและไข่ปลาแซลมอนราดด้วยซอสโชยุรสหวาน ได้ทั้งความหอม-มัน-เค็มและหวานจากวัตถุดิบคุณภาพพรีเมี่ยมเต็มปากในราคา 190 บาท เมนูต่มาเป็นจานสลัดก็คือ Hamachi And Truffle Ponzu Dressing หรือ ฮามาจิราดซอสทรัฟเฟิลพอนสึราคา 440 บาท เป็นซอสรสเปรี้ยวเค็มหอมโชยุและน้ำมันทรัฟเฟิลทานกับปลาฮามาจิซาชิมิชิ้นหนาๆ ลดความเลี่ยนของไขมันด้วยกระเทียมสด/หัวไชเท้าเส้นและพริกชี้ฟ้าเขียวทำให้สดชื่นทานได้อร่อยลงตัว เมนูสุดท้ายราคาถูกแต่ได้ทานมากุโร่ครีบน้ำเงินสุดคุ้มคือ Negi Toro Maki หรือข้าวห่อสาหร่ายสอดไส้โทโร่สับ ราคา 280 บาท รสชาติแบบเดียวกันกับที่เสิร์ฟ 4 ชิ้นในซูชิปลามากุโร่รวม 9 ชิ้นจานแรก แต่จานนี้ให้มา 6 ชิ้นขายราคาถูกกว่ากันหลายเท่า เหมาะสำหรับคนอยากลองทานปลามากุโร่อร่อยๆแต่งบไม่เยอะมาสั่งจานนี้ทานก็คุ้มดีครับ ตอนนี้อิ่มท้องแล้วเรียกน้องพนักงานมาเก็บเงินกันดีกว่า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น