หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิว DON Japanese Attractive Tasty Club ร้านอาหารญี่ปุ่นลึกลับในซอยเอกมัย 4 ลดทุกเมนูทั้งร้าน 50% ❗
กระทู้รีวิว
อาหารญี่ปุ่น
ปลาทูน่า
ร้านอาหาร
ซูชิ
อาหารคาว
บนถนนเอกมัยมีร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดอยู่หลายร้านเพราะถัดจากทองหล่อมาก็แค่นิดเดียว แต่ภายในซอยเอกมัย 4 ถ้ามองจากหน้าปากซอยไม่รู้เลยว่ามีร้านอาหารญี่ปุ่นซ่อนอยู่ด้านในชื่อว่า DON Japanese Attractive Tasty Club หน้าร้านและบรรยากาศทั้งหมดดูรวมๆแล้วเหมือนกับบ้านหรือโกดังที่นำมาจดทะเบียนเป็นบริษัทมากกว่าร้านอาหารญี่ปุ่น แต่เพื่อนผมเป็นลูกค้าประจำมักจะมากับเจ้านายคนญี่ปุ่นเพื่อสังสรรค์กันในร้านนี้อยู่บ่อยๆชวนให้มานั่งเล่นด้วยกันระหว่างรอแฟนผมเดินช๊อบปิ้งอยู่ที่ร้านดองกี้ โดยจุดเด่นของร้านนี้นอกจากอาหารจะเป็นต้นตำรับญี่ปุ่นถูกปรุงรสทุกจานด้วยเชฟชาวญี่ปุ่นฝีมือดีแล้ว ทุกโต๊ะมีฉากกั้นเพิ่มความเป็นส่วนตัวและถ้ายิ่งมากับเหล่าเพื่อนร่วมโต๊ะจำนวนมากต้องคุยเสียงดังกันหน่อยก็มีห้องขนาดใหญ่ให้บริการอีกด้วย ใครนำรถส่วนตัวมาเองก็สามารถจอดที่ลานหน้าหากไม่พอในซอยก็ยังจอดเป็นแนวยาวได้อีก ถ้ามาด้วยบริการขนส่งสาธารณะให้ลง BTS สถานีเอกมัยแล้วเรียกวินมอเตอร์ไซค์เข้ามาในซอยเอกมัย 4 ได้เลย หากเห็นป้ายหน้าร้านพื้นสีขาวมีตัวอักษรญี่ปุ่นตัวสีดำขนาดใหญ่เขียนว่า DON อยู่ขวามือเมื่อเลี้ยวเข้าซอยมาประมาณ 50 เมตรแบบนี้ แสดงว่ามาถึงร้านแล้วอย่างแน่นอนครับผม
เดินเข้ามาในหน้าร้านสิ่งที่เจอก่อนอันดับแรกคือสวนหินแบบญี่ปุ่นที่ถึงแม้ว่าทางร้านจะจัดเป็นซุ้มเล็กๆไม่ได้โดดเด่นมากนักแต่ก็ให้อารมณ์หรูหราสไตล์เหมือนโรงแรมเรียวกังแบบญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี ใครที่ซีเรียสกลัวหัวเหม็นควันบุหรี่ภายในร้านก็สบายใจได้เพราะที่นี่เขาให้ออกมาสูบที่หน้าร้านแทนพร้อมกับได้ฟังน้ำพุไม้ไผ่เคาะเป็นจังหวะ ถึงแม้หน้าร้านจะเป็นแค่มุมสำหรับนั่งเล่น-สูบบุหรี่ก็โดยรวมแล้วถือว่าตกแต่งมาดูดีมีความเป็นญี่ปุ่นอยู่เต็มเปี่ยมครับผม
เดินเข้ามาในร้านเสียงน้องๆพนักงานตะโกนต้อนรับเสียงดังเป็นภาษาญี่ปุ่นฟังดูอบอุ่น โดยมุมแรกที่เจอก่อนนั้นคือหน้าบาร์ซูชิสำหรับรับชมเชฟเตรียมอาหารเพื่ออรรถรสในการทานที่ดียิ่งขึ้น ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องส่วนตัวขนาดเล็กที่ทุกด้านปิดมิดชิดถูกปูด้วยเสื่อทาทามิสไตล์ญี่ปุ่นแท้แต่สามารถนั่งห้อยขาได้ไม่ต้องกลัวเมื่อย 3 ห้องนั่งได้สูงสุด 4 คน ถ้าหากเล็กเกินไปยังมีอีกห้องที่สามารถนั่งทานได้ 6-8 คน การตกแต่งภายในอาจจะไม่ค่อยเป็นญี่ปุ่นสักเท่าไหร่แต่ได้ขนาดห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยมากยิ่งขึ้น เดินเข้าไปด้านในจะมีห้องพื้นไม้แบบญี่ปุ่นขัดมันเงาพร้อมโต๊ะขนาดใหญ่ให้นั่งแบบห้อยขานั่งได้ 6-8 คน ที่ทุกโต๊ะถูกกั้นด้วยฉากไม้สไตล์ญี่ปุ่นนั่งสบายๆ หากคุณอยากเอนหลังห้อยขาก็มีโต๊ะสำหรับ 4 คนพร้อมห้องฉากพับได้ให้บริการอีก เห็นว่าห้องที่ใหญ่สุดอยู่หลังร้านสามารถรองรับแขกได้สูงสุดถึง 30 คน แต่วันนี้มีบริษัทนึงเข้ามาใช้งานทางผมเลยเดินเข้าไปถ่ายรูปไม่ได้ครับ อย่างที่บอกไปแต่แรกว่าทุกโต๊ะของร้านนี้เขาเน้นความเป็นส่วนตัวจึงมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัดอยากใช้บริการจุดไหนโทรจองก่อนดีที่สุดครับ เหมือนวันนี้เพื่อนผมชวนมาเพราะโดนลูกค้าเทแต่โทรมาจองโต๊ะแล้ว ผมอยู่ใกล้เลยแวะมาทานเป็นเพื่อนพร้อมถ่ายรีวิวไปในตัวด้วยครับ
ความน่าสนใจที่ต้องมาทานอาหารร้านนี้ก็คือทุกเมนูในร้านลด 50% ทุกรายการ (ยกเว้นเมนู Special Course สุกี้ยากี้-ชาบูชาบูและเครื่องดื่ม) หน้าแรกเป็นชุด Special Course ราคา 1,500-3,000 บาท หน้าต่อมาสุกี้และชาบูชาบูชุดหมูคุโรบูตะ 1,200 บาท ชุดเนื้อวากิว 1,800 บาท (เพิ่มวัตถุดิบได้เริ่มต้นที่ 220 บาท 100g) ซูชิโอมากาเสะ 600-1,400 บาท ข้าวหน้าปลาดิบ 460-580 บาท ซูชิโรล 180-280 บาท ซูชิมี 4 ราคาตามวัตถุดิบที่ใช้คือ 99-120-180 และ 280 บาท ซาชิมิจัดชุดรวม 580-1,400 บาท ซาชิมิราคาก็ตามวัตถุดิบ 320-420 บาท กับแกล้มสไตล์ญี่ปุ่น 100-280 บาท สลัดสไตล์ญี่ปุ่น 140-380 บาท เมนูย่าง/นึ่ง/ตุ๋น 120-680 บาท เมนูของทอด 120-320 บาท เมนูข้าวหน้าและเส้น 100-420 บาท เมนูของหวาน 80-140 บาท สุดท้ายคือเครื่องดื่มและแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ยังมี Special Menu คือวัตถุดิบพิเศษที่ทางร้านนำมาปรุงเป็นเมนูใหม่ไม่เหมือนกันในแต่ละวัน (ไม่ร่วมรายการลด 50%) ราคาปกติก็ถือว่ารับได้ยิ่งลดอีกก็ยิ่งคุ้มแบบนี้ ทำให้ตัดสินใจมาทานได้ไม่ยากเลยครับ
ถึงแม่ว่าร้านนี้จะไม่ใช่ Izakaya แต่ก็มีโอเด้งให้สั่งทานได้ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 30-80 บาท มีให้เลือกทานถึง 11 รายการ เสิร์ฟในน้ำซุปที่เชฟบอกว่าใช้เวลาต้มนานถึง 3 วันเต็ม จะมานั่งทานที่หน้าหม้อหรือสั่งให้พนักงานนำไปเสิร์ฟที่โต๊ะแบบหม้อไฟร้อนๆก็ได้เช่นเดียวกัน ส่วนตัวชอบทานโอเด้งมากแต่วันนี้พนักงานที่ร้านเขาแนะนำชุดอาหารพิเศษลดจัดหนักถึง 50% เห็นว่าคุ้มกว่าสั่งแบบปกติเพราะใช้เนื้อปลาทูน่าครีบสีน้ำเงินราคาแพง เดี๋ยวรอชิมกันครับ
มาถึงที่ร้านนั่งโต๊ะจองเอาไว้แล้วพนักงานก็จะมาเสิร์ฟผ้าเย็นให้เช็ดตามเนื้อตัวจนรู้สึกสดชื่น ส่วนเครื่องดื่มก็มีแบบรีฟีลเป็นชาเขียวราคาแก้วละ 30 บาทเติมได้ไม่อั้น มีตะเกียบ/ผ้ารองตัก/ถ้วยโชยุ/จานรอง/ผ้ารองแก้วและที่วางตะเกียบวางไว้บนผ้าปูโต๊ะอย่างดี มีการใส่ใจทุกรายละเอียดแถมน้ำชาเขียวก็เติมให้ตลอดไม่รู้สึกเหือดแห้งครับ
อาหารชุดที่เราสั่งไปมาแล้วมีชื่อว่าชุด"Special Course Maguro" ปกติ 1,999 บาทราคาพิเศษ 50% เหลือเพียง 950 บาท มีให้เลือก 2 ชุด แต่ละชุดเสิร์ฟอาหารทั้งหมด 5 รายการพร้อมซุปมิโสะและผลไม้สดแช่เย็น มีจุดที่ต่างกันมีแค่จานหลัก 2 รายการเท่านั้น เริ่มจากออเดิร์ฟรวม 4 อย่างคือ "ยูเกะทูน่า" หรือมากุโร่ส่วน Akami นำมาหั่นเป็นเส้นเล็กๆยำแบบเกาหลีหอมโคชูจังและน้ำมันงาคล้ายกับยำเนื้อดิบเกาหลีแต่ไม่ได้ใส่ไข่แดงกับเนื้อสาลี่หวานผสมลงไป ทานกับผักกาดเขียวและต้นหอมอร่อยกลมกล่อมสไตล์เกาหลี ช่องต่อมาคือ "ทูน่าสลัด" เป็นเนื้อมากุโร่ต้มคลุกน้ำสลัดรสชาติหวาน-มันวางบนผักกาดแก้วเคี้ยวกรุบกรอบ ถัดไปคือ "ทูน่าต้มซีอิ๊ว" เนื้อมากุโร่เนื้อแน่นๆสู้ฟันกลิ่นไขมันหอมๆ ต้มซีอิ๊วรสหวานหอมกลิ่นขิงอ่อนๆเหมาะกับทานคู่ข้าวสวยสุดๆ สุดท้ายเป็นเมนูที่พีคสุดๆอย่าง "หนังปลาทูน่าต้มจิ้มซอสมิโสะ" เป็นหนังปลามากุโร่เคี้ยวกรุบๆติดชั้นไขมันมีรสชาติแบบเดียวกับโอโทโร่ทานคู่กับมิโสะรสชาติหวานมันๆและตัดเลี่ยนด้วยต้นหอมต้มแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ ส่วนตัวไม่เคยทานหนังปลามากุโร่มาก่อนเมื่อมาเจอที่ร้านนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ประทับใจมากๆครับ เมนูต่อไปนึกว่าเนื้อวัวแต่ไม่ใช่นี่คือ "Hoho Tataki" หรือยำเนื้อแก้มปลามากุโร่ครีบน้ำเงินสไตล์ญี่ปุ่น เป็นเนื้อส่วนแก้มที่แทรกไขมันเนื้อเด้งสู้ฟันคล้ายกันกับเนื้อวัวย่างลนไฟและสไลด์บางวางบนหอมหัวใหญ่หั่นบางๆ เสิร์ฟพร้อมกับซอสพอนสึราดลงไปบนเนื้อคลุกทานแบบสลัดได้ทั้งความเหนียวหนึบแทรกไขมันหอมๆของแก้มปลา/ความหวานของผักสดและพอนสึรสเปรี้ยวอร่อยสดชื่นดีมากๆครับ
เมนูต่อมาได้ทานซาชิมิปลามากุโร่ทั้ง 3 ส่วนครบจบในเมนูเดียวทั้ง Otoro / Chutoro และ Akami เสิร์ฟส่วนละ 2 ชิ้น เริ่มชิมจากไขมันหนักสุดคือ Otoro เนื้อน้อยไขมันเยอะแทรกละเอียดเหมือนเนื้อวัววากิว รสชาติไขมันเข้มข้นแต่รสชาติของเนื้อและสัมผัสการได้เคี้ยวน้อยกว่า ไม่ถึงกับละลายแต่นุ่มนวลละมุนอยู่ในปาก เชฟชาวญี่ปุ่นฝีมือดีมากๆเพราะหั่นเนื้อปลามาไม่ติดส่วนเอ็นตรงท้องแบบหลายๆร้าน คุณภาพปลาก็ดีมากๆไร้กลิ่นคาวเลือดติดค้างในปาก มีแต่ความหอมสดชื่นอุดมไปด้วยรสไขมันปลาเต็มปากสะใจสุดๆ ต่อกันด้วย Chutoro คือเนื้อปลาทูน่าส่วนที่มีไขมันน้อยลงมาแต่ได้รสชาติความสมดุลระหว่างไขมันหอมหวานและรสเนื้อปลาเข้มข้นตัดกันที่จุดกึ่งกลางกำลังดี เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบไขมันมากเกินไป สุดท้ายคือ Akami เนื้อแดงไร้ไขมันได้รสชาติเข้มข้นของมากุโร่แบบเต็มคำ ถึงแม้ว่าจะเป็นเนื้อแดงลีนๆแต่ก็นุ่มละมุนเนื้อละเอียดสมกับเป็นปลาทูน่าครีบน้ำเงินคุณภาพสูงครับ จานต่อไปที่หน้าตาดูชวนงงนิดๆนึกว่าบาร์บีคิวเนื้อวัวเสียบไม้ย่างแต่ที่จริงก็คือ "Sanzoku Yaki" หรือเนื้อปลามากุโร่ส่วนหางติดกับหนังเสียบไม้พร้อมหอมใหญ่และมะเขือเทศสดย่างราดซอสรสหวานกลมกล่อม รสชาติเหมือนเนื้อติดมันแบบไม่มีกลิ่นของไขมันเนื้อทำให้รู้สึกสดชื่นมากกว่า ใครที่ไม่ทานเนื้อวัวแล้วอยากลองสัมผัสว่าเป็นยังไงลองเมนูนี้ดูครับ ส่วนอีกชุดจะเปลี่ยนจานนี้เป็น "Negima Age" หรือเนื้อปลาทูน่าส่วนติดกระดูกเลาะเอาแต่เนื้อแทรกหอมใหญ่ชุบแป้งทอดราดด้วยซอสนัมบัง ถ้าเปลี่ยนเป็นเมนูนี้แล้วจานหลักจากซูชิจะกลายเป็นข้าวหน้าปลาทูน่าดิบแทนครับผม
****** เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ *****
ชื่อสินค้า:
DON Japanese Attractive Tasty Club
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
“ปลาเต๋าเต้ย“ เจ้าของฉายา ราชาปลาเนื้ออ่อน แห่งทะเลอันดามัน..
มารู้จัก "ปลาเต๋าเต้ย" เจ้าของฉายา ราชาปลาเนื้ออ่อน แห่งทะเลอันดามัน.. ปลาเต๋าเต้ย (ปลาจะละเม็ดเทา, ปลาจะละเม็ดน้ำลึก) มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับปลาจะละเม็ดขาว เพราะอยู่ในวงศ์ปลาจะละเม็ดเหมือน
สมาชิกหมายเลข 7664961
Siam Bistro อาหารไทยต้นตำหรับ รสแซ่บ จัดจ้าน 🍴
วันนี้พู่มากินอาหารไทยตำหรับร่วมสมัยที่ Siam Bistro กับเมนูอาหารไทยที่หาทานยากและยังมีอาหารอีสานรสแซ่บกว่า 50 เมนู ทางร้านคัดสรรวัตถุดิบสดใหม่ ปรุงรสจัดจ้าน จัดเต็มด้วยสมุนไพร มาเสิร์ฟแบบจุใจจัดเต็ม เ
พาผู้เที่ยว-Paapooteaw
รีวิว Yuzawa Izakaya ร้านซูชิบาร์-อาหารญี่ปุ่นเสิร์ฟโอโทโร่ไม่อั้นแค่คนละ 1,890 ฿ ภายในซอยพหลโยธิน 5
เลื่อนหน้าฟีดข่าวบนมือถือไปเรื่อยๆก็เจอกับโฆษณาร้านอาหารญี่ปุ่นน่าสนใจเพราะเขาเสิร์ฟซูชิโอโทโร่และเมนูอื่นๆให้ทานได้ไม่อั้นกว่า 80 รายการตลอด 2 ชั่วโมงเต็มแต่จ่ายแค่คนละ 1,890 บาท Net. นั่นก็คือร้าน Y
Food Addicts
เทปันยากิสไตล์ญี่ปุ่น ปรุงใหม่ ต่อหน้า แบบ Live Cooking เลือกเนื้อ เลือกไซซ์ และระดับความสุกได้เอง
ใครที่หลงใหลเสียง “ฉ่าาา” บนกระทะร้อน ต้องไม่พลาด Sears Bangkok เทปันยากิสไตล์ญี่ปุ่นระดับพรีเมียมใจกลางสาทร ปรุงทุกจาน สดใหม่ต่อหน้าแบบ Live Cooking ให้ได้สัมผัสทั้งกลิ่น รส และบรรยากาศสุ
มิกิชวนกิน
Pastry Architect คาเฟ่เบเกอรี่สไตล์ฝรั่งเศส ปราสาทสีเหลืองอยู่ติดถนนสายเอเชีย ขนมอร่อยมาก
สวัสดีค่ะ ทริปนี้มามาเที่ยวคาเฟ่ชิลๆ หาขนมๆทานกันที่ จ. อยุธยาค่ะ มากันกันที่ Pastry Architect ร้านนี้เป็นร้านขนมโปรดของบ้านเราเลยค่ะ กลับมาซ้ำอีกครั้งเพราะเค้ามีขนมตัวใหม่ๆออกมาเพียบเลย บ้านเราชอบ
พี่ผัก
== จางเจียหยี ข้าวมันไก่เบตง และ อาหาร เบตง ซอย อารีย์ ==
ปกติเป็นคนชอบข้าวมันไก่ ที่เนื้อแน่นๆ หนังกรอบๆ ดังนั้นเลยชอบ ไก่เบตงเป็นพิเศษ ถึงขนาดตามไปดูฟาร์มถึงเบตง และทุกครั้งที่ไป เบตง ต้องไปแวะหาทาน แต่ไก่เบตง หลายที่เอาไก่ธรรมดา มาราดน้ำ สูตรเบตง เนื่
-=Jfk=-
เปิดประเดิมกับเชฟบิว ภูเตโช ก่อนจะเปิดร้าน SOAK ที่ทรงวาด
เปิดมาด้วยการโปรโมตว่า "มากินข้าวกับเชฟบิว" เราที่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากการได้ไปทานที่ร้านหลายๆครั้งก็ตัดสินใจจองทันทีแบบไม่ต้องตัดสินใจนานเลย พอมาถึงร้านที่ใช้ทานครั้งนี้ ซึ่งเรียกว่าส
ฌาสา
🍲 รีวิวร้าน Kwan Kee Clay Pot Rice – ข้าวอบหม้อดินตัวท็อปแห่งฮ่องกง
ใครที่รักข้าวอบหม้อดินแบบฮ่องกงแท้ๆ ชื่อของ Kwan Kee Claypot Rice (坤記煲仔飯) คงไม่ใช่ชื่อแปลกหู นี่คือหนึ่งในร้านระดับตำนานของเมือง ที่ทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างยอมต่อคิวเพื่อรอข้าวอบหม้อดินร้อน
GazzaTaste
ร้านกาแฟและเครื่องดื่ม บรรยากาศเรียบหรู สวนสวยสไตล์ยุโรป
ในช่วงเที่ยงวันของตัวเมืองกาญจนบุรี ที่แสงแดดกำลังแผดเผา อากาศร้อนระอุ เราขอแนะนำร้านอาหาร Sky Garden พิกัดอยู่ในท่าสวนสุขอนันต์ โดยออกแบบอยู่ในสวนสไตล์ยุโรป ซึ่งเป็นร้านคาเฟ่และร้านอาหาร
อาหมวยลงพุง
อร่อย ไวป์ดี ไวน์เลิศ ปักหมุดตามมาได้ PEPE Bangkok
PEPE BANGKOK จะนัดแฮงก์เอาท์กับเพื่อน หรือเดทกับหวานใจ ก็มาร้านนี้ได้เลย อาหารโมเดิร์นฟิลชันที่ทั้งอร่อย ไวป์ดี ไวน์เลิศ เหมาะกับการดินเนอร์แบบสุดๆ อยากมีมุมส่วนตัวก็มีห้องไพรเวทรับรอง อังคาร-เสาร์ ก็
มิกิชวนกิน
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
อาหารญี่ปุ่น
ปลาทูน่า
ร้านอาหาร
ซูชิ
อาหารคาว
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 41
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิว DON Japanese Attractive Tasty Club ร้านอาหารญี่ปุ่นลึกลับในซอยเอกมัย 4 ลดทุกเมนูทั้งร้าน 50% ❗
เดินเข้ามาในหน้าร้านสิ่งที่เจอก่อนอันดับแรกคือสวนหินแบบญี่ปุ่นที่ถึงแม้ว่าทางร้านจะจัดเป็นซุ้มเล็กๆไม่ได้โดดเด่นมากนักแต่ก็ให้อารมณ์หรูหราสไตล์เหมือนโรงแรมเรียวกังแบบญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี ใครที่ซีเรียสกลัวหัวเหม็นควันบุหรี่ภายในร้านก็สบายใจได้เพราะที่นี่เขาให้ออกมาสูบที่หน้าร้านแทนพร้อมกับได้ฟังน้ำพุไม้ไผ่เคาะเป็นจังหวะ ถึงแม้หน้าร้านจะเป็นแค่มุมสำหรับนั่งเล่น-สูบบุหรี่ก็โดยรวมแล้วถือว่าตกแต่งมาดูดีมีความเป็นญี่ปุ่นอยู่เต็มเปี่ยมครับผม
เดินเข้ามาในร้านเสียงน้องๆพนักงานตะโกนต้อนรับเสียงดังเป็นภาษาญี่ปุ่นฟังดูอบอุ่น โดยมุมแรกที่เจอก่อนนั้นคือหน้าบาร์ซูชิสำหรับรับชมเชฟเตรียมอาหารเพื่ออรรถรสในการทานที่ดียิ่งขึ้น ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องส่วนตัวขนาดเล็กที่ทุกด้านปิดมิดชิดถูกปูด้วยเสื่อทาทามิสไตล์ญี่ปุ่นแท้แต่สามารถนั่งห้อยขาได้ไม่ต้องกลัวเมื่อย 3 ห้องนั่งได้สูงสุด 4 คน ถ้าหากเล็กเกินไปยังมีอีกห้องที่สามารถนั่งทานได้ 6-8 คน การตกแต่งภายในอาจจะไม่ค่อยเป็นญี่ปุ่นสักเท่าไหร่แต่ได้ขนาดห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยมากยิ่งขึ้น เดินเข้าไปด้านในจะมีห้องพื้นไม้แบบญี่ปุ่นขัดมันเงาพร้อมโต๊ะขนาดใหญ่ให้นั่งแบบห้อยขานั่งได้ 6-8 คน ที่ทุกโต๊ะถูกกั้นด้วยฉากไม้สไตล์ญี่ปุ่นนั่งสบายๆ หากคุณอยากเอนหลังห้อยขาก็มีโต๊ะสำหรับ 4 คนพร้อมห้องฉากพับได้ให้บริการอีก เห็นว่าห้องที่ใหญ่สุดอยู่หลังร้านสามารถรองรับแขกได้สูงสุดถึง 30 คน แต่วันนี้มีบริษัทนึงเข้ามาใช้งานทางผมเลยเดินเข้าไปถ่ายรูปไม่ได้ครับ อย่างที่บอกไปแต่แรกว่าทุกโต๊ะของร้านนี้เขาเน้นความเป็นส่วนตัวจึงมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัดอยากใช้บริการจุดไหนโทรจองก่อนดีที่สุดครับ เหมือนวันนี้เพื่อนผมชวนมาเพราะโดนลูกค้าเทแต่โทรมาจองโต๊ะแล้ว ผมอยู่ใกล้เลยแวะมาทานเป็นเพื่อนพร้อมถ่ายรีวิวไปในตัวด้วยครับ
ความน่าสนใจที่ต้องมาทานอาหารร้านนี้ก็คือทุกเมนูในร้านลด 50% ทุกรายการ (ยกเว้นเมนู Special Course สุกี้ยากี้-ชาบูชาบูและเครื่องดื่ม) หน้าแรกเป็นชุด Special Course ราคา 1,500-3,000 บาท หน้าต่อมาสุกี้และชาบูชาบูชุดหมูคุโรบูตะ 1,200 บาท ชุดเนื้อวากิว 1,800 บาท (เพิ่มวัตถุดิบได้เริ่มต้นที่ 220 บาท 100g) ซูชิโอมากาเสะ 600-1,400 บาท ข้าวหน้าปลาดิบ 460-580 บาท ซูชิโรล 180-280 บาท ซูชิมี 4 ราคาตามวัตถุดิบที่ใช้คือ 99-120-180 และ 280 บาท ซาชิมิจัดชุดรวม 580-1,400 บาท ซาชิมิราคาก็ตามวัตถุดิบ 320-420 บาท กับแกล้มสไตล์ญี่ปุ่น 100-280 บาท สลัดสไตล์ญี่ปุ่น 140-380 บาท เมนูย่าง/นึ่ง/ตุ๋น 120-680 บาท เมนูของทอด 120-320 บาท เมนูข้าวหน้าและเส้น 100-420 บาท เมนูของหวาน 80-140 บาท สุดท้ายคือเครื่องดื่มและแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ยังมี Special Menu คือวัตถุดิบพิเศษที่ทางร้านนำมาปรุงเป็นเมนูใหม่ไม่เหมือนกันในแต่ละวัน (ไม่ร่วมรายการลด 50%) ราคาปกติก็ถือว่ารับได้ยิ่งลดอีกก็ยิ่งคุ้มแบบนี้ ทำให้ตัดสินใจมาทานได้ไม่ยากเลยครับ
ถึงแม่ว่าร้านนี้จะไม่ใช่ Izakaya แต่ก็มีโอเด้งให้สั่งทานได้ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 30-80 บาท มีให้เลือกทานถึง 11 รายการ เสิร์ฟในน้ำซุปที่เชฟบอกว่าใช้เวลาต้มนานถึง 3 วันเต็ม จะมานั่งทานที่หน้าหม้อหรือสั่งให้พนักงานนำไปเสิร์ฟที่โต๊ะแบบหม้อไฟร้อนๆก็ได้เช่นเดียวกัน ส่วนตัวชอบทานโอเด้งมากแต่วันนี้พนักงานที่ร้านเขาแนะนำชุดอาหารพิเศษลดจัดหนักถึง 50% เห็นว่าคุ้มกว่าสั่งแบบปกติเพราะใช้เนื้อปลาทูน่าครีบสีน้ำเงินราคาแพง เดี๋ยวรอชิมกันครับ
มาถึงที่ร้านนั่งโต๊ะจองเอาไว้แล้วพนักงานก็จะมาเสิร์ฟผ้าเย็นให้เช็ดตามเนื้อตัวจนรู้สึกสดชื่น ส่วนเครื่องดื่มก็มีแบบรีฟีลเป็นชาเขียวราคาแก้วละ 30 บาทเติมได้ไม่อั้น มีตะเกียบ/ผ้ารองตัก/ถ้วยโชยุ/จานรอง/ผ้ารองแก้วและที่วางตะเกียบวางไว้บนผ้าปูโต๊ะอย่างดี มีการใส่ใจทุกรายละเอียดแถมน้ำชาเขียวก็เติมให้ตลอดไม่รู้สึกเหือดแห้งครับ
อาหารชุดที่เราสั่งไปมาแล้วมีชื่อว่าชุด"Special Course Maguro" ปกติ 1,999 บาทราคาพิเศษ 50% เหลือเพียง 950 บาท มีให้เลือก 2 ชุด แต่ละชุดเสิร์ฟอาหารทั้งหมด 5 รายการพร้อมซุปมิโสะและผลไม้สดแช่เย็น มีจุดที่ต่างกันมีแค่จานหลัก 2 รายการเท่านั้น เริ่มจากออเดิร์ฟรวม 4 อย่างคือ "ยูเกะทูน่า" หรือมากุโร่ส่วน Akami นำมาหั่นเป็นเส้นเล็กๆยำแบบเกาหลีหอมโคชูจังและน้ำมันงาคล้ายกับยำเนื้อดิบเกาหลีแต่ไม่ได้ใส่ไข่แดงกับเนื้อสาลี่หวานผสมลงไป ทานกับผักกาดเขียวและต้นหอมอร่อยกลมกล่อมสไตล์เกาหลี ช่องต่อมาคือ "ทูน่าสลัด" เป็นเนื้อมากุโร่ต้มคลุกน้ำสลัดรสชาติหวาน-มันวางบนผักกาดแก้วเคี้ยวกรุบกรอบ ถัดไปคือ "ทูน่าต้มซีอิ๊ว" เนื้อมากุโร่เนื้อแน่นๆสู้ฟันกลิ่นไขมันหอมๆ ต้มซีอิ๊วรสหวานหอมกลิ่นขิงอ่อนๆเหมาะกับทานคู่ข้าวสวยสุดๆ สุดท้ายเป็นเมนูที่พีคสุดๆอย่าง "หนังปลาทูน่าต้มจิ้มซอสมิโสะ" เป็นหนังปลามากุโร่เคี้ยวกรุบๆติดชั้นไขมันมีรสชาติแบบเดียวกับโอโทโร่ทานคู่กับมิโสะรสชาติหวานมันๆและตัดเลี่ยนด้วยต้นหอมต้มแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ ส่วนตัวไม่เคยทานหนังปลามากุโร่มาก่อนเมื่อมาเจอที่ร้านนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ประทับใจมากๆครับ เมนูต่อไปนึกว่าเนื้อวัวแต่ไม่ใช่นี่คือ "Hoho Tataki" หรือยำเนื้อแก้มปลามากุโร่ครีบน้ำเงินสไตล์ญี่ปุ่น เป็นเนื้อส่วนแก้มที่แทรกไขมันเนื้อเด้งสู้ฟันคล้ายกันกับเนื้อวัวย่างลนไฟและสไลด์บางวางบนหอมหัวใหญ่หั่นบางๆ เสิร์ฟพร้อมกับซอสพอนสึราดลงไปบนเนื้อคลุกทานแบบสลัดได้ทั้งความเหนียวหนึบแทรกไขมันหอมๆของแก้มปลา/ความหวานของผักสดและพอนสึรสเปรี้ยวอร่อยสดชื่นดีมากๆครับ
เมนูต่อมาได้ทานซาชิมิปลามากุโร่ทั้ง 3 ส่วนครบจบในเมนูเดียวทั้ง Otoro / Chutoro และ Akami เสิร์ฟส่วนละ 2 ชิ้น เริ่มชิมจากไขมันหนักสุดคือ Otoro เนื้อน้อยไขมันเยอะแทรกละเอียดเหมือนเนื้อวัววากิว รสชาติไขมันเข้มข้นแต่รสชาติของเนื้อและสัมผัสการได้เคี้ยวน้อยกว่า ไม่ถึงกับละลายแต่นุ่มนวลละมุนอยู่ในปาก เชฟชาวญี่ปุ่นฝีมือดีมากๆเพราะหั่นเนื้อปลามาไม่ติดส่วนเอ็นตรงท้องแบบหลายๆร้าน คุณภาพปลาก็ดีมากๆไร้กลิ่นคาวเลือดติดค้างในปาก มีแต่ความหอมสดชื่นอุดมไปด้วยรสไขมันปลาเต็มปากสะใจสุดๆ ต่อกันด้วย Chutoro คือเนื้อปลาทูน่าส่วนที่มีไขมันน้อยลงมาแต่ได้รสชาติความสมดุลระหว่างไขมันหอมหวานและรสเนื้อปลาเข้มข้นตัดกันที่จุดกึ่งกลางกำลังดี เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบไขมันมากเกินไป สุดท้ายคือ Akami เนื้อแดงไร้ไขมันได้รสชาติเข้มข้นของมากุโร่แบบเต็มคำ ถึงแม้ว่าจะเป็นเนื้อแดงลีนๆแต่ก็นุ่มละมุนเนื้อละเอียดสมกับเป็นปลาทูน่าครีบน้ำเงินคุณภาพสูงครับ จานต่อไปที่หน้าตาดูชวนงงนิดๆนึกว่าบาร์บีคิวเนื้อวัวเสียบไม้ย่างแต่ที่จริงก็คือ "Sanzoku Yaki" หรือเนื้อปลามากุโร่ส่วนหางติดกับหนังเสียบไม้พร้อมหอมใหญ่และมะเขือเทศสดย่างราดซอสรสหวานกลมกล่อม รสชาติเหมือนเนื้อติดมันแบบไม่มีกลิ่นของไขมันเนื้อทำให้รู้สึกสดชื่นมากกว่า ใครที่ไม่ทานเนื้อวัวแล้วอยากลองสัมผัสว่าเป็นยังไงลองเมนูนี้ดูครับ ส่วนอีกชุดจะเปลี่ยนจานนี้เป็น "Negima Age" หรือเนื้อปลาทูน่าส่วนติดกระดูกเลาะเอาแต่เนื้อแทรกหอมใหญ่ชุบแป้งทอดราดด้วยซอสนัมบัง ถ้าเปลี่ยนเป็นเมนูนี้แล้วจานหลักจากซูชิจะกลายเป็นข้าวหน้าปลาทูน่าดิบแทนครับผม
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น