หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิว Yuzawa Izakaya ร้านซูชิบาร์-อาหารญี่ปุ่นเสิร์ฟโอโทโร่ไม่อั้นแค่คนละ 1,890 ฿ ภายในซอยพหลโยธิน 5
กระทู้รีวิว
อาหารญี่ปุ่น
อาหารบุฟเฟ่ต์
อาหารคาว
ซูชิ
ร้านอาหาร
เลื่อนหน้าฟีดข่าวบนมือถือไปเรื่อยๆก็เจอกับโฆษณาร้านอาหารญี่ปุ่นน่าสนใจเพราะเขาเสิร์ฟซูชิโอโทโร่และเมนูอื่นๆให้ทานได้ไม่อั้นกว่า 80 รายการตลอด 2 ชั่วโมงเต็มแต่จ่ายแค่คนละ 1,890 บาท Net. นั่นก็คือร้าน Yuzawa Izakaya อยู่ภายในซอยพหลโยธิน 5 ใกล้ๆกับ BTS สถานีอารีย์ เห็นว่าจุดตั้งร้านตรงนี้เขาย้ายมากจากสถานที่เก่าภายในซอยอารีย์ 4 แต่ตอนนี้เปิด Google Maps เดินทางตามมาเขาปักหมุดไว้ที่ใหม่เรียบร้อยแล้ว วิธีการเดินทางหากมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวร้านอยู่ในซอยเล็กๆแต่ภายในก็มีที่ให้จอดมากมาย เมื่อมาถึงแล้วก็จะพบกับหน้าร้านสีดำตกแต่สไตล์ Loft ดูทันสมัยเข้ากับถิ่นอารีย์แต่เพิ่มความเป็นญี่ปุ่นด้วยโคมไฟและตัวอักษรสไตล์ญี่ปุ่นพร้อมป้ายไฟที่กระพริบดวงสีส้มมองเห็นได้ชัดจากปากซอย มีป้ายอร่อยเลิศช่วยการันตีความอร่อยไว้อีกขั้นแบบนี้แสดงว่ามาถูกร้าน เนื่องจากเรามาวันหยุดไม่ได้จองล่วงหน้าแต่ที่บ้านอยากทานมากๆเลยมาตั้งแต่เปิดร้านรีบเข้าไปด้านในกันครับ
เข้ามาบรรยากาศภายในร้านถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนคือด้านนอกติดริมถนนมีห้องกระจกติดแอร์เพด้านห้อยด้วยไม้เลื้อยดูสบายตา ส่วนด้านในต้องเดินผ่านประตูบานไม้เข้าไปก็จะพบกับโซนญี่ปุ่นมองเห็นบาร์ซูชิและกำแพงที่วาดเป็นรูปปลามากุโร่สีขาว-ดำแสดงถึงวัตถุดิบที่เป็น Signature ของทางร้านได้เป็นอย่างดี บาร์ซูชิของร้านเป็นแบบเปิดโล่งสามารถมองเห็นการหั่นปลาและตกแต่งได้ทุกขั้นตอนส่วนครัวร้อนแยกต่างหากอยู่ด้านใน เนื่องจากเราไม้ได้จองมาก่อนทำให้พื้นที่ด้านในวันนี้เต็มหมดแล้ว (เห็นว่าลูกค้าจองผ่าน Hungry Hub 20 กว่าที่นั่ง) วันนี้พวกเราจึงต้องออกมานั่งโซนด้านนอกแทนและโชคดีอีกอย่างคือวันนี้แดดไม่ร้อนทำให้นั่งริมหน้าต่างได้รับแสงแดดเบาๆดีครับ
มาถึงพนักงานก็จัดการต่อโต๊ะยาวให้แต่เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างแคบเลยต้องแบ่งเป็น 4 คน และ 2 คนต่อโต๊ะแทน ตามมาด้วยจานรอง-ตะเกียบ-ถ้วยใส่โชยุพร้อมวาซาบิและขิงดองถูกยกออกมาเตรียมทานคู่กับซาชิมิ/ซูชิต่างๆภายในร้าน ส่วนเครื่องดื่มมีบริการให้ฟรีไม่คิดเงินเพิ่มคือชาเขียวร้อนและชาเขียวเย็นใส่เหยือกและกาวางไว้ให้ข้างๆเตรียมเติมได้ตลอดเวลา ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมแล้วน้องพนักงานก็นำเล่มเมนูออกมาให้เราสั่งอาหารกันครับ
เมนูบุฟเฟ่ต์ของที่ร้านก็ใช้แบบเดียวกันกับใน Hungry Hub ไม่ได้แตกต่างกันราคาคนละ 1,890 บาทถ้วนไม่มีบวก Vat. หรือ Service Charge เพิ่มเติม เมนูลำดับที่ 1-5 สามารถสั่งได้เพียงแค่คนละ 1 รายการเท่านั้น 6-83 สั่งได้เรื่อยๆจนกว่าจะอิ่ม ให้เวลาในการทานทั้งหมด 2 ชิ่วโมงเต็ม (ถือว่าเยอะกว่าร้านคู่แข่งที่มักจะให้เวลาแค่ 1.30 ชม.) และซูชิปลามากุโร่ทั้ง 3 ส่วนยังสามารถสั่งคละกันได้ไม่ได้บังคับมาเป็นชุดอีกด้วย (แต่เสิร์ฟชุดละ 3 ชิ้น) รวมถึงซูชิหน้าอื่นๆที่ร้านเขาเสิร์ฟให้เป็นชุดละ 2 คำ นอกจากนี้ยังมีซูชิโรล/ซาชิมิ/อาหารทานเล่น/ข้าวหน้าไซส์มินิ/จานหลักและขนมหวานรวมในราคาบุฟเฟ่ต์หมดแล้วทุกอย่างที่เหลือก็แค่สั่งและทานให้หมดเพราะเขาปรับจริงตามราคาที่เขียวเอาไว้ในเมนู แนะนำสำหรับคนที่ไม่เคยทานบุฟเฟ่ต์โอโทโร่มาก่อนแนะนำว่าค่อยๆสั่งมาทานทีละนิดดีกว่าครับ
เดินเข้ามาที่ซูชิบาร์ขอเชฟเขาดูโอโทโร่ของที่ร้านลายแทรกไขมันสวยงามราวกับเนื้อวัววากิวดูรู้เลยว่าเป็น Blue Fin จริงๆเพราะทานมาบ่อยมากๆเลยสั่งเมนูชุดแรกเป็น "Heaven Set" ปลาดิบรวมทั้งโอโทโร่/ชูโทโร่/อากามิ/ฮามาจิ/แซลมอนและทาโกะรวมมาในเรือเดียวกัน ทุกชิ้นคุณภาพสูงเสิร์ฟมาชิ้นหนาสมราคาแต่มีบางส่วนติดเอ็นมานิดหน่อยก็ถือว่ารับได้เพราะที่สั่งมาไม่ใช่แบบ A La Carte จานต่อไปเป็นเมนูพิเศษที่ราคาสูงรองลงมาจากจานแรกคือ "Wagyu Steak" หรือสเต็กเนื้อวากิวญี่ปุ่นย่างเสิร์ฟมาในกระทะร้อนสุกแบบ Medium Rare แทรกไขมันอมชมพูตรงจุดกลางทานคู่กับซอสโชยุเนยหวานผักต่างๆทานคู่กับกระเทียมเจียวสไลด์ก็อร่อยแล้ว จะจิ้มกับน้ำซอส 3 สูตรหรือไม่ยังไงก็ดีงามเพราะเนื้อวัวและซอสดีมากอยู่แล้ว เหมาะทานคู่กับข้าวสวยญี่ปุ่นอีกสักชามถ้าไม่ได้ทานบุฟเฟ่ต์
เมนูพิเศษอื่นๆทยอยมาเสิร์ฟอีกคือ "Kaki Nama Oyster" ปกติเขาเสิร์ฟให้แค่ 1 คนต่อ 1 ตัวแต่ไซส์ที่เข้ามาในวันนี้เล็กกว่าปกติที่ร้านเลยเสิร์ฟมาให้ 2 ตัว (จินตนาการไม่ออกเลยว่าหอยญี่ปุ่นไซส์ใหญ่กว่านี้หน้าตาเป็นยังไง) เป็นหอยนางรมสดนำเข้าจากแระเทศญี่ปุ่นราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู๊ดสุดเปรี้ยวแซ่บโรยหอมเจียวทอดกรอบกับไข่แซลมอนได้รสชาติอร่อยสะใจสไตล์ไทยๆ ส่วนคุณพ่อกับคุณแม่ผมกลัวอิ่มเร็วเลยสั่งเป็นซูชิคนละคำที่ใช้วัตถุดิบสุดพรีเมี่ยมให้เพียงคนละ 1 คำได้แก่ "Uni Sushi" เป็นซูชิหน้าไข่หอยเม่นญี่ปุ่นให้มาถึง 2 ชั้นพูนรสชาติหวานมันเหมือนพุดดิ้งละลายในปากผสมกับข้าวซูชิรสหวานอมเปรี้ยวหอมสาหร่ายสุดฟินห์ ถ้าอยากทานอีกที่ร้านคำละ 447 บาทนะครับ
ส่วนจานนี้เราลงมติกันแล้วว่าคุ้มที่สุดเพราะได้ทานวัตถุดิบคุณภาพพรีเมี่ยมพร้อมกันหลายๆอย่างในชามเดียวคือ "ChiraChi Umami Don" เป็นข้าวหน้าปลาดิบรวมที่ด้านล่างเป็นข้าวซูชิปรุงรสท๊อปปิ้งด้วยมากุโร่ทั้ง 3 ส่วน /ไข่หอยเม่น/ปลาแซลมอน/ไข่ปลาแซลมอน/ปลาฮามาจิ/ปลาไหลย่างญี่ปุ่น เพิ่มความกรุบกรอบด้วยแตงกวาญี่ปุ่นสดๆได้ทานปลาดิบพร้อมข้าวอย่างหลากหลายในชามเดียว เมนูต่อไปก็เป็นข้าวหน้าแบบ Mini Dorburi ที่ใส้ข้าวให้น้อยแต่ปลาเยอะคือ "ข้าวหน้าโทโร่แซลมอนสับซอสมันปู" เป็นแซลมอนสับกับปลามากุโร่รวมทุกส่วนสับปรุงรสกับต้นหอมให้ความหวานมันและเพิ้มกลิ่นหอมด้วยมิโสะมันปูกับไข่กุ้ง (ไข่ปลาบินปรุงรส) ช่วยเพิ่มความกลมกล่อมและกรุบกรอบให้กับข้าวที่มีแต่เนื้อปลาสับชิ้นเล็กๆ คลุกให้เข้ากันทีละส่วนหรือทั้งหมดก็ได้ทานได้หลายแบบในชามเดียว
หมดจากเมนูหลักแล้วก็สั่งเมนูที่เราอยากทานมาก่อนส่วนมากุโร่ค่อยปิดท้ายอีกครั้ง เพราะเดี๋ยวเลี่ยนเกินไปจนทำให้ทานเมนูอื่นได้น้อย เริ่มจากเมนูที่มีปริมาณไขมันรองลงมาอย่าง "ซูชิหน้าตับห่าน" ชิ้นบางๆมาพร้อมกับข้าวคำเล็กพันด้วยสาหร่ายราดซอสมิโสะหวานหอมกลิ่นน้ำผึ้ง มาต่อกันด้วย "ชูชิเอนกาวะท๊อบตับห่าน" เป็นส่วนครีบของปลาตาเดียวย่างลนไฟไปพร้อมกับตัวห่านได้ความมันแบบ X2 ตามมาด้วย "ซูชิกุ้งหวานตัวใหญ่พิเศษ" เนื้อกรอบๆเคี้ยวเต็มคำหวานเด้งเพิ่มความมันของฟัวกราส์ผสมกับซอสสูตรพิเศษทำให้อร่อยลงตัวมากยิ่งขึ้น ถ้าหากรู้สึกว่ามีไขมันเยอะเกินไปก็สามารถสั่งให้แบบไม่ใส่ฟัวกราส์หรือราดซอสมาอย่างเดียวก็ได้ เนื่องจากทานแต่ที่ใส่ฟัวกราส์ไปหลายคำแล้วก็ต้องตัดเลี่ยนด้วยเมนูไทยๆอย่าง "แซลมอนยำไทย" รสชาติเปรี้ยว/หวาน/เผ็ดร้อนฉุนกระเทียม/พริกสดช่วยลดความเลี่ยนจากเนื้อแซลมอนมันๆได้เป็นอย่างดี ถ้าไม่ชอบแซลมอนก็มีปูอัดกับปลาดิบรวมให้ทำยำได้ด้วย
เมนูท๊อบฟัวกราส์ยังไม่หมดยังมีปลาไหลกับเนื้อวากิวมาเสิร์ฟอีก แต่ในฐานะสาวก "ปลาไหลญี่ปุ่น" ร้านนี้ทำให้ไม่ค่อยถูกใจเพราะให้มาชิ้นเล็กและบางจนเกินไปไม่เหมือนกับหลายร้านที่ขายราคาบุฟเฟ่ต์ถูกกว่าแต่ให้ชิ้นหนาใหญ่มากกว่า ส่วนเนื้อวากิวที่ร้านอื่นมักจะมาชิ้นบางแบบผ้าห่มแต่ที่นี่ห่อมาเป็นชั้นทานง่ายเคี้ยวเต็มคำมากกว่าถือว่าก็มีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันครับ เมนูหลังๆเริ่มออเดอร์เป็นแบบลนไฟรัวๆเพราะกลัวทานไม่ได้เยอะเริมจากเมนู "โรลแซลมอนเอนกาวะและโรลแซลมอนสไปซี่" ในเล่มเมนูเขียนว่าเสิร์ฟอย่างละ 4 คำ แต่ของจริงที่ร้านเสิร์ฟให้แค่อย่างละ 3 คำเท่านั้น (ซึ่งถือว่าดีงาม) ไส้ด้านในทั้ง 2 เมนูเหมือนกันเพราะทำมาจากซูชิโรลชิ้นเดียวกันคือปูอัด/ไข่หวาน/แตงกวาญี่ปุ่น ท๊อบปิ้งด้วยแซลมอนสดทั้งคู่แต่ 3 ชิ้นแรกนำไปราดซอสสไปซี่รสหวาน-เผ็ด ส่วนอีก 3 ชิ้นนำไปท๊อบด้วยเอนกาวะลนไฟทานคู่กับซอสโคชูจังตกแต่งด้วยไข่ปลา ให้ข้าวด้านในมาบางไส้กับเครื่องเยอะทานได้สะใจดีครับ
เรามากัน 6 คนพอดีและโรลขนาดใหญ่ชิ้นนึงก็เสิร์ฟ 6 ชิ้นเลยอยากลองดีกับเมนูที่รวมเอาแต่วัตถุดิบสุดยอดที่รวมเอาไขมันสุดเลี่ยนไว้ในเมนูเดียวกันอย่าง "โรลโอโทโร่สเปเชียลท๊อบเอนกาวะฟัวกราส์ไข่กุ้ง" แค่ได้ยินชื่อก็ชวนไขมันจุกอกแล้วแต่ไหนๆมากันเยอะก็ลองดูคนละชิ้น เป็นโรลซูชิด้านในสอดไส้โอโทโร่กับไข่หวานม้วนแล้ววางเอนกาวะก่อนจะตามด้วยกัวกราส์ชิ้นเล็กๆลนไฟจนสุกหอมก่อนจะราดด้วยซอสซีอิ๊วหวานสูตรของที่ร้านตามด้วยไข่กุ้งส้มประดับพอสวยงาม รสชาติทั้งมันทั้งหวานหอมกลิ่นเบิร์นไฟอ่อนๆทานคนละชิ้นรู้สึกว่ากำลังดีแต่ถ้าคุณเป็นสายแข็งจะลองทานทั้งชิ้นดูก็ได้นะครับ ตัดความเลี่ยนด้วยเมนูสุดคลาสสิคอย่างซูชิหน้าไข่ปลาแซลมอนของร้านนี้ใช้แบบลูกเล็กดองโชยุมาเค็มอ่อนๆทานได้เพลินๆ ซูชิหน้าไข่กุ้งอร่อยกลมกล่อมไข่กุ้งแต่กในปลากเข้ากับสาหร่ายกรอบได้เป็นอย่างดีส่วนซูชิยำสาหร่ายก็ใส่ไข่กุ้งเพื่อเพิ่มสัมผัสพิเศษทานง่ายๆ เพิ่มความกรุบกรอบกลังจากการทานเนื้อปลาดิบมาอย่างยาวนานด้วย "กุ้งเทมปุระทอดเสิร์ฟครั้งละ 3 ตัว" ที่นี่ใช้กุ้งตัวใหญ่เนื้อหวานแน่นชุบแป้งทอดมากรุบกรอบดี ทานคู่กับซอสของทอดใส่ขิงและไชเท้าขูดรสเค็มหอมน้ำมันงาแต่จืดไปหน่อยต้องซดน้ำจิ้มตามถึงจะได้รสชาติครับ
****** เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ ******
ชื่อสินค้า:
Yuzawa Izakaya
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
Fine Dining อาหารไทย 6,000++/คน ที่การันตีความปังด้วย MICHELIN Guide 2025
Royal Osha Fine Dining อาหารไทย ที่การันตีความปังด้วย MICHELIN Guide 2025 กับ Festive Set Menu เซตพิเศษ 10 คอร์ส (6,000++/คน) ที่เชฟรังสรรค์มาในคอนเซปต์ Classic Thai Elegance Reinvented นำวัตถุดิบไทยม
มิกิชวนกิน
[CR] BufFeast Review :"Kisekhi" ร้านปลาดิบชาบูที่แหวกไม่เหมือนใคร @สุขุมวิท 63
พูดถึงร้านพวกหม้อต้มชาบูที่โผล่กันมามากมายนับไม่ถ้วนนั้น ถ้าบางร้านไม่งัดกลยุทธ์เด็ด ซึ่งก็คือ ความหลากหลายแล้ว ก็คงสู้ร้านอื่นไม่ได้ ซึ่งร้านที่ผมจะมารีวิววันนี้ก็คือหนึ่งในนั้น Kisekhi ที่ซึ่งมีทั้
TheHeatBufFeast
เดินตลาดโต้รุ่งหลัง รพ ภูมิพล กับ ร้านอาหารสวัสดิการ
ใกล้บ้าน ไปเดินออกกำลังกาย แล้วกินข้าวใช้คนละครึ่ง ราคาสวัสดิการด้วยครับ เด็กนักเรียนมานั่งกันเยอะดี จ่ายชุดปลาแซลมอนไป 80 ปลาแซลมอนย่างอร่อยดี ซอสเทอริยากิหวาน ๆ มีซุปมิโซะกับเยลลี่แถมด้วยคร
สมาชิกหมายเลข 4755513
Rooftop ร้านเกาหลี วิวเมืองกรุง vibe ดี อาหารอร่อย
ANJU Korean Rooftop Bar รูฟท็อปร้านเกาหลีฟิวชัน ที่รวมไว้ทั้งบรรยากาศเก๋ วิวเมืองกรุงเทพ และเมนูที่ไม่ใช่แค่ถ่ายรูปสวยอย่างเดียว แต่ยังอร่อยด้วย มีทั้งอาหารคาว ของกินเล่น และของหวาน รวมไปถึงเครื่องดื่
มิกิชวนกิน
สายเนื้อฝั่งธนฯ ส่งตรงจากโอซากา คัดสรรโดยเชฟชาวญี่ปุ่นแท้ๆ
สายเนื้อฝั่งธนฯ มารวมกันตรงนี้ ใครรักเนื้อ ชอบเนื้อ อยากให้มาโดน Kissyan Sumibi Iconsiam ร้านเนื้อเกรดพรีเมียม ส่งตรงจากโอซากา คัดสรรโดยเชฟชาวญี่ปุ่นแท้ๆ เนื้อที่ว่านุ่ม ที่ว่าหอม ที่ว่าละลาย รวมอยู่ต
มิกิชวนกิน
SuShi Hana สาขาทองหล่อ
ซูชิ ฮานะ สาขา Fifty Fifth ทองหล่อ ร้าน ซูชิ ฮานะ เค้ามีสาขาใหม่มาเปิดใจกลางเมือง ที่ซอยทองหล่อ พิกัด อาคาร Fifty Fifth ทองหล่อ ซอย 2 ค่ะ ร้านอยู่ชั้น 1 นะคะ บรรยากาศร้านขนาดกะทัดรัด พร้อมหน้าบาร์ให
monlada
โอมากาเสะที่ คนญี่ปุ่นแนะนำต่อ และจองกันแน่น Shakarich คอร์ส Miyabi 3,500++
Shakarich Omakase โอมากาเสะที่คนญี่ปุ่นไว้ใจ พร้อมห้องไพรเวตแบบจัดเต็ม รองรับได้สูงสุดถึง 22 คน เหมาะมากทั้งงานเลี้ยงบริษัท ปาร์ตี้วันเกิด หรือดินเนอร์กับคนรู้ใจ เครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต
มิกิชวนกิน
รีวิวร้าน Neta Grill สาขา Mega Bangna บุฟเฟ่ต์ยากินิคุ/ซีฟู๊ดระดับพรีเมี่ยมราคาเริ่มต้นแค่คนละ 499+!
วันนี้ผมได้รับการรับเชิญจาก PR ของร้าน Neta Grill ให้เข้ามารีวิวบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างยากินิคุ/ซีฟู๊ดและซูชิระดับพรีเมี่ยมของที่ร้านราคาเริ่มต้นคนละ 499++ โดยวันนี้เรามารีวิวกันที่สาขา Mega Bangna เพราะว่าเ
Food Addicts
รู้ไหม? ปลาดิบสีส้ม ในร้านบุฟเฟต์ ส่วนใหญ่ไม่ใช่ "แซลมอน" แท้จริงมันคือปลาอะไร?
https://www.sanook.com/news/9856502/ ปลาดิบเนื้อสีส้มที่คุ้นเคย แท้จริงไม่ใช่ "แซลมอน" ? รู้จัก "ปลาเทราต์" ที่หลายร้านเลือกใช้ หลายคนชื่นชอบการรับประทานปลาดิบเนื้อสีส้มมันวาว โดย
สมาชิกหมายเลข 8930230
ซูชิหน้าล้นๆ อร่อยเต็มคำที่โอซาก้า (Uoshin sushi 魚心) #WheretoTabiTabi
ซูชิหน้าล้นนนนนนนซักคำไม๊ล่ะเทอว์!!!? แน่นอนว่าไปญี่ปุ่นทั้งที จะพลาดซูชิคงเป็นไปไม่ได้ ซูชิธรรมดาๆก็คงไม่สาแก่ใจอิช้อย อิช้อยเลยอาสาขอพาไปชิมซูชิหน้าล้น ล้นทะลัก ล้นมิดข้าว ล้นปาก ล้นๆกันคร่า โฮตาเตะ
Whereto Tabi Tabi
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
อาหารญี่ปุ่น
อาหารบุฟเฟ่ต์
อาหารคาว
ซูชิ
ร้านอาหาร
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 68
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิว Yuzawa Izakaya ร้านซูชิบาร์-อาหารญี่ปุ่นเสิร์ฟโอโทโร่ไม่อั้นแค่คนละ 1,890 ฿ ภายในซอยพหลโยธิน 5
เข้ามาบรรยากาศภายในร้านถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนคือด้านนอกติดริมถนนมีห้องกระจกติดแอร์เพด้านห้อยด้วยไม้เลื้อยดูสบายตา ส่วนด้านในต้องเดินผ่านประตูบานไม้เข้าไปก็จะพบกับโซนญี่ปุ่นมองเห็นบาร์ซูชิและกำแพงที่วาดเป็นรูปปลามากุโร่สีขาว-ดำแสดงถึงวัตถุดิบที่เป็น Signature ของทางร้านได้เป็นอย่างดี บาร์ซูชิของร้านเป็นแบบเปิดโล่งสามารถมองเห็นการหั่นปลาและตกแต่งได้ทุกขั้นตอนส่วนครัวร้อนแยกต่างหากอยู่ด้านใน เนื่องจากเราไม้ได้จองมาก่อนทำให้พื้นที่ด้านในวันนี้เต็มหมดแล้ว (เห็นว่าลูกค้าจองผ่าน Hungry Hub 20 กว่าที่นั่ง) วันนี้พวกเราจึงต้องออกมานั่งโซนด้านนอกแทนและโชคดีอีกอย่างคือวันนี้แดดไม่ร้อนทำให้นั่งริมหน้าต่างได้รับแสงแดดเบาๆดีครับ
มาถึงพนักงานก็จัดการต่อโต๊ะยาวให้แต่เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างแคบเลยต้องแบ่งเป็น 4 คน และ 2 คนต่อโต๊ะแทน ตามมาด้วยจานรอง-ตะเกียบ-ถ้วยใส่โชยุพร้อมวาซาบิและขิงดองถูกยกออกมาเตรียมทานคู่กับซาชิมิ/ซูชิต่างๆภายในร้าน ส่วนเครื่องดื่มมีบริการให้ฟรีไม่คิดเงินเพิ่มคือชาเขียวร้อนและชาเขียวเย็นใส่เหยือกและกาวางไว้ให้ข้างๆเตรียมเติมได้ตลอดเวลา ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมแล้วน้องพนักงานก็นำเล่มเมนูออกมาให้เราสั่งอาหารกันครับ
เมนูบุฟเฟ่ต์ของที่ร้านก็ใช้แบบเดียวกันกับใน Hungry Hub ไม่ได้แตกต่างกันราคาคนละ 1,890 บาทถ้วนไม่มีบวก Vat. หรือ Service Charge เพิ่มเติม เมนูลำดับที่ 1-5 สามารถสั่งได้เพียงแค่คนละ 1 รายการเท่านั้น 6-83 สั่งได้เรื่อยๆจนกว่าจะอิ่ม ให้เวลาในการทานทั้งหมด 2 ชิ่วโมงเต็ม (ถือว่าเยอะกว่าร้านคู่แข่งที่มักจะให้เวลาแค่ 1.30 ชม.) และซูชิปลามากุโร่ทั้ง 3 ส่วนยังสามารถสั่งคละกันได้ไม่ได้บังคับมาเป็นชุดอีกด้วย (แต่เสิร์ฟชุดละ 3 ชิ้น) รวมถึงซูชิหน้าอื่นๆที่ร้านเขาเสิร์ฟให้เป็นชุดละ 2 คำ นอกจากนี้ยังมีซูชิโรล/ซาชิมิ/อาหารทานเล่น/ข้าวหน้าไซส์มินิ/จานหลักและขนมหวานรวมในราคาบุฟเฟ่ต์หมดแล้วทุกอย่างที่เหลือก็แค่สั่งและทานให้หมดเพราะเขาปรับจริงตามราคาที่เขียวเอาไว้ในเมนู แนะนำสำหรับคนที่ไม่เคยทานบุฟเฟ่ต์โอโทโร่มาก่อนแนะนำว่าค่อยๆสั่งมาทานทีละนิดดีกว่าครับ
เดินเข้ามาที่ซูชิบาร์ขอเชฟเขาดูโอโทโร่ของที่ร้านลายแทรกไขมันสวยงามราวกับเนื้อวัววากิวดูรู้เลยว่าเป็น Blue Fin จริงๆเพราะทานมาบ่อยมากๆเลยสั่งเมนูชุดแรกเป็น "Heaven Set" ปลาดิบรวมทั้งโอโทโร่/ชูโทโร่/อากามิ/ฮามาจิ/แซลมอนและทาโกะรวมมาในเรือเดียวกัน ทุกชิ้นคุณภาพสูงเสิร์ฟมาชิ้นหนาสมราคาแต่มีบางส่วนติดเอ็นมานิดหน่อยก็ถือว่ารับได้เพราะที่สั่งมาไม่ใช่แบบ A La Carte จานต่อไปเป็นเมนูพิเศษที่ราคาสูงรองลงมาจากจานแรกคือ "Wagyu Steak" หรือสเต็กเนื้อวากิวญี่ปุ่นย่างเสิร์ฟมาในกระทะร้อนสุกแบบ Medium Rare แทรกไขมันอมชมพูตรงจุดกลางทานคู่กับซอสโชยุเนยหวานผักต่างๆทานคู่กับกระเทียมเจียวสไลด์ก็อร่อยแล้ว จะจิ้มกับน้ำซอส 3 สูตรหรือไม่ยังไงก็ดีงามเพราะเนื้อวัวและซอสดีมากอยู่แล้ว เหมาะทานคู่กับข้าวสวยญี่ปุ่นอีกสักชามถ้าไม่ได้ทานบุฟเฟ่ต์
เมนูพิเศษอื่นๆทยอยมาเสิร์ฟอีกคือ "Kaki Nama Oyster" ปกติเขาเสิร์ฟให้แค่ 1 คนต่อ 1 ตัวแต่ไซส์ที่เข้ามาในวันนี้เล็กกว่าปกติที่ร้านเลยเสิร์ฟมาให้ 2 ตัว (จินตนาการไม่ออกเลยว่าหอยญี่ปุ่นไซส์ใหญ่กว่านี้หน้าตาเป็นยังไง) เป็นหอยนางรมสดนำเข้าจากแระเทศญี่ปุ่นราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู๊ดสุดเปรี้ยวแซ่บโรยหอมเจียวทอดกรอบกับไข่แซลมอนได้รสชาติอร่อยสะใจสไตล์ไทยๆ ส่วนคุณพ่อกับคุณแม่ผมกลัวอิ่มเร็วเลยสั่งเป็นซูชิคนละคำที่ใช้วัตถุดิบสุดพรีเมี่ยมให้เพียงคนละ 1 คำได้แก่ "Uni Sushi" เป็นซูชิหน้าไข่หอยเม่นญี่ปุ่นให้มาถึง 2 ชั้นพูนรสชาติหวานมันเหมือนพุดดิ้งละลายในปากผสมกับข้าวซูชิรสหวานอมเปรี้ยวหอมสาหร่ายสุดฟินห์ ถ้าอยากทานอีกที่ร้านคำละ 447 บาทนะครับ
ส่วนจานนี้เราลงมติกันแล้วว่าคุ้มที่สุดเพราะได้ทานวัตถุดิบคุณภาพพรีเมี่ยมพร้อมกันหลายๆอย่างในชามเดียวคือ "ChiraChi Umami Don" เป็นข้าวหน้าปลาดิบรวมที่ด้านล่างเป็นข้าวซูชิปรุงรสท๊อปปิ้งด้วยมากุโร่ทั้ง 3 ส่วน /ไข่หอยเม่น/ปลาแซลมอน/ไข่ปลาแซลมอน/ปลาฮามาจิ/ปลาไหลย่างญี่ปุ่น เพิ่มความกรุบกรอบด้วยแตงกวาญี่ปุ่นสดๆได้ทานปลาดิบพร้อมข้าวอย่างหลากหลายในชามเดียว เมนูต่อไปก็เป็นข้าวหน้าแบบ Mini Dorburi ที่ใส้ข้าวให้น้อยแต่ปลาเยอะคือ "ข้าวหน้าโทโร่แซลมอนสับซอสมันปู" เป็นแซลมอนสับกับปลามากุโร่รวมทุกส่วนสับปรุงรสกับต้นหอมให้ความหวานมันและเพิ้มกลิ่นหอมด้วยมิโสะมันปูกับไข่กุ้ง (ไข่ปลาบินปรุงรส) ช่วยเพิ่มความกลมกล่อมและกรุบกรอบให้กับข้าวที่มีแต่เนื้อปลาสับชิ้นเล็กๆ คลุกให้เข้ากันทีละส่วนหรือทั้งหมดก็ได้ทานได้หลายแบบในชามเดียว
หมดจากเมนูหลักแล้วก็สั่งเมนูที่เราอยากทานมาก่อนส่วนมากุโร่ค่อยปิดท้ายอีกครั้ง เพราะเดี๋ยวเลี่ยนเกินไปจนทำให้ทานเมนูอื่นได้น้อย เริ่มจากเมนูที่มีปริมาณไขมันรองลงมาอย่าง "ซูชิหน้าตับห่าน" ชิ้นบางๆมาพร้อมกับข้าวคำเล็กพันด้วยสาหร่ายราดซอสมิโสะหวานหอมกลิ่นน้ำผึ้ง มาต่อกันด้วย "ชูชิเอนกาวะท๊อบตับห่าน" เป็นส่วนครีบของปลาตาเดียวย่างลนไฟไปพร้อมกับตัวห่านได้ความมันแบบ X2 ตามมาด้วย "ซูชิกุ้งหวานตัวใหญ่พิเศษ" เนื้อกรอบๆเคี้ยวเต็มคำหวานเด้งเพิ่มความมันของฟัวกราส์ผสมกับซอสสูตรพิเศษทำให้อร่อยลงตัวมากยิ่งขึ้น ถ้าหากรู้สึกว่ามีไขมันเยอะเกินไปก็สามารถสั่งให้แบบไม่ใส่ฟัวกราส์หรือราดซอสมาอย่างเดียวก็ได้ เนื่องจากทานแต่ที่ใส่ฟัวกราส์ไปหลายคำแล้วก็ต้องตัดเลี่ยนด้วยเมนูไทยๆอย่าง "แซลมอนยำไทย" รสชาติเปรี้ยว/หวาน/เผ็ดร้อนฉุนกระเทียม/พริกสดช่วยลดความเลี่ยนจากเนื้อแซลมอนมันๆได้เป็นอย่างดี ถ้าไม่ชอบแซลมอนก็มีปูอัดกับปลาดิบรวมให้ทำยำได้ด้วย
เมนูท๊อบฟัวกราส์ยังไม่หมดยังมีปลาไหลกับเนื้อวากิวมาเสิร์ฟอีก แต่ในฐานะสาวก "ปลาไหลญี่ปุ่น" ร้านนี้ทำให้ไม่ค่อยถูกใจเพราะให้มาชิ้นเล็กและบางจนเกินไปไม่เหมือนกับหลายร้านที่ขายราคาบุฟเฟ่ต์ถูกกว่าแต่ให้ชิ้นหนาใหญ่มากกว่า ส่วนเนื้อวากิวที่ร้านอื่นมักจะมาชิ้นบางแบบผ้าห่มแต่ที่นี่ห่อมาเป็นชั้นทานง่ายเคี้ยวเต็มคำมากกว่าถือว่าก็มีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันครับ เมนูหลังๆเริ่มออเดอร์เป็นแบบลนไฟรัวๆเพราะกลัวทานไม่ได้เยอะเริมจากเมนู "โรลแซลมอนเอนกาวะและโรลแซลมอนสไปซี่" ในเล่มเมนูเขียนว่าเสิร์ฟอย่างละ 4 คำ แต่ของจริงที่ร้านเสิร์ฟให้แค่อย่างละ 3 คำเท่านั้น (ซึ่งถือว่าดีงาม) ไส้ด้านในทั้ง 2 เมนูเหมือนกันเพราะทำมาจากซูชิโรลชิ้นเดียวกันคือปูอัด/ไข่หวาน/แตงกวาญี่ปุ่น ท๊อบปิ้งด้วยแซลมอนสดทั้งคู่แต่ 3 ชิ้นแรกนำไปราดซอสสไปซี่รสหวาน-เผ็ด ส่วนอีก 3 ชิ้นนำไปท๊อบด้วยเอนกาวะลนไฟทานคู่กับซอสโคชูจังตกแต่งด้วยไข่ปลา ให้ข้าวด้านในมาบางไส้กับเครื่องเยอะทานได้สะใจดีครับ
เรามากัน 6 คนพอดีและโรลขนาดใหญ่ชิ้นนึงก็เสิร์ฟ 6 ชิ้นเลยอยากลองดีกับเมนูที่รวมเอาแต่วัตถุดิบสุดยอดที่รวมเอาไขมันสุดเลี่ยนไว้ในเมนูเดียวกันอย่าง "โรลโอโทโร่สเปเชียลท๊อบเอนกาวะฟัวกราส์ไข่กุ้ง" แค่ได้ยินชื่อก็ชวนไขมันจุกอกแล้วแต่ไหนๆมากันเยอะก็ลองดูคนละชิ้น เป็นโรลซูชิด้านในสอดไส้โอโทโร่กับไข่หวานม้วนแล้ววางเอนกาวะก่อนจะตามด้วยกัวกราส์ชิ้นเล็กๆลนไฟจนสุกหอมก่อนจะราดด้วยซอสซีอิ๊วหวานสูตรของที่ร้านตามด้วยไข่กุ้งส้มประดับพอสวยงาม รสชาติทั้งมันทั้งหวานหอมกลิ่นเบิร์นไฟอ่อนๆทานคนละชิ้นรู้สึกว่ากำลังดีแต่ถ้าคุณเป็นสายแข็งจะลองทานทั้งชิ้นดูก็ได้นะครับ ตัดความเลี่ยนด้วยเมนูสุดคลาสสิคอย่างซูชิหน้าไข่ปลาแซลมอนของร้านนี้ใช้แบบลูกเล็กดองโชยุมาเค็มอ่อนๆทานได้เพลินๆ ซูชิหน้าไข่กุ้งอร่อยกลมกล่อมไข่กุ้งแต่กในปลากเข้ากับสาหร่ายกรอบได้เป็นอย่างดีส่วนซูชิยำสาหร่ายก็ใส่ไข่กุ้งเพื่อเพิ่มสัมผัสพิเศษทานง่ายๆ เพิ่มความกรุบกรอบกลังจากการทานเนื้อปลาดิบมาอย่างยาวนานด้วย "กุ้งเทมปุระทอดเสิร์ฟครั้งละ 3 ตัว" ที่นี่ใช้กุ้งตัวใหญ่เนื้อหวานแน่นชุบแป้งทอดมากรุบกรอบดี ทานคู่กับซอสของทอดใส่ขิงและไชเท้าขูดรสเค็มหอมน้ำมันงาแต่จืดไปหน่อยต้องซดน้ำจิ้มตามถึงจะได้รสชาติครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น