เรื่องมีอยู่ว่าเราไปดาวน์คอนโดไว้ 1 ห้องที่โครงการของ The T**K ในซอยสุขุมวิท39 และในสัญญาระบุวันส่งมอบเป็นเดือนมีนาคม แต่ปรากฏว่าคอนโดสร้างไม่เสร็จตามกำหนด ขอเลื่อนออกไปเรื่อยๆ โดยไม่มีกำหนด เลื่อนทีละเดือน สองเดือน แต่กว่าจะส่งจดหมายออกมาอย่างเป็นทางการก็เกือบสิ้นปี แต่พอดีเราอาศัยอยู่ใกล้ๆ ซึ่งมองเห็น Progress งานก่อสร้างทุกๆวัน และพอจะบอกได้ว่าไม่มีทางเสร็จทันตามที่เค้าบอก เราลองไปที่ไซท์งานหลายครั้งเพื่อดูความคืบหน้า(เผื่อว่าจะประเมิณผิด) แต่ก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ
สำหรับคนที่ดาวน์ห้องไว้เพื่อใช้อยู่อาศัยเองนั้น เราต้องมีกำหนดระยะเวลาชัดเจนเพื่อวางแผนชีวิต ตอนแรกเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่รอได้จึงไปเช่าห้องทำสัญญาระยะสั้นอยู่ไปก่อน แต่โครงการนี้ไม่มีวี่แววจะเสร็จตามที่บอกไว้เลย....
เมื่อเทียบกับเงินที่สูญเสียไปในการเช่าห้องระยะสั้นที่ราคาจะสูงกว่าปกติเกือบเท่าตัว ซึ่งเราเริ่มไม่ไหว เราเป็นแค่มนุษย์เงินเดือนธรรมดาจะให้มาเสียเงินดาวน์ทิ้งไว้แล้วต้องมานั่งเช่าห้องราคาสูงไปเรื่อยๆอย่างไม่มีกำหนดอีก จึงตัดสินใจส่งคำขอยกเลิกสัญญา แต่ก็ไม่มีใครติดต่อกลับมา จนในที่สุดต้องแจ้งไปที่ สคบ. แต่แล้ว สคบ. กลับนัดแล้วจำเลยไม่มา ให้เราเสียเวลาไปเองคนเดียวในครั้งแรก ส่วนการนัดครั้งที่สอง สคบ.นัดจำเลยแต่ไม่นัดเราซึ่งเป็นโจทก์ มาทราบอีกทีก็ตอนที่นอนรอเข้าห้องผ่าตัดที่ รพ. ว่าเค้านัดกันวันนั้น
ความคาดหวังที่ว่า สคบ.จะเจรจาไกล่เกลี่ยให้เราได้ ได้หมดลง หลังจากที่เราออกจากห้องผ่าตัดและทราบข้อความที่ฝากไว้กับญาติ ว่าทาง สคบ. ได้ตกลงสรุปความตามที่จำเลยขอ!!! ซึ่งไม่ใช่เจตนาของโจทก์เลย คือ เราดาวน์ไปทั้งหมด ล้านกว่าบาท ผ่อนต่ออีก 7 งวดก็อีก สองแสนกว่าบาท แต่ทางโครงการจะมาขอหักเงินสองแสนบาท โดยอ้างว่าเอาไปให้คนซื้อคนก่อน (พูดปากปล่าวโดยไม่มีหลักฐานใดๆ) แบบนี้ สคบ. จึงมาบอกให้เรายอมไปที่จำนวนนั้น ซึ่งเราว่ามันไม่ยุติธรรมเลยถ้าแบบนี้เค้าอ้างว่าเงินก้อนที่เราจ่ายไป ได้เอาไปให้ลูกค้าคนก่อน 5 แสนบาทหรือมากกว่านั้น เราไม่ตายหรอกหรอ 2 แสนอ่ะสำหรับบริษัทใหญ่ๆอาจเล็กน้อยแต่สำหรับคนหาเช้ากินค่ำอย่างเรามันทำให้เราอยู่ได้หลายเดือนเลยนะ
สคบ. ยอมความ (โดยไม่ได้รับอนุมัติจากโจทก์) และอนุญาตให้ทางโครงการจ่ายเรามาโดยหักเงินไปสองแสนบาทตามที่อ้าง และให้แบ่งจ่ายเป็น สองงวด
ซึ่งงวดแรกทางโครงการจ่ายมาก็ไม่ครบแล้วแถมงวดที่สองไม่ยอมจ่าย!!!
ยังไม่จบแค่นั้น เราพยายามโทรไปเจรจาไกล่เกลี่ยกับโครงการ แต่กลับโดนท้าทายให้ขึ้นศาล (เพราะเค้ารู้ว่าการขึ้นศาลมันใช้เวลานาน) แกมบังคับให้เรายอมโดยที่ไม่ใยดีในความเดือดร้อนของเราเลย แล้วยังมีหน้ามาพูดว่า ช่วงนี้คอนโดขายไม่ได้อยู่ดี...... แต่!!!..... เดี๋ยวนะ!!!...... ขายไม่ได้เลยมาเอาเปรียบเราแทน??!!!
ต่อมาเราก็ฟ้องศาลแพ่งตามขั้นตอน กว่าจะคัดคำฟ้อง กว่าจะได้เริ่มนัดพิจารณาคดี ใช้เวลาหลายเดือน แถมมาเจอช่วงโควิดไปอีก โดนเลื่อนมาครึ่งค่อนปี
วันไปศาลตามประสาคนไม่เคยและนี่เป็นครั้งแรก ศาลนัดเวลา 13:30น. เราก็รีบไปรอก่อนเลย ไปถึงตั้งแต่เที่ยงนั่งรออยู่หน้าห้องพิจารณาคดี มีกระดาษปิดไว้หน้าห้องแจ้งเคสในวันนั้นอยู่หนึ่งแผ่น แล้วเคสเราอยู่ในลำดับที่สอง พร้อมกับยังไม่ถึงเวลานัดหมาย จึงนั่งรออยู่หน้าห้อง ระหว่างรอก็มองแล้วมองอีกไม่มีป้ายบอกว่าต้องปฏิบัติตัวยังไง ต้องทำยังไง ไม่มีใครสักคนให้ถามหรือบอกอะไรเลย....... รอไปสองชั่วโมงกว่าเกือบสามชั่วโมง... ในที่สุด ทนายฝั่งตรงข้ามเดินมาหาเราแล้วมาขอให้เรายอมรับในสิ่งที่เค้าเสนอมา แต่ทุกคน!!! เข้าใจมั้ยว่าเงินที่เเค้าเสนอมาเป็นจำนวนที่หายไปครึ่งนึง แบบนี้ใครจะรับได้ เราก็ไม่ยอม เข้าห้องพิจารณาคดีไปเคลียร์ต่อ ต่อหน้าศาล
นาทีแรกที่เข้าไปโดนตำหนิก่อนเลยว่ามาสายไม่ตรงนัด ผู้พิพากษาที่นั่งบนแท่นก็ออกอาการไม่พอใจ แล้วหันมาบอกเราว่าจะเอายังไง ยอมเค้ามั้ย เราก็บอกว่ายอมไม่ได้หรอก เราสูญเสียไปมากกว่าที่เราจะได้กลับมาด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะค่าเช่าเอย ค่าดอกเบี้ยที่เราต้องเสียให้ธนาคารเนื่องจากเงินก้อนเรามาจมอยู่ตรงนี้เอย ค่าดอกเบี้ยที่เสียเวลาเอย แล้วที่เราต้องลางานหลายครั้งเพื่อไปดำเนินการอีกหล่ะ จนเราบอกว่า ดอกเบี้ยเราก็ควรต้องได้แล้วจุดนี้ แต่คู่กรณียืนกรานจะจ่ายแค่เท่าที่อยากจ่าย ซึ่งเงินเราหายไปเกือบครึ่งล้านอย่างที่บอกไว้ ...... แบบนี้ก็ได้หรอ??.... เราหันไปถามศาลด้วยความมึนงง ศาลกลับตอบเรามาว่า "ศาลก็ช่วยอะไรไม่ได้ค่ะ มันเป็นช่องโหว่ของกฏหมาย! ถ้าคุณไม่ยอม คุณก็ต้องฟ้องไปเรื่อยๆ อาจเสียเวลาอีก เป็นปีๆ โดยอาจจะได้หรือไม่ได้ด้วยซ้ำ" พูดแค่นี้เลย เราหมดหวังกับความยุติธรรมของประเทศนี้ไปเลย แล้วน้ำตามันก็ร่วงออกมาเอง กลางศาลเลย.....
ไหนว่า สคบ. หรือ ศาลจะเข้าข้างผู้บริโภค เพราะหลักฐานก็มี แต่เพราะเราไปคนเดียวหรอ ถึงกลับไปเข้าข้างจำเลยเฉยยยย แบบนี้มนุษย์ตัวเล็กๆตาดำๆ ก็โดนพวกนี้เอาเปรียบไปตลอดหรือไง เราผิดหวังกับความยุติธรรมในประเทศนี้มาก
ที่มาแชร์ในนี้อยากให้เป็นอุทธาหรณ์สำหรับคนที่จะซื้อคอนโดของบริษัทนี้ คิดให้ดี เอาเงินเราไปเป็นเล้าน พอทำตามสัญญาไม่ได้ แต่บอกไม่มีเงินเอามาคืน มันใช่หรอ? แล้วพวกคุณจะไว้ใจเค้าได้อีกหรอ คุณภาพก็ไม่ได้คุณภาพ ใครไม่เชื่อเชิญไปชมที่โครงการได้เลย แต่ขายแพงเทียบระดับ 5ดาว
ปล. เราไม่เคยโพสอะไรในพันทิปเลยสักครั้ง แต่เราไม่รู้จะระบายความอยุติธรรมนี้ที่ไหน ขอให้ทุกคนโปรดเข้าใจ เราไม่ได้มีเจตนาจะมาใส่ร้ายหรือทำให้ใครเสื่อมเสีย แต่ตอนนี้เราเดือดร้อนขนาดนี้ ซึ่งทางโครงการทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวเอาแต่เอาเปรียบผู้บริโภค และหากำไรเข้าบริษัทแบบนี้ มันยิ่งกว่าเลวอีกนะ!!
T**K Development โกงค่าเงินดาวน์
สำหรับคนที่ดาวน์ห้องไว้เพื่อใช้อยู่อาศัยเองนั้น เราต้องมีกำหนดระยะเวลาชัดเจนเพื่อวางแผนชีวิต ตอนแรกเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่รอได้จึงไปเช่าห้องทำสัญญาระยะสั้นอยู่ไปก่อน แต่โครงการนี้ไม่มีวี่แววจะเสร็จตามที่บอกไว้เลย....
เมื่อเทียบกับเงินที่สูญเสียไปในการเช่าห้องระยะสั้นที่ราคาจะสูงกว่าปกติเกือบเท่าตัว ซึ่งเราเริ่มไม่ไหว เราเป็นแค่มนุษย์เงินเดือนธรรมดาจะให้มาเสียเงินดาวน์ทิ้งไว้แล้วต้องมานั่งเช่าห้องราคาสูงไปเรื่อยๆอย่างไม่มีกำหนดอีก จึงตัดสินใจส่งคำขอยกเลิกสัญญา แต่ก็ไม่มีใครติดต่อกลับมา จนในที่สุดต้องแจ้งไปที่ สคบ. แต่แล้ว สคบ. กลับนัดแล้วจำเลยไม่มา ให้เราเสียเวลาไปเองคนเดียวในครั้งแรก ส่วนการนัดครั้งที่สอง สคบ.นัดจำเลยแต่ไม่นัดเราซึ่งเป็นโจทก์ มาทราบอีกทีก็ตอนที่นอนรอเข้าห้องผ่าตัดที่ รพ. ว่าเค้านัดกันวันนั้น
ความคาดหวังที่ว่า สคบ.จะเจรจาไกล่เกลี่ยให้เราได้ ได้หมดลง หลังจากที่เราออกจากห้องผ่าตัดและทราบข้อความที่ฝากไว้กับญาติ ว่าทาง สคบ. ได้ตกลงสรุปความตามที่จำเลยขอ!!! ซึ่งไม่ใช่เจตนาของโจทก์เลย คือ เราดาวน์ไปทั้งหมด ล้านกว่าบาท ผ่อนต่ออีก 7 งวดก็อีก สองแสนกว่าบาท แต่ทางโครงการจะมาขอหักเงินสองแสนบาท โดยอ้างว่าเอาไปให้คนซื้อคนก่อน (พูดปากปล่าวโดยไม่มีหลักฐานใดๆ) แบบนี้ สคบ. จึงมาบอกให้เรายอมไปที่จำนวนนั้น ซึ่งเราว่ามันไม่ยุติธรรมเลยถ้าแบบนี้เค้าอ้างว่าเงินก้อนที่เราจ่ายไป ได้เอาไปให้ลูกค้าคนก่อน 5 แสนบาทหรือมากกว่านั้น เราไม่ตายหรอกหรอ 2 แสนอ่ะสำหรับบริษัทใหญ่ๆอาจเล็กน้อยแต่สำหรับคนหาเช้ากินค่ำอย่างเรามันทำให้เราอยู่ได้หลายเดือนเลยนะ
สคบ. ยอมความ (โดยไม่ได้รับอนุมัติจากโจทก์) และอนุญาตให้ทางโครงการจ่ายเรามาโดยหักเงินไปสองแสนบาทตามที่อ้าง และให้แบ่งจ่ายเป็น สองงวด
ซึ่งงวดแรกทางโครงการจ่ายมาก็ไม่ครบแล้วแถมงวดที่สองไม่ยอมจ่าย!!!
ยังไม่จบแค่นั้น เราพยายามโทรไปเจรจาไกล่เกลี่ยกับโครงการ แต่กลับโดนท้าทายให้ขึ้นศาล (เพราะเค้ารู้ว่าการขึ้นศาลมันใช้เวลานาน) แกมบังคับให้เรายอมโดยที่ไม่ใยดีในความเดือดร้อนของเราเลย แล้วยังมีหน้ามาพูดว่า ช่วงนี้คอนโดขายไม่ได้อยู่ดี...... แต่!!!..... เดี๋ยวนะ!!!...... ขายไม่ได้เลยมาเอาเปรียบเราแทน??!!!
ต่อมาเราก็ฟ้องศาลแพ่งตามขั้นตอน กว่าจะคัดคำฟ้อง กว่าจะได้เริ่มนัดพิจารณาคดี ใช้เวลาหลายเดือน แถมมาเจอช่วงโควิดไปอีก โดนเลื่อนมาครึ่งค่อนปี
วันไปศาลตามประสาคนไม่เคยและนี่เป็นครั้งแรก ศาลนัดเวลา 13:30น. เราก็รีบไปรอก่อนเลย ไปถึงตั้งแต่เที่ยงนั่งรออยู่หน้าห้องพิจารณาคดี มีกระดาษปิดไว้หน้าห้องแจ้งเคสในวันนั้นอยู่หนึ่งแผ่น แล้วเคสเราอยู่ในลำดับที่สอง พร้อมกับยังไม่ถึงเวลานัดหมาย จึงนั่งรออยู่หน้าห้อง ระหว่างรอก็มองแล้วมองอีกไม่มีป้ายบอกว่าต้องปฏิบัติตัวยังไง ต้องทำยังไง ไม่มีใครสักคนให้ถามหรือบอกอะไรเลย....... รอไปสองชั่วโมงกว่าเกือบสามชั่วโมง... ในที่สุด ทนายฝั่งตรงข้ามเดินมาหาเราแล้วมาขอให้เรายอมรับในสิ่งที่เค้าเสนอมา แต่ทุกคน!!! เข้าใจมั้ยว่าเงินที่เเค้าเสนอมาเป็นจำนวนที่หายไปครึ่งนึง แบบนี้ใครจะรับได้ เราก็ไม่ยอม เข้าห้องพิจารณาคดีไปเคลียร์ต่อ ต่อหน้าศาล
นาทีแรกที่เข้าไปโดนตำหนิก่อนเลยว่ามาสายไม่ตรงนัด ผู้พิพากษาที่นั่งบนแท่นก็ออกอาการไม่พอใจ แล้วหันมาบอกเราว่าจะเอายังไง ยอมเค้ามั้ย เราก็บอกว่ายอมไม่ได้หรอก เราสูญเสียไปมากกว่าที่เราจะได้กลับมาด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะค่าเช่าเอย ค่าดอกเบี้ยที่เราต้องเสียให้ธนาคารเนื่องจากเงินก้อนเรามาจมอยู่ตรงนี้เอย ค่าดอกเบี้ยที่เสียเวลาเอย แล้วที่เราต้องลางานหลายครั้งเพื่อไปดำเนินการอีกหล่ะ จนเราบอกว่า ดอกเบี้ยเราก็ควรต้องได้แล้วจุดนี้ แต่คู่กรณียืนกรานจะจ่ายแค่เท่าที่อยากจ่าย ซึ่งเงินเราหายไปเกือบครึ่งล้านอย่างที่บอกไว้ ...... แบบนี้ก็ได้หรอ??.... เราหันไปถามศาลด้วยความมึนงง ศาลกลับตอบเรามาว่า "ศาลก็ช่วยอะไรไม่ได้ค่ะ มันเป็นช่องโหว่ของกฏหมาย! ถ้าคุณไม่ยอม คุณก็ต้องฟ้องไปเรื่อยๆ อาจเสียเวลาอีก เป็นปีๆ โดยอาจจะได้หรือไม่ได้ด้วยซ้ำ" พูดแค่นี้เลย เราหมดหวังกับความยุติธรรมของประเทศนี้ไปเลย แล้วน้ำตามันก็ร่วงออกมาเอง กลางศาลเลย.....
ไหนว่า สคบ. หรือ ศาลจะเข้าข้างผู้บริโภค เพราะหลักฐานก็มี แต่เพราะเราไปคนเดียวหรอ ถึงกลับไปเข้าข้างจำเลยเฉยยยย แบบนี้มนุษย์ตัวเล็กๆตาดำๆ ก็โดนพวกนี้เอาเปรียบไปตลอดหรือไง เราผิดหวังกับความยุติธรรมในประเทศนี้มาก
ที่มาแชร์ในนี้อยากให้เป็นอุทธาหรณ์สำหรับคนที่จะซื้อคอนโดของบริษัทนี้ คิดให้ดี เอาเงินเราไปเป็นเล้าน พอทำตามสัญญาไม่ได้ แต่บอกไม่มีเงินเอามาคืน มันใช่หรอ? แล้วพวกคุณจะไว้ใจเค้าได้อีกหรอ คุณภาพก็ไม่ได้คุณภาพ ใครไม่เชื่อเชิญไปชมที่โครงการได้เลย แต่ขายแพงเทียบระดับ 5ดาว
ปล. เราไม่เคยโพสอะไรในพันทิปเลยสักครั้ง แต่เราไม่รู้จะระบายความอยุติธรรมนี้ที่ไหน ขอให้ทุกคนโปรดเข้าใจ เราไม่ได้มีเจตนาจะมาใส่ร้ายหรือทำให้ใครเสื่อมเสีย แต่ตอนนี้เราเดือดร้อนขนาดนี้ ซึ่งทางโครงการทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวเอาแต่เอาเปรียบผู้บริโภค และหากำไรเข้าบริษัทแบบนี้ มันยิ่งกว่าเลวอีกนะ!!