เริ่มจากไปที่ Gemini
พิมพ์ว่า เป็นศาลจำลองให้หน่อย
1.คดีแพ่ง หรือคดีผู้บริโภค
2.ประเด็นเรื่องค่าจ้าง
3.ผมเขียนคำให้การของโจทก์และจำเลย
4.ให้คุณเป็นผู้พิพากษา และผู้ใหคำแนะนำทางกฎหมาย
คำให้การของโจทก์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โจทก์ชื่อ นางสาวสุดา ได้จ้างนายสม(จำเลย) เดินเอกสารผ่านกรมการกงศุล ผ่านแอพ Fast Work ในวันที่ 4 ตุลาคม 2568 เพื่อให้เดินเรื่องรับรองเอกสารทางการศึกษาประกอบด้วย ใบปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัย M และมหาวิทยาลัย C พร้อมทรานสคริป โดยจำเลยแจ้งว่า หากชำระเงินผ่าน แอพ Fast Work ตอนนี้จะจองคิววันที่ 7 ตุลาคม 2568 ให้
เมื่อถึงวันที่ 6 ตุลาคม 2568 พบว่าเอกสารยังไม่ส่งมาจากมหาวิทยาลัย จึงบอกให้นายสม รอเอกสารไปก่อน นายสมได้แจ้งว่าในใบเสนอราคา มีหมายเหตุว่า หากลูกค้าเอกสารไม่ครบ และต้องยกเลิกคิว มีค่าเสียโอกาส และค่าเสียคิว 300 บาท แต่นายสมไม่คิด เพื่อรักษาน้ำใจลูกค้า
ในวันที่ 14 ตุลาคม 2568 โจทก์ได้แจ้งให้จำเลย จองคิวรับรองเอกสาร เร็วที่สุด จำเลยแจ้งว่าได้จองคิวเผื่อให้โจทก์แล้วในวันที่ 17 ตุลาคม 2568 แต่เมื่อถึงวันที่ 16 ตุลาคม 2568 โจทก์พบกว่าเอกสารไม่ครบ จึงขอยกเลิกนัดกับจำเลยไปก่อน โดยจำเลยก็ไม่ได้เรียกค่าปรับ
ในวันที่ 19 ตุลาคม 2568 โจทก์ได้นัดให้จำเลยจองคิวโดยขอด่วนที่สุดอีกครั้ง โดยจำเลยจองคิววันที่ 21 ตุลาคม 2568 ช่วงบ่าย แต่เมื่อถึงวันที่ 21 ตุลาคม 2568 โจทก์ส่งเอกสารให้จำเลยไม่ครบ ในตอนเช้า แต่ได้ส่งเอกสารเพิ่มเติมไปให้อีกในตอนบ่าย เพื่อรับรองเอกสารให้ครบทุกฉบับ ในเวลา 15.30 น.จำเลยแจ้งว่า เอกสารของโจทก์ไม่ครบ ต้องมีสำเนาใบปริญญาบัตรภาษาไทยประกอบการยื่นด้วย
และจำเลยได้จองคิวด่วนให้ในวันที่ 22 ตุลาคม 2568 แล้ว แต่จำเลยได้เรียกร้องขอเงินเพิ่ม เนื่องจากจำเลยได้ไปจ้าง แมสเซ็นเจอร์ ดำเนินการแทน เป็นเงิน 310 บาท และในวันพรุ่งนี้อีก 300 บาท รวมเป็น 610 บาท แต่ด้วยความจำเป็น โจทก์จึงได้จ่ายเงินจำนวน 610 บาทไปก่อนเพื่อให้การดำเนินการรับรองเอกสารราบรื่น
จึงขอฟ้องเรียกเก็บเงิน 610 เนื่องจากจำเลย เรียกเงินมากกว่าค่าจ้างที่ตกลงกันไว้
ศาลได้รับทราบข้อเท็จจริงตามที่
โจทก์ (นางสาวสุดา) กล่าวอ้างแล้ว สรุปได้ว่า:
1.โจทก์จ้างจำเลย (นายสม) ผ่าน FastWork เพื่อรับรองเอกสาร
2.โจทก์เป็นฝ่ายผิดนัด/เอกสารไม่ครบหลายครั้ง (6 ต.ค., 16 ต.ค., 21 ต.ค.)
3.จำเลยเคยยกเว้นค่าปรับ/ค่าเสียโอกาสให้ 2 ครั้ง
4.ในครั้งที่ 3 (21 ต.ค.) จำเลยได้พยายามดำเนินการแล้ว (โดยจ้างแมสเซ็นเจอร์) แต่ไม่สำเร็จเพราะโจทก์ส่งเอกสารไม่ครบอีก (ขาดสำเนาใบปริญญาภาษาไทย)
5.จำเลยจึงเรียกเก็บเงินเพิ่ม 610 บาท (ค่าแมสเซ็นเจอร์ที่ไปเก้อ 310 บาท + ค่าดำเนินการในวันถัดไป 300 บาท)
6.โจทก์จำใจจ่าย แต่เห็นว่าเป็นการเรียกเก็บเกินกว่าที่ตกลง จึงฟ้องเรียกคืน
คำให้การณ์จำเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จำเลย นายสม ได้รับการว่าจ้างจากโจทก์ ผ่านแอพ Fast Work โดยการผิดนัดใน 2 ครั้งนั้น จำเลยไม่ได้เรียกเก็บเงินค่าปรับเพิ่มเติม
แต่ในครั้งที่ 3 วันที่ 21 ตุลาคม 2568 เนื่องจากโจทก์แจ้งว่าต้องการเอกสารด่วน จำเลยจึงจ้างแมสเซ็นเจอร์ ไปยื่นเอกสารแทน เนื่องจากกฎของกรมการกงสุล คน คนหนึ่ง จองคิวยื่นเอกสารได้ครั้งละ 7 วัน จำเลยจึงต้องจ้างแมสเซ็นเจอร์ ไปยื่นเอกสารแทนในราคา 110 บาท เมื่อถึงเวลา 14.20 น. โจทก์ได้นำเอกสารมายื่นเพิ่ม จำเลยต้องเรียก แมสเเซ็นเจอร์มารับเอกสารอีก เสียค่าธรรมเนียมมารับอีก 50 บาท เมื่อถึงคิว เจ้าหน้าที่กรมการกงสุลแจ้งว่า เอกสารของโจทก์ไม่ครบ ขาดสำเนาปริญญาบัตรภาษาไทย 2 ฉบับ แมสเซ็นเจอร์จึงได้นำเอกสารมาคืนจำเลย และจำเลยได้ขอคิวยื่นเอกสารแบบด่วนกับกรมการกงสุลไว้ ในวันที่ 22 ตุลาคม 2568 โดยมีค่านำมาคืนอีก 50 บาท ค่ารอคิว1 ชั่วโมองอีก 100 บาท รวมเป็น 310 บาท
จำเลยได้นำมาคำนวนแล้วว่า หากดำเนินการต่อไปจำเลยต้องขาดทุนแน่นอน จึงได้แจ้งกับโจทก์ว่า มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เนื่องจากจ้างแมสเซ็นเจอร์ ในวันที่ 21 ตุลาคม 2568 จำนวน 310 บาท และในวันที่ 22 ตุลาคม 2568 อีก 300 บาท รวมเป็น 310 บาท และค่าธรรมเนียรับรองกับกรมการกงสุลแบบคิวด่วนเพิ่มอีก 200 บาท แต่โจทก์รีบโอนเงินมาจำนวน 610 บาท จำเลยก็เห็นใจจึง ออกค่าธรรมเนียมอีก 200 บาทให้ พร้อมค่าส่งอีก 47 บาท
แต่มิได้จบเพียงเท่านั้นโจทก์ได้ไปรีวิวในแอพ Fast Work โดยให้ 1.8 ดาว (เต็ม5ดาว) และบอกว่าจำเลยทำเอกสารเปียกเป็นความผิดของจำเลย ทั้งที่แมสเซ็นเจอร์เป็นคนทำเปียก และจำเลยได้เสนอความรับผิดชอบว่า จะดำเนินการรับรองเอกสารให้โดยไม่คิดค่าแรง และค่าดำเนินการ โดยให้โจทก์ ออกค่าธรรมเนียมเอง
จึงขอให้พิพากษายกฟ้อง
ศาลได้รับคำให้การแก้คดีของจำเลย (นายสม) แล้ว"
"ศาลได้พิจารณาคำฟ้องของโจทก์ (นางสาวสุดา) ที่ประสงค์จะเรียกเงินจำนวน 610 บาทคืน โดยอ้างว่าเป็นการเรียกเก็บเงินเกินกว่าค่าจ้างที่ตกลงกันไว้"
"และศาลได้รับฟังคำให้การของจำเลย (นายสม) ที่ยอมรับว่าเรียกเก็บเงิน 610 บาทจริง แต่ปฏิเสธว่าไม่ใช่การเรียกเก็บเงินเกินสัญญา แต่เป็น 'ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง' อันเนื่องมาจากความบกพร่องของโจทก์ และ 'ค่าดำเนินการครั้งใหม่' ที่จำเป็นต้องทำ
ศาลเห็นว่า คำให้การของจำเลย (นายสม) ได้ให้รายละเอียดที่ชัดเจนมาก โดยเฉพาะการแจกแจงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในวันที่ 21 ตุลาคม 2568 ว่า 310 บาทนั้น มาจาก:
1.ค่าจ้างแมสเซ็นเจอร์ครั้งแรก (เพื่อเลี่ยงคิว 7 วัน) = 110 บาท
2.ค่าแมสเซ็นเจอร์กลับไปรับเอกสารเพิ่ม (ที่โจทก์ส่งช้า) = 50 บาท
3.ค่าแมสเซ็นเจอร์นำเอกสารไปคืน (เพราะเอกสารโจทก์ไม่ครบ) = 50 บาท
4.ค่ารอคิวของแมสเซ็นเจอร์ 1 ชั่วโมง = 100 บาท
รวม 310 บาท
5.จำเลยยังอ้างอีกว่า เงินส่วนที่เหลืออีก 300 บาท คือค่าดำเนินการสำหรับคิวใหม่ในวันที่ 22 ตุลาคม
ที่สำคัญที่สุด จำเลยอ้างว่า ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจริงคือ 310 + 300 + 200 (ค่าคิวด่วน) = 810 บาท แต่โจทก์โอนมาเพียง 610 บาท และจำเลยได้ "ยอมขาดทุน" โดยออกค่าคิวด่วน 200 บาท และค่าส่ง 47 บาทให้โจทก์เองด้วย
การชี้ประเด็นข้อพิพาท (กำหนดประเด็น)
เมื่อพิจารณาคำฟ้องและคำให้การแก้คดีแล้ว ข้อเท็จจริงส่วนใหญ่ไม่ขัดแย้งกัน (มีการจ้างจริง, มีการเลื่อนจริง 2 ครั้ง) แต่มีประเด็นที่ต้องวินิจฉัย ดังนี้:
ประเด็นที่ 1: สัญญาจ้างบริการตาม FastWork สิ้นสุดลงหรือไม่ เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายส่งเอกสารไม่ครบถ้วนในวันที่ 21 ตุลาคม 2568?
ประเด็นที่ 2: เงินจำนวน 610 บาท ที่จำเลยเรียกเก็บ ถือเป็น "ค่าเสียหาย" (สำหรับวันที่ 21) และ "ค่าจ้างสำหรับงานครั้งใหม่" (สำหรับวันที่ 22) ที่จำเลยมีสิทธิเรียกได้โดยชอบธรรม หรือถือเป็น "ส่วนหนึ่งของค่าจ้างเดิม" ที่จำเลยไม่มีสิทธิเรียกเพิ่ม?
(หมายเหตุของศาล: ส่วนประเด็นเรื่องการรีวิว 1.8 ดาว หรือเรื่องเอกสารเปียก แม้จะแสดงถึงความขัดแย้ง แต่ไม่อยู่ในประเด็นแห่งคดีที่ว่าด้วยการเรียกเงิน 610 บาทคืน ศาลจึงจะมุ่งพิจารณาเฉพาะเรื่องเงิน 610 บาทเท่านั้น)
การกำหนดภาระการพิสูจน์ (Mock Court ดำเนินการต่อ)
ผู้พิพากษา: "เนื่องจากจำเลย (นายสม) เป็นฝ่ายกล่าวอ้างว่า มี 'ค่าใช้จ่ายจริง' เกิดขึ้น 310 บาท จำเลยจึงมีภาระการพิสูจน์ (ต้องนำสืบ) ว่าค่าใช้จ่าย 310 บาทนั้นเกิดขึ้นจริงตามที่แจกแจงมา"
ผู้พิพากษา: (หันไปทางจำเลย) "จำเลย, คุณมีหลักฐานการโอนเงิน หรือแชทที่ตกลงจ้างแมสเซ็นเจอร์ในราคา 110 บาท, ค่ารับส่ง 50+50 บาท และค่ารอ 100 บาท หรือไม่? กรุณาแสดงต่อศาล"
ผู้พิพากษา: (หันไปทางโจทก์) "โจทก์ (นางสาวสุดา), ตามคำให้การของจำเลย เขาอ้างว่าเขาขาดทุนจากการรับงานของคุณ (เพราะจ่ายค่าคิวด่วน 200 และค่าส่ง 47 ให้) และเงิน 610 บาทนั้น คือต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงจากความผิดพลาดของตัวโจทก์เอง โจทก์จะคัดค้านข้อเท็จจริงเรื่องค่าใช้จ่าย 310 บาทของจำเลยหรือไม่?"
ผู้พิพากษา: "และโจทก์มีหลักฐานใดมาแสดงว่า ข้อตกลงใน FastWork นั้น ครอบคลุมการที่จำเลยต้องไปยื่นเอกสารให้ 'ไม่จำกัดจำนวนครั้ง' แม้ว่าผู้ว่าจ้าง (โจทก์) จะเป็นฝ่ายเตรียมเอกสารผิดพลาดเองก็ตาม?"
(ศาลรอการนำสืบพยานหลักฐานจากทั้งสองฝ่ายครับ)
คำให้การจำเลยเพิ่มเติม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในวันที่ 21 ตุลาคม 2568 ข้าพเจ้าได้จ้างนายปาล์ม ผ่านแอบ สกู้ดต้า ซื่งระบุไว้ในใบเสร็จจำนวน 110 บาท แต่เนื่องจากในวันนนั้ระบบขัดข้อง จำเลยจึงไปอ่านข้อกำหนดการคำนวณค่าใช้จ่ายในแอพสกู้ดต้า พบกว่า ค่านำเอกสารกลับมาส่ง (ไป-กลับ) จะเสียค่าธรรมเนียม 50% ของมูลค่าการจ้าง โดยไม่เกิน 200 บาท และ หากดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารกับหน่วยงานราชการ หากเกิน 30 นาที สามารถเรียกเก็บกับลูกค้าได้อีกชั่วโมละ 100 บาท
จากเหตุการณ์ในวันที่ 21 ตุลาคม 2568 โจทก์ให้เอกสารมา 2 ฉบับ เป็นเอกสารของมหาวิทยาลัย C และในเวลา 14.30 น.โจทก์ได้ส่งเอกสารมาเพิ่ม จำเลยจึงต้องเรียกนายปาล์ม คนขับผ่านแอพสกู้ดต้า มารับทำให้ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการกลับมารับ แต่เนื่องจากแอพพลิเคชั่นสกู้ดต้าขัดข้องในวันนั้น จึงต้องตกลงกันด้วยวาจาและเปิดข้อกำหนดให้นายปาล์มดู ซึ่งนายปาล์มก็รับได้
และในวันที่ 22 ตุลาคม 2568 จำเป็นต้องจ้างนายปาล์มเท่านั้น ไม่สามารถจ้างคนอื่นได้ แต่นายปาล์มบ้านอยู่เขตบางแค กรุงเทพ ต้องเดินทางมายัง กรมการกงสุล เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ มีค่าเดินทางตามแอพ 200 บาท และค่าไปรับเอกสารมาส่งให้จำเลยตอนบ่ายอีก 100 บาท ตามใบเสร็จที่มี
ศาลได้รับคำให้การเพิ่มเติมของจำเลย (นายสม) เพื่อชี้แจงรายละเอียดของค่าใช้จ่าย 610 บาทแล้ว"
"ศาลสรุปคำชี้แจงของจำเลยได้ดังนี้:"
จำเลยอ้างว่าเงิน 610 บาท แบ่งเป็น 2 ส่วน คือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงในวันที่ 21 ต.ค. และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในวันที่ 22 ต.ค.
ส่วนที่ 1: ค่าใช้จ่ายวันที่ 21 ต.ค. (รวม 310 บาท) จำเลยอ้างว่าได้จ้างนายปาล์ม (ผ่านแอป Skootar)
1. ค่าจ้างเริ่มต้น (ตามใบเสร็จ): 110 บาท
2. ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากโจทก์ส่งเอกสารเพิ่ม (เวลา 14.30 น.): จำเลยต้องเรียกนายปาล์มกลับมารับเอกสารเพิ่ม จำเลยอ้างว่าแม้แอปขัดข้อง แต่นายปาล์มตกลงคิดค่า "กลับมารับ" ตามวาจา (อิงตามกฎ Skootar) = 50 บาท
3.ค่ารอคิวที่กรมการกงสุล: นายปาล์มต้องรอคิวดำเนินการเกิน 30 นาที (ตามกฎ Skootar) = 100 บาท
4. ค่าตีกลับ (เมื่อพบว่าเอกสารไม่ครบ): นายปาล์มต้องนำเอกสารกลับมาคืน (ตามกฎ Skootar 50% ของค่าจ้าง) = 50 บาท
(ศาลหมายเหตุ: 110 + 50 + 100 + 50 = 310 บาท)
จำเลยอ้างว่าค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่ม (150 บาท) นี้ เกิดจากความผิดพลาดของโจทก์ 2 ประการ คือ (1) ส่งเอกสารไม่ครบในครั้งแรก และ (2) ส่งเอกสารไม่ครบถ้วนในที่สุด
ส่วนที่ 2: ค่าใช้จ่ายวันที่ 22 ต.ค. (รวม 300 บาท) จำเลยอ้างว่าจำเป็นต้องจ้างนายปาล์มคนเดิม (ซึ่งคุ้นเคยกับงานแล้ว)
1. ค่าเดินทางของนายปาล์ม (จากบางแค ไป หลักสี่): 200 บาท (ตามใบเสร็จ)
2. ค่ารับเอกสารไปส่งให้จำเลย (หลังเสร็จงาน): 100 บาท (ตามใบเสร็จ)
(ศาลหมายเหตุ: 200 + 100 = 300 บาท)
"คำให้การเพิ่มเติมนี้ ทำให้ข้อต่อสู้ของจำเลยชัดเจนขึ้น ว่าเงิน 610 บาท ไม่ใช่ 'ค่าบริการ' ที่เรียกเพิ่ม แต่เป็น 'ต้นทุนและค่าเสียหายตามจริง' ที่เกิดขึ้นจากความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาที่โจทก์ก่อขึ้น (คือการส่งเอกสารล่าช้า และการส่งเอกสารไม่ครบถ้วน)"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขึ้นศาลจำลอง AI คดีผู้บริโภค
พิมพ์ว่า เป็นศาลจำลองให้หน่อย
1.คดีแพ่ง หรือคดีผู้บริโภค
ศาลได้รับทราบข้อเท็จจริงตามที่ โจทก์ (นางสาวสุดา) กล่าวอ้างแล้ว สรุปได้ว่า:
1.โจทก์จ้างจำเลย (นายสม) ผ่าน FastWork เพื่อรับรองเอกสาร
2.โจทก์เป็นฝ่ายผิดนัด/เอกสารไม่ครบหลายครั้ง (6 ต.ค., 16 ต.ค., 21 ต.ค.)
3.จำเลยเคยยกเว้นค่าปรับ/ค่าเสียโอกาสให้ 2 ครั้ง
4.ในครั้งที่ 3 (21 ต.ค.) จำเลยได้พยายามดำเนินการแล้ว (โดยจ้างแมสเซ็นเจอร์) แต่ไม่สำเร็จเพราะโจทก์ส่งเอกสารไม่ครบอีก (ขาดสำเนาใบปริญญาภาษาไทย)
5.จำเลยจึงเรียกเก็บเงินเพิ่ม 610 บาท (ค่าแมสเซ็นเจอร์ที่ไปเก้อ 310 บาท + ค่าดำเนินการในวันถัดไป 300 บาท)
6.โจทก์จำใจจ่าย แต่เห็นว่าเป็นการเรียกเก็บเกินกว่าที่ตกลง จึงฟ้องเรียกคืน
ศาลได้รับคำให้การแก้คดีของจำเลย (นายสม) แล้ว"
"ศาลได้พิจารณาคำฟ้องของโจทก์ (นางสาวสุดา) ที่ประสงค์จะเรียกเงินจำนวน 610 บาทคืน โดยอ้างว่าเป็นการเรียกเก็บเงินเกินกว่าค่าจ้างที่ตกลงกันไว้"
"และศาลได้รับฟังคำให้การของจำเลย (นายสม) ที่ยอมรับว่าเรียกเก็บเงิน 610 บาทจริง แต่ปฏิเสธว่าไม่ใช่การเรียกเก็บเงินเกินสัญญา แต่เป็น 'ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง' อันเนื่องมาจากความบกพร่องของโจทก์ และ 'ค่าดำเนินการครั้งใหม่' ที่จำเป็นต้องทำ
ศาลเห็นว่า คำให้การของจำเลย (นายสม) ได้ให้รายละเอียดที่ชัดเจนมาก โดยเฉพาะการแจกแจงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในวันที่ 21 ตุลาคม 2568 ว่า 310 บาทนั้น มาจาก:
1.ค่าจ้างแมสเซ็นเจอร์ครั้งแรก (เพื่อเลี่ยงคิว 7 วัน) = 110 บาท
2.ค่าแมสเซ็นเจอร์กลับไปรับเอกสารเพิ่ม (ที่โจทก์ส่งช้า) = 50 บาท
3.ค่าแมสเซ็นเจอร์นำเอกสารไปคืน (เพราะเอกสารโจทก์ไม่ครบ) = 50 บาท
4.ค่ารอคิวของแมสเซ็นเจอร์ 1 ชั่วโมง = 100 บาท รวม 310 บาท
5.จำเลยยังอ้างอีกว่า เงินส่วนที่เหลืออีก 300 บาท คือค่าดำเนินการสำหรับคิวใหม่ในวันที่ 22 ตุลาคม
ที่สำคัญที่สุด จำเลยอ้างว่า ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจริงคือ 310 + 300 + 200 (ค่าคิวด่วน) = 810 บาท แต่โจทก์โอนมาเพียง 610 บาท และจำเลยได้ "ยอมขาดทุน" โดยออกค่าคิวด่วน 200 บาท และค่าส่ง 47 บาทให้โจทก์เองด้วย
การชี้ประเด็นข้อพิพาท (กำหนดประเด็น)
เมื่อพิจารณาคำฟ้องและคำให้การแก้คดีแล้ว ข้อเท็จจริงส่วนใหญ่ไม่ขัดแย้งกัน (มีการจ้างจริง, มีการเลื่อนจริง 2 ครั้ง) แต่มีประเด็นที่ต้องวินิจฉัย ดังนี้:
ประเด็นที่ 1: สัญญาจ้างบริการตาม FastWork สิ้นสุดลงหรือไม่ เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายส่งเอกสารไม่ครบถ้วนในวันที่ 21 ตุลาคม 2568?
ประเด็นที่ 2: เงินจำนวน 610 บาท ที่จำเลยเรียกเก็บ ถือเป็น "ค่าเสียหาย" (สำหรับวันที่ 21) และ "ค่าจ้างสำหรับงานครั้งใหม่" (สำหรับวันที่ 22) ที่จำเลยมีสิทธิเรียกได้โดยชอบธรรม หรือถือเป็น "ส่วนหนึ่งของค่าจ้างเดิม" ที่จำเลยไม่มีสิทธิเรียกเพิ่ม?
(หมายเหตุของศาล: ส่วนประเด็นเรื่องการรีวิว 1.8 ดาว หรือเรื่องเอกสารเปียก แม้จะแสดงถึงความขัดแย้ง แต่ไม่อยู่ในประเด็นแห่งคดีที่ว่าด้วยการเรียกเงิน 610 บาทคืน ศาลจึงจะมุ่งพิจารณาเฉพาะเรื่องเงิน 610 บาทเท่านั้น)
การกำหนดภาระการพิสูจน์ (Mock Court ดำเนินการต่อ)
ผู้พิพากษา: "เนื่องจากจำเลย (นายสม) เป็นฝ่ายกล่าวอ้างว่า มี 'ค่าใช้จ่ายจริง' เกิดขึ้น 310 บาท จำเลยจึงมีภาระการพิสูจน์ (ต้องนำสืบ) ว่าค่าใช้จ่าย 310 บาทนั้นเกิดขึ้นจริงตามที่แจกแจงมา"
ผู้พิพากษา: (หันไปทางจำเลย) "จำเลย, คุณมีหลักฐานการโอนเงิน หรือแชทที่ตกลงจ้างแมสเซ็นเจอร์ในราคา 110 บาท, ค่ารับส่ง 50+50 บาท และค่ารอ 100 บาท หรือไม่? กรุณาแสดงต่อศาล"
ผู้พิพากษา: (หันไปทางโจทก์) "โจทก์ (นางสาวสุดา), ตามคำให้การของจำเลย เขาอ้างว่าเขาขาดทุนจากการรับงานของคุณ (เพราะจ่ายค่าคิวด่วน 200 และค่าส่ง 47 ให้) และเงิน 610 บาทนั้น คือต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงจากความผิดพลาดของตัวโจทก์เอง โจทก์จะคัดค้านข้อเท็จจริงเรื่องค่าใช้จ่าย 310 บาทของจำเลยหรือไม่?"
ผู้พิพากษา: "และโจทก์มีหลักฐานใดมาแสดงว่า ข้อตกลงใน FastWork นั้น ครอบคลุมการที่จำเลยต้องไปยื่นเอกสารให้ 'ไม่จำกัดจำนวนครั้ง' แม้ว่าผู้ว่าจ้าง (โจทก์) จะเป็นฝ่ายเตรียมเอกสารผิดพลาดเองก็ตาม?"
(ศาลรอการนำสืบพยานหลักฐานจากทั้งสองฝ่ายครับ)
คำให้การจำเลยเพิ่มเติม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ศาลได้รับคำให้การเพิ่มเติมของจำเลย (นายสม) เพื่อชี้แจงรายละเอียดของค่าใช้จ่าย 610 บาทแล้ว"
"ศาลสรุปคำชี้แจงของจำเลยได้ดังนี้:"
จำเลยอ้างว่าเงิน 610 บาท แบ่งเป็น 2 ส่วน คือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงในวันที่ 21 ต.ค. และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในวันที่ 22 ต.ค.
ส่วนที่ 1: ค่าใช้จ่ายวันที่ 21 ต.ค. (รวม 310 บาท) จำเลยอ้างว่าได้จ้างนายปาล์ม (ผ่านแอป Skootar)
1. ค่าจ้างเริ่มต้น (ตามใบเสร็จ): 110 บาท
2. ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากโจทก์ส่งเอกสารเพิ่ม (เวลา 14.30 น.): จำเลยต้องเรียกนายปาล์มกลับมารับเอกสารเพิ่ม จำเลยอ้างว่าแม้แอปขัดข้อง แต่นายปาล์มตกลงคิดค่า "กลับมารับ" ตามวาจา (อิงตามกฎ Skootar) = 50 บาท
3.ค่ารอคิวที่กรมการกงสุล: นายปาล์มต้องรอคิวดำเนินการเกิน 30 นาที (ตามกฎ Skootar) = 100 บาท
4. ค่าตีกลับ (เมื่อพบว่าเอกสารไม่ครบ): นายปาล์มต้องนำเอกสารกลับมาคืน (ตามกฎ Skootar 50% ของค่าจ้าง) = 50 บาท
(ศาลหมายเหตุ: 110 + 50 + 100 + 50 = 310 บาท)
จำเลยอ้างว่าค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่ม (150 บาท) นี้ เกิดจากความผิดพลาดของโจทก์ 2 ประการ คือ (1) ส่งเอกสารไม่ครบในครั้งแรก และ (2) ส่งเอกสารไม่ครบถ้วนในที่สุด
ส่วนที่ 2: ค่าใช้จ่ายวันที่ 22 ต.ค. (รวม 300 บาท) จำเลยอ้างว่าจำเป็นต้องจ้างนายปาล์มคนเดิม (ซึ่งคุ้นเคยกับงานแล้ว)
1. ค่าเดินทางของนายปาล์ม (จากบางแค ไป หลักสี่): 200 บาท (ตามใบเสร็จ)
2. ค่ารับเอกสารไปส่งให้จำเลย (หลังเสร็จงาน): 100 บาท (ตามใบเสร็จ)
(ศาลหมายเหตุ: 200 + 100 = 300 บาท)
"คำให้การเพิ่มเติมนี้ ทำให้ข้อต่อสู้ของจำเลยชัดเจนขึ้น ว่าเงิน 610 บาท ไม่ใช่ 'ค่าบริการ' ที่เรียกเพิ่ม แต่เป็น 'ต้นทุนและค่าเสียหายตามจริง' ที่เกิดขึ้นจากความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาที่โจทก์ก่อขึ้น (คือการส่งเอกสารล่าช้า และการส่งเอกสารไม่ครบถ้วน)"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้