อยากขอคำปรึกษาหน่อยครับ (ผมเป็นโจทก์ ผู้เสียหาย)
สถานที่ปิดหมาย 1. สำนักงานนิติบุคคล ตามหนังสือรับรองบริษัทจดทะเบียนพาณิชย์
2. ที่อยู่ตามทะเบียนราษฎร์ (คอนโด)
ตามกฎหมายแล้ว การปิดหมายถือว่าจำเลยรับทราบแล้ว
ถึงวันนัดสืบพยาน : ทางจำเลยไม่ยอมมาศาล ไม่มีการแต่งตั้งทนายใดๆ และไม่มีบุคคลใดๆจากทางจำเลยมาในวันนัด ศาลจึงพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีแต่เพียงฝ่ายเดียว แล้วก็ได้ออกหมายบังคับคดีให้จำเลยคืนทรัพย์สิน ไปทั้ง2ที่ ที่อยู่สำนักงาน และ คอนโดตามทะเบียนราษฎร์
พอหลังจากที่หมายบังคับคดีได้ถูกส่งไป ทางจำเลยก็ทักผ่านทางไลน์ ประดุจเหมือนเพิ่งทราบว่ามีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น
แล้วทางจำเลยก็ขอพิจารณาคดีใหม่ หมายนัดไต่สวนก็มาที่บ้านทางโจทก์
ภายในสำนวนคดี จำเลยได้ชี้แจงว่าไม่ทราบเพราะดังนี้
1. นิติบุคคล สำนักงานได้มีการปิดและยกเลิกสัญญาเช่าไปแล้วตั้งแต่ก่อนที่ปิดหมาย พร้อมแนบหลักฐานการยกเลิกสัญญา (ผมก็เพิ่งทราบวันยกเลิกสัญญา)
แต่ในหนังสือรับรองไม่มีการย้ายที่อยู่บริษัท
2. ที่อยู่คอนโดตามทะเบียนราษฎร์ จำเลยให้การณ์ว่าไม่ทราบเพราะ อยู่อีกสถานที่นึง (ต่างจังหวัด) แต่คอนโดนั้นได้มีการปล่อยเช่า มีผู้เช่า พร้อมแนบหลักฐานสัญญาเช่าทุกหน้า สัญญา1ปี หมายที่ปิดไว้ก็อยู่ในช่วงเวลาสัญญาเช่า
***ทราบหมายเพราะ ทางนิติคอนโดได้LINEแจ้งทางจำเลย ว่ามีเจ้าหน้าที่ศาลมาปิดหมายบังคับคดี
แต่... ทำไมนิติคอนโดหรือผู้เช่าไม่แจ้งจำเลยว่ามีหมายคดีแพ่งมาปิดไว้ ?
จากในสำนวนทางจำเลยก็อ้างว่าจะสู้สุดฤทธิ์ จะไม่ยอมชำระคืน
หลักฐานทางจำเลยมีแค่
1. หลักฐานที่นิติคอนโดแจ้งว่ามีหมายบังคับคดีส่งมา
2. หลักฐานบอกเลิกสัญญาเช่าสำนักงาน
3. หลักฐานสัญญาเช่าคอนโดฉบับเต็ม
--- ไม่มีหลักฐานอื่นแนบมาเพิ่มเติม ---
อยากปรึกษาครับว่า
- ในสำนวนที่กล้าวอ้าง ตามกฎหมายถือว่าพิจารณาคดีได้ไหมครับ เพราะโจทก์ทำตามกระบวนการทุกอย่าง
- ถ้าพิจารณาผ่าน โจทก์ต้องกลับไปเริ่มใหม่ใช่ไหมครับ
ขอบคุณที่ให้คำปรึกษานะครับ อยากทราบมุมมองเพิ่มเติมครับ
[ปรึกษา] จำเลยไม่มาศาลแพ่ง ศาลตัดสินแล้ว จำเลยทำเป็นเพิ่งมาทราบหลังจากที่หมายบังคับส่งไป แล้วขอพิจารณาคดีใหม่
สถานที่ปิดหมาย 1. สำนักงานนิติบุคคล ตามหนังสือรับรองบริษัทจดทะเบียนพาณิชย์
2. ที่อยู่ตามทะเบียนราษฎร์ (คอนโด)
ตามกฎหมายแล้ว การปิดหมายถือว่าจำเลยรับทราบแล้ว
ถึงวันนัดสืบพยาน : ทางจำเลยไม่ยอมมาศาล ไม่มีการแต่งตั้งทนายใดๆ และไม่มีบุคคลใดๆจากทางจำเลยมาในวันนัด ศาลจึงพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีแต่เพียงฝ่ายเดียว แล้วก็ได้ออกหมายบังคับคดีให้จำเลยคืนทรัพย์สิน ไปทั้ง2ที่ ที่อยู่สำนักงาน และ คอนโดตามทะเบียนราษฎร์
พอหลังจากที่หมายบังคับคดีได้ถูกส่งไป ทางจำเลยก็ทักผ่านทางไลน์ ประดุจเหมือนเพิ่งทราบว่ามีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น
แล้วทางจำเลยก็ขอพิจารณาคดีใหม่ หมายนัดไต่สวนก็มาที่บ้านทางโจทก์
ภายในสำนวนคดี จำเลยได้ชี้แจงว่าไม่ทราบเพราะดังนี้
1. นิติบุคคล สำนักงานได้มีการปิดและยกเลิกสัญญาเช่าไปแล้วตั้งแต่ก่อนที่ปิดหมาย พร้อมแนบหลักฐานการยกเลิกสัญญา (ผมก็เพิ่งทราบวันยกเลิกสัญญา)
แต่ในหนังสือรับรองไม่มีการย้ายที่อยู่บริษัท
2. ที่อยู่คอนโดตามทะเบียนราษฎร์ จำเลยให้การณ์ว่าไม่ทราบเพราะ อยู่อีกสถานที่นึง (ต่างจังหวัด) แต่คอนโดนั้นได้มีการปล่อยเช่า มีผู้เช่า พร้อมแนบหลักฐานสัญญาเช่าทุกหน้า สัญญา1ปี หมายที่ปิดไว้ก็อยู่ในช่วงเวลาสัญญาเช่า
***ทราบหมายเพราะ ทางนิติคอนโดได้LINEแจ้งทางจำเลย ว่ามีเจ้าหน้าที่ศาลมาปิดหมายบังคับคดี
แต่... ทำไมนิติคอนโดหรือผู้เช่าไม่แจ้งจำเลยว่ามีหมายคดีแพ่งมาปิดไว้ ?
จากในสำนวนทางจำเลยก็อ้างว่าจะสู้สุดฤทธิ์ จะไม่ยอมชำระคืน
หลักฐานทางจำเลยมีแค่
1. หลักฐานที่นิติคอนโดแจ้งว่ามีหมายบังคับคดีส่งมา
2. หลักฐานบอกเลิกสัญญาเช่าสำนักงาน
3. หลักฐานสัญญาเช่าคอนโดฉบับเต็ม
--- ไม่มีหลักฐานอื่นแนบมาเพิ่มเติม ---
อยากปรึกษาครับว่า
- ในสำนวนที่กล้าวอ้าง ตามกฎหมายถือว่าพิจารณาคดีได้ไหมครับ เพราะโจทก์ทำตามกระบวนการทุกอย่าง
- ถ้าพิจารณาผ่าน โจทก์ต้องกลับไปเริ่มใหม่ใช่ไหมครับ
ขอบคุณที่ให้คำปรึกษานะครับ อยากทราบมุมมองเพิ่มเติมครับ