ลดน้ำหนักด้วยตัวเอง จาก 92 สู่ 60 ภายในระยะเวลา 4 เดือน (ไม่ฟิตเนส ไม่เทรนเนอร์)

สวัสดีครับก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนเลยครับ ผมชื่อปูนครับ อายุ 22 ปีแล้ว วันนี้จะมารีวิวการลดน้ำหนักที่ทำด้วยตัวเองครับแบบละเอียดทุกขั้นตอนครับ 

***ต้องบอกเลยว่าวิธีของผมอาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน ผมหวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อยจากกระทู้ของผมเพื่อไปปรับใช้ให้เข้ากับชีวิตประจำวันของตัวเองครับ***

วันที่ 21 มีนาคม ผมน้ำหนัก 92.7 ครับผมหายใจไม่ค่อยออก เคลื่อนไหวร่างกายได้ช้าลงมากๆผมก็เลตัดสินใจลดน้ำหนัก ผลลัพธ์ก็เป็นเหือนภาพที่เห็นครับ วันที่ 5 สิงหาคม ผมน้ำหนัก 60 พอดีครับ




ตอนนั้นเป็นช่วงที่ผมเพิ่งกลับจากต่างประเทศ บวกกับการเรียนที่หนักหน่วงในเทอมสุดท้ายซึ่งผมต้องทำวิจัยทำให้เครียดและกินเยอะมากๆ
ตอนนั้นผมหนัก 92 กางเกงผมใส่เอว 40 - 41 ครับ ตอนนี้ผมใส่กางเกงเอว 29 ได้ครับ








เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ เริ่มจากกิจวัตรประจำวันของผมก่อน
***ข้อมูลเพิ่มเติมผมจะใส่ไว้ใต้รูปด้านล่างนะครับ***




8:30 ผมตื่นนอนดพื่อดื่มน้ำ 600 ml. ครับ วันนึงผมจะดื่ม 2500 ml. ครับ
9:00 ทานอาหารมื้อแรกครับผมจำคำนวนให้อยู่ใน 500-600 Kcal ครับเดี๋ยวผมจะให้แอปในการจดแคลกับแอปดื่มน้ำให้ครับ
9:30 เล่นฮุลล่าฮูป 1 ชั่งโมงครับ หลังจากนั้นก็เล่นเวทเทรนนิ่งไป 30 นาที ส่วนใหญ่ผมจะดูคลิปของ "BEBE FIT ROUTINE" หนักหน่วงมากไปตามดูกันได้ครับ
12:00 ข้าวมื้อเที่ยงมื้อสุดท้ายของวันครับ ทานได้ 500-600 Kcal ครับสรุปทั้งวันเราจะทานได้ 1100-1200 ครับ ผมใช้วิธีลดน้ำหนักที่เรียกว่าการอดอาหารเป็นช่วงๆครับใครอยากหาข้อมูลเพิ่มเติมให้พิมพ์ว่า "Intermittent Fasting" ใน Google ได้เลยครับ อาหารเทียงนี่ผมเน้นโปรตีนเยอะมากครับ ผักด้วยครับเดี๋ยวผมจะใส่รายละเอียดไว้ในรูปด้านล่างนครับ
16:00 ผมวิ่งกลางสลับเดินเร็ว 60 นาทีครับ  ใช้แอป "NIKE RUN" จับระยะทางได้ 6 กิโลพอดี
00:00 นอนครับ




ก่อนจะลดน้ำหนักผมจะเอารูปที่คิดว่าอ้วนที่สุดมานั่งมองครับ รวบรวมคำด่าและคำพูดของคนอืนที่มาบูลี่ผม ไออ้วนบ้าง อึ่งอ่างบ้างมาเป็นพลัง และก็ตั้งเป้าหมายว่าจะลดเท่าไหร่ และถามตัวเองว่าจะลดน้ำหนักไปทำไมครับ จุดมุ่งหวังของการลดน้ำหนักของแต่ละคนจะต่างกันไป




"WATER REMINDER" นี่แอปที่จดว่าเราดื่มน้ำไปเท่าไหร่แล้ว ดื่มน้ำเยอะจะช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญจะช่วยให้น้ำหนักลดเร็วขึ้น ส่วนถ้าเราอยากทราบว่าเราควรดื่มน้ำวันละเท่าไหร่ ก็เอาน้ำหนัก x 30 = ปริมาณน้ำที่ควรดื่มในแต่ละวัน (ml.) 
เช่น หันก 60 x 30 = 1800 ml. หรือ 1.8 ลิตรต่อวัน




"จด Calorie" อันนี้แอปจดแคลครับจะได้รู้ว่าเราทานอะไรบ้างในแต่ละวัน เกินที่เราตั้งไว้หรือเปล่า แอปนี้ก็ไม่แย่นะครับสามารถแสกนบาร์โค้ดครับ แล้วก็มีอาหารให้เลือกค่อนข้างเยอะด้วยครับ




ซ้ายบน : ข้าวสวย 2 ทัพพี ผักผักอกไก่ไม่ใส่น้ำมัน
ขวาบน : อกไก่ย่าง ไข่คน 2 ลูก น้ำเต้าหู้ไม่ใส่น้ำตาล
ซ้ายกลาง : ก๋วยเตี๋ยวอกไก่ลุยสวน น้ำเต้าหู้ไม่ใส่น้ำตาล
ขวากลาง : ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ไข่คน 2 ลูก
ซ้ายล่าง : ข้าวยำปักใต้
ขวาล่าง : ข้นมปัง 2 แผ่น ไข่คน 2 ลูก




ซ้ายบน : สลัดไข่ต้ม 2 ลูก ผัก 3 สี น้ำสลัดไขมันต่ำ
ขวาบน : สุกี้ยากี้ปลา เส้นน้อย ใส่ไข่ 2 ลูก
ซ้ายกลาง : สลักกุ้ง น้ำสลัดไขมันต่ำ
ขวากลาง : ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ผัดผักใส่ไข่ กุ้งและปลาลวก
ซ้ายล่าง ขวาล่าง : ขนมปัง ทูน่า ผักสลัด น้ำสลัดไขมันต่ำ

คลิปของพี่เบเบ้ครับโดยเฉพาะคลิปนี้ครับดูดพลังสุดๆไปเลย ถ้าช่วงแรกๆทำไม่ไหว ก็ค่อยๆทำไปเรื่อยๆครับ อย่าหักโหม




"NIKE RUN" แอปที่สามรถจดการวิ่งแต่ครั้งแล้วก็สามารถรวมเป็นกิโลได้ด้วยครับผมวิ่งไป 500 กว่ากิโลแล้วครับ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
สุดท้ายนี้ผมไม่ได้บอกว่าวิธีผมเป็นวิธีที่ดีหรือถูกต้องที่สุด แต่ผมจะใช้วิธีนี้ต่อไป
ขอให้ทุกคนที่พยายาม สู้ต่อไปนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่